I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 488 ความแข็งกร้าวกับเผด็จการ!
เมื่อเห็นเทียนจีกลับมาสนับสนุนหลิงหลานเหมือนกัน หานอวี้รู้ว่าต่อให้ตัวเองคัดค้านอีกแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เขาจึงได้แต่พูดด้วยความขุ่นเคืองว่า “พวกเราอู๋จี๋ สนับสนุนหั วหน้ากลุ่มหลิงเช่นเดียวกัน!”
หลังจากเสียงของหานอวี้ หลิงหลานพลันนั่งตัวตรง สายตาคมกริบกวาดมองไปทางสมาชิกทุกคน จากนั้นเธอก็เอ่ยว่า “ฉันต้องการตำแหน่งผู้บัญชาการนี้ไม่ใช่เพื่ออำนาจ แต่เป็นเพราะฉันต้ องการพาทุกคนกลายเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการต่อสู้ประจัญบาน!” เธอหันหน้าไปทางหลี่หลานเฟิงแล้วกล่าวว่า “หลานเฟิง เอาแผนการที่พวกนายปรึกษากันดีแล้วมาให้กับหัวหน้าแต่ละคน น!”
หลี่หลานเฟิงพยักหน้า เขามองไปทางหานจี้จวิน จากนั้นหานจี้จวินก็หยิบเอกสารปึกหนึ่งออกมาจากในกระเป๋าเป้ด้านหลัง ลั่วล่าง เซี่ยอี หลินจงชิงเดินเข้ามาช่วยหานจี้จวินแจกเอกส สารเหล่านี้แก่หัวหน้าของแต่ละหน่วยรบ
ขณะที่พวกหัวหน้าทีมยังไม่ทันได้พลิกเปิดอ่าน หลิงหลานก็เอ่ยเตือนว่า “ห้ามถ่ายเอกสารชุดนี้ ห้ามกรอกลงในอุปกรณ์สื่อสารด้วย ต้องจำใส่สมองเท่านั้น! หลังจากอ่านแล้วรีบทำลาย ทันที บางทีที่นี่อาจจะมีแฮคเกอร์คอยจับตาดูอยู่ พวกเราจะเลินเล่อไม่ได้เด็ดขาด!
หลิงหลานใส่ไอพลังของเขตแดนตอนกล่าวคำว่า ‘เลินเล่อไม่ได้เด็ดขาด’ ออกมา ก่อนจะได้ยินเสียงแตก ‘เพล้งๆๆ’ ชุดหนึ่งดังออกมาจากภายในห้องประชุม ทันใดนั้นก็มีควันดำลอยออกมาจากมุมท ที่แตกต่างกัน สมาชิกที่อยู่ในที่แห่งนี้สีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลัน ไม่นึกเลยว่าจะมีอุปกรณ์ดักฟังเยอะขนาดนี้ในห้องประชุม ดูท่าโรงเรียนอื่นจะลงมือใส่พวกเขาแล้วเหมือนกับที่หัวหน้ากล ลุ่มหลิงคาดการณ์ไว้จริงๆ ด้วย
เมื่อสมาชิกที่เดิมทียังไม่ยอมรับบางคนมองไปทางหลิงหลานอีกครั้ง ดวงตาคู่นั้นก็เผยร่องรอยความนับถือออกมา สามารถคาดเดาแผนการของศัตรูได้ก่อน บางทีผู้บัญชาการแบบนี้อาจจะนำพาพว วกเขากลายเป็นผู้ชนะในตอนสุดท้ายได้จริงๆ
หูของหลี่หลานเฟิงกระดุกกระดิกท่ามกลางเสียงระเบิดแตก สบตากับหานจี้จวินด้วยความประหลาดใจ และก็เห็นความประหลาดใจในสายตาของอีกฝ่าย พวกลั่วล่างสงบนิ่ง แววตาเต็มไปด้วยความนับถื อเลื่อมใสต่อหลิงหลาน มีเพียงฉางซินหยวนเท่านั้นที่ก้มหน้าลง เล่นนิ้วมือของตัวเองอย่างจริงจัง
