I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 479 ผ่านเข้าสู่รอบชิง!
เดิมทีจ้าวจวิ้นอยากทำการโจมตีต่อเนื่องท่าที่เจ็ดที่อยู่ในห้วงจิตใจให้ปรากฏขึ้นมาใหม่อีกครั้ง น่าเสียดายที่เขาบังคับนิ้วมือให้กรอกคำสั่ง ลงไปได้แค่ครึ่งเดียว จู่ๆ นิ้วมือก็อืดอาดลงฉับพลัน ความรู้สึกที่ไหลลื่นในตอนแรกหายไปในชั่วพริบตา การโจมตีต่อเนื่องท่าที่เจ็ดซึ่งดำเนินการ รได้เพียงครึ่งเดียวก็ล้มเหลวลงเพียงเท่านี้
ถึงแม้จ้าวจวิ้นจะรู้สึกเสียดาย แต่เขาไม่เสียใจเลย เขาพึงพอใจมากแล้วที่สามารถทำการโจมตีต่อเนื่องหกท่าได้ เพราะนี่หมายความว่า กำแพงที่จำกัด ดเขาไม่ให้เลื่อนขั้นสู่ไพ่ราชาถูกเขาฝ่าทะลวงแล้ว ขอเพียงเขาทำการโจมตีต่อเนื่องหกครั้งนี้ได้อย่างมั่นคง เขาก็สามารถเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุม มหุ่นรบไพ่ราชาได้อย่างเป็นทางการหลังจากที่กลับไปโรงเรียนทหาร
โจมตีต่อเนื่องเจ็ดครั้งไม่สำเร็จ ไม่สามารถโจมตีอย่างหนักหน่วงได้อีกครั้งก่อนที่อีกฝ่ายจะถูกอัดร่วงลงพื้น จ้าวจวิ้นไม่ได้ท้อแท้ใจ เขารีบขับ บหุ่นรบไล่ตามเข้าไปทันที เขาดิ่งลงอย่างรวดเร็ว อาวุธเย็นเล็งใส่โจวเชาหลิงที่อยู่บนพื้น ก่อนจะแทงเข้าไปแบบนี้
ถึงแม้โจวเชาหลิงจะตกลงมาจนวิงเวียนศีรษะตาพร่าเล็กน้อย ไม่อาจควบคุมสถานการณ์ได้ชั่วขณะ แต่สัญชาตญาณทำให้เขาสัมผัสได้ถึงอันตราย เขากลิ้งตัวห หลบดาบของจ้าวจวิ้นที่พุ่งลงมาจากฟ้าโดยไม่ใคร่ครวญเลยสักนิดเดียว
แต่ว่าต่อให้โจวเชาหลิงหลบอย่างรวดเร็ว จ้าวจวิ้นก็เปลี่ยนกระบวนท่ารวดเร็วเช่นกัน เขาเปลี่ยนจากแทงเป็นตวัดในพริบตา ตวัดดาบอย่างอำมหิตใส่ หุ่นรบของอีกฝ่ายที่กำลังกลิ้งอยู่
‘เคล้ง!’ ดาบยักษ์ตวัดใส่คู่ต่อสู้ พละกำลังมหาศาลทำให้หุ่นรบของโจวเชาหลิงถูกซัดกระเด็นลอยขึ้นมา
การโจมตีของจ้าวจวิ้นไม่ได้หยุดลงเพียงแค่นี้ เขาฉวยโอกาสจากท่วงท่าของหุ่นรบไล่โจมตีต่อ พุ่งกายหนึ่งก้าวก็มาถึงด้านล่างหุ่นรบของโจวเชา าหลิง เขาขับหุ่นรบให้เหวี่ยงขาหมุนวนไปด้านบน ในช่วงเวลาที่ใกล้จะถึงนั้น สองขาเริ่มหมุนวนราวกับพายุ เล็งไปที่หุ่นรบของโจวเชาหลิงแล้ว วทำการเตะอย่างโหดเหี้ยมรุนแรง…
“ทักษะระดับสูง—ลูกเตะพายุหมุน!” ผู้ชมที่คุ้นเคยกับทักษะของหุ่นรบอดร้องตะโกนขึ้นมาไม่ได้
ลูกเตะนี้ไม่เพียงกระแทกโจวเชาหลิงในห้องคนขับจนหมดสติ แต่ยังทำให้หุ่นรบของโจวเชาหลิงถูกเตะจนลอยขึ้นไปบนฟ้า หุ่นรบของจ้าวจวิ้นบิดก กายกลางอากาศที่หนึ่งก่อนจะบินหันขึ้นมาเอง ขณะเดียวกันสองมือของหุ่นรบก็ทำการเปลี่ยนแปลง เขาที่ตอนแรกกำลังกุมด้ามดาบไว้พลันสับเปลี่ยนเป็น กุมดาบในทิศตรงกันข้ามทันที
“ทักษะระดับพิเศษ—เกลียวสังหาร!”
