I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 536 เหนือกว่า! (2)
ฉางซินหยวนเห็นว่าการชนได้ผลก็ดีใจมาก เขาขับหุ่นรบชนเข้าไปอย่างโหดเหี้ยมอีกครั้ง นอกจากกระดองเต่าที่แข็งแกร่งทนทานของหุ่นรบแล้ว ฉางซินหยวนยังไม่มีวิธีการอื่นมาขัดขวางผู้ ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษคนนี้เลยจริงๆ
ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษที่ได้รับความเสียหายจะยอมโดนซ้ำอีกได้อย่างไร เขาขับหุ่นรบหลบเข้าไป ความห่างชั้นระหว่างหุ่นรบระดับสูงกับหุ่นรบระดับพิเศษยังคงปรากฏออกมา ถึงแม้ฉา างซินหยวนพยายามชดเชยอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ในด้านความเร็ว เขายังคงช้ากว่าอีกฝ่ายเล็กน้อย
‘ปัง!’ ลำแสงดาบสายหนึ่งจู่โจมมาจากทางด้านหลัง ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษตกใจมาก รีบขับหุ่นรบหลบหลีกทันที ถึงค่อยพบว่าหานจี้จวินที่ตามหลังเขามาตลอดมาถึงแล้ว…
“เสนาธิการ พวกเราร่วมมือกำจัดเขากัน” ฉางซินหยวนเห็นหานจี้จวินมาถึง ก็ใจเย็นลง หานจี้จวินก็คิดแบบนี้เช่นกัน ทั้งสองกำลังคิดจะร่วมมือกันขัดขวางอีกฝ่าย ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับ บพิเศษคนนั้นก็หันหน้าวิ่งหนีไป
ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษรู้ดีว่าเขาไม่อาจปล่อยให้อีกฝ่ายถ่วงเวลาไว้ได้ เขาไม่รู้ว่าผู้บัญชาการของจะถ่วงเวลาคนของหลินเซียวได้ถึงเมื่อไหร่ เขาจำเป็นต้องมาถึงใจกลางของโรงเร รียนทหารชายที่หนึ่งและยึดฐานที่มั่นโดยเร็วที่สุด
หานจี้จวินกับฉางซินหยวนเห็นฝ่ายตรงข้ามวิ่งหนีโดยไม่สู้ ก็รู้ว่าอีกฝ่ายวางแผนอะไรไว้ ทั้งสองคนเร่งความเร็วของหุ่นรบจนถึงขีดสุดและไล่ตามไป พวกเขาจะต้องหยุดยั้งไม่ให้อีกฝ่า ายทำตามใจต้องการ
ขณะที่ฝ่ายหนึ่งไล่ตาม ฝ่ายหนึ่งหลบหนี ก็มีเรื่องที่ทำให้พวกเขาตกใจเกิดขึ้น ทันทีที่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษคนนั้นมาถึงตำแหน่งใจกลาง จู่ๆ เขาก็ร่วงลงจากฟ้าตกลงมาสู่พื้น
ทั้งสองคนสบตากัน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ พวกเขากลัวว่าจะเป็นหลุมพรางเลยขับหุ่นรบร่อนลงมาอย่างระมัดระวัง หุ่นรบของฉางซินหยวนค่อนข้างทนทาน ดังนั้นเลยให้เขาไปตรวจสอบ หุ่นรบที่ร่วงลงมาตัวนั้น…
ขณะเดียวกัน ทางฝั่นหลินเซียวก็เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกัน หุ่นรบของเจี่ยงเส่าอวี่ที่กำลังต่อสู้กับเขาอย่างดุเดือดพลันสูญเสียการควบคุม ก่อนจะร่วงลงมา…
“หุ่นรบไม่มีปฏิกิริยาของแหล่งพลังงานไฟฟ้า เหมือนกับพ่ายแพ้ออกจากสนามเลยถูกล็อกไว้จริงๆ” หลังจากที่ฉางซินหยวนตรวจสอบแล้วก็เอ่ยกับหานจี้จวิน
หานจี้จวินครุ่นคิดอย่างหนักครู่หนึ่ง ทันใดนั้นแววตาของเขาก็สว่างไสวก่อนจะกล่าวว่า “นายว่าลูกพี่หลานยึดฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารชายที่สองได้แล้วใช่หรือเปล่า?”
