I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 511 รู้ใจกัน!
เมื่อเทียบกับวิกฤตในที่ลับตาของหลี่หลานเฟิง วิกฤติของหลี่ซื่ออวี๋ชัดเจนมากกว่า ถึงแม้หลี่ซื่ออวี๋สัมผัสโดนขอบเขตของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษแล้ว แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยัง งไม่ใช่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษ ขณะเดียวกันหุ่นรบที่ขับก็ยังเป็นหุ่นรบระดับสูงที่อ่อนด้อยกว่าหนึ่งขั้น เมื่อต่อกรกับผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษไปได้ไม่นาน หลี่ซื่ออวี๋ก ก็ตกอยู่ในวิกฤติแล้ว
ถึงแม้ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงกับผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษจะไม่ได้ห่างชั้นกันมากเหมือนผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษกับผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชา แต่ก็ยังมีความห่างชั้นอยู่ดี ซึ่ งความห่างชั้นนี้ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นในการต่อสู้ หลี่ซื่ออวี๋หลบไม่ทันอีกครั้ง ดาบแสงของอีกฝ่ายโจมตีโดนแขนขวาหุ่นรบของเขาอย่างรุนแรง
ม่านแสงปรากฏขึ้นในชั่วพริบตา ดีดดาบแสงกลับไป หลี่ซื่ออวี๋ลอบปาดเหงื่อเย็นๆ ดีใจที่เขาไปหาฉางซินหยวนขอไอเทมส่วนตัวจำนวนไม่น้อยก่อนออกมาในครั้งนี้ โดยเฉพาะโล่ป้องกันม่านแ แสงที่เดิมทีลูกทีมมีกันคนละอัน ซึ่งฉางซินหยวนติดตั้งเพิ่มให้เขาอีกอันเนื่องจากความสัมพันธ์ที่ดีมากของทั้งคู่ แขนซ้ายกับแขนขวาบนหุ่นรบของหลี่ซื่ออวี่ต่างติดตั้งมันไว้แล ละก็เป็นโล่ป้องกันม่านแสงที่เพิ่มขึ้นมาอีกอันนี้ที่ช่วยเขาไว้
แต่ว่าหลังจากที่หลี่ซื่ออวี๋ใช้ไพ่ตายไปหมดแล้ว สถานการณ์ของเขาก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ
หลี่ซื่ออวี๋ต้านรับการโจมตีสามครั้งของศัตรูอย่างยากลำบากอีกครั้ง ผลจากความเครียดเพิ่มสูงและพยายามสุดกำลังทำให้นิ้วมือของเขาเริ่มสั่นเทาขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่ เขาสัมผัส ได้ถึงความเจ็บปวดและความชาส่งมาจากนิ้วมือ หลี่ซื่ออวี๋รู้ดีว่านี่เป็นผลที่เกิดจากการใช้มากเกินไป เขาไม่รู้ว่าตัวเองยังสามารถประคับประคองได้มากเท่าไหร่ บางทีวินาทีถัดไปอาจ สูญเสียความสามารถในการควบคุมหุ่นรบแล้ว
“ที่แท้นี่ก็คือความสามารถของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษ ต่อให้ฉันกำลังจะทะลวงขีดจำกัดก็ยังห่างชั้นกับความสามารถของคู่ต่อสู้อย่างมากนัก อาจจะต้านรับติดต่อกันห้าสิบกระบวนท่า ไม่ได้แล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันต้านรับไปแล้วกี่กระบวนท่า สามสิบกระบวนท่าแล้วหรือยัง?”
