I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 51 จรวดติดตามสมรรถนะสูง?
ไม่ใช่ว่าหลิงหลานไม่ได้สังเกตเห็นพฤติกรรมขุ่นเคืองเช่นนี้ของเสี่ยวซื่อ แต่เธอถูกคำพูดของเสี่ยวซื่อดึงดูดความสนใจไปแล้ว “ทิศทางที่ปืนใหญ่เลเซอร์ยิงออกไปเมื่อสักครู่นี้เล็งเป้าไปที่หุ่นรบสองตัวนั้น แต่ปืนใหญ่เลเซอร์รัศมีการยิงสั้นมาก ตามหลักการแล้วไม่มีทางยิงโดน แต่ว่า…”
ไม่ใช่หลิงหลานไม่เคยคิดจะใช้ประโยชน์ปืนใหญ่เลเซอร์ของโฮเวอร์คาร์ แต่ข้อมูลเกี่ยวกับปืนใหญ่เลเซอร์ที่เสี่ยวซื่อส่งมาทำให้เธอจำเป็นต้องพักความคิดนี้ไป ปืนใหญ่เลเซอร์มีข้อดีข้อเสียที่ชัดเจนสุดขีด ปกติแล้วเราสามารถมองข้ามข้อเสียนั้นได้ ขอเพียงให้ข้อดีของมันแสดงออกมาเต็มประสิทธิภาพก็พอแล้ว
น่าเสียดายที่ตอนนี้หลิงหลานไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เนื่องจากข้อดีของปืนใหญ่เลเซอร์คือพลังโจมตีของมันทรงพลังอย่างยิ่ง นอกจากนี้เมื่อยิงโดนก็จะมีคุณสมบัติระเบิดด้วย มันมีการโจมตีในระยะขอบเขตที่กำหนด พลังทำลายต่อบริเวณรอบด้านสูงมาก หลิงหลานไม่กล้ายิงปืนใหญ่เลเซอร์เพื่อช่วยเหลือพ่อบ้านหลิงฉินสังหารนักฆ่าพวกนั้นง่ายๆ เธอกลัวจะเกิดข้อผิดพลาดว่ามันจะไม่ได้สังหารศัตรู แต่พาคนของตัวเองเข้าไปสู่โศกนาฏกรรม
เธอต้องเคยคิดจะใช้มันรับมือกับหุ่นรบที่อยู่ห่างไกลสองตัวนั้นอยู่แล้ว แต่ข้อเสียของปืนใหญ่เลเซอร์คือระยะการยิงสั้นมาก เธอกะดูแล้วปืนใหญ่เลเซอร์ยิงไปถึงครึ่งทางก็หมดพลังร่วงลงไประเบิด
คุณสมบัติสองข้อนี้ทำให้หลิงหลานจนปัญญามาก หลิงหลานย่อมทำการเตรียมพร้อมสุดท้ายไว้แล้วเช่นกัน ถ้าพ่อบ้านหลิงฉินตกอยู่ใต้วงล้อมของพวกนักฆ่า มีภัยถึงชีวิต เธอจะให้เสี่ยวซื่อยิงปืนใหญ่เลเซอร์แน่นอน
ตอนนี้หลิงหลานเข้าใจความหมายที่อยู่ในคำพูดของเสี่ยวซื่อเมื่อสักครู่นี้ได้รางๆ แล้ว เธอเชื่อว่าเสี่ยวซื่อไม่จำเป็นต้องทำเรื่องที่ไม่มีประโยชน์แบบนี้ ในเมื่อเขากล้ายิงปืนใหญ่เลเซอร์ เขาก็ต้องแก้ไขจุดอ่อนของปืนใหญ่เลเซอร์ได้แล้ว บางทีโปรแกรมเอไอเล็กๆ สองอันที่เขาเอ่ยถึงอาจจะใช้ได้ผลแก้ไขปัญหาได้แล้ว…ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ การกระทำของเสี่ยวซื่อก็ยอดเยี่ยมมากเกินไปแล้วจริงๆ หลิงหลานรู้สึกตื่นเต้นยินดีขึ้นมาในใจ
เสี่ยวซื่อรู้สึกถึงความคิดของหลิงหลานอย่างชัดเจนมาก ถึงแม้ว่าเขายังคงยืดตัวหันหลังให้กับหลิงหลาน แต่ก้นน้อยๆ ของมันเริ่มบิดไปมาด้วยความเบิกบานใจ เห็นได้ชัดว่าความคิดของหลิงหลานทำให้มันรู้สึกพึงพอใจ
หลิงหลานเห็นท่าทีของเสี่ยวซื่อก็รู้ว่าการคาดเดาของเธอถูกต้องแล้ว เธอพูดชมโดยไม่ลังเลว่า “เสี่ยวซื่อ นายคือเสี่ยวซื่อที่ยอดเยี่ยมที่สุดอย่างที่คาดคิดไว้จริงๆ”
