Infinity Armament สรรพวุธไม่สิ้นสุด - ตอนที่ 95
IA:เล่ม 3 บทที่ 28 พลังจิตที่สอง (ตอนที่ 2)
หลังจากแจกจ่ายของเสร็จสิ้น ทุกคนก็พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากแยกย้ายกัน ชินยี่อธิบายว่าเขาได้ทำข้อตกลงกับเรน่าที่เซนทรัลปาร์ค และบอกกับจินกวง “จินกวง นายช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมว่าพวกกลายพันธุ์มันล้อมพวกนายที่ถนน 198 ได้ยังไง?”
แล้วจินกวงก็เริ่มพูด
หลังจากที่พวกเขาไปถึงถนน 198 ด้วยความช่วยเหลือกองพลร่มที่2 พวกเขาก็ได้พบกับพวกกลายพันธุ์ที่กำลังหลบหนี
จินกวงตัดทางหนีไปยังโบสถ์อิซาเบลและในขณะที่กำลังจะเรียกชินยี่ เจ้าอ้วนก็บอกว่ามีอะไรซักอย่างที่ดูอันตรายมากกำลังเข้าใกล้พวกเขา
พวกเขาจึงรีบตัดสินใจถอยตามคำแนะนำของเจ้าอ้วน แต่จากนั้นพวกกลายพันธุ์ก็เข้ามาล้อมพวกเขาไว้
พวกมันโจมตีจินกวงกับทุกคนอย่างดุเดือดและพวกเขาเสียเปรียบเพราะพวกกลายพันธ์นั้นมีความหลากหลายทางความสามารถที่มากกว่าพวกเขา แต่โชคยังดีที่กองพลร่มที่2ยังสามารถต้านพวกกลายพันธุ์จากด้านข้างได้อยู่บ้างนั่นจึงทำให้พวกเขาสามารถยื้อได้จนชินยี่มาถึง
“ดูจากการโจมตีนี้ พวกกลายพันธุ์ก็คงจะเตรียมตัวมาอย่างดีเลย” จินกวงสรุปทั้งหมด
“นายหมายถึง พวกมันเล็งพวกเราไว้ตั้งแต่แรกงั้นเหรอ?” ชินยี่ถาม
จินกวงพยักหน้า “ฉันรู้สึกแบบนั้น หลังจากที่พวกเราใช้สกิลไปแล้วพวกมันก็ไม่ได้ประหลาดใจแม้แต่น้อย นั่นหมายความว่าพวกมันเตรียมตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว สิ่งที่ชัดกว่านั้นก็คือการที่มันโผล่มาล้อมพวกเราไว้แบบนี้แสดงว่ามันวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว”
“น่าแปลกนะ พวกมันรู้ถึงการเคลื่อนไหวของพวกเราได้ยังไง?”
“นั่นไม่ใช่ประเด็น สิ่งที่ฉันสนใจก็คือมีใครอยู่เบื้องหลังพวกมันรึเปล่า?”
ชินยี่ส่ายหัว “ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่ก็น่าจะไม่มีใครรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกเราได้นี่นา”
“ไม่น่าจะมีคนนอกที่รู้เรื่องพวกนี้ได้ เว้นเสียแต่ว่า…” จินกวงพูด
ชินยี่ตอบกลับ “จริงเหรอ? ไม่มีคนนอกจริงๆเหรอ? ถ้าไม่งั้นฉันกลัวว่าจะเป็น…”
ทุกคนต่างก็ตะลึง
เหวินโหรวร้องออกมา “อย่าบอกนะว่า…”
“ไอ้เด็กคนนั้นไง” ชินยี่ยิ้มอย่างน่ากลัว
——-
ชั่วโมงที่ 30
เมื่อเจอรรี่ ลาเชียส ถูกพาเข้ามาในห้อง ชินยี่และอันเหวินก็เริ่มเจรจากันเรื่องลูกดอกนี่
“1000BP? นี่นายบ้ารึไง?” อันเหวินจ้องชินยี่ พลางชี้ไปที่ลูกดอก “ไอ้นี่มันจริงๆราคาแค่ 500 BP เอง”
“แต่ว่าที่นี่มันไม่ใช่เมืองกระหายเลือดน่ะสิ ต่อให้เธอมีเงินมากแค่ไหนก็หาซื้อจากในเมืองไม่ได้หรอก นี่เธอรู้หลักการตลาดปะเนี่ย?” ชินยี่หัวเราะ