เวลานี้ในสมองของหลี่ซื่ออวี๋สับสนวุ่นวาย เงาแห่งความพ่ายแพ้ทำให้หลี่ซื่ออวี๋ลนลาน อันที่จริงหลี่ซื่ออวี๋ไม่ได้คาดหวังว่าจะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ แต่คิดว่าไม่ว่าอย่างไรเขาก็ สามารถประคับประคองได้ในระยะเวลาหนึ่ง ไม่นึกเลยว่าเขาจะประเมินความเก่งกาจของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษต่ำไปแล้ว… การคิดคำนวณไม่มากพอไม่เพียงทำให้เขาเผชิญหน้ากับวิกฤติของ ความพ่ายแพ้ ขณะเดียวกันก็นำหายนะมาให้คนอื่นๆ ในทีมด้วย
ความเป็นจริงช่างโหดร้ายมาก หัวหน้าทีมรับมือผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษสามคน ซึ่งสองคนในนั้นยังเป็นยอดฝีมือหุ่นรบระดับหัวหน้าทีม จ้าวจวิ้นสกัดผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษระดับช ชั้นยอดสองคนก็ถึงขีดจำกัดแล้ว หลี่หลานเฟิงยิ่งลากร่างกายพังๆ เข้าปต่อสู้พัวพันคู่ต่อสู้สองคนอย่างสุดชีวิต คนอื่นๆ ในทีมก็ต่อสู้พัวพันกับคู่ต่อสู้ของตัวเองความสุดกำลัง… .ถ้าเกิดมีศัตรูเพิ่มขึ้นมาอีกคนจะต้องกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่บดทำลายทีมของพวกเขาอย่างแน่นอน
“ฉันจะต้องพาพวกลูกทีมเดินไปสู่อนาคต สร้างความสำเร็จและเกียรติยศนับไม่ถ้วน ฉันไม่อนุญาตให้เกิดการพ่ายแพ้ได้ รุ่นพี่หลี่ นายรู้ไหมว่ารสชาติของความพ่ายแพ้ในสนามรบเป็นยังไง? ? มันคือความตาย! นั่นเป็นบทสรุปที่พวกเราไม่อาจยอมรับได้!”
ทันใดนั้นหลี่ซื่ออวี๋ก็นึกถึงครั้งหนึ่งที่หลิงหลานทารุณพวกลูกทีมอย่างบ้าคลั่งจนแทบจะเอาชีวิตพวกเขาไปครึ่งหนึ่ง ตอนทีเขากลับมาจากการปฐมพยาบาลก็ไปหาหลิงหลานเพื่อโต้แย้ง หลิงหลานก็เคยเอ่ยคำพูดเหล่านั้นกับเขาว่า
“ตอนนี้ฉันโหดเหี้ยมกับพวกเขาสักหน่อย อนาคตพวกเขาก็จะมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นอีก!” แววตาของหลิงหลานตอนนั้นเด็ดเดี่ยวแน่วแน่สุดขีด ต่อให้ถูกเขาตำหนิก็ไม่หวั่นไหวเลย หลี่ซื่อ อวี๋ยังจำได้ว่าเวลานั้นพวกเขาสองคนลาจากกันอย่างไม่สบอารมณ์!
หลี่ซื่ออวี๋คิดมาตลอดว่าหลิงหลานลงมือโหดเหี้ยมมากเกินไป สั่งสอนเพื่อนร่วมทีมเหมือนกับจัดการศัตรู วิธีการป่าเถื่อนรุนแรงมากมายจนไม่อาจบันทึกไหว หลี่ซื่ออวี๋คัดค้านและต่อ อต้านเรื่องนี้ นี่ก็เลยทำให้เขาเป็นคนที่ได้รับน้ำชาพิษของหลิงหลานน้อยที่สุดในทีม
แต่ตอนนี้หลี่ซื่ออวี่ตระหนักได้ว่าตัวเองทำพลาดมากเกินไปแล้ว ตอนนั้นระดับการควบคุมของฉีหลงยังด้อยกว่าเขาเล็กน้อย แต่เวลานี้ไม่เพียงเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษ ษได้สำเร็จ ต่อให้เขาขับหุ่นรบระดับสูงก็สามารถต่อสู้ได้ทัดเทียมกับคู่ต่อสู้ที่อยู่ระดับพิเศษ นอกจากนี้ หลี่หลานเฟิงที่ตอนแรกสามารถทนการต่อสู้อย่างดุเดือดได้แค่สิบนาที เวล ลานี้เขาต่อสู้ประกบสองคนและทนมาได้จนถึงตอนนี้ ถึงแม้เขาจะหอบหายใจแฮกๆ แล้ว แต่ก็ต้านรับอีกฝ่ายได้โดยที่ไม่ได้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ขณะที่ทุกคนแบกรับคู่ต่อสู้ได้อย่างราบรื่น มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่พลาดพลั้ง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องโดนโจมตีจนไม่มีโอกาสโต้กลับเลยสักนิดเดียว ตอนนี้เขาตกอยู่ในสภาพอับจนหนทา างแล้ว อาจจะพ่ายแพ้ถูกไล่ออกไปจากสนามในวินาทีถัดไปก็ได้ ถึงขนาดที่อาจจะทำให้ทีมเผชิญหน้ากับหายนะเพราะการพ่ายแพ้ของเขาก็เป็นได้…
