I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 505 ติดกับ!
ภายในป่าทึบของเขต S หน่วยหุ่นรบสิบสองคนเดินทางผ่านทะลุป่าอย่างระมัดระวัง ขณะสำรวจสถานการณ์รอบด้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ร่องรอยการเดินทางของตนเองถูกค้นพบ
“หยุด ซ่อนตัว!” ทันใดนั้นลูกทีมแนวหน้าก็ส่งสัญญาณ ทุกคนรีบขับหุ่นรบพุ่งเข้าไปในต้นไม้ภูเขาหินด้านข้างที่สามารถกำบังร่างหุ่นรบได้ ก่อนจะซ่อนตัวไว้
ผ่านไปหลายวินาที พวกเขาก็เห็นหุ่นรบระดับพิเศษที่พังเสียหายปล่อยควันโขมงสองตัวกำลังบินโซซัดโซเซเข้ามาจากกลางอากาศ บางทีอาจถึงขีดจำกัดแล้ว หุ่นรบสองตัวนี้จึงหล่นลงมาทาง พวกเขา
ถึงแม้หุ่นรบสองตัวนี้พยายามอยากฝืนร่อนลงมาให้สำเร็จ แต่คาดว่าหุ่นรบจะได้รับความเสียหายหนักมาก หุ่นรบที่ไม่สามารถควบคุมทิศทางได้ยังคงชนกิ่งไม้ของต้นไม้ที่สูงเสียดฟ้าหลา ายต้นขณะกำลังร่อนลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ท้ายที่สุดก็ตกลงไปในกองหิมะหนาๆ อย่างหนักหน่วง ก่อนจะไถลไปข้างหน้าหลายสิบเมตร
หุ่นรบหนึ่งในนั้นกระแทกกับต้นไม้สูงตระหง่านถึงค่อยหยุดไถล ส่วนอีกตัวก็สูญเสียการควบคุมกลิ้งอยู่ในกองหิมะนับครั้งไม่ถ้วนถึงค่อยโดนหิมะหนาๆ หยุดไว้
หุ่นรบสองตัวร่วงลงมาแล้วก็นอนนิ่งอยู่บนหิมะ หุ่นรบปล่อยควันโขมงพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า
หัวหน้าหน่วยรบลังเลสักพัก ก่อนตัดสินใจช่วยเหลืออีกฝ่าย ภายในสนามรบ ต่อให้เป็นศัตรูก็ต้องช่วยเหลือในแง่ของมนุษยธรรม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ อีกฝ่ายไม่ใช่ศัตรูที่แท้จริงด้วย
เขาขับหุ่นรบเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง ค่อยๆ เข้าไปใกล้หุ่นรบที่อยู่ใกล้เขาซึ่งถูกต้นไม้หยุดไว้
ตอนที่ยังอยู่ห่างหุ่นรบตัวนั้นสิบกว่าเมตร ปุ่มสื่อสารภายนอกของหุ่นรบก็ถูกเปิด จากนั้นก็มีเสียงไออย่างรุนแรงดังออกมาจากด้านใน
หัวหน้าทีมอดเป็นห่วงไม่ได้แล้ว รีบเอ่ยถามว่า “นาย ต้องการความช่วยเหลือมั้ย?”
ไม่ง่ายเลยกว่าคนด้านในจะหยุดไอ ประโยคแรกที่เขาเอ่ยปากไม่ใช่ขอความช่วยเหลือหากเป็นการเตือน “หนีเร็ว พวกเขาจะเข้ามาฆ่าแล้ว” ต่อจากนั้นก็เป็นเสียงไออย่างรุนแรงอีกชุด…
หัวหน้าทีมได้ยินคำกล่าวก็ตกใจ หรือว่าเป็นคนลอบสังหารกลุ่มคนนั้น? เขารีบเอ่ยถามว่า “พวกเขาเป็นใคร?”
