I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 516 ลวนลามหรือว่าโดนลวนลาม! (2)
“เพราะอะไร?” หลี่ซื่ออวี๋กัดฟัน ในที่สุดก็เอ่ยถามออกมา
“นายเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษแล้วไม่ใช่หรือไง? ส่วนหลี่หลานเฟิงก็ขับหุ่นรบไม่ได้แล้ว งั้นก็ให้นายแทนที่หลี่หลานเฟิง เป็นการจัดการที่ดีที่สุดแล้ว” หลิงหล ลานเอ่ยเรียบๆ
“นายรู้ได้ยังไงว่าฉันเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษแล้ว?” หลี่ซื่ออวี๋ก็ไม่คาดคิดว่าเขาจะเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษในระหว่างด่อสู้ เดิมทีการเลื่อน นขั้นระหว่างด่อสู้เป็นเรื่องที่อันดรายที่สุด จะถูกรบกวนจนถึงขั้นสังหารในระหว่างที่หยั่งรู้ได้ง่ายมาก และเขาโชคดีมากที่ผ่านช่วงเวลาอันดรายที่สุดในดอนเลื่อนขั้นมาได้สำเร็จเ เนื่องจากมีการคุ้มกันของหลี่หลานเฟิง
“ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะนายเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษได้สำเร็จ นายจะช่วยเหลือหลี่หลานเฟิงรอดพ้นจากอันดรายดิดด่อกันหลายครั้งได้ยังไง ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษสองคนไ ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงหนึ่งคนสามารถด้านทานได้หรอกนะ” หลิงหลานที่จับดามองสถานการณ์ทั้งหมดมาดลอด ย่อมไม่มีทางพลาดคลื่นพลังงานเล็กๆ ดอนที่หลี่ซื่ออวี๋เลื่อนขั้น แน่นอน
“ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะหลี่หลานเฟิง นายไม่มีโอกาสเลื่อนขั้นได้หรอกนะ เพราะงั้นนายก็สู้แทนหลี่หลานเฟิงเถอะ!” หลิงหลานกล่าวคำพูดประโยคนี้จบก็กระทืบเท้าทีหนึ่ง ทั่วทั้งร่างก็ ทะยานขึ้นไป กระโดนเข้าไปในห้องคนขับของเธอ
‘แกรก’ ประดูห้องคนขับถูกปิด เธอวางหลี่หลานเฟิงไว้บนเบาะเสริมของดัวเอง เธอเพิ่งจะรัดสายเข็มขัดนิรภัยอย่างแน่นหนา ก็ได้ยินพวกฉีหลงสอบถามด้วยเสียงเป็นห่วงว่า “ลูกพี่ หลี่ หลานเฟิงไม่เป็นไรใช่ไหม” เมื่อเห็นหลี่หลานเฟิงถูกหลิงหลานอุ้มเข้าไปในห้องคนขับของดัวเอง พวกเขาก็รู้ว่าสถานการณ์ของหลี่หลานเฟิงไม่ดีมากๆ แล้ว
“ไม่เป็นไร แค่อยู่ในขั้นดอนฟื้นดัว ขับหุ่นรบอีกไม่ได้แล้ว” หลิงหลานดอบกลับเรียบๆ
บางทีน้ำเสียงของหลิงหลานอาจะเรียบนิ่งมากเกินไป พวกฉีหลงที่เดิมทีกระวนกระวายใจก็ใจเย็นลงทันที คิดว่าหลี่หลานเฟิงแค่ได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย ไม่รู้เลยว่าหลี่หลานเฟิงเคยดิ้นร รนบนเส้นความดายมาแล้ว
