I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 465 แผนการของเฉียวถิง! (2)
ตอนที่อาจารย์หมายเลขสามสั่งสอนเธอก็ได้พูดชัดเจนมากว่าไม่มีเทคนิคใดที่ไม่เปลี่ยนแปลง ขอเพียงหลอมรวมเทคนิคเข้าไปในการต่อสู้จริง เทคนิคแบบนี้ถึงจะเป็นเทคนิคที่มีประโยชน์อย่างแท้จริง และเธอก็แค่ เปลี่ยนจากการยิงจุดตายตัวในสภาวะหยุดนิ่งมาเป็นสภาวะเคลื่อนที่ก็เท่านั้น เนื้อแท้ไม่มีความแตกต่าง
ถ้าเกิดนับเจ้านี่เป็นเทคนิคใหม่ หลิงหลานก็ไม่รู้ว่าตัวเองมีเทคนิคใหม่มากเท่าไหร่แล้ว โดยพื้นฐานแล้ว เธอสามารถทำการปรับเปลี่ยนเทคนิคพื้นฐานแต่ละอันได้นิดหน่อยภายใต้การช่วยเหลือของอาจารย์หมา ายเลขสาม
เมื่อสัมผัสได้ว่าสิ่งที่ลูกพี่ของตัวเองกล่าวมาคือเรื่องจริง อีกทั้งแสดงท่าทีเยือกเย็นเฉยเมยต่อการตั้งชื่อเทคนิคใหม่ขนาดนี้ จ้าวจวินก็เลื่อมใสในใจและเงยหน้ามองฟ้าอย่างพูดไม่ออก การตั้งชื่อเท ทคนิคซึ่งเป็นตัวแทนของเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้ผู้คนตื่นเต้นขนาดนี้กลับไม่อาจทำให้ลูกพี่หลานแสดงสีหน้าประทับใจได้เลย เขาไม่รู้ว่ายังมีอะไรที่สามารถทำให้หน้าน้ำแข็งของลูกพี่หลานแตกร้าวได้ สำเร็จบ้าง?
อันที่จริงสมาชิกในกลุ่มทุกคนล้วนหวังว่าจะได้เห็นเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว พวกเขายังพนันกันเองด้วยว่าใครจะได้เห็นสีหน้าของลูกพี่หลานเปลี่ยนไปเป็นคนแรก เมื่อตะกี้เขานึกว่าตัวเองจะชนะแล้ว…แต ต่ความเป็นจริงก็พิสูจน์แล้วว่าเขายังประเมินลูกพี่หลานต่ำไป ดีอกดีใจอย่างเสียเปล่า
ทางด้านหลิงหลานกับจ้าวจวิ้นกำลังพูดคุยว่าเป็นเทคนิคใหม่หรือเปล่า ทางฝั่งเฉียวถิงก็ขับหุ่นรบของตัวเองขึ้นสนามประลองภายใต้การแจ้งเตือนของเจ้าหน้าที่แล้ว
พวกหลิงหลานเห็นแบบนั้นก็เพ่งความสนใจไปที่สนามประลอง ส่วนการกระทำของหลิงหลานถือว่าเป็นเทคนิคใหม่หรือไม่นั้น ความจริงแล้วไม่จำเป็นต้องโต้เถียงกันเลย ผลสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกองทั พ ถ้าเกิดคิดว่าไม่ใช่ มันก็ไม่ใช่
อันที่จริงมันมีเทคนิคหุ่นรบมากมายที่เป็นเอกลักษณ์และอันตรายอย่างยิ่งเผยแพร่อย่างลับๆ ในหมู่ประชาชน เนื่องจากเทคนิคเหล่านี้มีปัญหาและข้อผิดพลาดอย่างนั้นอย่างโน้น หรือว่ามีข้อกังขาด้านความปลอดภัย ท้ายที่สุดก็เลยไม่ได้รับการยอมรับจากกองทัพกับรัฐบาล และกลายเป็นเทคนิคปลอมๆ
คู่ต่อสู้ของเฉียวถิงคือคนที่มีความสามารถอ่อนด้อยที่สุดในหมู่ผู้ควบคุมหุ่นรบของถงหลี่ การประลองรอบนี้รู้ผลตั้งแต่ที่ยังไม่ได้เริ่มแล้ว ถ้าหากไม่ใช่เพราะการพ่ายแพ้โดยที่ไม่ได้ต่อสู้จะทำให้โ โรงเรียนทหารขายหน้าละก็ เกรงว่าผู้ควบคุมหุ่นรบของถงหลี่คงจะเลือกยกมือยอมแพ้ตั้งแต่เริ่มการประลองแล้ว
