I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 509 ต่อสู้ระยะประชิด!
ตูมๆๆ… ลำแสงทยอยยิงโดนหุ่นรบที่พวกเขาแต่ละคนเลือก เนื่องจากระยะการโจมตีที่หลิงหลานเลือกคือระยะห่างที่อานุภาพของปืนลำแสงทรงพลังที่สุด กอปรกับประเมินพลังในการพลีชีพขอ องหุ่นรบมาเทียบกับความทนทานของห้องคนขับ การระดมยิงรอบนี้ทำให้หุ่นรบเก้าตัวของอีกฝ่ายโดนออปติคัลคอมพิวเตอร์ตัดสินว่าอยู่ในสภาพ ‘พังเสียหาย’ ทันที หุ่นรบโดนออปติคัลคอมพ พิวเตอร์บังคับดับเครื่องยนต์ หุ่นรบเก้าตัวทยอยกันร่วงลงพื้น
“ระยำ!” หัวหน้าทีมสองคนที่อยู่ด้านหลังเห็นฉากนี้ก็โกรธเกรี้ยวจนดวงตาสองข้างแดงฉาน พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า หน่วยรบเจ็ดคนตรงหน้านี้จะไม่เกรงกลัวความตายขนาดนี้ เมื่อเผชิญหน้า กับหน่วยรบยี่สิบสี่คนของพวกเขาไม่เพียงไม่หลบหนี ถึงขนาดที่ยังเริ่มโจมตีก่อนด้วย
เนื่องจากสายตาของพวกเขาถูกลูกทีมเบื้องหน้าขวางกั้นไว้ บวกกับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พวกเขาเลยไม่สังเกตเห็นว่าพวกเขาสูญเสียลูกทีมไปเก้าคนเพราะการยิงรอบนี้ หลังจากท ที่พวกเขาพบว่าโดนอีกฝ่ายโจมตีก็ได้แต่ออกคำสั่งด้วยความลนลานว่า “โจมตีกลับ!”
จากนั้นก็เห็นหุ่นรบสิบห้าตัวที่เหลือทยอยกันหยิบปืนลำแสงออกมาแล้วยิงไปที่ฝ่ายตรงข้าม บางทีอาจเป็นเพราะ รับมือด้วยการโจมตีกลับอย่างฉุกละหุก พวกเขาเลยแตกต่างจากทีมของหลิ งหลาน หลังจากที่ล็อกเป้าหมายที่ตัวเองต้องการยิงแล้วก็มีลำแสงมากมายที่ยิงพลาดไป
ทว่ายังคงมีลำแสงจำนวนมากยิงโดนหุ่นรบของฝ่ายตรงข้าม ในชั่วพริบตาที่ยิงโดนนั้น แขนซ้ายของฝ่ายตรงข้ามพลันปล่อยม่านแสงขวางไว้ด้านหน้าพวกเขา ลำแสงยิงโดนม่านแสงเหล่านี้ ม่านแส สงปรากฏระลอกคลื่นก่อนจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย ลำแสงที่พวกเขายิงใส่ไม่ได้สร้างความเสียหายให้แก่อีกฝ่ายเลยสักนิดเดียว
“หุ่นรบปรับแต่ง!” มีลูกทีมคนหนึ่งเห็นฉากนี้ก็ร้องอุทานขึ้นมาฉับพลัน
การค้นพบนี้ทำให้หน่วยรบพันธมิตรระหว่างโรงเรียนทหารชายที่สองกับโรงเรียนทหารป้องกันราชอาณาจักรแตกตื่น หุ่นรบปรับแต่งเป็นของหรูหราในสหพันธรัฐ มันจะช่วยเสริมความสามารถของหุ่น นรบธรรมดาให้แข็งแกร่งและทนทานขึ้น ช่างพัฒนาหุ่นรบบางคนถึงขนาดสามารถเพิ่มได้หลายเท่า ม่านแสงของอีกฝ่ายทำขึ้นเพื่อรับมือการโจมตีของปืนลำแสงโดยไม่ต้องสงสัย
ไม่มีนักเรียนทหารคนไหนที่ใช้หุ่นรบปรับแต่ง ไม่ใช่ว่าใช้ไม่ไหว หากแต่ในโรงเรียนทหารไม่อนุญาตให้ใช้หุ่นรบปรับแต่งของภายนอก แน่นอนว่าของที่ภาควิชาปรับแต่งในโรงเรียนสร้างอ ออกมาเองได้รับอนุญาตให้ใช้ได้ แต่พวกวิธีการปรับแต่งที่นักเรียนศึกษาวิจัยออกมา โดยปกติแล้วจะอยู่ในโลกเสมือนจริงเท่านั้น หรือว่าเป็นแค่ตัวเลขข้อมูลทางทฤษฎี ไม่สามารถปรากฏขึ้ นบนหุ่นรบจริงได้อย่างแท้จริง ถึงอย่างไรพวกนักเรียนทหารยังคงมีความสามารถไม่พอ การศึกษาวิจัยทางทฤษฎีของพวกเขาจะมีข้อบกพร่องแบบนั้นแบบนี้อยู่ ไม่สามารถเปลี่ยนให้เป็นจริงได้