ตอนนี้หลี่ซื่ออวี๋รู้สึกเสียใจภายหลัง เขาไม่ได้เสียใจที่ตัวเองออกมาต่อสู้กับผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษ แต่เขาเสียใจที่ตอนนั้นเขาน่าจะรับการสั่งสอนอย่างโหดเหี้ยมของหลิง หลานด้วยกันกับพวกฉีหลง บางทีเวลานี้สถานการณ์อาจจะแตกต่างออกไปแล้ว
“หลบ!” ทันใดนั้นเองก็มีเสียงร้องอุทานดังขึ้นในช่องสื่อสารทีม หลี่ซื่ออวี๋ได้สติกลับมาฉับพลัน ก่อนจะเห็นดาบยักษ์ในมือผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ของตัวเองก กำลังจะโจมตีโดนส่วนหน้าอกของเขาแล้ว ถ้าเกิดโดนโจมตีเข้าจังๆ ละก็ อาศัยแค่ท่วงท่านี้ของอีกฝ่าย ต่อให้หุ่นรบไม่พังไปครึ่งหนึ่งก็โดนตัดสินว่าเสียชีวิต ไม่ว่าเกิดสถานการณ์แบ บบไหนก็เป็นฝันร้ายสำหรับทีมหลิงหลาน
เสียง ‘เคล้ง!’ ดังสนั่น นี่เป็นเสียงอาวุธเย็นกระทบกัน ไม่ใช่เสียงโจมตีโดนหุ่นรบ การโจมตีในมือทุกคนช้าลงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ก่อนจะเพ่งความสนใจมารวมกันที่ทางฝั่งหลี่ซื ออวี๋
พวกเขาเห็นหุ่นรบระดับพิเศษตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่ข้างกายหลี่ซื่ออวี๋ ดาบยักษ์ในมือสกัดดาบที่กำลังจะโจมตีโดนหลี่ซื่ออวี๋ไว้
“หลานเฟิง!” หลี่ซื่ออวี๋มองคนที่ช่วยเหลือเขาจากหายนะด้วยความตื่นตกใจ ทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ ไม่นึกเลยว่าหลี่หลานเฟิงที่แทบจะปกป้องตัวเองไม่ได้คนนั้นลงมือช่วยเขาโดย ไม่ลังเลเลย…
“ซื่ออวี๋ อย่าลืมสัญญาที่นายให้ไว้กับใครบางคนสิ!” หลี่หลานเฟิงตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว ความโกรธสุดขีดจู่โจมเข้าที่หัวใจ เขาทำการขับด้วยขีดจำกัดสูงสุดในชั่วพริบตาเพื่อช่วยเหลือ อหลี่ซื่ออวี๋ไว้ ทำให้ร่างกายของเขาได้รับแรงสะท้อนกลับมหาศาล เลือดไหลลงมาจากมุมปากอย่างห้ามไม่อยู่
เสียงนี้โจมตีใส่หัวใจของหลี่ซื่ออวี๋ราวกับสายฟ้าฟาดก็ไม่ปาน
“พี่ ความฝันของพี่คืออะไร?” หลี่ซื่ออวี๋ตอนวัยเด็กมองหลี่มู่หลานที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคารพนับถือ ใบหน้าที่ไม่มีใครเทียบเทียมได้จนทำให้เขาอยากมองแต่ ก็ไม่กล้ามองดวงนั้นทำให้หัวใจดวงน้อยๆ ของหลี่ซื่ออวี๋มักจะอดเต้นกระหน่ำหลายทีไม่ได้
หลี่มู่หลานยิ้มจางๆ ทำให้หลี่ซื่ออวี๋ยิ้มตามขึ้นมา ใบหน้าของเขาแดงฉานอย่างควบคุมไม่อยู่ หัวใจเต้นรัวอย่างไม่ฟังคำสั่งอีกครั้ง ราวกับว่าวินาทีถัดมามันสามารถเด้งออกมาจากหน น้าอก
“ความฝันเหรอ?” สีหน้าของหลี่มู่หลานดูสับสนอยู่บ้าง เขามองไปยังทะเลไร้ขอบเขตด้านนอกหน้าต่าง “อยากออกเห็นโลกใบนี้มากๆ ว่า นอกจากทะเลที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตานี้แล้ว ยังมี อะไรอีก และก็อยากกลายเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบที่เก่งกาจ ขับหุ่นรบบินไปในอวกาศอย่างอิสระ…อิสระ…อิสระน่ะ…” สีหน้าของหลี่มู่หลานดูโศกเศร้าเสียใจ เนื่องจากนี้เป็นความฝันท ที่เขาไม่สามารถทำให้เป็นความจริงได้
