I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 526 ไม่สนใจ!
ในที่สุดเจี่ยงเส่าอวี่ก็หลุดพ้นจากสภาวะเข้าตาจนที่โดนโจมตีขนาบข้างสองด้านแล้ว สถานการณ์พลันเปลี่ยนเป็นดีขึ้นมา ทว่าตอนนี้หน่วยรบหกหน่วยของเขาก็ลดลงฮวบฮาบจนเหลือแค่สามสิบ สามคนแล้ว หน่วยรบพันธมิตรสองหน่วย ถูกทำลายยับเยิน ส่วนหน่วยรบสี่หน่วยที่เขาพามาก็มีแค่หน่วยรบของเขาเท่านั้นที่ยังคงสมบูรณ์ ส่วนหน่วยรบอื่นต่อให้ไม่ได้ถูกทำลายไปครึ่งหน นึ่ง ก็สูญเสียผู้ควบคุมหุ่นรบที่มีความสามารถไปหลายคนเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ผ่านพ้นความโชคร้าย ในที่สุดก็ได้รับโชคดีแล้ว เจี่ยงเส่าอวี่ค้นพบภูมิประเทศอันยอดเยี่ยมที่เหมาะสำหรับการป้องกันสกัดกั้น เขาเลยพาผู้ควบคุมหุ่นรบที่เหลืออยู พุ่งเข้าไปในนั้นโดยไม่ลังเล แล้วตั้งขบวนรบขึ้นมาโจมตีสกัดกองกำลังที่ไล่ตามหลังอย่างเต็มกำลัง
นี่ทำให้กองกำลังด้านหลังไม่กล้าเคลื่อนไหวบุ่มบ่าม การระดมยิงที่มากกว่าสามสิบคนยังคงแข็งแกร่งมาก ทั้งสองฝ่ายเลยตกสู่สภาวะชะงักงันอีกครั้ง
“เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ฉันจะโดนรั้งให้อยู่ที่นี่ไม่ได้เด็ดขาด” เจี่ยงเส่าอวี่รู้ดีว่า ครั้งนี้เขาจำเป็นต้องนำทีมบุกโจมตีฐานที่มั่นที่แท้จริงของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งอย่าง งรวดเร็วและรุนแรง ไม่เช่นนั้นถ้าเกิดปล่อยให้เฉียวถิงตระหนักขึ้นมาได้ละก็ เขาอยากทำลายฐานที่มั่นก็เป็นเรื่องยากแล้ว
“หัวหน้า นายพาคนส่วนหนึ่งไป ให้ฉันจัดการที่นี่เอง” เวลานี้เอง รองหัวหน้าทีมของเจี่ยงเส่าอวี่ก็เอ่ยกับเขาอย่างเฉียบขาด
เจี่ยงเส่าอวี่กัดฟันกล่าวว่า “งั้นฝากด้วยนะ” เพื่อรับประกันว่าสามารถขัดขวางกองกำลังที่ไล่ตามหลัง เจี่ยงเส่าอวี่เลยไม่ได้พาหน่วยรบของเขาไป หากแต่พาหน่วยรบสิบคนที่รวมกลุ่ม กันชั่วคราวหลังจากที่ทีมโดนทำลาย หลังจากนั้นพวกเขาพลันหันหน้าแล้วบินไปทางเขต G17 อย่างฉับไว
“เจี่ยงเส่าอวี่แบ่งกำลังแล้ว” ทางฝั่งอู่จย่งเห็นการเคลื่อนไหวของเจี่ยงเส่าอวี่ก็รีบติดต่อหานจี้จวินทันที
หานจี้จวินได้รับข่าวนี้ก็อดลอบถอนใจไม่ได้ “คนที่อยู่ป้องกันฐานที่มั่นยังน้อยไปหน่อย ถ้าเกิดมีหน่วยรบดักซุ่มโจมตีเพิ่มเข้ามาอีกสักสองหน่วย โรงเรียนทหารชายที่สองก็คงหนี รอดออกมาเยอะขนาดนี้ไม่ได้” หานจี้จวินมองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ แววตาเผยความกังวลใจรางๆ
มู่เส่าอวี่กับหานอวี้ที่เข้าร่วมการดักซุ่มโจมตีกับอู่จย่งเห็นเจี่ยงเส่าอวี่แบ่งกำลังออกไปโจมตีก็ตกใจยกใหญ่ หานอวี้รีบเอ่ยว่า “ให้ฉันกับมู่เส่าอวี่พาสองทีมเข้าไปพัวพัน นขัดขวางจากทางสองด้านดีกว่าไหม?”