การประลองเปิดม่านขึ้นอย่างเป็นทางการภายใต้การโบกธงเขียวของกรรมการ เฉียวถิงขับหุ่นรบเว้นระยะห่างกับคู่ต่อสู้ทันที ซึ่งความเร็วของเขาสามารถเทียบเคียงหลิงหลานได้ ทำให้ผู้ชมอุทานด้วยความตกใจไม่ หยุด มีเพียงผู้ควบคุมหุ่นรบชั้นยอดบางคนเท่านั้นที่สังเกตเห็นว่าทั้งสองยังคงห่างชั้นกันเล็กน้อย
เฉียวถิงเองก็สังเกตเห็นเหมือนกัน หลังจากที่เขาเว้นระยะห่างแล้ว เขาก็เบะมุมปากด้วยความผิดหวัง ในชั่วพริบตาที่สะบัดนิ้วมือบังคับหุ่นรบ เฉียวถิงก็รู้ดีว่าตัวเองยังคงช้ากว่าหลิงหลานหนึ่งจังหวะ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากบังคับตั้งแต่ที่กดธงลง เพียงแต่ขณะที่ขยับมือ นิ้วมือของเขายังคงเชื่องช้าอย่างควบคุมไม่อยู่ และการอืดอาดนี้ทำให้เขาช้ากว่าหลิงหลาน 0.1 วินาที
ในการควบคุมหุ่นรบ ความแตกต่าง 0.1 วินาทีอาจจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์การรบได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเขาช้ากว่าหลิงหลาน 0.1 วินาทีเลย ระยะเวลานี้เพียงพอให้เขาตายมากกว่าสิบครั้งแล้ว
เวลานี้เฉียวถิงนับถือความแข็งแกร่งของจิตใจหลิงหลานอย่างล้ำลึก หมอนี่ใจกล้ามากแค่ไหนถึงได้กล้าทำการขับทันทีที่กดธงลงโดยไม่มีเว้นช่องว่าง? เขาไม่กลัวละเมิดกฎเลยหรือไงนะ?
คู่ต่อสู้ของเฉียวถิงไม่ได้รีบร้อนไล่ตามหลังจากที่เฉียวถิงเว้นระยะห่าง เขายืนอยู่ที่เดิมรอคอยเฉียวถิงเว้นระยะห่างจนเหมาะกับการโจมตีเขาทางระยะไกลมากที่สุด ดูเหมือนกับยอมรับชะตาชีวิตแล้วก็ไม่ปาน น
ไม่มีใครส่งเสียงไม่พอใจต่อการตัดสินใจเช่นนี้ของเขา เนื่องจากพวกผู้ชมรู้ดีว่าเมื่อเผชิญหน้ากับผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาที่แข็งแกร่งกว่าเขาหลายเท่า ต่อให้ไล่ตามสุดชีวิตก็ไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้ อ อย่างมากสุดก็ถ่วงเวลาไปได้หน่อยเดียวเท่านั้น ทว่าผลสุดท้ายยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้คุมเชิงอย่างใจเย็น ใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาไม่กี่วินาทีสั้นๆ นี้มาครุ่นคิดให้ดีว่าควรจะรับมื ออย่างไรดี
เมื่อได้ระยะห่างที่ตัวเองต้องการแล้ว เฉียวถิงก็หยิบปืนยาวกระบอกหนึ่งลงมาจากหลัง ปืนยาวกระบอกนี้ไม่ใช่ปืนไรเฟิลซุ่มยิงวิถีกระสุนที่เป็นอาวุธถนัดของเฉียวถิง หากแต่เป็นปืนยาวลำแสงระยะไกลซึ่งเป ป็นอุปกรณ์มาตรฐานของหุ่นรบระยะไกลเหมือนกับของหลิงหลาน
‘ฟึบ’ ปืนยาววาดออกเป็นครึ่งวงกลม จากนั้นมือซ้ายของหุ่นรบก็ประคองมันไว้อย่างแม่นยำ เล็งไปที่คู่ต่อสู้แล้วเหนี่ยวไกปืน การเคลื่อนไหวชุดนี้เสร็จสิ้นภายในสองวินาทีสั้นๆ เฉียวถิงแทบจะไม่ให้ปืนยาว วมีเวลาล็อกเป้าเลย…
