I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 506 เชื่อมกันเป็นลูกโซ่!
เขารีบสั่งลูกทีมว่า “พวกเราถอย!”
“อยากหนี ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!” เสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชาดังขึ้นจากกลางอากาศ หุ่นรบไพ่ราชาตัวหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขาในชั่วพริบตา
“เฉียวถิง!” หัวหน้าทีมเอ่ยด้วยสีหน้าหนักอึ้ง
“ไม่คิดเลยว่า คนที่โจมตีหน่วยรบจู่โจมมาตลอดก็คือพวกนาย โรงเรียนทหารชายที่สาม วางแผนได้ดีจริงๆ ไม่นึกเลยว่าคิดจะโยนความผิดมาให้โรงเรียนทหารชายที่หนึ่งของพวกเรา!” เฉียวถิงหัวเราะหยันขึ้นมา
“ถ้าเกิดบอกว่า ฉันบังเอิญถลันเข้ามา นายจะเชื่อหรือเปล่า?” หัวหน้าทีมโรงเรียนทหารชายที่สามกัดฟัน เค้นคำพูดประโยคนี้ออกมา เมื่อเขาพาทีมเข้าไปในสถานที่เกิดเหตุเป็นกลุ่มแรก โรงเรียนทหารชายที่สามของพวกเขาก็ล้างมลทินไม่ได้แล้ว…แต่เขายังอยากพยายามแก้ต่างอยู่ดี เพราะว่านี่ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาจริงๆ การป้ายความผิดนี้ไม่เป็นธรรมมากเกินไปและก็น่าอัดอั้นตันใจเกินไปแล้ว
เฉียวถิงย่อมเชื่ออยู่แล้ว เขารู้ดีว่าฆาตกรที่แท้จริงคือใคร แต่ตอนนี้เขาจำเป็นต้องสาดน้ำเน่านี้ไปที่ตัวอีกฝ่าย ดังนั้นเลยเอ่ยด้วยรอยยิ้มหยันต่อว่า “งั้นนายว่า ฉันควรเชื่อดีไหมล่ะ?”
หัวหน้าทีมเงียบไปหลายวินาที ท้ายที่สุดก็ระบายลมหายใจเฮือกหนึ่งอย่างจนปัญญาว่า “ไม่!” เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้มเจื่อน “ต่อให้นายไม่เชื่อ ฉันก็ยังอยากพูดอยู่ดี เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนทหารชายที่สามของพวกเรา
“พูดว่าไม่เกี่ยวข้องคำเดียวก็ลบเรื่องที่พวกนายทำได้เหรอ?” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังพวกเขา หัวหน้าทีมหันหน้ากลับไปมอง ขณะที่เขาสนทนากับเฉียวถิงก็มีหน่วยรบจากโรงเรียนทหารจำนวนไม่น้อยมากันแล้ว ซึ่งตอนนี้ล้อมพวกเขาเอาไว้
หัวหน้าทีมเห็นแบบนั้นก็เดือดดาลมาก เขาไม่ควรเปลืองน้ำลายพยายามชี้แจงความเป็นจริงเลย เขาควรคุ้มกันพวกลูกทีมออกไปจากที่นี่ทันทีที่เฉียวถิงมาถึง เวลานี้เนื่องจากอารมณ์ชั่ววูบของเขาทำให้ลูกทีมของตัวเองตกหลุมพราง ตอนนี้อยากจากไปก็ไม่ง่ายขนาดนั้นแล้ว
“งั้นพวกนายอยากทำยังไง?” หัวหน้าทีมกัดฟันถาม
“ดักโจมตีทำร้ายลูกทีมของพวกเราแล้ว คิดจะหนีความผิดเหรอ? ไม่มีทาง!” โรงเรียนทหารที่เป็นเหยื่อกระโดดออกมาคนแรก
พอได้ยินคำกล่าว หัวหน้าทีมโรงเรียนทหารชายที่สามก็เอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียดทันทีว่า “เราไม่ได้เป็นคนทำ ฉันหวังว่าพวกนายจะให้เวลาฉันสักนิด เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพวกเรา”
คำพูดประโยคนี้เรียกเสียงหัวเราะเยาะของผู้คนในที่เกิดเหตุ ท่าทางนี้กำหนดว่าพวกเขาเป็นผู้ร้ายชัดเจนแล้ว หัวหน้าทีมโรงเรียนทหารชายที่สามรู้สึกหนักอึ้งทันที เขารู้ว่าครั้งนี้น่าจะหนีรอดยากแล้วจริงๆ
เวลานี้หน่วยรบจากโรงเรียนทหารเหล่านี้ไม่สนใจฟังคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นแล้ว หัวหน้าหน่วยรบของหนึ่งในโรงเรียนทหารเอ่ยกับเฉียวถิงอย่างเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “หัวหน้าทีมเฉียว ก่อนหน้านี้เข้าใจนายผิดไป ยกโทษให้ด้วย”
เฉียวถิงตอบอย่างเย็นชาว่า “ฉันยังต้องปกป้องรักษาฐานที่มั่น ในเมื่อคืนความบริสุทธิ์ของฉันแล้ว ฉันขอลาไปก่อน” เขาไม่รอให้คนอื่นเอ่ยปากก็หันหน้าไปสั่งลูกทีมว่า “พวกเราไป!”