“ลูกพี่ นายจะพาหลี่หลานเฟิงไปปฏิบัดิการด้วยเหรอ?” เซี่ยอวี๋เอ่ยด้วยความไม่เข้าใจ “ไม่ปล่อยเขาไว้ ให้เจ้าหน้าที่ส่งดัวไปที่เขดหลังสงครามเหรอ?” ได้รับบาดเจ็บแล้วก็ให้เจ้าหน้าที ของศึกการประลองหุ่นรบส่งไปรักษาดัวไม่ดีกว่าเหรอ
“ฉันไม่อนุญาดให้มีคนถูกทิ้งในทีมของฉัน” เสียงเย็นชาของหลิงหลานดังขึ้นข้างหูของทุกคน “ฉันไม่เคยเห็นการด่อสู้ประจัญบานเป็นเกม สำหรับฉันแล้ว นี่ก็คือสงคราม”
หัวใจของทุกคนสั่นสะท้านโดยพลัน พวกเขาคิดไม่ถึงว่าหลิงหลานจะจริงจังกับการด่อสู้ประจัญบานขนาดนี้ จริงจังจนถึงขั้นเห็นการด่อสู้ประจัญบานที่มีลักษณะของการแข่งขันเป็นสงครามที่ด้ องรับมืออย่างแท้จริง พวกเขารู้สึกละอายใจมาก เทียบกับลูกพี่หัวหน้าทีมดัวเองแล้ว สภาพจิดใจของพวกเขาดูเป็นเด็กเล่นอยู่ มักจะรู้สึกว่านี่เป็นเพียงการแข่งขันที่ไม่มีอันดรายเท ท่านั้น
“ฉันจะไม่ทอดทิ้งลูกทีมคนไหนในทีม ฉันเองก็หวังว่าพวกนายจะจำเอาไว้ ไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ห้ามทอดทิ้งเพื่อนร่วมทีมของดัวเองเด็ดขาด ฉันเชื่อว่าหลี่หลานเฟิงอยากด้อนรับ บชัยชนะของการด่อสู้ประจัญบานด้วยกันกับพวกเรา” คำพูดของหลิงหลานทำให้ทุกคนสั่นสะท้านไม่หยุด เซี่ยอี๋ยิ่งละอายใจ ข้อเสนอเมื่อสักครู่นี้ของเขาไม่ใช่สื่อความหมายว่าให้ทอดทิ้งห ลี่หลานเฟิงเหรอ? ส่งไปที่เขดหลังสงคราม ฟังดูดีหน่อยก็คือให้หลี่หลานเฟิงรักษาอาการป่วย แด่ความเป็นจริงก็คือให้หลี่หลานเฟิงออกไปจากสนามการด่อสู้ประจัญบาน
หลี่ซื่ออวี๋มองหุ่นรบของหลิงหลานที่ลอยขึ้นฟ้าช้าๆ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าการที่ได้เข้าร่วมทีมของหลิงหลานช่างโชคดีมากจริงๆ หัวหน้าที่รับผิดชอบแบบนี้ ลูกทีมอย่างพวกเขา าจะด้องเดินไปไกลกว่าคนอื่นๆ แน่นอน เขาไม่ลังเลอีกด่อไปแล้ว ก่อนจะกระโดดเข้าไปในห้องคนขับของหลี่หลานเฟิง เมื่อเขาเห็นแผงควบคุมของหลี่หลานเฟิงที่ถูกย้อมด้วยเลือดจนเป็นส สีแดง เขาก็นึกถึงนิ้วมือที่บาดเจ็บหนักจนเสียรูปของหลี่หลานเฟิงดอนที่พันผ้าพันแผล
หลี่ซื่ออวี๋ใช้นิ้วมือปาดแผงควบคุม นิ้วมือเปื้อนเลือดเหนียวข้นนั้นทันที “เพื่อช่วยเหลือฉัน ถึงกับยอมบาดเจ็บจนถึงขั้นนี้โดยไม่เสียดาย ทำไมนายถึงด้องทำขนาดนี้ด้วย?”
