I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 514 ความคิดฝังแน่น!
“ครับ ลูกพี่!” จ้าวจวิ้นได้ยินคำกล่าวก็ตัวสั่นเทิ้มทันที เขากัดฟันตอบด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด หนึ่งอาทิตย์? เขายังเอาชีวิตรอดต่อไปได้หรือเปล่า?
หลิงหลานถึงค่อยเดินผ่านจ้าวจวิ้นไปด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็เพ่งความสนใจมองหลี่ซื่ออวี๋กับหลี่หลานเฟิงที่ตอนนี้กำลังตกอยู่ในการต่อสู้ที่ยากลำบาก
เมื่อเห็นความสนใจของลูกพี่ไม่ได้อยู่บนตัวเขาอีกต่อไปแล้ว จ้าวจวิ้นถึงค่อยร้องโอดครวญ กุมศีรษะนั่งยองๆ ลงมา ปากก็พูดไม่หยุดว่า “ฉันตายแน่ ฉันตายแน่ๆ เลย”
ฉีหลงที่ฟื้นพลังกายกลับมานิดหน่อยแล้วก็ลุกขึ้นมาก่อนจะเดินมาที่ข้างกายจ้าวจวิ้น จากนั้นก็ตบบ่าของเขาเบาๆ เอ่ยพลางยิ้มระรื่นว่า “พี่น้อง ขอแสดงความเสียใจด้วยนะ” ได้โปรด ดให้อภัยฉีหลงที่มีความสุขในความทุกข์ของคนอื่นด้วย ควรรู้เอาไว้ว่า คนที่ถูกลูกพี่ทรมานอย่างน่าอนาถมากที่สุด ถ้าเกิดฉีหลงบอกว่าเป็นที่สอง เช่นนั้นย่อมไม่มีใครกล้าพูดว่าที่ หนึ่ง ตอนนี้ในที่สุดก็มีคนมาตกนรกเป็นเพื่อนเขาแล้ว ทำให้ฉีหลงรู้สึกว่ายังมีคนอื่นที่ถูกโลกทอดทิ้งด้วย เขารู้สึกว่าจิตใจสมดุลสักที
“ฉีหลง นาย…” จ้าวจวิ้นชี้ไปที่ฉีหลงอย่างหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ ไอ้คนสารเลวนี่สาดเกลือบนบาดแผลของเขา เขาไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่มีสภาพร่างกายอย่างฉีหลงที่เมื่อครู่ก่อนหน้า านี้ยังเกือบเผชิญหน้ากับความตาย แต่วินาทีถัดมาก็สามารถฟื้นสภาพดังเดิมได้
“ขอแสดงความเสียใจด้วย!” ลั่วล่างเอ่ยด้วยความจริงใจมาก อันที่จริงลั่วล่างก็จริงใจมากจริงๆ ทว่าการแสดงออกอย่างจริงใจเช่นนี้กลับมีพลังสังหารรุนแรงกว่าของฉีหลงเสียอีก ทำให้จ้ าวจวิ้นแทบจะอัดอั้นตันใจจะตายแล้ว
“แหะๆ ขอแสดงความเสียใจด้วย!” เซี่ยอี๋เองก็ตบไหล่จ้าวจวิ้นเบาๆ เอ่ยอย่างหยอกล้อ ซึ่งเหยียบย่ำหัวใจที่หดหู่ของจ้าวจวิ้นอีกครั้ง จ้าวจวิ้นเดือดดาลสุดขีด กำลังเตรียมตัวสั่งสอน นพวกรุ่นน้องที่ไม่เคารพรุ่นพี่พวกนี้ ก็ได้ยินหลิงหลานแค่นเสียงเย็นทีหนึ่ง
ทันใดนั้นทุกคนต่างเงียบกริบ จ้าวจวิ้นนั่งยองๆ บนพื้นอย่างโศกเศร้า แล้วก็ท่องเงียบๆ ว่า “ฉันไม่โมโห ฉันไม่โมโห…”
ลูกพี่หลานอยู่ข้างกาย เขาก็ไม่กล้าโกรธแล้วจริงๆ เขากลัวว่าถ้าเกิดยั่วโทสะลูกพี่ขึ้นมา บทลงโทษฝึกฝนหนึ่งอาทิตย์ในตอนแรกก็เปลี่ยนเป็นสองอาทิตย์ในชั่วพริบตา ถ้าเกิดโชคร้ายกล ลายเป็นหนึ่งเดือนขึ้นมา เขาจะตายอยู่ข้างในออกมาไม่ได้แน่นอน
ไม่พูดถึงความหงุดหงิดของจ้าวจวิ้นแล้ว เวลานี้สถานการณ์ของหลี่หลานเฟิงกับหลี่ซื่ออวี๋กลับเลวร้ายอยู่บ้าง หลี่หลานเฟิงรู้สึกว่าตัวเองไปถึงขีดจำกัดแล้ว มีหลายครั้งที่เขาทำก การควบคุมผิดพลาดเพราะเรี่ยวแรงประคองต่อไปไม่ไหว ทั้งหมดล้วนให้หลี่ซื่ออวี๋ที่อยู่ข้างๆ เขาเสริมให้อย่างสุดความสามารถ