“โรงเรียนทหารชายที่หนึ่ง!” เสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวของผู้ควบคุมหุ่นรบดังมาจากในหุ่นรบระดับสูง
“เป็นพวกเขาจริงๆ ด้วย!” คำตอบของอีกฝ่ายไม่ได้ทำให้หัวหน้าทีมรู้สึกประหลาดใจ พวกเขาได้พูดคุยกับอีกโรงเรียนแล้ว หลังจากที่วิเคราะห์สรุปออกมาก็คิดว่าคนลอบสังหารมาจากหนึ่งใน สามโรงเรียนซึ่งได้แก่โรงเรียนทหารสหศึกษาที่หนึ่ง โรงเรียนทหารชายที่หนึ่งและโรงเรียนทหารชายที่สาม และโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งก็เป็นผู้ต้องสงสัยใหญ่สุด เพียงแต่ไม่มีหลักฐานแน่ชัด ด ทุกคนเลยไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะปราบปรามโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งด้วยกัน
“ตอนนี้นายเป็นยังไงบ้าง? ยังประคองไหวหรือเปล่า? ถ้าเกิดได้ ฉันจะพานายกลับไปฐานที่มั่นของพวกเรา ตราบใดที่นายพิสูจน์ได้ว่าคนลอบโจมตีเป็นโรงเรียนทหารชายที่หนึ่ง พวกเราก็จะ ะช่วยพวกนายแก้แค้นได้นะ” หัวหน้าทีมสอบถามด้วยความเป็นห่วง ขณะเดียวกันก็บอกความคิดของเขาให้อีกฝ่าย
“ไม่มีปัญหา ฉันประคองไหว!” ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษรีบตอบ “ฉันไม่มีทางปล่อยพวกเขาไป หน่วยรบฉันเหลือแค่ฉันกับเสี่ยวอู๋สองคนแล้ว…อ๊า เสี่ยวอู๋ไม่เป็นไรใช่ไหม”
หัวหน้าทีมรีบพูดว่า “นายรอเดี๋ยวนะ ฉันจะส่งคนไปดู”
“เร็วๆ นะ ตอนที่พวกเราหนีมา คนของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งกำลังไล่ตามมาตลอดทางเลย ถ้าเกิดถูกพวกเขาไล่ตามทัน พวกเราจะมีอันตราย” ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงเอ่ยด้วยความร้อนใจ เขา อยากรีบไปเดี๋ยวนี้เลย
หัวหน้าทีมได้ยินก็เครียดเช่นกัน “อีกฝ่ายมีกี่คน?”
“ยี่สิบสี่คน” ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงตอบ
นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีหน่วยรบสองหน่วย พวกเขาสิบสองคนต้านไว้ไม่อยู่แน่นอน หัวหน้าทีมตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่า หลังจากที่ลูกทีมตรวจสอบผู้ควบคุมหุ่นรบเสี่ยวอู๋คนนั้นเสร็จแล้วก็จะ ะจากไปทันที
ในขณะที่รอคอย หัวหน้าทีมไม่ลืมสอบถามสถานการณ์ของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงคนนั้น “หุ่นรบของนายยังขับได้อยู่หรือเปล่า?”
ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงทุบแผงควบคุมของตัวเองด้วยความคั่งแค้น แล้วกัดฟันกล่าวว่า “หุ่นรบค้าง ขับไม่ได้แล้ว ระยำจริงๆ!”
หัวหน้าทีมได้ยินคำกล่าวก็ลังเลนิดหน่อย แต่สถานการณ์ไม่ยอมให้เขาใคร่ครวญอย่างละเอียด เขาจำเป็นต้องพาผู้ควบคุมหุ่นรบคนนี้กลับไปพิสูจน์ตัวตนที่แน่ชัดของผู้ลอบสังหาร ดังนั้นเลย ยสั่งลูกทีมว่า ให้ผู้ควบคุมหุ่นรบคนนั้นนั่งบนที่นั่งสำรองของหุ่นรบลูกทีมหนึ่งในนั้น
“หัวหน้า หัวของผู้ควบคุมหุ่นรบที่อยู่ในหุ่นรบระดับสูงถูกกระแทกจนสลบไปแล้ว แถมยังมีเลือดไหลเยอะมากด้วย แต่ว่าไม่มีอันตรายถึงชีวิต” เวลานี้เอง ลูกทีมทีมเข้าไปตรวจสอบก็รายงา านสถานการณ์เข้ามา
“โอเค ย้ายเขาไปที่ห้องคนขับของนาย พวกเรารีบกลับเดี๋ยวนี้เลย” หัวหน้าทีมเร่งสั่งการ
“ครับ หัวหน้า!”