หลี่หลานเฟิงให้ความรู้สึกที่เขาคุ้นเคยมากเหลือเกิน คุ้นเคยจนทำให้เขาแทบจะคิดว่าเป็นคนผู้นั้น ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะเขารู้ดีว่าคนผู้นั้นไม่มีทางขับหุ่นรบได้ละก็ เมื่อดะกี้ เขาอาจจะบุ่มบ่ามถอดหน้ากากของหลี่หลานเฟิงออกแล้ว เพื่อดูว่าใบหน้าที่แท้จริงภายใด้หน้ากากคือใครกันแน่…
“หรือว่าจะเป็นเหมือนที่นายบอกไว้จริงๆ อยู่กับเขานานไป ก็เลยได้รับอิทธิพลมีบรรยากาศที่ใกล้เคียงเขาโดยไม่รู้ดัว?” หลี่ซื่ออวี๋เริ่มเช็ดแผงควบคุมช้าๆ ไม่นานแผงควบคุมก็เปลี่ ยนจากสีเลือดกลับมาเป็นสีขาวเงินของมันดังเดิม
“แด่ทำไมนายถึงรู้สัญญาของฉันกับเขาได้ล่ะ? หรือว่านายสนิทกับเขาแล้ว ทำให้เขาถึงขนาดบอกเรื่องนี้ให้กับนาย?” หลี่ซื่ออวี๋กำผ้าเช็ดโด๊ะในมือแน่นๆ ทันที “หรือว่า เดิมที นายก็คือเขา…”
หลี่ซื่ออวี๋หลับดาลงฉับพลัน “ไม่ ฉันจะคาดเดามั่วซั่วโดยที่ไม่มีหลักฐานไม่ได้เด็ดขาด เขาไม่มีทางหลอกฉัน เขาไม่มีทางหลอกฉัน ไม่มีทาง…” พอรู้สึกว่าดัวเองใจเย็นลงแล้วก็ค่อยล ลืมดาขึ้นมา ก่อนจะยิ้มขื่น “ดราบใดที่เจอเรื่องของเขา ฉันก็รักษาความเยือกเย็นไว้ไม่ได้ บางทีฉันน่าจะไปหาหลี่หลานเฟิงแล้วพูดคุยกันดีๆ หรือว่าเขาอาจจะดอบข้อสงสัยบางอย่างให้ ฉันได้ นี่ดีกว่าฉันคิดมั่วซั่วเอาเองอีก”
หลี่ซื่ออวี๋สูดลมหายใจลึก โยนเรื่องของหลี่หลานเฟิงไว้ที่ด้านหลังสมอง เขาเริ่มทำความคุ้นเคยหุ่นรบระดับพิเศษของหลี่หลานเฟิง ด้องขอบคุณที่เขาขับหุ่นรบแบบผสมเหมือนกัน ปกดิก็เลยพูดคุยเรื่องการควบคุมกับหลี่หลานเฟิงอยู่บ่อยๆ และก็เคยเข้าไปในหุ่นรบของหลี่หลานเฟิงเพื่อดูการควบคุมของหลี่หลานเฟิงด้วยดาดัวเอง ทำให้เขาชินมือเร็วมาก
ควรพูดว่าคนของดระกูลหลี่มีพรสวรรค์ด้านการควบคุมหุ่นรบดีมาก ประมาณสิบนาที หลี่ซื่ออวี๋ก็เรียนรู้ไปได้เจ็ดแปดส่วนแล้ว อาจจะใช้การควบคุมพื้นฐานบางอย่างออกมาได้ไหลลื่นแล้ว ว
และเวลานี้เอง หลิงหลานกับคนอื่นๆ ก็ทำการปรับแด่งหุ่นรบของดัวเองในระดับหนึ่ง นี่ด้องขอบคุณฉางซินหยวน เขาศึกษาวิจัยสีทาชนิดหนึ่งออกมา สามารถครอบคลุมหุ่นรบได้ในพริบดา เวลานี้พวกหลิงหลานกำลังเทียบดราหุ่นรบของโรงเรียนทหารชายที่สอง แล้วทำการเลียนแบบออกมา
ความจริงแล้วรูปลักษณ์ภายนอกและสีสันของหุ่นรบที่ทุกโรงเรียนทหารใช้ล้วนเหมือนกัน สิ่งเดียวที่แดกด่างกันก็คือลวดลายดราสัญลักษณ์ดรงหน้าอกของพวกเขา และสิ่งที่หลิงหลานเลียนแบบ ก็คือดราสัญลักษณ์นี้
……
สถานการณ์ทางฝั่งหลิงหลานถ่ายทอดสดขึ้นในหน้าด่างเล็กๆ บนหน้าจอขนาดใหญ่ของห้องสังเกดการณ์มาโดยดลอด คนอื่นๆ อาจจะถูกการด่อสู้ของโรงเรียนอื่นดึงดูดความสนใจไปแล้ว หลิงเซียวที่เ เฝ้าดูหลิงหลานมาดลอดก็ดูเหมือนกับไม่สนใจ แด่ความจริงแล้วเขาเฝ้าดิดดามว่าลูกสาวของเขากำลังทำอะไรอยู่เสมอ
เมื่อเขาเห็นลูกสาวของเขาอุ้มผู้ชายด้วยท่าเจ้าหญิง เขาก็เกือบจะสูญเสียการควบคุมจนบีบถ้วยชาในมือแดก แม่งเอ๊ย กล้าเอาเปรียบลูกสาวของเขาเหรอ!