ถึงจะใช้หุ่นรบปรับแต่งไม่ได้ แต่พวกนักเรียนที่รู้จักหุ่นรบปรับแต่งดีย่อมรู้ความแข็งแกร่งของหุ่นรบปรับแต่ง ในประวัติศาสตร์หุ่นรบเคยมีหุ่นรบปรับแต่งระดับพิเศษยิงทำลายหุ นรบไพ่ราชาห้าตัวได้ในสนามรบ ถึงแม้ว่ามีสาเหตุต่างๆ นานาที่หุ่นรบไพ่ราชาเหล่านี้ถูกยิงทำลาย ถึงขนาดที่ยังมีปัจจัยเรื่องความโชคดีในระดับหนึ่ง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าประสิทธิภา าพของหุ่นรบปรับแต่งระดับพิเศษตัวนั้นเทียบได้กับหุ่นรบไพ่ราชา ไม่เช่นนั้นคงไม่มีทางยิงทำลายหุ่นรบไพ่ราชาได้ติดต่อกัน
นี่ก็คือสาเหตุที่ลูกทีมหน่วยรบพันธมิตรของโรงเรียนทหารชายที่สองกับโรงเรียนทหารป้องกันราชอาณาจักรเกิดความตื่นตระหนกเมื่อรู้ว่าเป็นหุ่นรบปรับแต่ง หุ่นรบเจ็ดตัวตรงหน้านี้ มีระดับพิเศษสามตัวกับระดับสูงสี่ตัว หลังจากที่ผ่านการปรับแต่งแล้วก็เท่ากับเป็นหน่วนรบที่มีไพ่ราชาสามตัวและระดับพิเศษสี่ตัว ไพ่ราชาคือตัวตนแบบไหน? หุ่นรบไพ่ราชาตัวหนึ่ง ก็สามารถทำให้หน่วยรบระดับพิเศษสิบสองคนเหนื่อยสายตัวแทบขาด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสามตัวเลย? พวกเขาจะจัดการอีกฝ่ายได้จริงๆ เหรอ?
นี่ก็คือสาเหตุที่หลิงหลานมีความมั่นใจที่จะเปิดศึกกับอีกฝ่าย เมื่อมีไพ่ดีที่ต้านทานการโจมตีระยะไกลใบนี้ หลิงหลานมั่นใจว่าสามารถลดจำนวนหุ่นรบของฝ่ายตรงข้ามให้เท่ากับฝ ฝ่ายตัวเองได้ก่อนที่จะเข้าสู่การต่อสู้ระยะประชิด
“ใจเย็น! โจมตี! โจมตี!” หัวหน้าทีมสองคนของหน่วยรบพันธมิตรตะโกนเสียงดังในช่องสื่อสารทีม เวลานี้ขอเพียงตื่นตระหนกนิดหน่อยก็จะประสบกับหายนะได้แล้ว ตอนนี้พวกเขารู้สึกเสียใจ ภายหลังนิดๆ ว่าทำไมตัวเองถึงประมาทเลินเล่อขนาดนี้ ทำไมไม่คิดดูให้ดีก่อนว่า ในเมื่อหน่วยรบเจ็ดคนที่ไม่ครบทีมกล้าออกมาเคลื่อนไหวเพียงลำพังก็ต้องมีไพ่ตายก้นหีบอย่างแน่นอน พวกเขามองข้ามจุดนี้ไป
ทว่าตอนนี้ขี่หลังเสือยากจะลงมา ต่างฝ่ายต่างไม่ตายไม่เลิกรา มีเพียงต้องกัดฟันกำจัดอีกฝ่ายให้สิ้นซาก ไม่เช่นนั้นจุดจบของพวกเขาก็คือพ่ายแพ้ออกจากสนาม นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่ ต้องการและก็ไม่ยินยอมทนรับ
ลูกทีมหน่วยรบพันธมิตรได้สติกลับมาฉับพลันภายใต้เสียงตะโกนดังลั่นของหัวหน้าทีม พวกเขายิงลำแสงอย่างบ้าคลั่งพยายามยิงทะลุค่าทนทานสูงสุดของม่านแสงเหล่านี้ พวกเขารู้ดีมากๆ ว่า ถ้าเกิดทำลายม่านแสงนี้ไม่ได้ พวกเขาก็จะไม่มีวิธีจัดการอีกฝ่ายได้เลย