หลิงหลานอยู่ร่วมกับเสี่ยวซื่อมาหลายปีขนาดนี้ เธอรู้ความชอบของเขามานานแล้วว่าเสี่ยวซื่อชอบโดนชม การเอ่ยปากครั้งนี้หลอกล่อให้เสี่ยวซื่อแสดงสีหน้าดีใจ ลืมเลือนไปโดยสิ้นเชิงว่าเมื่อสักครู่นี้เขายังนึกโกรธหลิงหลานอยู่
เสี่ยวซื่อวิ่งกลับไปที่ข้างกายหลิงหลานอย่างดีอกดีใจ เขาตบหน้าอกเล็กๆ ของตัวเองและรับปากด้วยท่าทีมั่นอกมั่นใจอย่างมาก “วางใจได้เลย ลูกพี่ มอบหุ่นรบสองตัวให้ฉันจัดการ หึๆ บนโฮเวอร์คาร์ยังมีปืนใหญ่เลเซอร์อีกสองลูก ฉันจะสร้างระบบเอไอเล็กแบบนี้และติดตั้งมันลงไปทันที แบบนี้ต่อให้การโจมตีครั้งนี้ถูกหลบ พวกเราก็ยังสามารถโจมตีต่อไปได้”
คำพูดของเสี่ยวซื่อทำให้หลิงหลานวางใจขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าสามารถถ่วงเวลาหุ่นรบสองตัวในช่วงเวลาสั้นๆ ได้ แบบนี้พ่อบ้านหลิงฉินก็มีเวลารับมือกับพวกนักฆ่ามากขึ้น ค่าสัมประสิทธิ์ด้านความปลอดภัยของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นมาก
อย่างไรก็ตาม หลิงหลานยังคงกำชับเสี่ยวซื่อด้วยความระมัดระวัง อย่ายิงปืนใหญ่เลเซอร์สองลูกสุดท้ายถ้าหากยังไม่ถึงช่วงเวลาสำคัญ บางครั้งการข่มขวัญฝ่ายตรงข้ามมีประสิทธิภาพมากกว่าการโจมตีอีกฝ่าย
ในใจหลิงหลานรู้ดีว่า แม้ว่าการโจมตีของปืนใหญ่เลเซอร์จะมีอานุภาพมาก ทว่าต้องเล็งเป้าไปยังคนที่สวมชุดป้องกันในการปฏิบัติการเท่านั้น การจะรับมือหุ่นรบที่ทั่วทั้งร่างต่างประกอบขึ้นจากซุปเปอร์ไทเทเนียมอัลลอย นอกเสียจากจะโจมตีใส่จุดอ่อนถึงแก่ชีวิตของหุ่นรบโดยตรงแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ห้องคนขับหุ่นรบ (ถึงแม้ว่าพลังโจมตีของปืนใหญ่เลเซอร์จะไม่สามารถทำลายห้องคนขับได้ แต่คุณสมบัติพิเศษของมันที่โจมตีแล้วระเบิดได้สร้างการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงขึ้นมาซึ่งสามารถสร้างความเสียหายให้กับผู้ควบคุมหุ่นรบที่อยู่ภายในห้องคนขับได้) มิฉะนั้นก็จะไม่มีประสิทธิผลอย่างชัดเจน
ทางด้านหุ่นรบ A และหุ่นรบ B ไม่ได้เลิกล้มความตั้งใจเหมือนกับที่หลิงหลานคิดเอาไว้จริงๆ พวกเขารีบเตรียมตัวทำลายโฮเวอร์คาร์คันสุดท้ายที่ขัดขวางการโจมตีของพวกเขา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขายังไม่ทันได้ยิงปืนสไนเปอร์ในมือ โฮเวอร์คาร์คันนั้นก็หันหัวเปลี่ยนทิศทางก่อนพวกเขาก้าวหนึ่งและยิงปืนใหญ่เลเซอร์มาทางพวกเขาสองลูก
หุ่นรบ A เห็นแบบนี้ก็อดเยาะหยันไม่ได้ “ชิ เขาคิดว่าอาศัยของพังๆ ก็โจมตีใส่พวกเราได้หรือไง”
นอกจากเด็กไม่รู้ความที่ยังไม่ถึงวัยเข้าโรงเรียนแล้ว คนอื่นๆ ในสหพันธรัฐต่างรู้คุณสมบัติพิเศษของปืนใหญ่เลเซอร์ อานุภาพคือข้อดีของมัน แต่ระยะการยิงที่สั้นก็คือข้อเสียถึงชีวิตของมัน เหตุผลที่มันไม่ได้ถูกสหพันธรัฐกำจัด สาเหตุส่วนใหญ่คือต้นทุนการสร้างต่ำ นอกจากนี้การโจมตีระยะใกล้ก็ยังยอดเยี่ยมมาก นี่จึงทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในอาวุธมาตรฐานของทหารสหพันธรัฐ