เขาที่ไม่รู้จักการเล่นละคร ท้ายที่สุดยังคงฟังคำชี้แนะจากหลี่หลานเฟิง ก้มหน้าไปจนกว่าทุกคนจะแยกย้าย ใครใช้ให้พวกของเล็กๆ ที่โดนลูกพี่หลานทำลายนี้เป็นของที่เขาสร้างกับมือล ละ…
เพราะฉากนี้เอง ทุกคนจึงไม่กล้าดูเบาแล้ว หลังจากที่พวกเขาอ่านเอกสารและจดจำเนื้อหาที่เขียนในนั้นแล้ว พวกเขาก็ทำลายเอกสารรทันที หัวหน้าทีมที่สามารถกลายเป็นผู้คนทีมยังคงมีทร ริคเล็กๆ เหล่านี้อยู่
เฉียวถิงเปิดเอกสารชุดนั้น เนื้อหาด้านในทำให้แววตาเขาเริ่มส่องประกาย เขานึกไม่ถึงเลยว่าความละโมบของหลิงหลานจะใหญ่โตขนาดานี้…เขามองหลิงหลานอย่างสับสน สองมือประสานกัน เอกสารในมือเปลี่ยนเป็นผุยผงทันใด ก่อนจะหลุดรอดออกมาจากร่องนิ้วมือของเขาช้าๆ แล้วร่วงกระจายลงพื้น
หลังจากที่เขาตัดสินใจมองข้ามอีกฝ่าย หลิงหลานก็มักจะแสดงความน่าเลื่อมใสเป็นพิเศษอีกอย่างออกมา ทำให้หัวใจเขาที่ตอนแรกไม่สนใจ ก็เริ่มคิดทบทวนใหม่อีกครั้ง
“อีกอย่างทรัพยากรห้าสิบล้าน ฉันจะแบ่งสรรแบบนี้” เมื่อหลิงหลานกล่าวคำพูดนี้ออกมา ทุกคนก็ตื่นตัว นี่เกี่ยวพันถึงอาวุธและทรัพยากรว่าสุดท้ายสามารถจัดแบ่งให้ทีมพวกเขาได้มากน้ อยแค่ไหนกันแน่
“เริ่มแรกหน่วยรบยี่สิบสี่คนของหัวหน้าทีมเฉียวถิง: แปดล้าน!” หลิงหลานกวาดตามองเฉียวถิงด้วยสายตาเย็นเยียบ เฉียวถิงพยักหน้า เขาพอใจจำนวนตัวเลขนี้มาก แทบจะได้หนึ่งในหกของจำ ำนวนเงินทั้งหมด และสอดคล้องกับจำนวนคนของพวกเขาด้วย การจัดสรรของหลิงหลานยุติธรรมมาก
หน่วยรบของเฉียวถิงที่มีความสามารถแข็งแกร่งที่สุดไม่มีความเห็นคัดค้าน เช่นนั้นที่เหลือก็ยิ่งไม่มีความเห็นคัดค้าน อู้จี๋กับเทียนจีเทียบตามหน่วยรบเฉียวถิง หน่วยรบสิบสองคนคือ ส สี่ล้าน ทีมจางจิงอันสิบเอ็ดคน ขาดจางจิงอันกำลังหลักคนนี้ไป ให้สามล้านห้าแสนก็ถือว่าปรานีแล้ว กลุ่มหุ่นรบอื่นๆ รวมตัวกันเป็นหน่วยรบยี่สิบสี่คน ก็ให้หกล้านห้าแสน ทำให้พว วกเขาพอใจมากเช่นกัน
ถึงแม้มียี่สิบสี่คนเหมือนกัน แต่ไม่ว่าความสามารถหรือระดับล้วนไม่สามารถเทียบเคียงหน่วยรบยี่สิบสี่คนของเฉียวถิงได้ พวกเขาได้น้อยกว่าหนึ่งล้านห้าแสนก็รู้สึกว่ายุติธรรมมากเหมือ อนกัน
และความต่างของจำนวนเงินหนึ่งล้านห้าแสนนี้ก็ทำให้พวกสมาชิกทีมของหน่วยรบเฉียวถิงพอใจมาก ตอนที่มองไปทางหลิงหลาน แววตาก็เผยความเคารพ สรุปคือ มาตรฐานการจัดสรรนี้ทำให้ทุก กคนพอใจ เฉียวถิงเห็นทุกคนเผยสีหน้ายินดี หัวใจก็กระตุกทันที หลิงหลานซื้อใจสมาชิกหน่วยรบต่างๆ แล้วโดยไม่รู้ตัว เขามองไปทางหลิงหลานอีกครั้ง ยังคงสงสัยเรื่องการตัดสินใจของตั วเองว่า หลิงหลานไม่มีทางกลายเป็นคู่ต่อสู้ของเขาจริงๆ เหรอ?
