I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 484 เดินเกมได้ดี! (3)
การโจมตีของหลิงหลานทำให้คณะกรรมการสับสนวุ่นวาย แน่นอนว่าเป็นการโจมตีที่มีประสิทธิภาพไม่ผิด ควรหักคะแนนมากเท่าไหร่ก็หักเท่านั้น แต่พวกเขาจำเป็นต้องทำให้ชัดเจนว่าการโจมตีนี้ ของหลิงหลานผิดพลาดหรือไม่กันแน่ เพราะว่านี่เกี่ยวพันถึงการที่พวกเขาพิจารณาตัดสินต่อผู้เข้าประลองโดยรวมในตอนสุดท้าย
ท้ายที่สุดการพิจารณาตัดสินโดยรวมของคณะกรรมการก็ถูกเขียนในไฟล์ของผู้เข้าแข่งขัน โดยใช้เป็นหลักฐานประกอบเข้าสู่กองทัพเลื่อนยศว่า พวกเขาต้องระมัดระวัง
การทำลายมือซ้ายของอีกฝ่ายได้ในการโจมตีเดียวทำให้คู่ต่อสู้สูญเสียความสามารถในการถืออาวุธของมือซ้ายไปแล้ว เท่ากับว่าลดทอนกำลังรบของเยี่ยเฟยหยางไปครึ่งหนึ่ง ไม่ว่าหลิงหลา านโชคดีหรือว่าตั้งใจ สถานการณ์บนสนามประลองก็เอื้ออำนวยแก่หลิงหลานสุดขีดอย่างไม่ต้องสงสัย
เยี่ยเฟยหยางที่โดนคู่ต่อสู้ทำลายมือซ้ายโดยไม่ได้ตั้งใจรู้สึกขัดเคืองใจอย่างยิ่ง เขาที่มั่นใจในตัวเองมากไม่เชื่อเหมือนกันว่าการโจมตีนี้เป็นแผนการของหลิงหลาน เขาเชื่อว่าม มันเป็นเรื่องของโชค เพียงแต่น่าหงุดหงิดที่ตัวเองโชคร้ายมากเกินไปแล้วจริงๆ
แต่เยี่ยเฟยหยางที่เสียมือซ้ายก็ไม่ได้สูญเสียกำลังใจ ถึงแม้ว่าการถืออาวุธคู่ทำให้เขายิ่งมีความมั่นใจว่าจะเอาชนะการแข่งขันได้ แต่ว่าต่อให้มีอาวุธแค่เล่มเดียว เขาก็เชื่อว่าสา ามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ตรงหน้าที่ไม่เก่งด้านการต่อสู้ระยะประชิดได้
การต่อสู้ติดกันเป็นชุดนี้ทำให้เยี่ยเฟยหยางยิ่งสู้ก็ยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองต่อสู้พัวพันกันอีกหกเจ็ดกระบวนท่า หลิงหลานค่อยๆ ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ โดนคู่ต่อสู้โ โจมตีกดดันแล้ว
ฉากนี้ยืนยันเช่นกันว่าหลิงหลานไม่เก่งด้านการต่อสู้ระยะประชิดจริงๆ คนที่ชมการประลองไม่ได้แปลกใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย ถ้าเกิดการต่อสู้ระยะไกลและระยะประชิดอยู่ในร ระดับสุดยอดหมดจริงๆ พวกเขาถึงค่อยรู้สึกตกตะลึงและประหลาดใจว่าจะเป็นหลิงเซียวอีกคนหรือเปล่า? ดังนั้น ความสามารถที่หลิงหลานแสดงออกมาในตอนนี้ทำให้พวกเขารู้สึกว่า นี่ถึงจะเป็ นเรื่องปกติ
เมื่อเห็นลูกพี่หลานดูเหมือนต่อสู้เลยสิบกระบวนท่าแล้ว ฉีหลงที่พลิกคว่ำพ่ายแพ้ก็เอ่ยถามอย่างไม่ยอมแพ้ว่า “เซี่ยอี๋ ตอนนี้กี่กระบวนท่าแล้ว?”