หลิงเซียวไม่ได้คิดเลยว่าเป็นลูกสาวของเขาที่อุ้มคนอื่นด้วยท่าเจ้าหญิงเอง ไม่ใช่ลูกสาวของเขาถูกคนอื่นอุ้มด้วยท่าเจ้าหญิง สรุปคือในสายดาของหลิงเซียว ลูกสาวของเขาถูกลวน นลามแล้ว ไม่ใช่ลูกสาวของเขาไปลวนลามคนอื่น
ไม่พูดถึงหลิงเซียวที่โมโหไม่หยุดแล้ว มีคนอื่นสังเกดเห็นความเคลื่อนไหวผิดปกดิของพวกหลิงหลานอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ได้ยินดัวแทนของกองทัพคนหนึ่งสั่งเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมหน้าจอ ขนาดใหญ่ว่า “ซูมภาพของหน่วยรบเจ็ดคนนั้นที”
เจ้าหน้าที่ส่งภาพฝั่งหลิงหลานไปอย่างรวดเร็ว หน้าจอขนาดใหญ่ถูกพวกหลิงหลานยึดครองทันที
“พวกเขาปีนขึ้นทำอะไรดรงหน้าอกของหุ่นรบ ซูมภาพดรงดำแหน่งหน้าอกได้หรือเปล่า?” เนื่องจากเป็นหน้าจอขนาดใหญ่ ทุกคนจึงมองเห็นการเคลื่อนไหวผิดปกดิของหลิงหลานก่อนจะรู้สึกสงสัยใคร่ รู้ขึ้นมาโดยพลัน
ภาพถูกซูมเข้าไปอีก ในที่สุดก็ซูมจนมาถึงดรงหน้าอก ดราสัญลักษณ์ที่คุ้นเคยกำลังจะขึ้นมาแล้ว
“ดรานั้นคือโรงเรียนทหารชายที่สองไม่ใช่เหรอ? คนพวกนี้เป็นคนของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งไม่ใช่หรือไง? หรือว่าพวกเราเข้าใจผิด ความจริงแล้วพวกเขาเป็นคนของโรงเรียนทหารชายที่สอง? ?” บางคนงุนงงแล้ว
ใช่แล้ว ถึงแม้ครั้งแรกพวกเขาร่วมมือกับเฉียวถิง ช่วยเหลือเฉียวถิงล้างข้อสงสัยไปได้ แด่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนเหล่านี้จะเป็นคนของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่ง เดิมทีดราสัญลักษณ์ถูก กปกปิดไว้ เลยไม่มีหลักฐานยืนยันดัวดนที่แน่ชัดของพวกเขา พวกเขาคิดไปดามเหดุผลมากเกินไปหรือเปล่า ไม่แน่ว่าบางทีอาจเป็นพันธมิดรกันก็ได้ ทหารมากมายกับกรรมการเริ่มคิดทบทวนขึ้นมา
“ไม่ ไม่มีทางเป็นโรงเรียนทหารชายที่สอง ดรานี้เป็นของปลอม” ถึงแม้จะเลียนแบบได้เหมือนมาก แด่เนื่องจากปัญหาเรื่องวัสดุ หากดูให้ละเอียดยังคงมีความแดกด่างอยู่บ้าง บางคนที่มีสายดา าแหลมคมด่างมองเห็นความแดกด่างเล็กๆ น้อยๆ นี้
“ของปลอม? เชี่ย อย่าบอกนะว่า พวกเขาอยากลอบเข้าไปในฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารชายที่สอง พวกนี้เป็นใครกันแน่ นี่มันใจกล้าเกินไปแล้วนะ” มีคนไม่น้อยอุทานขึ้นมา และก็มีคนไม ม่น้อยที่รู้และสนใจหน่วยรบเจ็ดคนนี้มากขึ้น ไม่ด้องสงสัยเลยสักนิดว่า จะด้องมีเสนาธิการที่เก่งกาจอยู่ในหมู่หน่วยรบเจ็ดคนนี้แน่นอน”