แรงสะท้อนกลับจากการควบคุมหุ่นรบทำให้ร่างกายของหลี่หลานเฟิงไปถึงขีดจำกัดแล้ว กล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างของหลี่หลานเฟิงในเวลานี้ฉีกออกจนเกิดบาดแผลเล็กๆ นับไม่ถ้วน เลือดย้อมชุด ดป้องกันบนตัวเขาจนเป็นสีแดงแล้ว…
จะแพ้แล้วเหรอ? ความรู้สึกของหลี่หลานเฟิงชาหนึบมากขึ้นเรื่อยๆ ความคิดทั้งหมดเริ่มกระจัดกระจายออกไป ราวกับว่าวินาทีถัดมาเขาสามารถหลับตาหมดสติไปได้เลย…หลี่หลานเฟิงกัดปลายลิ้น นของตัวเองแรงๆ ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงช่วยกอบกู้สติของตัวเองที่กำลังจะพังทลายให้กลับมา
ไม่ ฉันจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด! ถ้าเกิดฉันแพ้แล้ว ฉันยังมีคุณสมบัติอะไรไปพูดว่าจะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับกระต่ายอีกล่ะ? หลี่หลานเฟิงคล้ายกับมองเห็นสายตาผิดหวังของกระต่าย รวมถึง งเงาหลังของเขาที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ
ฉันจะทำให้กระต่ายผิดหวังไม่ได้เด็ดขาด! ไม่ได้! หลี่หลานเฟิงตะโกนในใจ การต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับหลิงหลานเป็นความคิดฝังแน่นที่ใหญ่ที่สุดของหลี่หลานเฟิง เวลานี้ความคิดฝังแน น่นนี้ทำให้หลี่หลานเฟิงฟื้นคืนชีพ จิตวิญญาณต่อสู้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง
“หลี่หลานเฟิง ทนไว้นะ พวกเราไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!” หลี่ซื่ออวี๋ที่อยู่ด้านข้างก็รีบปลุกกำลังใจให้หลี่หลานเฟิง การควบคุมเมื่อสักครู่นี้ของหลี่หลานเฟิงทำให้เขารู้ดีว่า หลี หลานเฟิงจะต้องถึงขีดกำจัดแล้วแน่ๆ
เนื่องจากเขาทุ่มสมาธิจดจ่อ หลี่ซื่ออวี๋เลยไม่ได้สังเกตว่าว่าเพื่อนร่วมทีมรอบๆ ต่อสู้จบแล้ว และกำลังเฝ้าอยู่ด้านข้าง เขาไม่อยากให้การพ่ายแพ้ของพวกเขานำพาหายนะมาให้ทีม ดั งนั้น ตอนที่เขาให้กำลังใจหลี่หลานเฟิงก็ปลุกกำลังใจให้ตัวเองไปพร้อมๆ กัน
“แน่นอน!” หลี่หลานเฟิงแทบจะผลาญพลังทั้งหมดจากร่างกายเขาแล้วเค้นสองคำนี้ออกมา
“ต่อให้ล้มลง ก็ต้องช้ากว่าศัตรูหนึ่งก้าว กระต่าย ฉันเข้าใจความหมายคำพูดประโยคนี้ของนายแล้ว” แววตาของหลี่หลานเฟิงเย็นชาขึ้นมาฉับพลัน ตอนนี้เขาไม่มีบรรยากาศอบอุ่นอีกต่อไปแล ล้ว มีเพียงจิตสังหารไร้ที่สิ้นสุดเท่านั้น
มือสองข้างที่เดิมทีรู้สึกปวดจนแทบไร้เรี่ยวแรงพลันโบกสะบัดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นิ้วมือปรากฏเป็นเงาซ้อนทับกัน ราวกับดอกไม้มายาที่กำลังค่อยๆ ผลิบาน แต่ฉากนี้หายไปอย่างรวดเร็ว มาก นิ้วมือของหลี่หลานเฟิงพลันหายไปแล้ว ทว่าเริ่มมีเลือดสีแดงสาดออกมาทีละสายบนแผงควบคุมสีขาวเงินนั้น สุดท้ายแผงควบคุมทั้งหมดก็ถูกย้อมเป็นสีเลือดข้นคลั่ก เป็นฉากที่น่ าสะพรึงมาก