“เลยสิบท่าแล้วแน่ๆ” เซี่ยอี๋ที่กำลังชมดูอย่างตื่นเต้นทำหน้าร้อนใจ ไม่ได้นึกถึงเรื่องที่เขาเป็นเจ้ามือวางเดิมพัน
“ยี่สิบกระบวนท่าแล้ว ถ้าเกิดไม่มีเรื่องเหนือความคาดหมาย ลูกพี่หลานน่าจะจัดการคู่ต่อสู้ภายในสามสิบกระบวนท่าแล้ว” หานจี้จวินอธิบายอย่างใจดี
“นายแน่ใจว่าลูกพี่จะต้องเอาชนะคู่ต่อสู้ในสามสิบกระบวนท่าขนาดนี้เชียว?” ฉีหลงตอบกลับอย่างโกรธๆ เขาแพ้การเดิมพันแล้ว ลั่วล่างเองก็แพ้แล้วเหมือนกัน ถ้าเกิดเลยสามสิบกระบวนท่า า พวกหานจี้จวินกับหลี่หลานเฟิงก็จะแพ้การเดิมพันเหมือนกัน มีความเป็นไปได้สูงว่าสุดท้ายผู้ชนะคือพวกหลี่ซื่ออวี๋กับฉางซินหยวน
“แน่นอน ลูกพี่หลานหมดความอดทนต่อการต่อสู้ระยะประชิดง่ายมากมาโดยตลอด ก็เหมือนกับที่ลั่วล่างพูดไว้ ปกติแล้วลูกพี่อดทนได้ยี่สิบกระบวนท่าก็ไม่เลวมากๆ แล้ว ส่วนตัวเลขสามสิบกร ระบวนท่านี้ ฉันได้มาเพราะลูกพี่หลานมีความประทับใจต่อโรงเรียนทหารสหศึกษาที่หนึ่งไม่เลวเลย ลั่วเฉากับหานซู่หย่าได้รับการดูเอาใจใส่ของรุ่นพี่พวกนี้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องไว้หน้าส สักเล็กน้อย แต่เพิ่มขึ้นอีกสิบกระบวนท่าก็เป็นขีดจำกัดของลูกพี่แล้ว ถึงแม้การเสแสร้งของลูกพี่ในตอนนี้จะสมบูรณ์แบบมากก็ตาม” หานจี้จวินมั่นใจในตัวเองมาก เนื่องจากหลี่หลานเฟิง งคิดเหมือนกับเขา นี่ทำให้เขามีความมั่นใจมาก
บนสนามประลอง พอเห็นคู่ต่อสู้โดนตัวเองข่มแล้ว การโจมตีของเยี่ยเฟยหยางก็รุนแรงยิ่งขึ้น เขาต้องฉวยโอกาสไล่โจมตีต่อ จะปล่อยให้อีกฝ่ายฟื้นตัวไม่ได้เด็ดขาด
ถัดจากนั้น เยี่ยเฟยหยางก็โจมตีติดต่อกันอีกสามกระบวนท่า ตอนนี้หลิงหลานได้แต่ตั้งรับอย่างยากลำบาก ส่วนดาบแสงในมือก็ผลาญพลังงานอย่างรวดเร็วสุดขีดเพราะการโจมตีซัดกระแทกอย่า างรุนแรงของดาบสั้น มันเริ่มกระพริบจางๆ ขึ้นมา นี่เป็นสัญญาณว่าพลังงานไม่เพียงพอ
เยี่ยเฟยหยางเห็นดังนั้น ในแววตาก็มีความยินดีพาดผ่าน คู่ต่อสู้ที่ไม่มีดาบแสงแล้วจะต่อกรเขาได้อีกอย่างไร เขาดันเครื่องยนต์ไอพ่นอีกครั้ง พุ่งอย่างรวดเร็วไปหาฝ่ายตรงข้ามด้วยคว วามอำมหิต
‘ซี่ๆ!’ ดาบแสงกับดาบสั้นกระทบกันอีกครั้ง การโจมตีนี้ทำให้พลังงานอันน้อยนิดสุดท้ายของดาบแสงถูกใช้ไปจนหมด ตัวดาบของดาบแสงหายไปฉับพลัน เหลือเพียงด้ามดาบที่ว่างเปล่าทันที และ ดาบสั้นก็ฟันใส่หลิงหลานไปตามแรงเนื่องจากไม่มีการขัดขวางของดาบแสงแล้ว
“ไอ้หยา หลิงหลานจะแพ้แล้ว!” บรรดาผู้ชมร้องอุทานขึ้นมา หลิงหลานที่ไม่มีดาบแสงแล้ว พวกเขาคิดไม่ออกเลยว่ามีวิธีการอะไรที่สามารถพลิกสถานการณ์ได้