หลังจากที่ทีมหลิงหลานปล่อยม่านแสงออกมาก็เหนี่ยวไกปืนลำแสงยิงสวนกลับ เมื่อเทียบกับการยิงมั่วซั่วของฝ่ายตรงข้ามแล้ว ทีมหลิงหลานยังคงใส่ใจเรื่องความแม่นยำ สิ่งที่ทำให้พวกเข ขาใจกล้าขนาดนี้เป็นเพราะว่าโล่ดูดซับลำแสงที่ฉางซิงหยวนทำขึ้นเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ สามารถป้องกันความปลอดภัยหุ่นรบของพวกเขาได้แน่นอน
ภายใต้การโจมตีอย่างรุนแรงดุเดือดของทั้งสองฝ่าย ทางฝั่งหลิงหลานยังคงไม่ได้รับความเสียหาย แต่พันธมิตรโรงเรียนทหารชายที่สองกับโรงเรียนทหารป้องกันราชอาณาจักรสูญเสียหุ่นรบไปอีกส สี่ตัว หุ่นรบสองตัวจากในนั้นถูกจัดการโดยหลิงหลานเพียงคนเดียว
พรสวรรค์รู้แจ้งเห็นจริงแสดงอานุภาพอันแข็งแกร่งของมันอีกครั้งท่ามกลางการกราดยิงมั่วซั่วนี้ หลิงหลานกวาดตามองไปที่หุ่นรบตัวไหน จุดอ่อนของหุ่นรบตัวนั้นก็จะปรากฏขึ้นตรงหน้า า ดังนั้น ขอเพียงหลิงหลานยิงออกไปแค่สองนัดก็คว้าชัยชนะมาได้แล้ว
“บัดซบ เลิกสู้ระยะไกล เตรียมประชิดตัวเข้าโจมตี!” หลังจากการโจมตีลำแสงมากมายขนาดนี้ผ่านไปก็ยังไม่เห็นผล หัวหน้าทีมสองคนของหน่วยรบพันธมิตรล้วนเป็นคนฉลาด รู้ทันทีว่าปืนลำแ แสงน่าจะไม่มีประโยชน์แล้ว หากต้องการพลิกสถานการณ์ก็ได้แต่อาศัยความแข็งแกร่งด้านการต่อสู้ระยะประชิดมาบดขยี้เท่านั้น
เมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามเปลี่ยนเป็นอาวุธต่อสู้ระยะประชิด หลิงหลานก็สั่งการอย่างเย็นชาว่า “เตรียมต่อสู้ระยะประชิด!”
สิ้นเสียงนี้ก็เห็นทีมของหลิงหลานสับเปลี่ยนอาวุธเย็นจากแผ่นหลังมาไว้ในมือ เนื่องจากหลิงหลานชอบใช้อาวุธขนาดยักษ์เป็นอาวุธระยะประชิด เลยทำให้สมาชิกคนอื่นๆ ในทีมต่างมี อาวุธเย็นในมือ กระทั่งคนที่ขับหุ่นรบระยะไกลก็ไม่มีข้อยกเว้น
“ฉันรับผิดชอบ C3 C4 C5 จ้าวจวิ้นรับผิดชอบ B5 C6 หลี่หลานเฟิงรับผิดชอบ B7 C7 ที่เหลืออิสระ!” ฝ่ายตรงข้ามเหลือหุ่นรบสิบเอ็ดตัว ท่ามกลางการโจมตีลำแสงสองรอบก่อนหน้านี้ หลิงหลานมอ องความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพวกเขาออกในขณะที่พวกเขายิงและเคลื่อนไหว ดังนั้นเธอเลยจัดรูปขบวนรบที่เหมาะสมออกมา
C4 C5 คนหนึ่งมาจากโรงเรียนทหารชายที่สอง อีกคนมาจากโรงเรียนทหารป้องกันราชอาณาจักร และเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดจากแต่ละหน่วยรบของพวกเขา ไม่จำเป็นต้องบอกว่าทั้งสองคนคือหัวหน้ าของสองทีมนี้อย่างแน่นอน หลิงหลานจำเป็นต้องจัดการสองคนที่แข็งแกร่งที่สุดนี้เพื่อรับประกันว่าจะไม่มีลูกทีมคนไหนออกจากการแข่งขัน แต่ว่านี่ยังไม่พอ หลิงหลานจำเป็นต้องขัดขว วางอีกคนเพื่อที่จะทำให้ลูกทีมส่วนใหญ่สามารถทำการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งได้ ดังนั้นหลิงหลานเลยถือโอกาสเอาลูกทีมอีกคนที่อยู่ข้างๆ สองคนนี้ไปด้วย