จากนั้นก็เห็นหุ่นรบของจ้าวจวิ้นเริ่มวนล้อมหุ่นรบของโจวเชาหลิงอย่างฉับไว เสียงครูดของโลหะที่แสบแก้วหูดังไปทั่วทั้งสนาม บางคนที่มีทัก กษะกายภาพอ่อนด้อยไม่สามารถทนรับเสียงนี้ได้ ก็ทยอยกันอุดหูตัวเอง ทำหน้าทุกข์ทรมาน
เวลานี้เอง ตรงชั้นป้องกันของสนามประลองกระพริบแสงวูบวาบ คนที่มีสายตาแหลมคมสังเกตเห็นว่ามีชั้นป้องกันเพิ่มขึ้นมาใหม่ก่อนหน้าบาเรียป้องกันอัน เดิม เป็นเพราะชั้นป้องกันนี้เองทำให้เสียงที่ดังแสบแก้วหูพลันเปลี่ยนเป็นห่างไกลมากๆ เสียงไม่ได้ดังแสบแก้วหูจนยากจะทนไหวอีกต่อไปแล้ว
เกลียวสังหารเป็นทักษะระดับพิเศษ พลังทำลายของมันเหนือกว่าทักษะระดับสูงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่จ้าวจวิ้นใช้ทักษะนี้เสร็จ ทุกคนต่างมองเห็นช ชัดเจนว่าเปลือกหุ้มด้านนอกของหุ่นรบโจวเชาหลิงเต็มไปด้วยร่องรอยความเสียหาย มีประกายไฟฟ้าส่องวาบขึ้นมาหลายจุด เห็นได้ว่าวงจรด้านในถูกท่าเกล ลียวสังหารของจ้าวจวิ้นทำลายแล้ว…
ขณะที่จ้าวจวิ้นเตรียมจู่โจมอีกครั้ง เตรียมตัวขยายผลการรบ KO โจวเชาหลิงโดยตรง กรรมการที่สังเกตเห็นความผิดปกติของโจวเชาหลิงก็ชูธงแดงขึ้นอย่า างเฉียบขาด ให้สัญญาณหยุดการประลองลงชั่วคราว
จ้าวจวิ้นลอบเอ่ยคำว่าเสียดาย ชัยชนะอยู่ตรงหน้าชัดๆ แต่โดนกรรมการทำลายลงแล้ว เขาเก็บอาวุธเย็นของตัวเองอย่างขุ่นเคืองใจ ลอยอยู่กลางอากาศ ศ เงียบมองหุ่นรบของโจวเชาหลิงร่วงลงมาจากฟ้าก่อนจะตกสู่พื้น ฝุ่นดินนับไม่ถ้วนสาดกระเซ็นขึ้นมา
กรรมการพุ่งกายทีหนึ่งก็มาถึงด้านข้างหุ่นรบของโจวเชาหลิง เขาพยายามติดต่อกับคนด้านใน แต่พบว่าไม่มีการเคลื่อนไหวเลยสักนิดเดียว จากนั้นก็ เขาตกใจยกใหญ่ทันที
เขารีบแจ้งทีมแฮคเกอร์กับทีมแพทย์ที่คอยรักษาการณ์อยู่ด้านข้างสนามประลองให้ขึ้นมาบนสนามเพื่อทำการช่วยเหลือ ฉากนี้ทำให้ผู้ชมทั่วทั้งสนาม ปั่นป่วนขึ้นมาอีกครั้ง หรือว่าจะเกิดเหตุการณ์เหมือนจางจิงอันขึ้นมาอีกแล้ว?