การควบคุมของหลี่หลานเฟิงเปลี่ยนจากระดับเงาของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษเข้าสู่ระดับไร้รูปของผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาแล้ว การควบคุมข้ามระดับมีราคาที่ต้องจ่าย ซึ่งราคานี้ก็ คือนิ้วมือของเขาปริแยกออกจากกันแล้ว
แต่การควบคุมข้ามระดับก็ให้ประสิทธิภาพมหาศาลมาก จากนั้นก็เห็นหุ่นรบของหลี่หลานเฟิงพลันบิดตัวบนอากาศ พริบตาเดียวก็หลุดพ้นจากวงล้อมของทั้งสามคน หายตัวไปจากในหน้าจอของคู ต่อสู้ วินาทีถัดมากลับปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูง ก่อนจะแทงดาบยักษ์ในมือออกไปอย่างเงียบงัน
การเคลื่อนไหวเหล่านี้ปกปิดได้แค่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงเท่านั้น ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษสองคนกลับมองเห็นชัดเจนมาก พวกเขาอดร้องอุทานขึ้นมาไม่ได้ “หลบเร็ว!”
แต่ว่าเป้าหมายการโจมตีของหลี่หลานเฟิงในครั้งนี้ก็คือผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงที่มีความสามารถอ่อนแอที่สุดคนนี้ และเขาจะปล่อยให้อีกฝ่ายมีโอกาสหนีรอดไปได้อย่างไร ถึงแม้ผู้ควบ บคุมหุ่นรบระดับสูงพยายามขับหุ่นรบหลบไปทางด้านข้างอย่างสุดชีวิตภายใต้คำเตือนของเพื่อนร่วมทีม แต่การเคลื่อนไหวตอบสนองที่เป็นไปได้ทั้งหมดของอีกฝ่ายอยู่ในการคำนวณของหลี่หล ลานเฟิงหมดแล้ว ดาบยักษ์แทงเข้าไปในตำแหน่งท้องของอีกฝ่ายอย่างแม่นยำ ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะการต่อสู้ประจัญบานห้ามโจมตีใส่ห้องคนขับของหุ่นรบ ดาบนี้ย่อมแทงเข้าไปในห้องคนขับของผ ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูง สังหารทิ้งในชั่ววินาทีแน่นอน
แต่ว่าต่อให้เป็นแบบนี้ ออปติคัลคอมพิวเตอร์ยังคงตัดสินว่าผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงถูกหลี่หลานเฟิงสังหารทิ้งในชั่ววินาที หุ่นรบถูกล็อกในพริบตาก่อนจะล้มกระแทกพื้นอย่างหนักหน่ว วง
เมื่อกำจัดผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงไปได้หนึ่งตัวแล้ว หลี่หลานเฟิงก็ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลาย ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษสองคนที่เหลือถึงจะเป็นคู่ต่อสู้ที่แท้จริงของพวกเขาและผู้คว วบคุมหุ่นรบระดับสูงคนนั้นจริงๆ แล้วเป็นแค่คนที่ไร้การคุกคามมากที่สุดในหมู่คู่ต่อสู้ทั้งสามคนเท่านั้น
สาเหตุที่หลี่หลานเฟิงจัดการกับผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงตัวนี้ก่อนเป็นเพราะคู่ต่อสู้คนนี้จัดการง่ายมากที่สุด สามารถทำให้เขาสังหารทิ้งในดาบเดียว และเพิ่มการคุกคาม ทำให้ผู ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษสองคนนั้นเกิดความพะว้าพะวงขึ้นมา