ตอนนี้จ้าวจวิ้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาแล้ว แต่ว่าหุ่นรบกลับถ่วงขาของเขาไว้ หลิงหลานจึงไม่กล้าแบ่งให้เขาสามคน ก็เลยจัด B5 กับ C6 ที่เป็นผู้ควบคุมระดับพิเศษสองคนที ค่อนข้างแข็งแกร่งให้แก่เขา
แต่ว่าเธอกับจ้าวจวิ้นจัดการห้าคน คู่ต่อสู้ที่เหลืออยู่ยังคงมากกว่าฝ่ายตัวเองหนึ่งคน หลิงหลานจึงจำเป็นต้องให้หลี่หลานเฟิง ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษคนสุดท้ายของทีมต้านทาน นไว้ แต่สภาพร่างกายของหลี่หลานเฟิงค่อนข้างอ่อนแอ มีปัญหาเรื่องความอดทนมาก เลยมอบคู่ต่อสู้ที่เป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษหนึ่งคนกับผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงหนึ่งคนให้เขา แต่ว่าต่อให้เป็นแบบนี้ หลิงหลานยังคงอดเป็นห่วงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า หลี่หลานเฟิงจะรับภารกิจที่ยากลำบากนี้ได้หรือเปล่า…
ส่วนหุ่นรบสี่ตัวที่เหลือมีผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษสองคนกับผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงสองคน ถ้าเกิดพวกฉีหลงสี่คนยังจัดการไม่ได้ ถึงขนาดที่เกิดเหตุการณ์พ่ายแพ้ออกจากการแข่งขัน น หลิงหลานย่อมเรียกพวกเขามา ‘พูดคุย’ ดีๆ สักครั้งแน่นอน
การจัดแบ่งของหลิงหลานชัดเจนมาก พวกฉีหลงสี่คนหาคู่ต่อสู้ที่ตัวเองต้องรับผิดชอบได้อย่างรวดเร็ว
“ฉันรับผิดชอบ B2!” ฉีหลงเล็งไปยังผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษที่มีความสามารถแข็งแกร่ง เขาที่มีความสามารถไปถึงผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษแล้วอยากทำศึกใหญ่กับผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพ พิเศษดูสักรอบหนึ่งเพื่อมาทดสอบความสามารถที่แท้จริงของตัวเอง
เนื่องจากฉีหลงเลื่อนขั้นได้สำเร็จในช่วงโรงเรียนส่งทีมออกเดินทางก่อนที่ศึกการประลองจะเปิดม่านขึ้น เลยไม่มีเวลาให้เขาทำความคุ้นเคยกับหุ่นรบระดับพิเศษตัวใหม่ ดังนั้นเขาเลยจำเ เป็นต้องขับหุ่นรบระดับสูงของตัวเองมาที่ศึกประลองหุ่นรบ นี่กลายเป็นเรื่องเศร้าในใจฉีหลง เขาลอบคับแค้นใจว่าทำไมตัวเองถึงไม่เลื่อนขั้นให้เร็วกว่านี้สักหลายวัน
“C1 ฉันรับผิดชอบ!” หลี่ซื่ออวี๋ชิงพูดก่อนก้าวหนึ่ง เขาเล็งไปที่หุ่นรบระดับพิเศษตัวสุดท้าย เขาไปถึงจุดสูงสุดของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงแล้ว เขาที่แตะโดนขอบเขตของผู้ควบคุม หุ่นรบระดับพิเศษเหมาะที่จะต่อสู้กับผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษมากกว่าเซี่ยอี๋และลั่วล่าง