ผู้บัญชาการชั่วคราวของการล้อมดักซุ่มโจมตีคืออู่จย่ง ดังนั้นหานอวี้เลยเสนอความคิดของเขาให้กับอู่จย่ง
“ไม่จำเป็น พวกเราจัดการคนพวกนี้ก่อน” อู่จย่งห้ามไว้ทันที
“แต่ในฐานที่มั่น นอกจากหน่วยพลาธิการกับหน่วยลาดตระเวนแล้ว ก็ไม่มีหน่วยรบทางการอื่นอีก พวกเขาต้านเจี่ยงเส่าอวี่ไม่ไหวหรอก” หานอวี้เอ่ยอย่างร้อนรน ถ้าเกิดฐานที่มั่นโดนเจี่ย ยงเส่าอวี่ตีแตก พวกเขาก็พ่ายแพ้โดยสิ้นเชิงแล้ว
“ไม่เป็นไร ลูกพี่หลานวางแผนจัดการไว้เรียบร้อยแล้ว พวกเราแค่ต้องจัดการปีกพวกนี้ของเจี่ยงเส่าอวี่เท่านั้น” อู่จย่งเอ่ยอย่างใจเย็น
ความสงบนิ่งของอู่จย่งทำให้หานอวี้ใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว มู่เส่าอวี่ได้ยินคำพูดนี้ แววตาก็ไหววูบ เขาถามเหมือนกับกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ “ผู้บัญชาการหลิงมีแผนการอะไรบางอย่างใช ช่หรือเปล่า?”
อู่จย่งไม่ตอบ เขาเพียงแต่ชี้ไปยังยี่สิบสองคนที่อยู่ทางด้านหน้าแล้วพูดว่า “ภารกิจของเราคือคนพวกนี้ คราวนี้จะให้พวกเขาหนีรอดจากมือพวกเราอีกไม่ได้เด็ดขาด” เขาบอกความคิดของ งตัวเองให้หานอวี้กับมู่เส่าอวี่ฟัง ทั้งสองคนพยักหน้าซ้ำๆ แล้วก็พาหน่วยรบแล่นไปยังทิศทางที่แต่ละคนเลือกอย่างรวดเร็ว
ก่อนออกเดินทาง หานอวี้ไม่ลืมข่มขู่อู่จย่งว่า “อู่จย่ง ทางที่ดีนายก็ภาวนาว่าอย่าให้ฐานที่มั่นเกิดเรื่องละ ไม่งั้นฉันจะไปคิดบัญชีกับนายแน่นอน”
ถึงแม้อู่จย่งกังวลใจมากเช่นกัน แต่เขาศรัทธาในตัวหลิงหลานมาก เขาเลยเอ่ยอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “หัวหน้าทีมหาน นายไม่มีโอกาสนั้นหรอก”
“คำไหนคำนั้น!” หานอวี้ชี้นิ้วใส่อู่จย่ง บ่งบอกว่าเป็นสัญญาระหว่างพวกเขาสองคน หานอวี้คิดว่า หากพวกโดนโรงเรียนทหารชายที่สองเอาชนะจนต้องออกจากสนามจริงๆ เขาคงไม่มีความสา ามารถไปเอาคืนหลิงหลาน แต่ว่ายังเอาคืนใส่ลูกน้องของหลิงหลานได้อยู่
ไม่ง่ายเลยกว่าจะส่งหานอวี้จากไปได้ พอเห็นเงาหลังของอีกฝ่ายหายไป อู่จย่งก็อดลอบส่ายหน้าไม่ได้ ‘หานอวี้คนนี้โกรธแค้นหลิงเทียนของพวกเขามากขนาดไหนกันนะ ถึงได้หาโอกาสแ แก้แค้นตลอดเวลาเลย’
เช่นนี้เอง หานอวี้กับมู่เส่าอวี่เลยพาหน่วยรบสองหน่วยบินตรงจากทางด้านซ้ายและด้านขวาออกไปหลายกิโลเมตรโดยพลัน หลุดออกจากระยะการค้นหาทางเรดาร์ของกองกำลังที่เจี่ยงเส่าอวี่ ทิ้งไว้เพื่อขัดขวางพวกเขา จากนั้นถึงค่อยเปลี่ยนทิศทางการบิน อ้อมมายังด้านหลังของฝ่ายที่โจมตีสกัดกั้น