เฉียวถิงพาหน่วยรบยี่สิบสี่คนของเขาออกไปจากสถานที่เกิดเหตุในชั่วพริบตา ดูเหมือนเขายังโมโหมากๆ เรื่องโรงเรียนทหารเหล่านี้สงสัยว่าเขาเป็นตัวการ
หัวหน้าทีมโรงเรียนทหารคนหนึ่งเห็นแบบนั้นก็อดถอนหายใจไม่ได้แล้วกล่าวว่า “พวกเราใจร้อนเกินไป ยังไม่ทันรู้ความจริงที่แน่ชัดก็ไปสอบสวนหัวหน้าทีมเฉียวแล้ว…มิน่าล่ะ หัวหน้าทีมเฉียวถึงได้โกรธขนาดนี้!”
“หวังว่าหัวหน้าทีมเฉียวคงไม่โมโหพวกเราเพราะเรื่องนี้หรอกนะ” มีหน่วยรบเอ่ยด้วยความกังวล ถ้าเกิดสุดท้าย หัวหน้าทีมเฉียวอยากสั่งสอนพวกเขา ให้หน่วยรบจู่โจมของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งบุกโจมตีฐานที่มั่นของพวกเขาขึ้นมา…
ทุกคนคิดถึงตรงนี้ก็อดหนาวสั่นไม่ได้ พวกเขาพากันตัดสินใจว่า หลังจากที่จัดการเรื่องโรงเรียนทหารชายที่สามเสร็จแล้วก็จะไปหาเฉียวถิงแล้วอธิบายให้ดีๆ ต่อให้เป็นพันธมิตรกันไม่ได้ พวกเขาก็จะให้เฉียวถิงแค้นไม่ได้ จนสุดท้ายกลายเป็นเป้าหมายโดนบุกโจมตี
การจากไปของเฉียวถิงทำให้กองกำลังพันธมิตรของโรงเรียนเหล่านี้เกิดความกังวลใจ แต่กลับทำให้หัวหน้าทีมโรงเรียนทหารชายที่สามตื่นเต้นยินดีมาก ถ้าเกิดเฉียวถิงอยู่ที่นี่ โอกาสหนีรอดของพวกเขาก็จะไม่มีอยู่เลยสักนิดเดียว แต่ตอนนี้มีโอกาสรอดนิดหน่อยแล้ว
ฉวยโอกาสขณะที่เฉียวถิงจากไปจนหน่วยรบสิบกว่าหน่วยที่ล้อมพวกเขาไว้เหล่านี้เกิดการหย่อนยาน เขาก็ตะโกนเสียงดังลั่นโดยพลันว่า “หนี!”