อย่างไรก็ตาม ปืนใหญ่เลเซอร์คุกคามได้แต่ทหารทั่วไปเท่านั้น สำหรับผู้ควบคุมหุ่นรบอย่างพวกเขาแล้ว มันไม่น่ากังวลเลย ต่อให้ถูกโจมตีโดยไม่ระวัง นอกจากแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นจากการระเบิดในตอนยิง ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าหุ่นรบจะถูกผลักจนพลิกคว่ำแล้ว มันก็ไม่มีผลกระทบอะไรอย่างอื่นอีก
หุ่นรบ B คิดเหมือนกับหุ่นรบ A นั่นก็คือไม่คิดว่าปืนใหญ่เลเซอร์นี้จะส่งผลกระทบต่อพวกเขา จะโจมตีโดนหรือเปล่าก็ยังไม่แน่ เขากล่าวอย่างหมดความอดทนว่า “ไม่ต้องสนใจขยะสองชิ้นนั้น รีบยิงโฮเวอร์คาร์คันนั้นให้เร็วที่สุด เวลาของเรามีไม่มากแล้ว” เขาประเมินดูแล้วว่าเวลาที่พวกเขาคงเหลือมากสุดมีแค่สองนาทีเท่านั้น ไม่อาจเสียเวลาได้อีกแล้ว
“ครับ!” หุ่นรบ A ไม่กล้าส่งเสียงอีก เขาเหนี่ยวไกปืนโจมตีโฮเวอร์คาร์ที่เกะกะคันนั้นด้วยความตั้งใจ
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ทันได้เหนี่ยวไกหลายที ก็ได้ยินเสียงออปติคัลคอมพิวเตอร์ของหุ่นยนต์ส่งเสียงเตือนอย่างรุนแรงว่า “คำเตือน! คำเตือน! พบต้นตอการโจมตี ถูกล็อกเป้าหมายแล้ว! นับถอยหลังการโจมตี เก้า แปด เจ็ด…”
จุดแสงที่แสดงถึงแหล่งที่มาของการโจมตีบนหน้าจออยู่ห่างจากพวกเขาไม่ไกลแล้ว อีกไม่นานก็จะถูกโจมตีแล้ว
“เชี่ย!” หุ่นรบ A สบถคำนี้ออกมาได้ทันเวลาเท่านั้นก่อนจะเริ่มดำเนินการขยับหุ่นรบของตัวเองให้หลบออก ในเวลาเดียวกันหุ่นรบ B ก็ทะยานขึ้นสูงเพื่อทำการหลบแทบจะพร้อมกัน
“เป็นปืนใหญ่เลเซอร์ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” ในขณะที่หุ่นรบ B หลบก็ดึงต้นตอการโจมตีเข้ามา ปืนใหญ่เลเซอร์ที่ถูกพวกเขามองข้ามสองลูกปรากฏขึ้นในหน้าจอของเขาอย่างชัดเจน แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นโจมตีใส่เขา
หุ่นรบ A ควบคุมหุ่นรบให้เลี้ยวเกือบจะเก้าสิบองศาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาคิดว่าอาศัยการเคลื่อนไหวนี้ก็สามารถหลบการโจมตีได้แล้ว แต่เขาก็พบว่าปืนใหญ่เลเซอร์ลูกนั้นเลี้ยวตามเขามา เขาตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจว่า “มันตามฉันแล้ว แม่มึงตาย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
ปืนใหญ่เลเซอร์มีฟังก์ชั่นติดตามแบบนี้เหรอวะ นอกจากนี้ระยะการยิงของมันสามารถไกลขนาดนี้ด้วยเหรอ หุ่นรบ A รู้สึกว่าเขาใกล้จะไม่รู้จักโลกใบนี้แล้ว ทำไมถึงมีเรื่องน่าเหลือเชื่อแบบนี้โผล่ขึ้นมาได้