รองหัวหน้าทีมที่อยู่โจมตีขัดขวางเห็นหน่วยรบของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งจากไปอย่างกะทันหันสองหน่วย เขาก็อดตกใจไม่ได้ ก่อนจะลอบใคร่ครวญกับตัวเองว่าฝ่ายตรงข้ามคิดจะทำอะไรกัน นแน่ หรือว่าอีกฝ่ายจะไล่ตามหัวหน้าทีมของพวกเขา? พอคิดแบบนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะร้อนใจขึ้นมา น่าเสียดายที่หน่วยรบสามหน่วยที่ฝ่ายตรงข้ามทิ้งไว้ทำการระดมยิงอย่างบ้าคลั่งสุดข ขีด จนทำให้พวกเขาไม่สามารถขยับได้ไปชั่วขณะ เขาที่อับจนปัญญาเลยได้แต่ติดต่อเจี่ยงเส่าอวี่ว่าให้พวกเขาระวังกองกำลังสองหน่วยที่อยู่ไล่ตามหลังนั้น
เจี่ยงเส่าอวี่ได้ยินข่าวนี้กลับไม่ได้วิตกกังวลเหมือนรองหัวหน้าทีม เขาถึงขนาดคิดว่าอีกฝ่ายแบ่งกำลังส่งผลดีต่อฝ่ายเขามากกว่า ฝ่ายตรงข้ามแบ่งหน่วยรบออกมาไล่ฆ่าพวกเขาสองหน่วย เช่นนั้นศัตรูทางด้านรองหัวหน้าทีมก็มีหุ่นรบประมาณสามสิบตัวเท่านั้น ไม่ต้องสงสัยเลยสักนิดว่า นี่เป็นการลดแรงกดดันของรองหัวหน้าทีมที่อยู่ป้องกันอย่างมหาศาล
เมื่อเจี่ยงเส่าอวี่ได้ยินว่าในหมู่หุ่นรบสามสิบตัวที่อยู่ปะทะกับรองหัวหน้าทีมยังมีหุ่นรบระดับสูงอีกห้าหกตัวด้วย เขาก็ยิ่งคิดว่านี่เป็นโอกาสของพวกรองหัวหน้าทีมแล้ว เจี ยงเส่าอวี่บอกความคิดของเขาให้รองหัวหน้าทีมว่าให้เขาหาโอกาสจัดการหุ่นรบสามสิบตัวนั้นจนหมด แล้วค่อยมารวมกลุ่มกับพวกเขา
เจี่ยงเส่าอวี่มั่นใจในความสามารถของหน่วยรบตัวเองมาก ผู้ควบคุมหุ่นรบที่เขาพามาล้วนเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษขั้นสูงสุดที่เลือกเฟ้นมาอย่างดี ไม่มีทางที่ผู้ควบคุมหุ่นรบระ ะดับพิเศษทั่วไปจะเทียบได้เลย ยี่สิบสองต่อสามสิบ ดูเหมือนฝ่ายตรงข้ามได้เปรียบเรื่องจำนวน แต่พอตัดหุ่นรบระดับสูงออกไปห้าหกตัว จริงๆ แล้วจำนวนของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษก็ ไม่ต่างกันมากนัก เมื่อดูจากปัจจัยเรื่องระดับของหุ่นรบ ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่มีโอกาสเอาชนะได้เลย
เจี่ยงเส่าอวี่พลันลดความเร็วในการรุดหน้าทันทีเพื่อให้พวกลูกทีมตามมาทัน นอกจากนี้เขาก็อยากฉวยโอกาสจัดการหน่วยรบที่ไล่ตามมาสองหน่วยนั้นด้วย หากสามารถลดทอนกองกำลังป้องกันใน ฐานที่มั่นของอีกฝ่ายได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนหน้าที่จะโจมตีเขต G17 นี่ย่อมเป็นเรื่องที่ส่งผลดีอย่างมากต่อฝ่ายบุกโจมตีอย่างพวกเขา
หลังจากบินไปได้ประมาณสิบกว่านาที ก็เห็นเขต G17 ปรากฏขึ้นตรงเบื้องหน้าสายตา ทว่ายังคงไม่เห็นหน่วยรบสองหน่วยนั้นโผล่มาเลย
เวลานี้เอง เจี่ยงเส่าอวี่พลันได้รับคำขอติดต่อฉุกเฉินจากรองหัวหน้าทีม เขาเพิ่งจะกดปุ่มรับสายก็ได้ยินเสียงคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวมาจากทางฝั่งรองหัวหน้าทีม “หัวหน้า พวกเราติดกับ บแล้ว” ในนั้นยังแฝงไปด้วยเสียงระเบิดตูมของกระสุนปืนใหญ่นับไม่ถ้วนและเสียงอาวุธเย็นกระทบกันอย่างรุนแรง
ในใจเจี่ยงเส่าอวี่พลันหนักอึ้ง เขาตะโกนว่า “รองหัวหน้า เกิดอะไรขึ้น?”