เมื่อมีความพะว้าพะวงก็จะเกิดความระมัดระวังรอบคอบและก็ความลังเล ซึ่งเป้าหมายท้ายที่สุดของหลี่หลานเฟิงก็ คือทำให้พวกเขาเกิดความลังเล
ควรพูดว่าการระเบิดพลังของหลี่หลานเฟิงทำให้ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษสองคนตกใจไม่หยุดจริงๆ ลองคิดดูสิ คนที่โดนพวกเขากดดันไร้กำลังตอบโต้กลับพลันระเบิดขึ้นสังหารเพื่อนร่วม มทีมของตัวเองไปหนึ่งคน ดูยังไงก็น่าประหลาดมาก บวกกับพวกเขาสังเกตเห็นว่า ‘ศัตรู’ ที่อยู่รอบๆ เอาชนะเพื่อนร่วมทีมของพวกเขาแล้ว เวลานี้กำลังจ้องมองพวกเขาอย่างหิวกระหาย นี่ท ทำให้พวกเขาพะว้าพะวงมากยิ่งขึ้น
มันเป็นเหมือนกับที่เหลี่หลานเฟิงคาดการณ์ไว้ ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษสองคนเริ่มระมัดระวังตัวขึ้นมา ไม่สิ ควรพูดว่า พวกเขาไม่มีความคิดสู้ต่อแล้ว แต่ว่าเตรียมตัวหาโอกาสหลบหนี ไป นี่ทำให้แรงกดดันของหลี่หลานเฟิงกับหลี่ซื่ออวี๋เบาลงทันตา ทั้งสองคนเริ่มค่อยๆ เปลี่ยนจากถูกกดดันมาเป็นตอบโต้กลับ
ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษสองคนไม่ได้ลังเลนานมากนัก หลังจากที่พวกเขาต้านทานการโจมตีของหลี่หลานเฟิงกับหลี่ซื่ออวี๋แล้ว แต่ละคนก็มองหาเส้นทางหลบหนีกลับไปราวกับปรึกษากันไ ไว้ดีแล้วก็ไม่ปาน แน่นอนว่าเส้นทางหลบหนีที่พวกเขาเลือกคือคนละทางกับที่พวกหลิงหลานอยู่เฝ้าคอย พวกเขาไม่อยากโยนตัวเองเข้าไปในกับดักหรอกนะ ในความคิดของพวกเขาขอเพียงหลบหน นีรัศมีโจมตีของศัตรูได้ พวกเขาก็จะหลบหนีได้อย่างราบรื่น…
พวกเขาประเมินหลี่หลานเฟิงกับหลี่ซื่ออวี๋ต่ำไป และก็ประเมินพวกหลิงหลานต่ำไปเช่นกัน พวกเขากำลังจะพุ่งหลบออกไปเท่านั้น หลี่หลานเฟิงกับหลี่ซื่ออวี๋ก็เหมือนกับรู้ทิศทางห หลบหนีของอีกฝ่าย ไล่ตามไปยังทิศทางของพวกเขาแต่ละคนพร้อมกัน
ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษหนึ่งในนั้นรู้สึกแค่ว่าเบื้องหน้ามีเงาคนแวบขึ้นมา จากนั้นก็เห็นหลี่หลานเฟิงปรากฏตัวบนเส้นทางหลบหนีของเขาแล้ว
“นี่มันเป็นไปได้ยังไง?” ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษเหมือนกัน เขาพุ่งหนีก่อน แล้วอีกฝ่ายยังเร็วกว่าเขาหนึ่งก้าวได้อย่างไร? เขาสับสนเขาไม่เข้าใจ แต่ไม่มีเวลาให้เขาขบคิดให้ ละเอียดแล้ว เขาได้แต่ชูดาบยักษ์ในมือขึ้นมา แล้วโจมตีใส่อีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยม
ในเมื่อแผนการของเขาถูกมองออก และถูกคนขวางทางแล้ว เช่นนั้นก็ได้แต่ฝืนฝ่าออกไป
ส่วนอีกทางด้านหนึ่ง ถึงแม้ปฏิกิริยาตอบสนองของหลี่ซื่ออวี๋จะรวดเร็วมาก แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นแค่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูง ด้อยกว่าคู่ต่อสู้หนึ่งระดับ ไม่นานก็ถูกฝ่ายตรงข้าม ทิ้งห่างไปหลายเมตร