หุ่นรบ B ย่อมสังเกตเห็นจุดนี้แน่นอน การเคลื่อนที่หลบของเขาดูตระการตากว่าหุ่นรบ A เขาใช้การหลบแบบไร้กฎเกณฑ์ (เวอร์ชันต่ำกว่าการหลบแบบไร้หลักเกณฑ์) ว่าตามหลักการแล้ว ต่อให้มีปืนใหญ่เลเซอร์นับไม่ถ้วนโจมตีมาเขาก็สามารถหลบได้หมด แต่ว่าตอนนี้ต่อให้เขาจะหลบอีกอย่างไร ปืนใหญ่เลเซอร์ลูกนั้นก็ยังคงตามหลังเขาอย่างแน่วแน่ มันไม่เหมือนกับปืนใหญ่เลเซอร์ทั่วไปที่ตกลงสู่พื้นและระเบิดออก
“นี่ไม่ใช่ปืนใหญ่เลเซอร์แน่นอน!” หุ่นรบ B ที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์เอ่ยเตือนทันที “นี่มันจรวดติดตามที่ผ่านการดัดแปลงมาแล้ว ห้ามโดนโจมตีเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นตายแน่”
หุ่นรบ B คิดว่านี่เป็นจรวดที่ถูกดัดแปลงให้ผิวด้านนอกเหมือนปืนใหญ่เลเซอร์โดยไม่ลังเล ทว่าความจริงแล้วมันคือจรวดติดตามสมรรถภาพสูงที่มีราคาแพงและทรงอานุภาพมาก ทำให้ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับต่ำหวาดกลัวจนหน้าซีด
จรวดติดตามสมรรถภาพสูงเป็นจรวดที่มีอานุภาพสูงถึงขีดสุดและมีความสามารถในการติดตามด้วย อานุภาพของมันย่อมไม่ใช่สิ่งที่ปืนใหญ่เลเซอร์ตัวเล็กๆ จะมาเทียบเคียงได้ โดยปกติแล้วเพียงแค่ถูกมันโจมตีก็สามารถระเบิดหุ่นรบตามมาตรฐานทั่วไปให้แตกไม่เป็นชิ้นเป็นอันได้ แน่นอนว่าหุ่นรบระดับสูงขึ้นมาหน่อยยังคงทนรับการโจมตีของจรวดติดตามไว้ได้
เมื่อมันถือกำเนิดขึ้นมาก็ถูกผู้ควบคุมหุ่นรบหวาดกลัวจวบจนถึงวันนี้ มันถูกผู้ควบคุมหุ่นรบเรียกขานว่าเป็นหนึ่งในจรวดที่น่ารำคาญมากที่สุด และยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า ดาวข่มเด็กใหม่
นี่เป็นเพราะจรวดติดตามยังครอบครองฟังก์ชันติดตามที่ยอดเยี่ยมมาก ขอเพียงถูกมันล็อกเป้าหมาย ไม่ว่าผู้ควบคุมหุ่นรบจะหลบพลิกแพลงอย่างไรก็ไม่ช่วยอะไรเลย นอกเสียจากเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงถึงจะมีความเป็นไปได้ที่หลอกล่อจรวดให้ระเบิด เพื่อหลุดพ้นจากวิกฤติโดยการใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมข้างกาย ทำการพลิกแพลงไปตามสถานการณ์ซึ่งมีความยากระดับสูง เทคนิคแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ควบคุมหุ่นรบทั่วไปจะเรียนรู้ได้ ดังนั้นจรวดติดตามจึงเป็นอาวุธโจมตีที่พวกเขาจงเกลียดจงชังมากที่สุดในหมู่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับต่ำ ปกติแล้วเด็กใหม่มากมายก็โดนเจ้านี่เด็ดปีก เพราะฉะนั้นมันก็เลยมีฉายานามนี้
ด้วยเหตุนี้เองเมื่อหุ่นรบ A กับหุ่นรบ B พบว่านี่อาจจะเป็นจรวดติดตามที่ถูกดัดแปลงแล้ว พวกเขาก็ไม่คิดเรื่องไปโจมตีโฮเวอร์คาร์อะไรอีก พวกเขามีแค่เป้าหมายเดียวเท่านั้น นั่นก็คือหลบจรวดติดตามที่เกาะติดด้านหลังพวกเขาลูกนี้