“หน่วยรบสองหน่วยนั้นขนาบพวกเราจากทางด้านหลัง สารเลวเอ๊ย…” เจี่ยงเส่าอวี่ได้ยินรองหัวหน้าเอ่ยคำพูดนี้แค่ครึ่งเดียว ก็มีเสียงแผดตะโกนดังขึ้นทันที แล้วก็ไม่มีเสียงใดอีก
เวลานี้เจี่ยงเส่าอวี่ยังมีอะไรไม่เข้าใจอีก เกรงว่าหุ่นรบยี่สิบสองตัวที่เขาทิ้งไว้เพื่อโจมตีสกัดนั้นจะพินาศย่อยยับทั้งกองแล้ว
คิดๆ ดูแล้ว คนของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งใจกล้ามาก ไม่นึกเลยว่าอีกฝ่ายจะไม่สนใจที่พวกเขาเข้าไปใกล้ฐานที่มั่น แล้วตั้งอกตั้งใจจัดการหุ่นรบยี่สิบสองตัวที่เขาทิ้งไว้เพื่อ ทำหน้าที่โจมตีขัดขวางกองกำลังที่ไล่ตามมา และเป็นเพราะพวกเขาตัดสินใจผิดพลาดเอง เลยปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีอย่างไม่คาดฝัน…
“ระยำ!” เจี่ยงเส่าอวี่กวัดแกว่งดาบยักษ์ในมืออย่างเดือดดาล ดาบอันใหญ่โตก่อให้เกิดคลื่นคมดาบอันรุนแรง ฟันต้นไม้ด้านล่างที่อยู่ห่างจากเขาสิบกว่าเมตรลงทันที
เจี่ยงเส่าอวี่อดไม่ได้ที่จะโกรธเกรี้ยว เขาพาคนมาเจ็ดสิบสองคน โดยที่มาถึงเขต G อย่างราบรื่นตลอดทาง ทว่าพวกเขากลับพบอุปสรรคติดต่อกันด้านนอกเขต G17 จนท้ายที่สุดก็เหลือเพียงหุ่น รบสิบเอ็ดตัวโดยที่รวมเขาอยู่ในนั้นด้วย เจี่ยงเส่าอวี่รู้สึกได้ถึงความอัปยศอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ถ้าเกิดเขาแพ้ในมือเฉียวถิง บางทีเขาอาจจะยังหาข้อแก้ตัวได้บ้าง แต่ตอนนี้ฐ ฐานที่มั่นไม่มีเฉียวถิง มีแค่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษกับผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงธรรมดาเท่านั้น แต่ก็เป็นเพราะผู้ควบคุมหุ่นรบธรรมดาเหล่านี้ที่ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บแสนสาหัส
“ผู้บัญชาการ ตอนนี้ควรทำยังไงดี? ไม่งั้นพวกเรากลับไปพักที่เขต P ก่อนดีไหม?” หุ่นรบสิบตัวที่เหลืออยู่ มีเจ็ดคนที่เป็นคนของโรงเรียนทหารชายที่สอง ส่วนอีกสามคนเป็นคนของห หน่วยรบพันธมิตร เวลานี้คนของหน่วยรบพันธมิตรสามคนนี้เกิดความคิดอยากถอยทัพแล้ว
“ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ถ้าไม่ได้ไปดูฐานที่มั่นเขต G17 ของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งด้วยตัวเอง ฉันไม่มีทางยอมแน่นอน” เจี่ยงเส่าอวี่ฝืนข่มกลั้นโทสะ บอกการตัดสินใจของเขาออกมาด้วย ยสีหน้าทะมึน
บางทีอาจเป็นเพราะฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งดึงดูดใจมาก คนของหน่วยรบพันธมิตรสามคนที่ตอนแรกมีความคิดอยากถอยทัพ เวลานี้พวกเขาไม่มีความเห็นคัดค้านแล้วเช่นกัน หุ่นรบ สิบเอ็ดตัวจึงบินเข้าไปในเขต G17 อย่างรวดเร็ว