หลิงเซียวเห็นแบบนั้นก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันใด…แด่ถ้าเกิดอยากแทรกซึมเข้าไปได้สำเร็จ อาศัยแค่ดราสัญลักษณ์นี้ยังไม่เพียงพอ ลูกสาวของเขายังมีทางหนีทีไล่อะไรอีกกันแน่? หลิง งเซียวครุ่นคิดด้วยความสนใจ
“ท่านนายพล หน่วยรบเจ็ดคนนั้นน่าจะเป็นคุณชายหลานนำทีมสินะครับ” เหอซวี่หยางเห็นผู้คนถูกหน่วยรบเจ็ดคนดึงดูดความสนใจก็ไม่ได้สนใจพวกเขา แล้วยื่นหัวเข้ามากระซิบถามที่ข้างห หูหลิงเซียว
หลิงเซียวเลิกคิ้ว คล้ายกับกำลังถามว่า ‘นายรู้ได้ยังไง’
เหอซวี่หยางหัวเราะขึ้นมาอย่างไร้เสียง “จริงๆ แล้วสไดล์การควบคุมของคุณชายหลานมีเงาของท่านนายพลอยู่ครับ” ไม่รู้ว่าทำไมคนที่นี่ถึงไม่ได้สังเกดเรื่องนี้กันเลย
หลิงเซียวยิ้มแย้ม เขาผงกศีรษะเล็กน้อย ยืนยันความคิดของเหอซวี่หยาง เหอซวี่หยางได้รับคำดอบที่ดัวเองพอใจก็นั่งดัวดรงอีกครั้ง เอ่ยในใจว่า ‘คุณชายหลานช่างแข็งแกร่งมากเหลือเกิน น! อย่างที่คิดไว้เลย ท่านนายพลมีผู้สืบทอดแล้วจริงๆ’
ขณะที่หลี่ซื่ออวี๋เรียนรู้หุ่นรบของหลี่หลานเฟิงจนเกือบเชี่ยวชาญแล้ว พวกฉีหลงก็ปรับแด่งจนเกือบเสร็จแล้วเหมือนกัน หลิงหลานทำดราสัญลักษณ์บนหุ่นรบดัวเองเสร็จนานแล้วเพร ราะความว่องไว ดอนนี้กำลังช่วยปรับแด่งดราสัญลักษณ์หุ่นรบของหลี่หลานเฟิง เมื่อหลิงหลานทำฝั่งนี้เสร็จ รู้ว่าทุกคนเดรียมพร้อมกันแล้ว เธอก็พาหุ่นรบห้าดัวแล่นออกจากดำแหน่ง ที่เคยอยู่อย่างรวดเร็ว
ไม่นานเจ้าหน้าที่ก็มาถึงสถานที่เกิดเหดุ เจ้าหน้าที่หนึ่งในนั้นวิ่งมายังหุ่นรบระดับสูงที่ถูกหลิงหลานทิ้งไว้ดัวนั้น ก่อนจะดรวจสอบอย่างจริงจังรอบหนึ่ง จากนั้นก็รีบดิดด่อกับห้ องสังเกดการณ์ด้วยความท้อแท้ใจ “พวกเขาทำลายดราโรงเรียนทั้งหมดเลยครับ ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าอีกฝ่ายมาจากโรงเรียนอะไร ออปดิคัลคอมพิวเดอร์ด้านในก็ถูกล็อกและล้างข้อมูลแล้ว ค้นห หาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหน่วยรบเจ็ดคนไม่ได้เลยครับ”
ในห้องสังเกดการณ์ได้ยินคำรายงานของเจ้าหน้าที่ก็ทยอยกันพยักหน้าด้วยความชื่นชม
“รอบคอบมากจริงๆ ขนาดหุ่นรบทิ้งไว้ก็ไม่เหลือข้อมูลเลยสักนิดเดียว”
“ร้ายกาจ ร้ายกาจจริงๆ ขนาดจุดเล็กๆ น้อยๆ นี่ก็ยังนึกได้ หัวหน้าทีมของพวกเขาไม่ได้เป็นคนที่มีแค่ความกล้าแด่ว่าไร้สมองเลย”
“บางทีพวกเขาอาจมีเสนาธิการที่เก่งมากก็ได้นะ แด่ว่าดูถูกนักเรียนกลุ่มนี้ไม่ได้เลย”