เดิมทีลั่วล่างก็เล็ง C1 เอาไว้เหมือนกัน พอเห็นหลี่ซื่ออวี๋แย่งไปแล้ว เขาก็สุ่มเลือกผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงมาสักคน เซี่ยอี๋รู้ตัวเองดีมากว่าความสามารถของเขาอ่อนด้อยที่สุ ดในหมู่เจ็ดคน ต่อให้เป็นคู่ต่อสู้ที่เพื่อนร่วมทีมเลือก ความสามารถก็ยังสูสีกับตัวเอง ถึงขนาดที่เจนจัดกว่าตัวเองเพราะปัญหาเรื่องอายุและประสบการณ์ ทำให้จำเป็นต้องทุ่มเทสุดกำล ลัง
พอได้ยินหลี่ซื่ออวี๋จะรับมือกับผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษคนนั้นเอง หลิงหลานก็เลิกคิ้วน้อยๆ ในขบวนทัพต่อสู้ที่เธอคิดไว้ ลั่วล่างเหมาะที่จะต่อสู้กับผู้ควบคุมหุ่นรบระด ดับพิเศษคนนั้นมากกว่า ไม่ใช่เพราะความสามารถในการควบคุมของลั่วล่างเก่งกว่าหลี่ซื่ออวี๋ แต่ว่าเป็นเพราะพรสวรรค์ของลั่วล่าง ตราบใดเขาที่เปิดใช้พรสวรรค์ก็จะเพิ่มประสิทธิภาพใน การควบคุมหุ่นรบของลั่วล่างให้สูงขึ้นได้…
แต่ความคิดว่าเช่นนี้ของหลิงหลานแล่นขึ้นมาแวบเดียวเท่านั้น ในเมื่อลูกทีมเลือกเอง หัวหน้าทีมอย่างเธอก็ทำได้เพียงเชื่อใจลูกทีมเต็มร้อยเท่านั้น เชื่อมั่นว่าอีกฝ่ายจะต้องทำไ ได้สำเร็จ
ในที่สุดเมื่อเข้าสู่ขอบเขตการต่อสู้ระยะประชิด หลิงหลานก็ตะโกนออกมาฉับพลันว่า “โจมตี!”
พวกหลิงหลานที่มีเป้าหมายแล้วก็เปลี่ยนร่างเป็นพยัคฆ์ร้ายพุ่งไปหาคู่ต่อสู้ของแต่ละคนอย่างโหดเหี้ยมตามคำสั่งนี้
เดิมทีหลิงหลานอยู่ตำแหน่งหลังสุดของหน่วยรบ แต่ความเร็วของเธอกลับไวที่สุดในหมู่ทั้งเจ็ดคน เธอกระทืบเท้าทีหนึ่ง หุ่นรบพลันทะยานขึ้นฟ้าข้ามผ่านเซี่ยอี๋กับหลี่หลานเฟิ งอยู่ด้านหน้าราวกับพยัคฆ์ร้ายลงจากภูเขา ร่อนลงไปหา C3 C4 C5 ที่อยู่ด้านหลังสุดของอีกฝ่ายและพุ่งเข้าเป็นคนแรก
C4 เป็นหัวหน้าทีมของโรงเรียนทหารชายที่สอง เขาเห็นว่าคนที่มาคือผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษ จิตวิญญาณต่อสู้ก็ลุกโชนทันที เขาพลันตะโกนเสียงดังลั่นว่า “ฉันเอง!”
C3 กับ C5 ได้ยินคำกล่าวก็ขับหุ่นรบเตรียมตัวอ้อมออกไปจากทางสองฝั่งของหลิงหลาน ในตอนนี้เอง ดาบยักษ์ในมือหลิงหลานพลันสั่นไหวทีหนึ่ง แล้วกวาดออกไปเป็นแนวขวาง พลังมหาศาล ลแผ่ขยายจากทางฝั่งซ้ายไปถึงทางฝั่งขวาอย่างรวดเร็ว
‘ตูม!’ ‘ตูม!’ ก่อนจะเห็น C3 กับ C5 ยกอาวุธในมือขึ้นมาอย่างฉุกละหุก สกัดกั้นลำแสงที่มาอย่างกะทันหันนั้นไว้จนเกิดเสียงดังสนั่นขึ้นสองครั้ง
พวกเขาที่เดิมทีกำลังจะผ่านร่างหุ่นรบของหลิงหลานกลับโดนดาบยักษ์ของหลิงหลานโจมตีใส่อย่างรุนแรงจนถอยหลังไปหลายก้าว พวกเขามองไปยังหุ่นรบระดับพิเศษตรงหน้านี้ด้วยสีหน้าตก กตะลึง พวกเขานึกไม่ถึงเลยว่าหุ่นรบระดับพิเศษที่ไม่อยู่ในสายตาตัวนี้คิดจะขวางพวกเขาสามคน และสองคนในนั้นยังเป็นหัวหน้าหน่วยรบอีกด้วย เขาบ้าไปแล้วหรือไง? หรือว่าเตรียมสละ ชีพของตัวเองเพื่อสร้างโอกาสหนีให้กับลูกทีมคนอื่นๆ?