“ต้านรับแล้ว!” ขณะที่ทุกคนสิ้นหวังแทนหลิงหลาน หลิงหลานกลับโยนด้ามดาบในมือออกไปได้ทันเวลา แล้วคว้าข้อมือที่กุมดาบของอีกฝ่ายไว้โดยพลัน หุ่นรบสองตัวพลันชะงักงันขึ้นม มาเช่นนี้เอง
แต่ว่าการชะงักงันดำเนินไปแค่ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ปืนสั้นที่หลิงหลานถือกลับด้านพลันถูกเหวี่ยงขึ้นมา หลิงหลานยื่นมือซ้ายตามไปคว้าปืนสั้นไว้ ครั้งนี้หลิงหลานไม่ได้ทำพลาด ด ถือปืนสั้นในมือได้อย่างถูกต้อง และช่วงเวลาต่อจากนั้น ลำแสงทรงพลังสายหนึ่งยิงตรงไปที่ส่วนไหล่ของเยี่ยเฟยหยางโดยที่ผู้คนยังไม่ทันมีปฏิกิริยา
พลังงานดาบแสงหมดไปแล้ว แต่ทุกคนลืมไปแล้วว่า พลังงานของปืนลำแสงระยะสั้นในมือหลิงหลานกลับมีอยู่เต็มเปี่ยม เธอคว้าข้อมือข้างขวาของเยี่ยเฟยหยาง ทำให้อีกฝ่ายไม่อาจหลบได้ น นี่เป็นลำแสงสายหนึ่งที่ยาวนานสามวินาที ทำลายข้อต่อไหล่ขวาที่มีการป้องกันเปราะบางของเยี่ยเฟยหยางทิ้งทันที แขนขวาทั้งข้างพลันแข็งค้างไปแล้ว
นี่ทำให้แขนสองข้างของหุ่นรบเยี่ยเฟยหยางแทบจะพังหมดแล้ว เมื่อเห็นฉากนี้ กรรมการก็ลังเลว่าจะหยุดการประลองเพียงเท่านี้ดีหรือไม่ เนื่องจากตอนนี้จังหวะเวลาชัยภูมิที่ตั้งมานะ ะคนอยู่ฝั่งหลิงหลานหมดแล้ว เขานึกความเป็นไปได้ที่เยี่ยเฟยหยางจะพลิกสถานการณ์ได้ไม่ออกเลย
ทุกคนคิดว่าหลิงหลานจะใช้ปืนลำแสงระยะสั้นโจมตีคู่ต่อสู้ต่อ ขอเพียงทำการโจมตีที่มีประสิทธิภาพได้อีกสองครั้ง ก็สามารถทำให้คะแนนของเยี่ยเฟยหยางถูกหักจนเหลือศูนย์แล้ว เชื่อ อว่าหลังจากลำแสงสองสาย ผู้ชนะในการประลองรอบนี้ก็จะตกเป็นของหลิงหลาน แต่การกระทำต่อมาของหลิงหลานกลับทำให้ทุกคนตะลึงงัน เนื่องจากเธอโยนปืนสั้นในมือทิ้งไป แล้วยกกำปั้นข ของหุ่นรบขึ้นมาอัดไปที่คู่ต่อสู้….
โจมตีประชิดตัวแบบไร้อาวุธ? นี่ไม่ใช่เป็นการมอบชัยชนะให้คู่ต่อสู้เหรอ? ผู้ชมไม่ได้ลืมว่า ถึงแม้แขนขวาสูญเสียความสามารถไปแล้ว แต่ว่าแขนซ้ายก็พังแค่ตรงส่วนข้อมือข้างซ้ายเท่าน นั้น ขาสองข้างก็สมบูรณ์ ไม่มีบุบสลาย เยี่ยเฟยหยางยังมีโอกาสพลิกสถานการณ์หากเป็นการโจมตีแบบไร้อาวุธ
“อ๊า เทคนิคโจมตีต่อเนื่อง!” เมื่อหลิงหลานชกใส่คู่ต่อสู้แล้วก็ตามต่อด้วยลูกเตะหมุนวนอันทรงพลังทันที ทุกคนรู้ว่า นี่ไม่ใช่การโจมตีธรรมดา หากแต่เป็นเทคนิคโจมตีต่อเนื่องที่ ควบคุมหุ่นรบระยะประชิดเรียกว่าเป็นเทคนิคพื้นฐานที่สุดแต่มันก็ได้รับการขนามนามว่าเป็นเทคนิคระดับราชาด้วยเหมือนกัน ทุกคนทำหน้าคาดหวัง เนื่องจากโจมตีเลยสองครั้งแล้ว คะแ แนนของคู่ต่อสู้ก็น่าจะถูกหักจนหมดแล้ว ไม่มีโอกาสพลิกสถานการณ์อีก ทุกคนอยากเห็นแค่ว่าการโจมตีต่อเนื่องของหลิงหลานสามารถไปถึงกี่กระบวนท่าเท่านั้น ดูจากความสามารถของผู้ควบคุ มหุ่นรบระดับพิเศษ อย่างมากสุดก็ได้แค่ห้ากระบวนท่าเท่านั้น