จนปัญญาแล้ว ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน พวกเขาไม่มีทางพะว้าพะวงขนาดนี้หรอก เพียงแต่พวกเขาออกมาคราวนี้ หุ่นรบที่พวกเขาควบคุมคือหุ่นรบมาตรฐานทั่วไปเพื่อที่จะปิดบังสถานะตัวตนของพวกเขา ซึ่งมันต้านทานพลังโจมตีของจรวดติดตามไม่ไหวโดยสิ้นเชิง
ส่วนทางด้านหลิงหลานก็มองหุ่นรบสองตัวหนีพล่านไปทั่วด้วยความประหลาดใจ ควรทราบว่าต่อให้ถูกโจมตีขึ้นมาจริงๆ ขอเพียงไม่ได้โจมตีโดนห้องคนขับ มันก็ไม่มีผลอะไรทั้งนั้น ทำไมหุ่นรบสองตัวนั้นถึงได้ขวัญหนีดีฝ่อขนาดนี้ล่ะ
หลิงหลานไม่รู้ว่า เป็นเพราะการดัดแปลงโดยไม่ได้ตั้งใจของเสี่ยวซื่อทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดว่านี้เป็นจรวดติดตามที่ทรงอานุภาพสุดขีด จำเป็นต้องรับมือกับมันด้วยความระมัดระวัง ไม่กล้าเสี่ยงง่ายๆ ควรพูดว่าสวรรค์ช่างเอาใจใส่ดูแลหลิงหลานมากจริงๆ ถึงได้แก้ไขวิกฤติที่ใหญ่ที่สุดของพวกหลิงหลานโดยบังเอิญ
“เย่!” เสี่ยวซื่อเห็นปืนใหญ่เลเซอร์สองลูกที่ตัวเองดัดแปลงดีเยี่ยมขนาดนี้ ถึงกับไล่กวดหุ่นรบสองตัวนั้นราวกับหมาเร่ร่อน เขาก็ชูมือทำท่าชัยชนะด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
หลิงหลานเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย และไม่ได้รู้สึกเคร่งเครียดเหมือนตอนแรกอีก เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากหลังจากที่วิกฤติที่กดดันมากที่สุดคลี่คลายลง “เสี่ยวซื่อ ครั้งนี้ต้องขอบใจนายแล้ว” ความรู้สึกซาบซึ้งใจของหลิงหลานเป็นความรู้สึกจากใจจริง คราวนี้ถ้าไม่ใช่เพราะเสี่ยวซื่อ บางทีพ่อบ้านหลิงฉินอาจจะเป็นอันตรายแล้ว และตอนนี้เวลาของพ่อบ้านหลิงฉินก็ยิ่งเต็มเปี่ยม เขาย่อมจัดการศัตรูสองคนสุดท้ายได้อย่างเสร็จสมบูรณ์แน่นอน
“ลูกพี่ ขอบคุณฉันทำไม ฉันไม่ใช่ลูกน้องเธอเหรอ ลูกน้องช่วยลูกพี่ก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว” เสี่ยวซื่อรู้สึกงุนงงอยู่บ้าง ไม่ใช่ในหนังสือนิยายเรื่องตัวเบี้ยบอกหรือว่า ไม่ว่าจะเป็นการรับผิดแทนหรือว่าการคลายความกลัดกลุ้มใจของลูกพี่ต่างก็เป็นหน้าที่ที่ไม่อาจปฏิเสธได้
นอกจากนี้เขาพบว่าเขาชอบฉากต่อสู้อันดุเดือดแบบนี้ พอเห็นฝ่ายตรงข้ามถูกอาวุธที่เขาออกแบบไล่กวดจนหนีไปทั่วทุกทาง เขาก็รู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เสี่ยวซื่อเกิดรู้สึกรางๆ ว่าเขาเกิดมาเพื่อทำเรื่องนี้ หลายปีที่ผ่านมาเขารับหน้าที่ช่วยหลิงหลานหาเงินไม่ใช่ว่าทำแล้วไม่มีความสุข เพียงแต่ความตื่นเต้นในตอนนี้ทำให้เขาอดรู้สึกเลือดฉีดพล่านด้วยความเร่าร้อนไม่ได้
เสี่ยวซื่อตัดสินใจในชั่วพริบตาว่า ต่อไปต้องหาโอกาสให้ลูกพี่เจอการต่อสู้เยอะๆ ให้ตายสิ มันมากเกินไปแล้ว
………………………………………….