บรรดาลูกทีมย้ายผู้ควบคุมหุ่นรบที่ได้รับบาดเจ็บจนหมดสติเข้ามาในที่นั่งสำรองของหุ่นรบ ทางฝั่งหัวหน้าทีมก็สอบถามสถานการณ์ของผู้ควบคุมหุ่นรบที่ยังนับว่าดีอยู่ “พวกนายเป็นค คนจากโรงเรียนไหน?”
เนื่องจากทั้งสองคนมีบาดแผลทั่วร่าง ชุดป้องกันบนตัวเลยถูกย้อมเต็มไปด้วยเลือด ทำให้ตราตัวแทนโรงเรียนตรงหน้าอกเลือนราง ยากจะแยกแยะสถานะของอีกฝ่ายชั่วขณะ
“พวกเราเป็นคนจากโรงเรียนทหารชายที่สาม” ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงเอ่ยด้วยความเก้อเขิน
หัวใจของหัวหน้าทีมสั่นสะท้าน โรงเรียนทหารชายที่สามก็เป็นผู้ต้องสงสัยของพวกเขาเหมือนกัน…
“อ๊าก!” ทันใดนั้นเองก็มีเสียงร้องโหยหวนของลูกทีมดังมาจากในช่องสื่อสารทีม ในใจหัวหน้าทีมร่ำร้องว่า ‘แย่แล้ว’ ก่อนจะได้ยินลูกทีมอีกคนตะโกนดังลั่นในช่องสื่อสารว่า “พวกเขาเป ป็น…”
เสียง ‘ปัง’ ดังมาจากในช่องสื่อสาร ขัดเสียงร้องตะโกนของลูกทีม เวลานี้หัวหน้าทีมยังมีอะไรที่ไม่รู้อีก เขาคำรามด้วยความเดือดดาลว่า “สารเลว!”
“หัวหน้า ระวัง!” ลูกทีมที่อยู่ข้างกายก็ร้องตะโกนอย่างหวาดหวั่นขึ้นมาฉับพลัน
ทันใดนั้นเองก็มีแสงไฟแวววาวหลายสายผลิบานขึ้นรอบๆ บริเวณ ลำแสงเจ็ดสายจู่โจมมาที่พวกเขา การโจมตีอย่างกะทันหันนี้ทำให้พวกเขารับมือไม่ทัน หุ่นรบเจ็ดตัวถูกโจมตีเข้าจังๆ ออปติคั ลคอมพิวเตอร์ตัดสินว่าผู้ควบคุมหุ่นรบถูกสังหารเสียชีวิตในชั่ววินาที ปิดฟังก์ชั่นทุกอย่างของหุ่นรบโดยอัตโนมัติ ก่อนจะทำการล็อก
หุ่นรบที่สูญเสียฟังก์ชั่นทุกอย่างก็ล้มไปบนพื้น ถึงแม้ผู้ควบคุมหุ่นรบด้านในไม่เป็นไร แต่พวกเขากลับไม่สามารถติดต่อสื่อสารได้ และก็ไม่สามารถเปิดห้องคนขับออกมาจากด้านในด้วย ท ทำได้เพียงรอคอยเจ้าหน้าที่ของศึกการประลองหุ่นรบมาแก้รหัสแล้ว ฟังก์ชั่นก็จะกลับคืนมาเป็นปกติทำให้หุ่นรบเป็นอิสระ
การโจมตีของฝ่ายตรงข้ามไม่ได้หยุดลง การโจมตีของลำแสงรอบที่สองสาดเข้ามาติดๆ อีกครั้ง ถึงแม้ว่าอดทนผ่านพ้นการโจมตีรอบแรกมาได้ ทำให้หุ่นรบสามตัวที่เหลืออยู่มีเวลาหลบหลีก แต่ เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีจากทั่วทุกด้าน นอกจากหัวหน้าทีมที่มีระดับการควบคุมสูงแล้ว หลังจากจากหลบแล้ว หุ่นรบอีกสองตัวกลับไม่ได้โชคดีขนาดนั้น พวกเขาโดนยิงหลายนัดพร้อมกัน ถูกออปติคัลคอมพิวเตอร์ตัดสินว่าโดนสังหารทิ้งในชั่ววินาที และล้มลงไปบนหิมะเหมือนกับเพื่อนร่วมทีมก่อนหน้านี้