เขาเป็นคนแรกที่ขับหุ่นรบพุ่งไปยังเส้นทางหลบหนีที่มีแนวโน้มในทางที่ดี ลูกทีมโรงเรียนทหารชายที่สามล้วนเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบที่มีประสบการณ์มากมาย หลังจากสิ้นคำสั่งของหัวหน้าทีมก็พากันขับหุ่นรบพุ่งตามหัวหน้าทีมไปยังทิศทางนั้น
หุ่นรบสองร้อยกว่าตัว หากหนีแยกกันก็จะโดนฝ่ายตรงข้ามโจมตีทีละตัว ไม่สู้อาศัยหัวหน้าทีมเป็นดาบแหลมเปิดช่องทาง ให้พวกเขาหลบหนีไปโดยสะดวกดีกว่า
การกระทำของโรงเรียนทหารชายที่สามเป็นการดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย หัวหน้าทีมโรงเรียนทหารชายที่สามก็เป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษชั้นยอด เขาชูดาบยักษ์ในมือขึ้นมา หมุนวนทีหนึ่งก็ทำให้หุ่นรบสองตัวที่ขวางหน้าพวกเขาไว้จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงคมดาบของเขา และเขาก็ฉวยโอกาสในช่วงเวลาที่ฝ่ายตรงข้ามถอยนั้น ขับหุ่นรบฝ่าวงล้อมออกไป
หุ่นรบสามตัวที่มีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วที่สุดตามหลังเขา พุ่งออกจากวงล้อมตามหัวหน้าทีมของพวกเขา แต่ว่าโชคจำกัดเพียงแค่พวกเขาสี่คนเท่านั้น คนที่เหลือยังคงโดนหน่วยรบพันธมิตรที่ได้สติกลับมาขัดขวางไว้
ลำแสงพุ่งไปมาวุ่นวายในสถานที่เกิดเหตุทันที หุ่นรบกวัดแกว่งอาวุธกันอุตลุด อาวุธเย็นกระแทกกันอย่างรุนแรง บางคนพยายามค้นหาโอกาสหลบหนีอันน้อยนิดสายนั้น บางคนกลับอยู่ต่อไปโดยที่ตัดความหวังทิ้งอย่างไร้ความปรานีแล้ว พวกเขาต่อสู้เพื่อความเชื่อมั่นและเกียรติยศ ไม่สามารถถอยหนีและก็จะถอยหนีไม่ได้เช่นกัน ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ การต่อสู้จึงเปลี่ยนเป็นป่าเถื่อนรุนแรงขึ้นมา
ไม่นาน หุ่นรบก็ร่วงลงพื้นไปทีละตัว พวกเขาเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบที่พ่ายแพ้ถูกขับไล่ออกจากการต่อสู้ประจัญบาน ท้ายที่สุด หุ่นรบที่ถูกทิ้งไว้ยี่สิบตัวนี้ไม่มีสักตัวหนีรอดไปได้เลย และทางด้านหน่วยรบพันธมิตรโรงเรียนทหารก็จ่ายค่าตอบแทนอย่างแสนสาหัสโดยการที่มีหุ่นรบห้าตัวออกจากการแข่งขัน หุ่นรบสิบสามตัวได้รับความเสียหายแตกต่างกันไป
ห่างออกไปสามกิโลเมตร เฉียวถิงขับหุ่นรบของตัวเองลอยอยู่บนฟ้า เฝ้าดูการต่อสู้ที่ดุเดือดทางฝั่งนี้อย่างใกล้ชิด มุมปากของเขาแย้มยิ้มอย่างเงียบเชียบ การต่อสู้โดยที่บาดเจ็บพ่ายแพ้ด้วยกันทั้งสองฝ่ายระหว่างโรงเรียนทหารชายที่สามกับหน่วยรบพันธมิตรโรงเรียนทหารประกาศว่าเขต S กับเขต P เข้าสู่ช่วงเวลาต่อสู้ประจัญบานอย่างแท้จริง เป็นช่วงเวลาดีที่เขาจะจับปลาในน้ำขุ่น
“ลูกพี่เฉียว จะปล่อยพวกคนที่หนีรอดไว้เหรอ?” รองหัวหน้าทีมของเฉียวถิงเอ่ยเตือนเบาๆ อีกฝ่ายหลบหนีมาทางพวกเขา ถ้าเกิดพวกเขาทำการขัดขวางย่อมจัดการปลาที่หลุดรอดตาข่ายสี่ตัวนี้ได้อย่างแน่นอน
“ดูไปก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที” เฉียวถิงหยุดความกระเหี้ยนกระหือรือของพวกลูกทีม
หัวหน้าทีมโรงเรียนทหารชายที่สามพาลูกน้องสามคนที่โชคดีหนีรอดมาได้วิ่งตะบึงไปตลอดทาง พอเห็นว่าไม่มีคนไล่ตามหลัง กำลังคิดจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก็เห็นว่าด้านหน้ามีหุ่นรบปรากฏตัวขึ้นนับไม่ถ้วน ซึ่งคนที่อยู่ด้านหน้าสุดก็คือเฉียวถิงที่เพิ่งจากไป
สีหน้าของหัวหน้าทีมเปลี่ยนไปยกใหญ่ “นายจะมาซ้ำเติมเรอะ?”