ระยะเวลานี้ทำให้ทั่วทั้งสนามส่งเสียงโห่ร้องขึ้นมา เมื่อเทียบกับหลิงหลานแล้ว การเคลื่อนไหวของเฉียวถิงดูช่ำชองและกระชับกว่า ท่วงท่าก็สง่างามเป็นธรรมชาติมากกว่า เวลาที่ใช้ก็สั้นจนทำให้ผู้คนเบิ กตาโต
เสียงฮือฮาดังขึ้น ลำแสงตกลงไปยังจุดที่หุ่นรบถงหลี่ยืนอยู่อย่างแม่นยำจนเกิดเป็นหลุมตื้นในพริบตา หุ่นรบของถงหลี่หลบออกอย่างแม่นยำไม่ต่างอะไรจากปืนนัดแรกของหลิงหลาน
จ้าวจวิ้นเห็นฉากนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไป เขาเอ่ยกับหลิงหลานเสียงกระซิบว่า “ลูกพี่หลาน ดูเหมือนเฉียวถิงกำลังลอกท่าของนายอยู่นะ”
เวลานี้หลิงหลานกำลังยืนกอดอกชมการประลองอยู่เบื้องหน้าหน้าจอขนาดใหญ่ เมื่อได้ยินคำพูดของจ้าวจวิ้น เธอก็พยักหน้าเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “อื้อ เป็นการยิงจุดตายตัวเหมือนกันเลย เวลาที่เขาใช ช้จากการเล็งเป้าไปจนถึงการยิงในการโจมตีนี้ อย่างน้อยที่สุดก็ใช้เวลาน้อยกว่าฉันหนึ่งวินาที ในด้านโจมตีระยะไกลแล้ว เขาเหนือกว่าฉันจริงๆ” หลิงหลานยึดตามความเป็นจริง ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะพรสวรรค์รู้ แจ้งเห็นจริงน่ามหัศจรรย์มากเกินไปละก็ ในแง่การต่อสู้ระยะไกลแล้ว เธอยังไม่สามารถเทียบชั้นกับพวกอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ด้านการโจมตีระยะไกลระดับปีศาจเหล่านี้ได้เลย
จ้าวจวิ้นหัวเราะหึๆ ขึ้นมา ในใจไม่เห็นด้วยอยู่บ้าง อันที่จริงจ้าวจวิ้นไม่คิดว่าหลิงหลานจะด้อยกว่าเฉียวถิงเท่าไหร่นัก ความเร็วไม่มีความหมายอะไร ยิงโดนสิถึงจะเป็นเหตุผลอย่างไม่ต้องสงสัย
หุ่นรบของถงหลี่ที่หลบปืนนัดนี้พ้นก็ไม่ได้พยายามบินขึ้นหน้าลดระยะห่างของทั้งคู่เหมือนกับเพื่อนร่วมทีมของตัวเอง เขาหยุดอยู่ที่เดิมอย่างระมัดระวัง รอคอยการโจมตีถัดไปของเฉียวถิง
เขารู้ดีว่าต่อให้ความสามารถด้านต่อสู้ประชิดตัวของเฉียวถิงย่ำแย่อีกสักแค่ไหน เมื่ออาศัยความห่างชั้นของหุ่นรบทั้งสองแล้ว เขาไม่มีโอกาสได้รับชัยชนะใดๆ เลย ในเมื่อเป็นแบบนี้ ไม่สู้รักษาระยะห่า างเช่นนี้ไว้ดีกว่า แล้วรับมือการโจมตีระยะไกลของอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง บางทียังสามารถประคับประคองไปได้สักพักหนึ่ง
เฉียวถิงรู้ความคิดของผู้ควบคุมหุ่นรบถงหลี่ทันที เขาขมวดคิ้วทีหนึ่ง ปากกระบอกปืนสั่นไหว จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดัง ‘ปัง! ‘ปัง! ‘ปัง!’ สามนัด
ปืนสามนัดที่เฉียวถิงยิงติดต่อกันนี้ตกลงมาบนตำแหน่งที่แตกต่างกันตามลำดับ นัดแรกคือตำแหน่งที่ผู้ควบคุมหุ่นรบถงหลี่ยืนอยู่ในตอนแรก สองนัดถัดมาคือจุดที่ผู้ควบคุมหุ่นรบถงหลี่ร่อนลงหลังจาก กที่พุ่งหลบ