แฮคเกอร์เจาะรหัสอย่างรวดเร็วก่อนจะเปิดห้องคนขับ แพทย์ทหารคนนหนึ่งกระโดดเข้าไปในห้องคนขับ สามสิบวินาทีให้หลัง แพทย์ทหารก็ชะโงกหัวออกมาบอ อกกับคนอื่นๆ ว่าผู้เข้าประลองด้านในไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรง สาเหตุที่เรียกแล้วไม่ขานเป็นเพราะเขาโดนกระแทกด้วยแรงมหาศาลจนทำให้เขาโชคร้ายหมดส สติไปเท่านั้น
หลังจากที่ได้ยินข่าวนี้ ทุกคนต่างโล่งใจ ถึงแม้ทุกคนรู้ว่า ไม่ว่าอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ในการประลอง แต่พวกเขายังหวังว่าจะคลาดแคล้วปลอดภัย ได้ทั้งหมด เนื่องจากนักเรียนที่เข้าร่วมการประลองล้วนเป็นเหล่าอัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดของสหพันธรัฐ พวกเขาล้วนเจ็บปวดใจหากสูญเสียไปสักคน
แต่สภาพของโจวเชาหลิงในตอนนี้ไม่สามารถสู้ต่อได้แล้ว จ้าวจวิ้นจึงได้รับชัยชนะในรอบนี้ไปโดยปริยาย จากการสูสีกันในตอนแรก จนจ้าวจวิ้นตกสู่ สภาพเสียเปรียบในช่วงกลางและช่วงปลาย จนมาถึงการระเบิดพลังขณะต่อสู้อย่างกะทันหัน ใช้การโจมตีต่อเนื่องหกครั้งได้สำเร็จซึ่งมีเพียงไพ่ราชาเท่า านั้นที่ทำได้ แล้วทำการตอบโต้กลับ ผลงานของจ้าวจวิ้นยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย
จ้าวจวิ้นกลับไปที่ด้านหลังเวทีประลองด้วยความดีใจเป็นบ้าเป็นหลัง เอาชนะโจวเชาหลิงได้ย่อมเป็นเรื่องน่ายินดี แต่สิ่งที่ทำให้เขาดีใจมากกว่าคือ อ เขาเลื่อนขั้นเป็นไพ่ราชาสำเร็จแล้ว
“ยินดีด้วย!”
“ยินดีด้วย!”