เฉียวถิงมองเขาอย่างเฉยชาแวบหนึ่ง “ฉันกับนายมีความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์หรือไง?”
แววตาของหัวหน้าทีมเปล่งประกาย “ไม่มีอยู่แล้ว ถ้าเกิดหัวหน้าทีมเฉียวยอมเมตตา ฉันจะรายงานเรื่องนี้ให้กับผู้บัญชาการ บางทีพวกเราอาจจะมีโอกาสได้ร่วมมือกัน”
“ร่วมมือ?” เฉียวถิงหัวเราะหยัน “จะไว้ใจคนที่เชี่ยวชาญวางแผนชั่วร้ายได้เหรอ?”
หัวหน้าทีมทำสีหน้าเคร่งเครียด เอ่ยอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ว่า “ฉันจะให้คำอธิบายเรื่องนี้กับหัวหน้าเฉียวแน่นอน” ถ้าเกิดเขารู้ว่าใครเป็นคนใส่ร้ายโรงเรียนทหารชายที่สามของพวกเขา เขาจะต้องสังหารมันแน่นอน
เฉียวถิงพลันโบกมือทีหนึ่ง บรรดาลูกทีมที่เดิมทีขวางอยู่ด้านหน้าพวกเขาพุ่งออกไปทำให้เกิดเป็นเส้นทางสายหนึ่ง
หัวหน้าทีมประสานมือคารวะให้เฉียวถิงด้วยความซาบซึ้งใจ ก่อนจะพาพวกลูกทีมพุ่งออกจากเส้นทางสายนั้นอย่างรวดเร็ว
“ปล่อยพวกเขาแบบนี้เหรอ?” หลังจากที่ได้ลิ้มรสชาติความสวยงามของการลอบโจมตี รองหัวหน้าทีมก็มองหุ่นรบสี่ตัวที่กำลังจะหายไปตัวนั้นด้วยความไม่เต็มใจ น่าเสียดายจริงๆ ที่ไม่ได้จัดการพวกเขา
“ปล่อยพวกเขากลับไป บางทีอาจจะได้ผลที่คาดไม่ถึงก็ได้นะ…โรงเรียนทหารชายที่สาม บางทีพวกเราอาจจะยังใช้ประโยชน์ได้สักครั้ง” เฉียวถิงมีแผนการในใจแล้ว รอยยิ้มตรงมุมปากกดลึกขึ้น
เดิมทีเขาคิดว่าหลิงหลานมอบภารกิจนี้ให้เขาเพราะจงใจอยากให้เขาลำบาก ตอนที่เขารับภารกิจ เขาเกือบจะแตกคอกับหลิงหลานแล้ว เนื่องจากภารกิจนี้ไม่อาจทำสำเร็จได้โดยอาศัยแค่ทีมยี่สิบสี่คนอันน้อยนิด ต่อให้เขาเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาก็ไม่สามารถทำได้เหมือนกัน
แต่เฉียวถิงมีความหยิ่งทระนงของเฉียวถิง เขาไม่อยากให้โอกาสหลิงหลานดูแคลนเขา ดังนั้นเขายังคงข่มกลั้นโทสะรับภารกิจ เตรียมตัวทุ่มเทสุดกำลัง ต่อให้ทำภารกิจไม่สำเร็จ ก็จะพยายามถ่วงเวลาไว้อย่างสุดความสามารถ ประคับประคองจนสิ้นสุดการต่อสู้ประจัญบาน
แต่การแสดงในวันนี้กลับพลิกสถานการณ์ได้ทั้งหมด พวกเขาที่เดิมทีอยู่ในสภาวะวิกฤติพลันมีโอกาสควบคุมสถานการณ์ทั้งหมด ไม่ว่าทางพันธมิตรโรงเรียนทหาร หรือว่าทางฝั่งโรงเรียนทหารชายที่สามล้วนพยายามตีสนิทตนอย่างสุดความสามารถ นี่ทำให้เฉียวถิงมีช่องทางวางกลยุทธ์ สร้างเงื่อนไขที่ดีขึ้นออกมาเพื่อให้หน่วยรบของตัวเองทำภารกิจให้สำเร็จ