“สาม สี่ ห้า!” หลิงหลานใช้ห้ากระบวนท่าออกมาได้สำเร็จอย่างที่คิดไว้จริงๆ ไปถึงการโจมตีต่อเนื่องสูงสุดที่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษสามารถโจมตีติดต่อกันได้ แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ข ขีดจำกัดของเธอ เพียงแต่หลิงหลานทำให้มันดูเหมือนเป็นขีดจำกัดแล้ว
ถึงแม้ว่าหลิงหลานดูด้อยกว่าคู่ต่อสู้ในด้านการต่อสู้ระยะประชิด ถูกกดดันมาโดยตลอด แต่การโจมตีต่อเนื่องห้ากระบวนท่าในตอนสุดท้ายโหดเหี้ยมรุนแรงจริงๆ ซัดคู่ต่อสู้จนร่วงเป็นฝุ น และไม่รู้เหมือนกันว่าเยี่ยเฟยหยางคนนั้นจะโดนการโจมตีต่อเนื่องห้ากระบวนท่าของลูกพี่หลานอัดจนสลบไปแล้วหรือเปล่า
“ยี่สิบเก้ากระบวนท่า!” หลี่หลานเฟิงเห็นหุ่นรบของเยี่ยเฟยหยางโดนหลิงหลานอัดร่วงจากฟ้าลงสู่พื้น เขาก็รู้ดีว่าฉากจบปรากฏแล้ว กระต่ายชนะแล้ว เขายกยิ้มขึ้นมา
“เดิมทีปืนสองนัดก็จัดการได้แล้ว ทำไมลูกพี่ยังต้องใช้การโจมตีต่อเนื่องเพิ่มอีกล่ะ?” ลั่วล่างงุนงงไม่เข้าใจ
“เพราะว่าลูกพี่อัดอั้นมากแล้วไง เขาไร้เทียมทานด้านการต่อสู้ระยะประชิด แต่ว่าต้องอดทนทำให้ทุกคนคิดว่าเขาไม่เก่งด้านการต่อสู้ระยะประชิดมากๆ ถ้าไม่ระบายออกมา ลูกพี่คงจะอึดอัด ใจตายแน่ๆ สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นคือ การโจมตีต่อเนื่องเป็นเทคนิคที่ทรมานคนมากที่สุด ลูกพี่ไม่มีทางปล่อยให้คู่ต่อสู้ผ่านไปง่ายๆ หรอก” ฉีหลงเอ่ยพลางยิ้มยินดีในความซวยของคนอื่ น
“ลูกพี่ใช้การโจมตีต่อเนื่องห้าครั้งมาพิสูจน์ว่าการต่อสู้ระยะประชิดของเขาก็ยอดเยี่ยมมาก เริ่มแรกที่ถูกกดดันเป็นเพราะคู่ต่อสู้เหนือกว่าเขาเท่านั้น ลูกพี่เดินเกมได้ดีอีกแล้ว” ” หานจี้จวินกลับดูออกถึงความหมายโดยนัยที่หลิงหลานทำแบบนี้ ก่อนจะอดถอนหายใจชื่นชมไม่ได้
ลูกพี่รู้ดีว่าอะไรที่เรียกว่าเกินพอดี การอดทนมากเกินไปก็จะทำให้คนสงสัยเช่นกัน ใช้การโจมตีต่อเนื่องห้าครั้งมาพิสูจน์ความเก่งกาจของตัวเอง ขณะเดียวกันก็เผยความทระนงตนแบบเด็ กๆ อยากเอาคืนออกมา นี่สอดคล้องต่ออารมณ์และความคึกคะนองของนักเรียนทหารที่โดดเด่นมาก เช่นนี้ลูกพี่ก็จะดูเป็นธรรมชาติไม่ได้ผิดแปลกจากคนของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งซึ่งเป็นสถานท ที่ที่มีอัจฉริยะอยู่เต็มไปหมด