เฉียวถิงกับหลิงหลานเอ่ยแสดงความยินดีติดต่อกัน เฉียวถิงเอ่ยอย่างสุภาพ ส่วนหลิงหลานก็เอ่ยอย่างนิ่งเรียบมาก ท่าทางของทั้งคู่สะเทือนอารมณ์ดี ใจเป็นบ้าเป็นหลังของจ้าวจวิ้นจนรู้สึกมืดมนอย่างยิ่ง….มีปีศาจอัจฉริยะแห่งยุคสองคนนี้อยู่ ความรู้สึกประสบความสำเร็จในการเลื่อนขั้นเป็นไพ่ราช ชาก็หายไปหมดแล้ว
โชคดีที่ยังมีมู่เส่าอวี่อยู่อีกคน เขากอบกู้จ้าวจวิ้นที่ท้อแท้ใจกลับคืนมา “จ้าวจวิ้น นายแม่งทะลวงขีดจำกัดเป็นไพ่ราชาตอนที่กำลังสู้เนี่ยนะ โคตรโชคดีเกินไปแล้ว!” มู่เส่าอวี่ทำหน้าอิจฉาริษยาคับแค้นใจ
โดยทั่วไปแล้วเมื่อผู้ควบคุมหุ่นรบเลื่อนขั้นไปสู่ระดับถัดไปก็จะเลือกสถานที่เงียบๆ ทำการหยั่งรู้ การทะลวงขีดจำกัดขณะต่อสู้เป็นเรื่องที่อันตราย สุดขีด ชั่ววินาทีที่ทะลวงขีดจำกัดนั้น ผู้ควบคุมหุ่นรบที่อยู่ในสภาวะหยั่งรู้จะมักจะอยู่ในสภาพไร้ความรู้สึกต่อสภาพแวดล้อมรอบด้านทุกอย่าง นี่ จึงทำให้ศัตรูหาโอกาสสังหารทิ้งในคราเดียวได้ง่ายมาก ต่อให้ไม่ตายก็จะหลุดออกจากสภาวะหยั่งรู้ สูญเสียโอกาสเลื่อนขั้นไปเพราะถูกคู่ต่อสู้หยุดกล ลางคัน
จ้าวจวิ้นอารมณ์ดีแล้ว เขาลูบท้ายทอยเริ่มหัวเราะโง่เง่าขึ้นมา อย่างที่คิดไว้เลย การเลื่อนขั้นเป็นไพ่ราชาทำให้คนอื่นอิจฉาจริงๆ ด้วย
แต่ถ้าเกิดมีคนรู้จักจ้าวจวิ้นดีก็จะรู้ว่า มีความงงงวยแฝงอยู่ในเสียงหัวเราะโง่เง่าของจ้าวจวิ้น ระหว่างทางที่เขากลับมาที่ด้านหลังเวที เขารู ได้รางๆ ว่า ห้องลับและการต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับลูกพี่หลานในตอนนั้น มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นเขาที่เขาจินตนาการออกมาในห้วงจิตใจ เ เพียงแต่ทำไมเขาถึงจินตนาการว่าต่อสู้กับลูกพี่หลานล่ะ? ไม่ควรเป็นเฉียวถิง ศัตรูเก่าหรอกหรือ?
นอกจากนี้การเลื่อนขั้นเป็นไพ่ราชาของเขาแตกต่างจากที่พวกอาจารย์สอนให้เขา การเลื่อนขั้นในระหว่างที่ต่อสู้เป็นการฝืนฝ่าทะลวงขีดจำกัดในระหว ว่างความเป็นความตายเพราะแรงกดดันของศัตรู ย่อมไม่มีทางเข้าสู่การต่อสู้ในฉากจินตนาการภายในห้วงจิตใจจนเลื่อนขั้นได้อย่างแน่นอน...นี่ก็คือสาเ เหตุที่เขาสามารถเลื่อนขั้นได้อย่างราบรื่น เนื่องจากเขาไม่ได้ทะลวงขีดจำกัดในตอนต่อสู้จริง สภาวะไร้ความรู้สึกขณะที่หยั่งรู้ไม่ได้อยู่ในโลกคว วามเป็นจริง อาจจะอยู่ในห้วงจิตใจ เขาหยั่งรู้อยู่นานมาก แต่ในโลกความเป็นจริงอาจจะหยุดอยู่แค่ 0.01 วินาทีเท่านั้น หรือว่าไม่ได้หยุดชะงักเลย?