ผู้ควบคุมหุ่นรบถงหลี่ทำได้เพียงหลบหลีกมันเท่านั้น ร่างของเขาพุ่งติดต่อกันสามครั้ง และหลบขึ้นหน้าโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
เวลานี้ผู้ควบคุมหุ่นรบชั้นยอดบางส่วนมองเป้าหมายที่แท้จริงของปืนสามนัดของเฉียวถิงแน่ชัดแล้ว พวกเขาหลุดหัวเราะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ต่อความฮึกเหิมเยาว์วัยของเฉียวถิง และบางส่วนก็ส่ายหัวเงียบๆ ลอบเอ่ยว่าสุดท้ายเขาก็ยังเด็กไปหน่อย ควบคุมจิตใจให้สงบนิ่งไม่ได้
หลิงเซียวที่อยู่บนแท่นประธานเห็นแบบนั้นก็เลิกคิ้วเล็กน้อย ‘นี่คิดจะท้าทายลูกสาวของฉันเหรอ?’ เขาจ้องมองหุ่นรบของเฉียวถิงด้วยความสนใจ ไม่รู้ว่าเฉียวถิงที่ถูกเรียกว่าเป็นตัวเขาคนที่สองผู้ นี้จะแสดงความสามารถแบบไหนกันแน่
หลังจากที่หุ่นรบของถงหลี่หลบปืนสามนัดนั้น ยังไม่ทันได้มีโอกาสหยุดพักหายใจ เฉียวถิงก็ยิงตามมาอีกสามนัด ทำให้ผู้ควบคุมหุ่นรบของถงหลี่จำเป็นต้องหลบอีกครั้ง
ปืนสามนัดนี้ของเฉียวถิงยังคงยิงไม่โดนคู่ต่อสู้ แต่ผู้ควบคุมหุ่นรบของถงหลี่บินขึ้นหน้าอีกครั้งเพราะกระสุนสามนัดนี้รุดขึ้นหน้าเข้ามาใกล้สามร้อยเมตรแล้วโดยไม่รู้ตัว
ผู้ควบคุมหุ่นรบของถงหลี่หลบกระสุนสามนัดได้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง ก่อนจะสังเกตเห็นว่าปืนหกนัดที่เฉียวถิงยิงมานั้นแตกต่างจากปืนนัดแรก
ปืนนัดแรกมีเป้าหมายชัดเจนมากก็คือต้องการยิงโดนคู่ต่อสู้ ดังนั้นความเร็วและความแม่นยำจึงยอดเยี่ยมมาก ทว่าปืนหกนัดถัดมานั้นกลับไม่ใช่การยิงที่ต้องการยิงโดนคู่ต่อสู้ หากแต่เป็นบีบให้คู่ต่อสู ไปร่อนลงไปยังตำแหน่งที่เขาต้องการให้อีกฝ่ายไป ผู้ควบคุมหุ่นรบถงหลี่ก็ไม่ได้โง่เช่นกัน เขาจะไม่เข้าใจความหมายของปืนหกนัดนี้ของเฉียวถิงได้อย่างไร
ความรู้สึกอัปยศอดสูอย่างรุนแรงสายหนึ่งจู่โจมตรงมาที่หัวใจ ผู้ควบคุมหุ่นรบถงหลี่เดือดดาลในใจอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันก็อัดอั้นตันใจ ความสามารถที่ห่างชั้นทำให้เขาจำเป็นต้องเคลื่อนไหวตามความคิดของอีก ฝ่าย…
ได้ ในเมื่อนายอยากทำแบบนี้ก็ให้ฉันดูหน่อยว่านาย…เฉียวถิงจะสามารถทำการโจมตีเหมือนเพื่อนร่วมทีมของนายได้หรือเปล่า ผู้ควบคุมหุ่นรบถงหลี่ไม่อยากโดนเฉียวถิงบีบบังคับอีกต่อไปแล้ว เขาตัดสินใจป ปล่อยไปตามยถากรรม ขับหุ่นรบบินขึ้นหน้าอย่างบ้าคลั่งเหมือนกับที่เฉียวถิงต้องการ บางทีความโกรธเกรี้ยวในใจไปถึงขีดสุดแล้ว การควบคุมที่แฝงไปด้วยความโมโหไม่ได้ทำให้ความเร็วของเขาลดลง ถึงขนาดที่เพิ่มข ขึ้นไปอีกขั้น
เฉียวถิงแบบนั้น มุมปากก็เผยรอยยิ้มพึงพอใจเล็กน้อย สิ่งที่เขาต้องการก็คือเรื่องนี้