หลี่ซื่ออวี๋เจ็บปวดใจ เขาพลันตะโกนว่า “พี่ ทำได้อยู่แล้ว ฉันจะตระเวนไปทั่วโลก ช่วยหายาที่รักษาอาการป่วยของพี่ให้ได้ หลังจากนั้นพี่ก็ขับหุ่นรบ กลายเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบนะ ะ” เขาที่เป็นเด็กหนุ่มยังไม่รู้ว่ายาที่สามารถรักษาญาติผู้พี่ไม่มีอยู่บนโลกใบนี้เลย เขาเพียงแค่คิดอย่างใสซื่อเท่านั้นว่า โลกนี้แสนกว้างใหญ่จะต้องสามารถหายาที่มีประสิทธ ธิภาพเจอได้แน่อน”
คำพูดของหลี่ซื่ออวี่ทำให้หลี่หลานเฟิงหันหน้ากลับมา แววตาเต็มไปด้วยความอบอุ่น เขายื่นนิ้วมือที่ขาวราวกับหยกออกมาดีดหน้าผากของหลี่ซื่ออวี๋เบาๆ แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เ เอาเถอะ แต่ถ้าอยากตระเวนทั่วโลก นายจะต้องกลายเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบที่แข็งแกร่งให้ได้นะ”
หลี่ซื่ออวี๋ตบหน้าอกตัวเองฉับพลัน แล้วเอ่ยอย่างมั่นใจว่า “วางใจได้เลย พี่ ฉันจะต้องกลายเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบที่แข็งแกร่งที่สุดแน่นอน!”
“แข็งแกร่งที่สุด? เป้าหมายนี้ยิ่งใหญ่จริงๆ งั้นนายจะต้องทนความลำบากมากเลยนะ นายไม่กลัวหรือไง?” หลี่มู่หลานเบิกบานใจ
“ไม่กลัว! ฉันจะต้องกลายเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบที่แข็งแกร่งที่สุดให้ได้! แน่นอนเลย!” หลี่ซื่ออวี่ร้อนใจแล้ว ทำไมญาติผู้พี่ถึงไม่เชื่อเขา? หรือว่าเขาไม่น่าเชื่อถือขนาดนี้เลยหรื อไง?
“งั้นก็ดี ฉันจะรอจนกว่านายจะกลายเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบที่แข็งแกร่งที่สุด ฉันฝากอนาคตของฉันไว้ที่นายแล้วนะ” หลี่มู่หลานยิ้มแย้มพลางตอบกลับ แข็งแกร่งที่สุด? ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเ เป็นหลิงเซียวนะ
หลี่ซื่ออวี๋สัมผัสได้ว่าญาติผู้พี่พูดแบบขอไปที เขาก็ยื่นมือเล็กๆ ออกมาโดยพลัน แล้วเอ่ยอย่างแน่วแน่ว่า “พี่ พวกเรามาสัญญากันเถอะ ไว้ฉันกลายเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบที่แข็งแกร ร่งที่สุดแล้ว ฉันก็จะไปทั่วทั้งโลก ช่วยหายาที่สามารถรักษาอาการป่วยของพี่ได้”
หลี่มู่หลานมองหลี่ซื่ออวี๋ด้วยแววตามั่งคง รอยยิ้มแบบเป็นพิธีตรงมุมปากค่อยๆ หายไป ผ่านไปครู่หนึ่งถึงค่อยเอ่ยถามว่า “อยากทำสัญญาจริงๆ เหรอ?”
หลี่ซื่ออวี๋พยักหน้าหนักๆ “อยากทำสัญญาอยู่แล้ว ฉัน หลี่ซื่ออวี๋พูดได้ก็ต้องทำให้ได้”
หลี่มู่หลานจ้องมองหลี่ซื่ออวี๋อย่างจริงจัง หลี่ซื่ออวี๋สบตาของญาติผู้พี่โดยไม่ลังเลเลยสักนิดเดียว บ่งบอกถึงความแน่วแน่ของตัวเอง
ในที่สุดหลี่มู่หลานก็ยิ้มอีกครั้ง เขายื่นมือขวาของตัวเองออกมาแล้วเอ่ยว่า “ก็ได้ งั้นพวกเรามาสัญญากันนะ”
หลี่ซื่ออวี๋ประทับตรากับหลี่มู่หลานอย่างระมัดระวัง ตกลงทำสัญญาระหว่างพวกเขา…เพียงแต่หลายปีให้หลัง เมื่อเขารู้ว่าโลกใบนี้ไม่มียาที่สามารถรักษาร่างกายของญาติผู้พี่ได้ เขาก็เปลี่ยนความคิด สอบเข้าภาควิชาแพทย์ทหาร ศึกษาค้นคว้าผลิตยานั้นขึ้นมาด้วยตัวเอง
ใช่แล้ว สัญญาเมื่อตอนนั้น เมื่อห้าปีก่อนเขาโยนมันเข้าไปในมุมแล้วก็ลืมเลือนไปโดยสิ้นเชิง
“ผู้ควบคุมหุ่นรบที่แข็งแกร่งที่สุดเหรอ?” หลี่ซื่ออวี๋กำมือสองข้างแน่นๆ โดยพลัน ดวงตาสองข้างแดงฉานขึ้นมา เขาลืมเรื่องสัญญาที่ให้ไว้กับญาติผู้พี่ เขาลืมมันไปแล้วจริงๆ!