“จำนวนเงินจัดสรรที่หน่วยรบหลิงเทียนของเราได้คือสี่ล้าน ใช้จำนวนเงินที่จัดสรรให้กับอาวุธยุทโธปกรณ์ของหน่วยรบต่างๆ จำนวนเงินที่เหลือฉันจะให้หลินจงชิงและสมาชิกพลาธิการทำ การแลกทรัพยากรอื่นๆ รวมถึงอาหารและตลับพลังงานต่างๆ ที่เราต้องการในช่วงเวลาต่อสู้ประจัญบาน
“พวกเราไม่ใช้แลกอาวุธภาคพื้นดินขนาดใหญ่เหรอ?” เมื่อได้ยินคำอธิบายเสริมของหลิงหลาน หานอวี้ก็ขมวดคิ้วเอ่ยถามทันที
“เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนไหว ฉันไม่เห็นด้วยที่จะแลกอาวุธประเภทนี้” หลิงหลานบอกคำตอบของเธอออกมาตรงๆ
“เพราะอะไร?” หานอวี้ลุกขึ้นถามโดยพลัน ในใจรู้สึกไม่พอใจมา ถ้าเกิดอยากป้องกันความปลอดภัยของฐานที่มั่น จะขาดอาวุธประเภทนี้ไม่ได้เลย ในอดีต ทุกโรงเรียนต่างเลือกปืนใหญ่หนักป้อง งกันภาคพื้นดินหลายลูกมาตรวจตราทั่วทั้งฐานที่มั่น ไม่อย่างนั้นอาศัยแค่หนึ่งร้อยยี่สิบคน ซึ่งในนั้นยังต้องแบ่งทัพไปแย่งชิงฐานที่มั่นอื่น ไม่อาจรับมือการผู้รุกรานของโรงเรียนอื นได้เลย
ควรรู้เอาไว้ว่า ถึงแม้การแย่งชิงฐานที่มั่นอื่นจะได้คะแนนเยอะมาก แต่ทุกอย่างนี้จำเป็นต้องสร้างความปลอดภัยให้กับฐานที่มั่น ถ้าเกิดฐานที่มั่นโดนคนอื่นแย่งไป ต่อให้ยึดฐานที่มั นอื่นได้เยอะอีกแค่ไหน ก็ไม่มีประโยชน์ กฎเกณฑ์ของการต่อสู้ประจัญบานโหดร้ายมาก หากฐานที่มั่นตกอยู่ในมือศัตรูก็จะถูกตัดสินให้ออกจากสนามทันที โรงเรียนทหารมากมายถึงขนาดไม่ก กล้าส่งหน่วยรบออกไปสู้กับฐานที่มั่นอื่น แล้วเลือกป้องกันอย่างสุดความสามารถจนถึงตอนจบ ขอเพียงรักษาฐานที่มั่นไว้ได้ ก็จะได้รับคะแนน ถึงแม้คะแนนนี้น้อยกว่าการบุกยึดฐานที่มั่น อื่นมากแต่ว่าอย่างน้อยที่สุดก็ไม่ได้ออกจากสนามอีกทั้งยังมีคะนนด้วยไม่ใช่หรือไง?