แววตาของฉางซินหยวนพราวระยับ เขาพลันพยักหน้ากล่าวว่า “น่าจะเป็นแบบนี้นะ ไม่งั้นก็อธิบายไม่ได้แล้วว่าทำไมจู่ๆ หุ่นรบของโรงเรียนทหารชายที่สองถึงร่วงลงมาแล้วโดนไล่ออกจากสนาม ม”
ขณะทั้งสองกำลังตื่นเต้นยินดี หางตาของหานจี้จวินกลับเหลือบเห็นเงาเตี้ยๆ ร่างหนึ่งในหน้าจอหุ่นรบกำลังพุ่งเข้าไปในเต็นท์สักหลังตรงพื้นที่ใจกลาง
“แย่แล้ว!” หานจี้จวินร้องอุทานขึ้นมา
หุ่นรบร่วงลงไปไม่ได้หมายความว่าผู้ควบคุมหุ่นรบเสียชีวิต เขาลืมตรวจสอบพื้นที่ไปเลย หานจี้จวินขับหุ่นรบร่อนลงมาที่พื้นอย่างรวดเร็ว ห้องคนขับพลันถูกเปิดออก หานจี้จวินพุ่ งเข้าไปในเต็นท์หลังนั้นราวกับลำแสงสายหนึ่งก็ไม่ปาน
จากนั้นก็เห็นว่าภายในเต็นท์ มีผู้ควบคุมหุ่นรบคนหนึ่งกำลังยืนอยู่เบื้องหน้าเครื่องรับสัญญาณ เขาได้ยินเสียงเคลื่อนไหวด้านหลังก็หันหน้ากลับไปมองแวบหนึ่ง พอเห็นหานจี้จวิรก็ หัวเราะขึ้นมาทันที แล้วกล่าวว่า “ฉันโชคดีมากเลย และนายก็มาช้าไปแล้ว”
ฝ่ายตรงข้ามกดปุ่มที่ส่องสว่าง รอคอยให้สัญญาณปกคลุมสัญญาณเดิมเท่านั้น ฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งก็จะกลายเป็นสินสงครามของพวกเขาแล้ว
หานจี้จวินรู้สึกเหมือนหัวใจร่วง เขาพุ่งเข้าไปโดยพลัน ก่อนจะชกอีกฝ่าย ถึงแม้ทักษะการต่อสู้มือเปล่าของเขาจะสู้พวกลั่วล่างไม่ได้ แต่เมื่ออยู่ภายใต้การเคี่ยวกรำของลูกพี่หลาน น เขาก็เข้าสู่ขั้นต้นของระดับพลังปราณได้สำเร็จแล้ว…
ฝ่ายตรงข้ามออกหมัดปะทะเข้าไปอย่างเด็ดเดี่ยว ‘ตูม’! พลังปราณมหาศาลแทบจะพลิกคว่ำเต็นท์ทั้งหลัง
อีกฝ่ายไม่สามารถต้านทานพลังโจมตีด้วยความโกรธเกรี้ยวของหานจี้จวินได้ เขาถอยติดต่อกันสามก้าว แทบจะพิงบนเครื่องรับสัญญาณ เขามองหานจี้จวินอย่างหวาดกลัว ไม่นึกเลยว่าเด็กหนุ่ม อายุน้อยคนนี้จะเข้าสู่ระดับพลังปราณแล้ว ทำให้คนที่อยู่ระดับพลังปราณครึ่งก้าวอย่างเขาคนนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายเลย
เขาพลันมองไปที่หน้าจอเล็กๆ ของเครื่องรับสัญญาณ เมื่อเห็นข้อมูลแจ้งเตือน แววตาก็เผยความยินดีสุดขีดออกมา ที่แท้แถบความคืบหน้าที่ครอบคลุมอยู่ก็มาถึงเก้าสิบกว่าเปอร์เซ็นต์แล้ว ต่อให้เขาพ่ายแพ้ อีกฝ่ายก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงบทสรุปที่ต้องพ่ายแพ้ออกไปจากสนามเหมือนกัน
ในที่สุด เมื่อเครื่องรับสัญญาณแสดงขึ้นว่าสำเร็จหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ คนผู้นั้นก็แหงนหน้าหัวเราะดังลั่นขึ้นมา “ฮ่าๆ พวกเราบุกยึดฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งได้แล้ว” ใ ในที่สุดโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งอันสูงส่งก็ถูกโรงเรียนทหารระดับต่ำอย่างพวกเขาร่วมมือกันขับไล่ออกจากสนามไปแล้ว
ถึงแม้ข้างกายยังมีหานจี้จวินอยู่ แต่เขาคิดว่าอีกฝ่ายออกจากสนามไปแล้ว คุกคามเขาไม่ได้แล้ว เขาที่ไม่ได้ป้องกันพลันรู้สึกได้ว่ามีลำแสงสีเงินสายหนึ่งส่องวาบขึ้น เขาหันหน้ าไปอย่างตะลึงงัน แล้วเอ่ยอย่างยากลำบากว่า “นะ…นาย…ฝ่าฝืนกฎ!”