เวลานี้เอง จ้าวจวิ้นที่นั่งยองๆ บนพื้นด้วยความหงุดหงิดมาตลอดพลันได้ยินหลิงหลานตะโกนว่า “ไปทำความดีชดใช้ความผิดซะ!” วินาทีต่อมา เขาก็ถูกคนเตะก้นหุ่นรบของเขาออกไปแรงๆ ห หุ่นรบพุ่งขึ้นฟ้าก่อนจะหล่นไปทางหลี่ซื่ออวี๋
“ลูกพี่ ฆาตกรรมแล้ว!” จ้าวจวิ้นขับหุ่นรบของตัวเองอย่างลนลาน เปิดใช้เครื่องยนต์ไอพ่นในพริบตา เนื่องจากแรงเตะของลูกพี่ จ้าวจวิ้นถึงเปิดใช้เครื่องยนต์ไอพ่นจนถึงค่าสูงสุดได้อย่าง งรวดเร็ว เขาข้ามผ่านหลี่ซวี่อวี๋ บินไปหาคู่ต่อสู้ที่กำลังจะหนีเข้าไปในป่าทึบ
“บัดซบ!” พอเห็นจ้าวจวิ้นไล่ตามมา หลี่ซื่ออวี๋ก็โมโหมาก ดาบยักษ์ในมือพลันซัดไปที่ฝ่ายตรงข้าม
จากนั้นก็ได้ยิงเสียง ‘เคล้ง’ ดาบยักษ์อัดใส่คู่ต่อสู้ คู่ต่อสู้รับมือไม่ทัน หุ่นรบถูกกระแทกจนโซเซร่วงลงไป แต่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษคนนั้นมีความสามารถในการควบคุมที่เก่งกา าจมาก พริบตาเดียวก็ปรับหุ่นรบให้เรียบร้อย หลบหนีไปทางป่าทึบต่อ
‘เคล้ง!’ เสียงทรงพลังดังขึ้นมา หลี่หลานเฟิงกับคู่ต่อสู้ปะทะกันหนึ่งกระบวนท่า ทั้งสองคนถอยหลังแยกจากกันหลายสิบเมตร หลิงหลานขมวดคิ้วน้อยๆ เธอขยับนิ้วมือ แต่สุดท้ายก็ยังล้ มเลิกความตั้งใจ
เนื่องจากหลี่หลานเฟิงยืนอย่างมั่นคงแล้วก็พุ่งไปหาฝ่ายตรงข้ามอย่างอำมหิตอีกครั้ง เขาใช้ท่าทางนี้บอกหลิงหลานว่า เขาจะจัดการคู่ต่อสู้คนนี้เอง ถึงแม้หลิงหลานรู้สึกไม่สบายใจน นิดหน่อย แต่เธอยังคงเลือกเคารพการตัดสินใจของหลี่หลานเฟิง
‘เคล้ง!’ เสียงนี้เป็นเสียงของจ้าวจวิ้นที่ขวางผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษไว้ เสียงนี้ก็หมายความว่า ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษที่อยากหลบหนีคนนั้นไม่มีโอกาสหนีรอดอีกต่อไปแล้ว
‘เคล้ง! เคล้ง! เคล้ง!’ หลี่หลานเฟิงกับคู่ต่อสู้ปะทะติดต่อกันหลายครั้ง ในที่สุดดาบยักษ์ของคู่ต่อสู้ก็กระเด็นออกไป หลี่หลานเฟิงที่อยู่ในสภาวะการควบคุมข้ามระดับมาตลอดก็แสดงพ พลังหุ่นรบระดับพิเศษของตัวเองออกมาจนถึงขีดสุด นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษสามารถต้านทานได้ เมื่อสูญเสียดาบยักษ์ไปก็หมายความว่าคู่ต่อสู้ไม่มีโอกาสอีกต่อไปแล้ว อย ย่างที่คิดไว้จริงๆ หลี่หลานเฟิงฉวยโอกาสนี้ใช้ท่าการโจมตีต่อเนื่องแล้ว จากนั้นก็ KO อีกฝ่ายตอนที่ถึงกระบวนท่าที่สี่
หลังจากที่หลี่หลานเฟิงล้มคู่ต่อสู้ได้ จ้าวจวิ้นก็เอาชนะคู่ต่อสู้คนสุดท้ายได้เช่นกัน การต่อสู้เผชิญหน้ากันระหว่าง 24 คน VS 7 คนนี้ การต่อสู้ที่ดูเหมือนความสามารถแตกต่างกันมาก ก สุดท้ายพวกหลิงหลานเจ็ดคนกลับคว้าชัยชนะไปได้อย่างเหนือความคาดหมาย นี่ทำให้ทหารทุกคนรวมถึงพวกกรรมการที่เห็นการต่อสู้นี้ในห้องสังเกตการณ์ต่างส่งเสียงฮือฮาขึ้นมา