“ฉันจะแพ้ตรงนี้ได้ยังไง ขนาดผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษตัวเล็กๆ ตรงหน้านี้ก็ยังเอาชนะไม่ได้ แล้วฉันจะไปเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบที่แข็งแกร่งที่สุดได้ยังไง จะทำตามสัญญาระหว่างเราก กับพี่ชายใหญ่ให้สำเร็จได้ยังไง…” แววตาของหลี่ซื่ออวี่กระจ่างใสขึ้นมาทันที “ลืมก็เป็นความผิดแล้ว ถ้าเกิดแพ้อีก งั้นก็เป็นความผิดบวกกับความผิด ฉันไม่มีทางยอมเด็ดขาด”
นิ้วมือของหลี่ซื่ออวี๋โบกสะบัดขึ้นมาฉับพลัน ความเร็วนิ้วมือของหลี่ซื่ออวี่ไวมากขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางอารมณ์เสียใจ โมโหและปั่นป่วน ท้ายที่สุดก็ทะลวงขีดจำกัดของผู้ควบคุมหุ่นร รบระดับสูง นิ้วมือปรากฏเงาเป็นชั้นๆ นี่ไปถึงความเร็วนิ้วมือระดับเงาของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษแล้ว
‘เคล้ง!’
หลี่ซื่ออวี๋สกัดกั้นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงที่กำลังเตรียมตัวลอบโจมตีหลี่หลานเฟิง อีกฝ่ายฉวยโอกาสตอนที่หลี่หลานเฟิงช่วยเหลือคนขัดขวางเอาไว้และแบ่งสมาธิไปต้านทานการโจมตีขอ องผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษ ก่อนจะลอบฟันตรงตำแหน่งที่เขาไม่สังเกตเห็นอย่างไร้สุ้มไร้เสียง
หลี่ซื่ออวี๋ที่ได้สติกลับมาทันเวลา ช่วยเหลือหลี่หลานเฟิงรับกระบวนท่าที่เกือบจะเห็นผลนี้ได้ทันกาล
‘เคล้ง!’
สกัดกั้นไว้อีกครั้ง คราวนี้เป็นหลี่หลานเฟิง เขาช่วยหลี่ซื่ออวี๋ขวางคู่ต่อสู้ของเขาไว้อีกครั้ง อีกฝ่ายฉวยโอกาสลอบโจมตีเข้ามาตอนที่หลี่ซื่ออวี๋หยุดผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสู งยุ่งวุ่นวายจนไม่ได้สนใจเขา
หลี่ซื่ออวี๋กับหลี่หลานเฟิงช่วยกันสกัดกั้นคู่ต่อสู้ไว้ เดิมทีพวกเขาต่อสู้แยกกันของแต่ละคน แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นร่วมมือร่วมแรงกัน ทั้งสองคนไม่เคยร่วมมือกันมาก่อน แต่ตอน นนี้กลับรู้ใจกันอย่างน่าประหลาด ทำให้คู่ต่อสู้สามคนไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ชั่วขณะ
หลี่ซื่ออวี๋ผ่านพ้นวิกฤติครั้งใหญ่ที่สุดของเขามาได้อย่างหวุดหวิด สถานการณ์มั่นคงอีกครั้ง แต่ทุกคนรู้ว่าสภาวะชะงักนี้เป็นแค่ระยะเวลาชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น ท้ายที่สุดมันก็พัง งทลายอย่างแน่นอน แค่ไม่รู้ว่าทีมหลิงหลานเป็นคนทำลายสภาวะชะงักงัน หรือว่าเป็นหน่วยรบพันธมิตร