นี่แปลกประหลาดมากอย่างไม่ต้องสงสัย จ้าวจวิ้นคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก เขาเผลอเหลือบมองลูกพี่หลานที่ทำหน้าเฉยชาอยู่ด้านข้าง ในใจรู้สึกสงสัยอย ยู่บ้างว่า นี่เป็นฝีมือของลูกพี่หลานหรือเปล่า ไม่รู้ว่าทำไมเขามักจะรู้สึกว่านี่เกี่ยวข้องกับลูกพี่หลาน เสียงเหอะเย็นชาที่เขาได้ยินตอนส สู้กับโจวเชาหลิง ตอนนี้คิดยังไงก็เป็นเสียงของลูกพี่หลาน…
จ้าวจวิ้นรู้สึกสงสัยอย่างมาก อยากสอบถามหลิงหลานคลายข้อสงสัยเหลือเกิน แต่เขารู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาสอบถาม จ้าวจวิ้นรู้ดีว่าถ้าเกิดมีคนล่ว วงรู้ว่าหลิงหลานอาจจะครอบครองวิธีการช่วยคนอื่นเลื่อนขั้นเป็นไพ่ราชา ข่าวนี้ยังร้ายแรงกว่าการที่หลิงหลานเลื่อนขั้นเป็นไพ่ราชาตอนปีสองเ เสียอีก มันย่อมดึงดูดปัญหายุ่งยากมากมาให้อย่างแน่นอน
การสร้างไพ่ราชาเป็นเรื่องที่สหพันธรัฐวิจัยมาหลายพันปีแต่ว่าไม่อาจทำได้ ถ้าเกิดลูกพี่หลานมีวิธีการนี้จริงๆ ละก็ ต่อให้ลูกพี่หลานมีพรสวรรค์ ด้านการควบคุมร้ายกาจอีกสักแค่ไหน กองทัพก็จะควบคุมตัวลูกพี่หลานไว้ สำหรับสหพันธรัฐแล้ว การมีระดับราชันเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคนหรือแม้กระทั่งระดับ บเทวะก็มีคุณค่าไม่เท่ากับการมีผู้ควบคุมไพ่ราชาที่มีความสามารถโดดเด่นเพิ่มขึ้นมาหลายสิบล้านคน ผู้ควบคุมไพ่ราชาถึงจะเป็นแก่นแท้บนสนามรบ
จ้าวจวิ้นดูเหมือนเป็นคนบ้าระห่ำ แต่ความจริงแล้วภายในใจของเขาเป็นคนละเอียดรอบคอบ และไม่ได้บุ่มบ่ามมุทะลุ เขาข่มกลั้นความสงสัยในใจ เตรียมตั วไปหาสถานที่และเวลาที่ปลอดภัยเพื่อสอบถามอีกครั้งเป็นการส่วนตัว
การคว้าชัยชนะของจ้าวจวิ้นทำให้โรงเรียนทหารชายที่หนึ่งมีคะแนนนำ 2 ต่อ 1 สีหน้าของคนจากโรงเรียนทหารชายที่สามเขียวคล้ำ รู้สึกหดหู่ใจต่อควา ามโชคดีของจ้าวจวิ้น เห็นชัดๆ ว่าชนะแน่นอน แต่ไม่นึกเลยว่าเขาจะเลื่อนขั้นเป็นไพ่ราชาได้สำเร็จขณะที่ต่อสู้ ทำการโจมตีต่อเนื่องหกครั้ง เอาชน นะความได้เปรียบของโจวเชาหลิงไปได้อย่างหมดจด พลิกสถานการณ์ได้สำเร็จ
“ต่อให้พวกเราแพ้แล้วก็ต้องต่อสู้สองรอบสุดท้ายให้ดีๆ!” คนจากโรงเรียนทหารชายที่สามให้กำลังใจกันเอง ต่อให้รู้ว่าพวกเขาไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ ของเฉียวถิง แต่พวกเขาก็อยากต่อสู้กับโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งให้ครบห้ารอบ ไม่ให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของโรงเรียนทหารชายที่สาม
แต่เมื่อพวกเขาเห็นเฉียวถิงเดินไปที่เขตหุ่นรบ เตรียมตัวขึ้นหุ่นรบทำการเตรียมพร้อมก่อนออกไปประลอง สีหน้าของคนจากโรงเรียนทหารชายที่สามก็พ พากันดำมืด คนจากโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งไม่ให้โอกาสพวกเขาได้สู้ครบห้ารอบเลย เมื่อเฉียวถิงออกมา ใครจะไปต้านทานได้?