ความจริงแล้ว โรงเรียนทหารมากมายมีความคิดแบบนี้ อยู่จนถึงการต่อสู้ประจัญบานสิ้นสุดลง ได้รับคะแนนขั้นต่ำสุดแล้ว อันดับก็จะเพิ่มขึ้นบ้าง แต่โรงเรียนทหารมากมายที่ออกไปเดิมพัน กลั บออกจากสนามล่วงหน้า ไม่มีคะแนนขั้นต่ำสุด ท้ายที่สุดก็อยู่อันดับรั้งท้าย
ดังนั้นในบรรดาสมาชิกที่อยู่ตรงนี้ ไม่เพียงมีหานอวี้ที่แสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างรุนแรง แววตาของหัวหน้าหน่วยรบคนอื่นๆ ก็เผยความลังเลออกมาเช่นเดียวกัน
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของหานอวี้ หลิงหลานก็ได้ส่งสายตาเย็นเยียบไป นี่ทำให้หัวใจของหานอวี้สะดุ้งฉับพลัน หานอวี้พบว่า หลิงหลานในตอนนี้ไม่ใช่หลิงหลานที่ว่าง่ายไปตามสถา านการณ์อย่างในการประลองหุ่นรบแบบทีมคนนั้นอีกแล้ว เขาในตอนนี้ ไม่ว่าสายตาหรือว่าออร่าล้วนมีพลังที่แข็งแกร่งและแรงกดดันไร้รูป ทำให้เขารู้สึกเหมือนเขาเผชิญหน้ากับผู้บัญชาก การที่แท้จริง เขากำลังซักถามคำสั่งของผู้บัญชาการ ซึ่งนี่ไม่อาจทำได้แน่นอนถ้าหากอยู่ในกองทัพ
สีหน้าที่เดือดดาบของหานอวี้เริ่มผ่อนคลายลงภายใต้สายตาบีบคั้นของหลิงหลา เขาฝืนทำตัวสงบนิ่ง ขณะที่อยากถามอีกครั้ง อีกด้าน หนึ่งในหัวหน้าทีมจากสองหน่วยรบที่ก่อตั้งขึ้นจ จากกลุ่มหุ่นรบอื่นๆ ก็เอ่ยปากว่า “หัวหน้ากลุ่มหลิง จำนวนเงินมีปัญหานิดหน่อยใช่หรือเปล่า ถ้าเกิดเป็นแบบนี้ ลดจำนวนของหน่วยรบพวกเราลงหน่อยก็ได้นะ ฐานที่มั่นสำคัญกว่าทุกอย่า าง”
เมื่อคำพูดนี้ออกไป ทุกคนก็มองไปทางหลิงหลาน รวมถึงเฉียวถิงด้วย คำตอบของหลิงหลานอาจจะส่งผลกระทบต่อจำนวนเงินที่จัดสรรในตอนสุดท้ายของหน่วยรบพวกเขา พวกเฉียวถิงไม่ได้ไร้เดี ยงสาว่า ถ้าเกิดต้องลดจำนวนเงินจัดสรรของหน่วยรบหนึ่งจริงๆ แล้วหน่วยรบอื่นๆ ยังสามารถรักษาจำนวนเงินเดิมได้
หลิงหลานเคาะโต๊ะขึ้นมาช้าๆ ท่ามกลางสายตาของทุกคน เธอจ้องมองหานอวี้ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก ราวกับกำลังพิจารณาว่าจะรับข้อเสนอแนะของหัวหน้าทีมคนนั้นดีไหม… ..
เวลาค่อยๆ ผ่านไป ทุกคนรู้แจ้งจากในสีหน้าของหลิงหลานแล้ว หลิงหลานไม่ได้ครุ่นคิดปัญหาข้อนี้เลย เขาเหมือนกำลังใคร่ครวญอยู่ว่าจะลงโทษหานอวี้ดีหรือไม่
เวลานี้หานอวี้เองก็เข้าใจความหมายที่หลิงหลานเงียบไปแล้ว ดวงหน้าของเขาพลันขึ้นสีเขียวสลับแดง รู้สึกเหมือนโดนสบประมาท หลิงหลานหมอนี่เป็นรุ่นน้องที่เพิ่งจะขึ้นปีสองแท้ ๆ ทำไมถึงกล้าคิดแบบนี้? เขาอยากล้มโต๊ะด้วยความเดือดดาล แต่สีหน้าเย็นชาสุขุมของหลิงหลานบอกเขารางๆ ว่า อีกฝ่ายกำลังรอเขาทำแบบนี้อยู่ หลิงหลานที่เพิ่งจะกุมอำนาจสั่งการ ต้องการเชือดไก่ให้ลิงที่มาจากที่ต่างๆ ดูเพื่อเสริมอำนาจของเขามากๆ
หน้าอกของหานอวี้กระเพื่อมหลายครั้ง เขากัดฟันกรอด ไม่ได้แผดเสียงร้องคำราม เนื่องจากเขารู้ว่าผลที่รอคอยเขาอยู่คือไร หากเขาทำแบบนี้จริงๆ หลิงลหานจะยกเลิกคุณสมบัติการออก กไปต่อสู้ประจัญบานของเขาแน่นอน ให้เขาอยู่ในเขตที่พักอย่างเซื่องซึม รอคอยบทสรุปในตอนสุดท้าย
ถ้าเกิดเป็นแบบนี้ขึ้นมา เขาย่อมโดนพวกนักเรียนทั้งหมดของโรงเรียนทหารล้อเลียนแน่นอน เขาจะให้โอกาสนี้แก่หลิงหลานไม่ได้ ให้ไม่ได้เด็ดขาด! ในที่สุด หานอวี้ก็ใจเย็นลง แววตาแฝ ฝงไปด้วยความอำมหิตอย่างหาใดเปรียบ ถ้าเกิดพวกเขาพ่ายแพ้ในการต่อสู้ประจัญบานเพราะเหตุนี้ขึ้นมา เขาจะต้องให้หลิงหลานจ่ายค่าตอบแทนที่มากพอแน่นอน แล้วล้างความอัปยศในวันนี้
เมื่อเห็นหานอวี้เข้าใจบทบาทของตัวเองในที่สุด หลิงหลานถึงค่อยเอ่ยปากพูดอย่างเย็นชาว่า “หานอวี้ ครั้งนี้ เพราะว่าเป็นครั้งแรก ฉันให้อภัยกับพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎของนาย! แต่จำไว ว้นะว่า นี่เป็นครั้งสุดท้าย!”