เขายังคงประเมินหลิงหลานต่ำไป หลิงหลานไม่ใช่คนอิจฉาริษยาผู้มีพรสวรรค์เช่นนั้นที่มอบภารกิจที่ดูเหมือนไม่มีทางทำได้สำเร็จให้เขา ความจริงเขาวางแผนการไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่นึกเลยว่า เขาจะให้โรงเรียนทหารชายที่สามเป็นแพะรับบาปของพวกเขา แผนการนี้แม่งโคตรสุดยอดจริงๆ
หลังจากที่เฉียวถิงถอนหายใจด้วยความชื่นชมแล้ว ความหวาดกลัวที่มีต่อหลิงหลานก็ลึกล้ำมากขึ้น ยิ่งเขาคบค้าสมาคมกับหลิงหลาน เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าหลิงหลานสุดจะหยั่งถึง…โชคดีที่พรสวรรค์ด้านหุ่นรบของเขาถูกหยุดเอาไว้ ไม่มีโอกาสก้าวหน้าแล้ว ไม่เช่นนั้นหากมีคู่แข่งที่เก่งกาจขนาดนี้อยู่ข้างกาย เขาจะต้องกระวนกระวายใจสุดขีดอย่างแน่นอนจะเกิดความรู้สึกพ่ายแพ้ที่ฟ้าส่งให้จิวยี่มาเกิด ใยต้องส่งให้ขงเบ้งมาเกิดด้วย…พอนึกถึงตรงนี้ เฉียวถิงก็อดลอบดีใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“พวกเรากลับ!” ในเมื่อเรื่องราวสิ้นสุดลงหมดแล้ว ตอนนี้เขาก็ได้แต่อดทนรอคอยเท่านั้น รอดูว่าพันธมิตรโรงเรียนทหารหรือว่าโรงเรียนทหารชายที่สาม ใครจะให้ผลประโยชน์ได้มากกว่ากัน ตอนนั้นก็คือช่วงเวลาลงมือของเขา
เฉียวถิงพาพวกลูกทีมกลับไปที่เขต S9 เช่นนี้เอง ส่วนเขต S9 ก็ถูกโรงเรียนทหารของสองเขตนี้ยอมรับแล้วว่าเป็นฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งเพราะการยืนยันของเฉียวถิง
……
ภายในห้องสังเกตการณ์ พอเหล่าทหารกับกรรมการเห็นพวกแผนการเคลื่อนไหวของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่ง เวลานี้พวกเขาก็เซ่อซ่าไปแล้ว นี่ยังเป็นนักเรียนทหารอีกเหรอ? ไม่ต่างจากทหารที่ผ่านศึกมานับร้อยเลย
“โยนความผิดให้คนอื่น เชี่ย แผนของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งโหดเหี้ยมมากเกินไปแล้ว โรงเรียนทหารชายที่สามกลายเป็นเป้าโจมตีไปเลย” ทหารนายนี้ดูเหมือนมีความสัมพันธ์กับโรงเรียนทหารชายที่สาม เขาส่ายหน้าติดต่อกันพลางยิ้มฝืดเฝื่อน โรงเรียนทหารชายที่สามถูกโรงเรียนทหารทั้งหมดบีบคั้น ไม่มีทางผ่านช่วงเวลาหลังจากนี้ไปได้ด้วยดีอย่างแน่นอน
“เชื่อมกันเป็นลูกโซ่เลย” เหอซวี่หยางเองก็ลอบชื่นชมแผนการนี้เหมือนกัน ในฐานะที่เป็นผู้สังเกตการณ์ พวกเขามองเห็นได้ชัดเจนกว่าพวกนักเรียนที่อยู่ในการต่อสู้ประจัญบาน
——————–