เขต G17 เงียบมาก แทบจะไม่เห็นร่องรอยของฐานที่มั่นเลยสักนิดเดียว ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะเจี่ยงเส่าอวี่มีความมั่นใจในแผนที่ของตัวเองมากละก็ เกรงว่าตอนนี้เขาก็คงสงสัยเหมือนกันว่า รายงานนี้ถูกต้องหรือเปล่า
พวกเจี่ยงเส่าอวี่สิบเอ็ดคนเริ่มสำรวจดูอย่างระมัดระวัง อยากหาเครื่องส่งสัญญาณวิทยุที่ซ่อนอยู่ในเขตป่าเขาที่กว้างใหญ่หนาทึบ ยังคงเป็นเรื่องที่ยากลำบากสุดขีด
“หานจี้จวิน พวกเขาเข้ามาในเขต G17 แล้ว ตอนนี้จะเอายังไงกันดี?” ภายในบริเวณแอ่งเขาแห่งหนึ่ง หลี่อิงเจี๋ยเห็นหน่วยรบของเจี่ยงเส่าอวี่ในหน้าจอ เขาก็ข่มกลั้นความร้อนใจไม่ ไหว และเอ่ยปากถามหานจี้จวินที่อยู่ข้างกาย
หานจี้จวินไม่ตอบ เขาเพียงแต่มองหน้าจอหุ่นรบอย่างใจเย็นเท่านั้น จ้องเขม็งที่เรดาร์หุ่นรบตาไม่กะพริบ ราวกับกำลังรอคอยอะไรบางอย่าง
หลี่อิงเจี๋ยเห็นหานจี้จวินไม่สนใจเขาก็แผดเสียงคำรามอย่างอัดอั้นตันใจทันที “แม่งเอ๊ย ฉันไม่สนใจแล้ว ฉันจะพาทีมไปขวางพวกเขาไว้”
หานจี้จวินได้ยินคำพูดนี้ก็ค่อยหันสายตาของตัวเอง แล้วเอ่ยถามอย่างไม่แสดงความเห็นว่า “นายจะขวางพวกเขายังไง?”
หลี่อิงเจี๋ยอึ้งไปกับคำถาม เขาทึ้งเส้นผมสั้นๆ ของตัวเองอย่างหงุดหงิด แล้วตะโกนว่า “งั้นจะทำยังไง? หรือว่าจะมองเจี่ยงเส่าอวี่ยึดฐานที่มั่นของพวกเขาตาปริบๆ? แล้วกลายเป็นโ โรงเรียนแรกในสี่อันดับท็อปที่ถูกไล่ออกจากสนามเหรอ?”
หานจี้จวินยังคงไม่ตอบ เขาเม้มปากแล้วจ้องมองเรดาร์อีกครั้ง
“นายพูดหน่อยสิโว้ย ถ้าไม่พูด งั้นฉันจะไปจริงๆ แล้วนะ ต้องสกัดฝ่ายตรงข้ามไว้ให้ได้ ต่อให้ต้องใช้การโจมตีแบบพลีชีพก็ตาม” หลี่อิงเจี๋ยกล่าวจบก็กดปุ่มช่องสื่อสารของทีมตัวเอ องโดยไม่สนใจแล้ว ก่อนจะออกคำสั่งว่า “ลูกทีมทั้งหมด เตรียมหน่วยรบให้พร้อม!”
“ครับ! หัวหน้า” ลูกทีมทุกคนตอบกลับอย่างตื่นเต้น ขณะเดียวกัน พวกเขาก็หักนิ้วมือตัวเองแรงๆ ในฐานะที่เป็นหน่วยพลาธิการผสมลาดตระเวน พวกเขาเป็นหน่วยรบที่มีกำลังรบอ่อนด้อยที่สุด ของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่ง แต่พวกเขาไม่ใช่คนขี้ขลาดที่เห็นศัตรูแข็งแกร่งก็ถอยหนี ทุกคนรู้ดีว่าถ้าเกิดพวกเขาเข้าไปโจมตีสกัดศัตรูจริงๆ ก็มีแค่ตัวเลือกเดียวเท่านั้น นั่นก็คื อการโจมตีแบบพลีชีพ ไม่เช่นนั้นหากอาศัยแค่หุ่นรบของพวกเขาและความสามารถในการควบคุมของพวกเขาย่อมไม่มีโอกาสใดๆ เลย
พวกเขายังคงจำตอนที่ลูกพี่หลานพาทีมประลองกับหน่วยรบของเฉียวถิงได้ ซึ่งอาศัยกระบวนท่านี้พลิกสถานการณ์ต่อสู้ทั้งหมด
“ยังมีเวลาอยู่ พวกเรายังมีโอกาส ยังมีโอกาสอยู่” เหงื่อเย็นๆ ค่อยๆ ผุดออกมาจากบนหน้าผากของหานจี้จวิน หรือว่าอีกฝั่งเกิดปัญหาขึ้นมา?