ใช่แล้ว เฉียวถิงต้องการลอกกระบวนท่าเอาชนะคู่ต่อสู้ของหลิงหลาน เขาอยากบอกหลิงหลานว่า สิ่งที่อีกฝ่ายทำได้ เขาเองก็ทำได้เหมือนกัน
ขณะที่คู่ต่อสู้กำลังเข้าสู่ระยะประชิด ซึ่งเป็นระยะการยิงสุดท้ายของการยิงจุดตายตัว ในที่สุดเฉียวถิงก็ยิงปืนที่เขาเตรียมตัวไว้นานแล้วออกมา
‘ตูม’ ลำแสงเจิดจ้าสายหนึ่งพุ่งใส่คู่ต่อสู้ หุ่นรบของถงหลี่หลบหลีกอย่างสุดกำลัง แต่ยังคงปล่อยให้ลำแสงสายนี้มาถึง…ทว่าไม่นานอีกฝ่ายก็สลัดหลุดแล้ว โล่แสงของหุ่นรบผลาญพลังงานไปไม่น้อย ดูมื ดหม่นไร้แสง
“อย่างที่คิดไว้เลย เฉียวถิงคิดจะลอกวิธีการโจมตีของนายหมดเลย ต่อไปน่าจะเป็นการยิงจุดตายตัวขณะเคลื่อนที่ของลูกพี่หลานแล้ว ไม่รู้ว่าเขาจะทำสำเร็จไหม” จ้าวจวิ้นมีสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย ไม่ว่า าการยิงขณะเคลื่อนที่ของเฉียวถิงจะสำเร็จหรือไม่ การกระทำของเขาเรียกได้ว่าเป็นการยั่วยุ
“การโจมตีนี้…เฉียวถิงยั้งมือแล้ว” สิ่งที่หลิงหลานเห็นแตกต่างจากคนอื่น ดวงตาทั้งสองข้างของเธอบอกตัวเองว่า เฉียวถึงไม่ได้ทุ่มสุดกำลัง บางทีเฉียวถิงไม่อยากจบการประลองแบบนี้ ก็เหมือนกับที่จ จ้าวจวิ้นกล่าวไว้ เขาแค่อยากลองการยิงจุดตายตัวขณะเคลื่อนที่ของเธอ
หลิงหลานกล่าวจบก็จ้องมองหน้าจอขนาดใหญ่อย่างใจจดใจจ่อ ทำให้จ้าวจวิ้นไม่กล้าพูดมากกลัวว่าจะรบกวนหลิงหลาน จ้าวจวิ้นไม่รู้เลยว่า หลิงหลานดูเหมือนจดจ่อมาก แต่ความจริงแล้วเธอกำลังวิเคราะห์สิ่ งที่ตัวเองเห็นเมื่อสักครู่ในสมองว่าเป็นสิ่งที่พรสวรรค์รู้แจ้งเห็นจริงมอบให้เธออีกหรือเปล่า?
เฉียวถิงยิงเสร็จหนึ่งนัดก็หมุนกายขับหุ่นรบบินขึ้นไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเหมือนกับหลิงหลานจริงๆ การเคลื่อนไหวที่ชัดเจนนี้ทำให้ผู้ชมทั้งหมดรู้ว่าเฉียวถิงต้องการทำอะไร พวกเขาส่งเสียงเอะอะฮือฮ ฮาพร้อมกันและก็ตั้งตารอเช่นเดียวกันว่าอันดับหนึ่งของโรงเรียนทหารผู้นี้จะลอกเลียนแบบการโจมตีของเพื่อนร่วมทีมได้หรือไม่
จะมาแล้วสินะ? ผู้ควบคุมหุ่นรบของถงหลี่เห็นฝ่ายตรงข้ามหมุนกายบินรุดขึ้นหน้า เขาก็กัดฟันโดยพลัน ผ่อนความเร็วของตัวเองลง ต่อให้เขาโมโหมาก แต่เขายังคงจดจำสิ่งที่เพื่อนร่วมทีมของเขาเคยพูดไว ว้หลังจากที่เรื่องจบแล้ว สาเหตุที่โดนยิงนัดนั้นเป็นเพราะความเร็วในการบินของเขาไวมากเกินไป หลังจากที่สังเกตเห็นว่าพุ่งเข้าสู่รัศมีของลำแสงแล้ว ก็ไม่มีเวลาให้เขามีโอกาสเปลี่ยนการเคลื่อนไหวแล ล้ว ถ้าเกิดเขาช้าลงได้อีกหน่อย บางทีผลอาจจะไม่เหมือนกัน
เขาได้เรียนรู้บทเรียนจากเพื่อนร่วมทีมแล้ว ในเมื่ออีกฝ่ายอยากใช้กระบวนท่านั้น เขาก็แค่ลดความเร็วของตัวเองลง เขาเองก็อยากรู้ว่า หลังจากที่ลดความเร็วลงแล้ว เฉียวถิงยังจะยิงโดนเขาได้อีกห หรือเปล่า