หัวหน้าทีมรู้ว่าหากอยู่ที่นี่ต่อไปจะต้อง ‘ตาย’ แน่นอน เขาหลบการโจมตีรอบที่สองแล้วก็ขับหุ่นรบพุ่งไปทางด้านหนึ่ง ขอเพียงเข้าไปในป่าลึก อาศัยโล่กันกระสุนธรรมชาติเหล่านี้ อีกฝ่ายอยากใช้ปืนลำแสงโจมตีเขาก็เป็นเรื่องที่ยากลำบากมากเหมือนกัน นี่เป็นโอกาสเดียวที่เขาอาจจะหนีพ้น เขาต้องเดิมพันสักครั้ง
บางทีความปารารถนาที่อยากหลบหนีภายในใจแรงกล้ามากเกินไป ความเร็วมือของหัวหน้าทีมเลยทะลวงขีดจำกัดเดิมและเพิ่มสูงขึ้นอีกขั้น การทุ่มสมาธิทั้งหมดทำให้การควบคุมของเขาหลอมรวมก กับหุ่นรบได้อย่างพอเหมาะอย่างยิ่ง หลบการระดมยิงของฝ่ายตรงข้ามได้อีกรอบ...
เมื่อเห็นว่ากำลังจะหนีพ้นจากวงล้อมซุ่มโจมตี หัวหน้าทีมก็คำรามเสียงดังในใจว่า “เร็วอีก! เร็วขึ้นอีก!”
เขาทำการพุ่งหลบไร้กฎเกณฑ์ ก่อนจะพุ่งเข้าไปที่ด้านหลังต้นไม้สูงเสียดฟ้าต้นนั้น ขณะที่กำลังหนีพ้นจากวงล้อมซุ่มโจมตีของอีกฝ่าย…เขายังไม่ทันมีความสุข หุ่นรบก็ถูกพลังมหาศา าลสายหนึ่งโจมตีใส่อย่างรุนแรง หุ่นรบถูกอัดกลับไปทันที
‘ตูม’ หุ่นรบกระแทกกับต้นไม้สูงเสียดฟ้าต้นนั้นอย่างหนักหน่วง ก่อนจะเด้งกลับลงมาที่พื้นอีกครั้ง หัวหน้าทีมรู้สึกได้เพียงเลือดลมตรงหน้าอกปั่นป่วน ก่อนจะกระอักเลือดออกมาหนึ่ง งคำอย่างควบคุมไม่อยู่
เขาเงยหน้ามองไปทางข้างหน้า หุ่นรบระดับพิเศษตัวหนึ่งกำลังยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้า ในมือถืออาวุธเย็นขนาดยักษ์ซึ่งห้อยลงมาเล็กน้อย นี่เป็นอาวุธที่ซัดเขากลับมา ตัดขาดโอกาสหนี รอดของเขาแล้ว
หุ่นรบตัวนั้นหันหน้ามองเข้ามา ดวงตาโตว่างเปล่าคู่นั้นราวกับเยาะหยัน สงสารและคิดว่าไม่มีค่าพอให้ชายตามอง หัวหน้าทีมมองไปที่หน้าอกหุ่นรบของอีกฝ่ายด้วยดวงตาแดงก่ำ ตราโรงเ เรียนทหารชายที่สามส่องประกายชัดเจนอยู่ตรงนั้น
หัวหน้าทีมก็กดปุ่มช่องสื่อสารสาธารณะทันที จากนั้นก็ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดตะโกนว่า “ฆาตกรคือโรงเรียนทหารชายที่สาม!”
เสียงนี้ดังก้องไปทั่วท้องฟ้า ฝ่ายตรงข้ามตกใจพลันตะโกนว่า “ฆ่า!”