อย่างที่คิดไว้จริงๆ ด้วย ในรอบที่สี่ เฉียวถิงเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยปืนสามนัดอย่างสบายๆ คว้าชัยชนะมาได้ โรงเรียนทหารชายที่หนึ่งผ่านเข้ารอบชิ งชนะเลิศด้วยคะแนน 3 ต่อ 1 ตอนนี้พวกเขาแค่รอผู้ชนะจากการประลองตัดสินระหว่างโรงเรียนสหศึกษาที่หนึ่งกับโรงเรียนทหารชายที่สองเท่านั้น เพื่อทำก การแข่งชิงแชมป์กันในตอนสุดท้าย
ไม่นานการประลองระหว่างโรงเรียนสหศึกษาที่หนึ่งกับโรงเรียนทหารชายที่สองก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว เทียนกับการจัดทีมที่แปลกประหลาดของโรงเรียนทหารชา ายที่หนึ่งแล้ว โรงเรียนสองแห่งนี้ดูมีเกณฑ์มากกว่า
ในฐานะไพ่ราชา หลินเซียวกับเจี่ยงเส่าอวี่ถูกจัดให้อยู่ในรอบที่ห้า ความหยิ่งทระนงของไพ่ราชาทำให้พวกเขาไม่ออกไปประลองก่อนล่วงหน้า พูดอีก อย่างก็คือ เจี่ยงเส่าอวี่ยังคิดจะล้างแค้นอยู่ ส่วนการประลองสี่รอบแรกได้จัดทีมตามระดับความสามารถเนื่องจากมีความสามารถใกล้เคียงกัน โดยที่มีก การปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย
ควรพูดว่าความสามารถของทั้งสองโรงเรียนแทบจะใกล้เคียงกันจริงๆ สี่รอบแรกจบลงที่ผลเสมอกันชนะสองแพ้สอง ท้ายที่สุดก็เป็นผู้ควบคุมไพ่ราชาสองค คนทำการตัดสินผลแพ้ชนะกัน หลังจากที่เจี่ยงเส่าอวี่กับหลินเซียวต่อสู้กันในรอบรองชนะเลิศของการประลองหุ่นรบเดี่ยว พวกเขาก็ทำการต่อสู้ตัดสินก กันอีกครั้งในรอบรองชนะเลิศของการประลองหุ่นรบแบบกลุ่ม และครั้งนี้ไม่เพียงตัดสินชะตาของตัวพวกเขา ขณะเดียวกันยังตัดสินชะตาของทั้งสองโรงเรียน นว่าใครอยู่เหนือกว่าใคร
ครั้งนี้เจี่ยงเส่าอวี่ไม่ได้หลงกลหลินเซียวเหมือนในรอบก่อนแล้วที่ประมาทเลินเล่อคิดว่าคู่ต่อสู้ไม่ได้เก่งเรื่องการต่อสู้ประชิดตัว จนทำให้คู่ต ต่อสู้คว้าโอกาสเอาชนะเขาได้
ในทำนองเดียวกัน หลินเซียวเองก็ไม่ได้ไร้เดียงสาว่าจะใช้วิธีการเดิมมาหลอกล่อคู่ต่อสู้ ในเมื่อสิ่งที่ทุกคนเชี่ยวชาญมากที่สุดคือการต่อสู้ระยะประ ะชิด ก็ไม่จำเป็นต้องปกปิดอีก เมื่อการประลองเริ่มต้นขึ้น พวกเขาก็ทำการต่อสู้ระยะประชิด รบรากันอย่างบ้าคลั่ง