พอกล่าวประโยคนี้จบ เขาก็หมดสติไป ที่แท้เขาโดนหานจี้จวินซัดเข็มฉีดยาสลบใส่จนหมดสติไปนี่เอง
“ฉันก็หวังว่าตัวเองจะฝ่าฝืนกฎเหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่อุปกรณ์สื่อสารของฉันไม่ได้ส่งข้อความว่าโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งของพวกเราถูกไล่ออกจากสนาม” หานจี้จวินเดินมาที่ข้างก กายหมอนั่น แล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบา เขาเงยหน้าขึ้นมองไปยังเครื่องรับสัญญาณที่แสดงข้อมูลหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ ก่อนจะตรึกตรองทันที
หลายวินาทีต่อมา หานจี้จวินหยิบเครื่องส่งสัญญาณของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษคนนั้นออกมาจากในเครื่องรับสัญญาณ แล้ววางเครื่องส่งสัญญาณของตัวเองลงไปด้านใน ก่อนจะกดปุ่มที่สว่างไ ไสวอีกครั้ง จากนั้นก็คลุมทับข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามใหม่ ไม่นานเครื่องรับสัญญาณก็ขึ้นว่าไปถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ เขต G17 กลายเป็นอาณาเขตของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งอีกครั้ง
“ที่แท้ เขต G17 ไม่ใช่ฐานที่มั่นแล้วนี่เอง” แววตาของหานจี้จวินเผยความงุนงงจางๆ เขารู้ว่านี่ต้องเป็นฝีมือของลูกพี่เขาอย่างแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าลูกพี่ทำได้อย่างไร
……
ภายในห้องสังเกตการณ์ เดิมทีพวกเขาคิดว่าโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งจะออกจากสนามแล้ว แต่กลับพบว่าโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งยังคงอยู่ในการต่อสู้ ทหารหลายคนกุมหัวอย่างตกตะลึงแล้วพา ากันตะโกนเสียงดังว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
เขต G17 ไม่ใช่ฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งเหรอ? ทำไมโดนฝ่ายตรงข้ามยึดแล้ว แต่ไม่โดนไล่ออกจากสนามล่ะ?
“เจ้าหน้าที รีบช่วยพวกเราตรวจสอบทีว่า ฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งอยู่ที่ไหนกันแน่?” เหล่าคนที่ไม่สามารถอธิบายเรื่องทุกอย่างนี้ได้ย่อมต้องการหาคำตอบ
หลังจากที่ได้รับการเห็นชอบจากผู้รับผิดชอบศึกประลองหุ่นรบ เจ้าหน้าที่ก็เริ่มค้นหาฐานที่มั่นที่แท้จริงของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่ง
“ออกมาแล้ว!” หลังจากที่เจ้าหน้าที่ถอดรหัสอยู่หลายนาที ในที่สุดก็หาที่ตั้งของฐานที่มั่นโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งเจอ “เป็นเขต Q9!”
“เป็นไปไม่ได้ Q9 เป็นฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารชายที่สองนะ จะเป็นของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งไปได้ยังไง” เมื่อคำตอบนี้ออกมา ทุกคนในห้องสังเกตการณ์ก็ส่งเสียงฮือฮา ทำหน้าเหมือน นไม่อยากจะเชื่อ
หลิงเซียวสังเกตเห็นว่าหลังจากที่เขต G17 ถูกยึดแล้ว แต่โรงเรียนทหารชายที่หนึ่งไม่ได้ถูกไล่ออกจากสนาม เขาก็เริ่มใคร่ครวญว่าเป็นเพราะอะไร เมื่อเขาได้ยินว่าฐานที่มั่นที่แท้ จริงอยู่เขต Q9 เขาก็เข้าใจกระจ่างแจ้งโดยพลัน “ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง!”
หลานเอ๋อร์! สิ่งที่พ่อมองข้ามในตอนนั้น ลูกกลับสังเกตเห็นหมดเลย! ลูกเหนือกว่าพ่อในเรื่องนี้แล้ว! พ่อภูมิใจในตัวลูกนะ!