ลำแสงหกสายยิงใส่ร่างหุ่นรบโดยไม่มีความปรานีเลยสักนิดเดียว ออปติคัลคอมพิวเตอร์ของหุ่นรบตัดสินว่าผู้ควบคุมหุ่นรบเสียชีวิตทันที หัวหน้าทีมมองแสงสว่างหายไปในชั่วพริบตา ก่อนจะ ะเปลี่ยนเป็นห้องคนขับที่มืดสนิท ดวงตาสองข้างก็แดงฉาน ในใจเต็มไปด้วยความคับแค้น “โรงเรียนทหารชายที่สาม ฉันจะไม่ลืมความอัปยศนี้แน่นอน” เพราะความประมาทของเขา ความเลินเล่อของเขา าเลยทำให้ลูกทีมของเขา ‘ตาย’ อย่างน่าคับข้องใจอยู่ที่นี่ เขายากจะให้อภัยความผิดพลาดของตัวเอง
หลังจากที่จัดการหน่วยรบสิบสองคนนี้เสร็จแล้ว ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงสองคนที่ตอนแรกแย่งชิงหุ่นรบฝ่ายตรงข้ามก็เปิดห้องคนขับออก โดยกดปุ่มยอมแพ้ก่อนที่จะจากไป เมื่อเห็นหุ่นร รบของอีกฝ่ายถูกล็อกแล้ว ทั้งสองคนถึงค่อยกลับไปยังหุ่นรบระดับสูงของตัวเองด้วยความวางใจ
ควันโขมงที่หุ่นรบปล่อยออกมาในตอนแรกหายไปในพริบตา หุ่นรบที่ดูเหมือนพังเสียหายสองตัวลุกขึ้นมาจากในผืนหิมะอย่างสบายๆ
“พวกเขาใกล้จะมาแล้ว พวกเราไป!” ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษที่โจมตีหัวหน้าทีมหันกลับมามองท้องฟ้าทางด้านซ้ายที่อยู่ไกลๆ แล้วก็ออกคำสั่งทันที หลังจากคำสั่งนี้หุ่นรบเจ็ดตัวก็แ แยกย้ายกันเข้าไปในป่าทึบ หายไปอย่างไร้ร่องรอยในชั่วพริบตา
หลายวินาทีให้หลัง หุ่นรบหน่วยหนึ่งมาถึงสถานที่เกิดเหตุ พอเห็นหุ่นรบที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่ด้านล่าง สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันใด
“เสี่ยวเฉา นายไปดูหน่อยสิว่า คนพวกนี้มาจากโรงเรียนอะไร?” หัวหน้านำทีมขมวดคิ้วพลางสั่งลูกทีมที่อยู่ข้างๆ
“ครับ หัวหน้า!” ลูกทีมเสี่ยวเฉารีบขับหุ่นรบร่อนลงไปที่พื้น หลังจากที่เขาก้มหน้าตรวจดูตราสัญลักษณ์ตรงหน้าอกหุ่นรบอย่างละเอียดแล้วก็ตอบว่า “หัวหน้า เป็นหน่วยรบสิบสองคนของ โรงเรียนฉางคง”
“สถานที่เกิดเหตุแทบจะไม่มีร่องรอยการต่อสู้ประมืออะไรเลย ดูเหมือนโดนลอบโจมตี หรือว่าจะเป็นเหมือนเหตุการณ์ลอบโจมตีที่แพร่กระจายก่อนหน้านี้อีกแล้ว?” หัวหน้าทีมสังเกตรอบหนึ่งแล้วก็ วิเคราะห์ออกมา
“และก็เมื่อกี้ ฉันเหมือนได้ยินมีคนตะโกนว่าโรงเรียนทหารชายที่สาม ถึงได้เข้ามาหา…” หัวหน้าทีมหวนนึกถึงเสียงตะโกนที่ได้ยินอย่างคลุมเครือเมื่อสักครู่นี้ ในใจก็รู้สึกว่ามีเ เลศนัยอยู่นิดหน่อย
“หัวหน้า มีคนมาแล้ว!” ลูกทีมที่รับหน้าที่เฝ้าตรวจตรารอบๆ บริเวณพลันเอ่ยเตือนขึ้นมา
หัวหน้าทีมมองไปที่เรดาร์ ก่อนจะพบว่ามีหุ่นรบจำนวนไม่น้อยกำลังเข้ามาใกล้พวกเขาอย่างรวดเร็ว “ดูเหมือนพวกเขาก็รู้ว่าที่นี่เกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว” ทันใดนั้นเขาคล้ายกับนึกอะไรบ บางอย่างได้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปฉับพลัน “แย่แล้ว พวกเราติดกับ!”