หานอวี้ส่งเสียงงึมงำกัดฟันกรอด ทุกคนได้สติกลับมา นับตั้งแต่ที่ทุกคนยอมรับหลิงหลานเป็นผู้บัญชาการแล้ว หลิงหลานก็คือผู้บัญชาการ ต่อให้อยู่ในโรงเรียนทหาร แต่การซักถามผู้บัญ ญชาการก็คือว่าเป็นเรื่องใหญ่ หลิงหลานมีสิทธิ์จัดการหานอวี้ที่ไม่เคารพ และขับไล่ออกไปจากการต่อสู้ประจัญบานก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้
แววตาของเฉียวถิงหดลงฉับพลัน เขาไม่คาดคิดว่า หลังจากที่หลิงหลานรับตำแหน่งผู้บัญชาการแล้วจะแข็งกร้าวขนาดนี้ แตกต่างจากตอนที่พูดคุยปรึกษากันก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ใช้หานอวี เป็นที่มีค่ามหาศาลนี้โดยไม่เสียดาย เพื่อที่จะสยบให้คู่ต่อสู้ให้เชื่อฟังด้วยความแข็งกร้าว วิธีการที่รวดเร็วดังสายฟ้านี้ทำให้คนที่ตอนแรกไม่ยอมรับหลิงหลานรู้สึกหวาดกลัวขึ้น นมาในใจ
ถ้าเกิดเป็นเวลาปกติ วิธีการแบบนี้เผด็จการมากเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย และจะทำให้ผู้คนไม่พอใจ แต่เวลานี้กลับเหมาะสมอย่างน่าประหลาดใจ เดิมทีการต่อสู้ประจัญบานก็เป็นสนามรบที่โหดร้า าย ถ้าเกิดไม่อาจควบคุมได้หมด ย่อมไม่มีทางได้รับผลลัพธ์ที่ดี นี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งที่ต่อให้รู้ว่าส่งกลุ่มหุ่นรบหนึ่งออกไปสมัครการแข่งของภาควิชาอื นจะมีข้อบกพร่อง แต่กลับไม่เคยพยายามไปเปลี่ยนมาโดยตลอด ก็เพราะกลัวว่าการมีกลุ่มหุ่นรบเยอะมากในการต่อสู้ประจัญบานตอนสุดท้ายจะทำให้ไม่สามารถบัญชาการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ซึ่ง งนี่ยังแย่ยิ่งกว่าขาดการแข่งของภาควิชาต่างๆ เสียอีก
“เดิมทีฉันไม่อยากอธิบายเพราะว่าขอเพียงเป็นคนที่มีสมองคิดดูก็จะรู้ว่านี่เป็นเพราะอะไร” หลิงหลานกวาดสายตามองไปที่คนอื่นๆ อีกครั้ง ซึ่งล้วนเป็นบรรดาสมาชิกทีมที่ตอนแรกเผยสี หน้าไม่พอใจ สมาชิกทีมเหล่านี้รู้สึกอับอายภายใต้สายตาบีบคั้นของหลิงหลาน แล้วอดก้มหน้าลงต่ำไม่ได้
“ในเอกสาร เกี่ยวกับการรวมกลุ่มของสมาชิกทีม ข้อที่เจ็ดได้อธิบายเรื่องนี้ไว้แล้ว” หลิงหลานเอ่ยเตือน