“เรื่องแบบนั้นฉันรู้อยู่แล้วล่ะน่า!” อันเหวินตะโกน “หลักการที่ว่านายขายให้ฉันแพงๆแต่ฉันสามารถต่อราคาลงให้เหลือแค่ 200BP”
“งั้นฉันเอาไปขายให้ร้านดีกว่า”
“นายพูดเองนะว่าไม่มีร้านค้าแถวนี้” อันเหวินยิ้มอย่างผู้ชนะ
“ไม่เป็นไร ฉันไม่รีบ”
“ฉันเองก็ไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้วด้วย หลังจบภารกิจนี้ฉันก็ไปหาของพวกนั้นได้อยู่แล้วทำไมฉันต้องซ้อด้วยราคาที่แพงระยำแบบนั้นด้วยล่ะ? อีกอย่างก็คือพวกเราไม่มีเงินเหลือแล้วด้วย”
“ถ้าเธอไม่มีเงินเหลือ งั้นมาทำข้อตกลงกัน ฉันจะให้พวกเธอใช้ลูกดอกนี่ไปก่อนภารกิจนี้ พวกเธอบอกว่าไม่สนใจใช่ไหม? แต่ฉันไม่เห็นด้วยว่ะ ดูจากฝีมือของพวกเธอแล้วต้องรีบเพิ่มกำลังของตัวเองอย่างรวดเร็วเลยแหละ แม้ลูกดอกนี่จะไม่เก่งมากแต่มันก็ยังพอถูไถได้แหละ”
“ขอบใจ แต่ไม่ล่ะฉันว่าพวกฉันเก่งขึ้นได้โดยไม่ต้องพึ่งพานาย”
“เธอต้องยืมมือฉันเพื่อเอาตัวรอดน่า เชื่อเถอะ” ชินยี่ขำ
อันเหวินเปลี่ยนสีหน้า “ชินยี่ นายเป็นคนที่เลวร้ายมากๆเลยนะรู้ตัวปะ? ถ้าพวกเราเก่งขึ้นแล้วนายก็จะได้หลอกใช้ประโยชน์จากเราง่ายขึ้นใช่ไหมล่ะ?”
“อย่าใช้คำว่า หลอกใช้ประโยชน์ สิ” ชินยี่ตอบกลับอันเหวิน “ฉันกำลังช่วยพวกเธออยู่นะ เฮ้ย จินกวงนายบอกได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง?”
จินกวงลุกขึ้น “เรน่าบอกพวกเรามาว่าเธอเจอแหล่งกบดานของพวกกลายพันธุ์อีกแห่งแล้ว และมันดูใหญ่แบบไม่ธรรมดาเลย ดูทรงแล้วน่าจะเป็นฐานทัพหลักของพวกมันเลยล่ะ”
อันเหวินตกใจมาก เธอมองสลับจินกวงกับชินยี่
ชินยี่พูดอย่างจริงจัง “ทีนี้เธอเข้าใจแล้วรึยัง? ว่าพวกเรากำลังจะไปบุกฐานใหญ่ของพวกกลายพันธ์ ซึ่งจะมีพวกมันให้ฆ่ามากพอจนล้นเหลือแถมเราจะได้รางวัลมากขึ้นกว่าเดิมอีก ถ้าเธอคิดว่าเธอเก่งพอแล้วล่ะก็…” ชินยี่เก็บลูกดอกไป “งั้นฉันก็คงไม่ต้องขายนี่ให้เธอแล้วล่ะมั้ง”
“เดี๋ยวก่อน!” อันเหวินร้อง เธอมองไปที่เขาและชินยี่ก็ยิ้มกลับมาให้
หลังจากเธอกัดฟันซักพักนึงก็กระทืบเท้าและพูด “นับเงินมาเลยนายหน้าเลือด!”
เธอและชินยี่ทำข้อตกลงกัน
หลังจากขายของเสร็จชินยี่ก็ได้เงิน 1000BP เขารู้สึกสดชื่นขึ้นมาหน่อยๆ เขาหันหลังกลับไปเจอกับเจ้าอ้วนที่ยืนอยู่กับเจอรรี่ไม่ไกลออกไปไม่มาก เขาถามเจ้าอ้วน “นายมาตอนไหนเนี่ย?”
เจ้าอ้วนตอบตรงๆ “เมื่อกี้เอง เหวินโหรวบอกให้ฉันพาเด็กคนนี้เข้ามา เธอบอกว่าเราไม่ต้องเก็บเด็กคนนี้ไว้อีกต่อไปแล้ว”
“อ้อ!” ชินยี่ลูบหัวตัวเอง “ใช้แล้วปล่อยเขาไปได้เลย”
“แต่ว่าเขาได้ยินว่าพวกเราจะไปบุกฐานใหญ่พวกกลายพันธ์นี่”
ชินยี่ลูบคางอย่างครุ่นคิดและพูดขึ้น “ตามนั้นเลย ปล่อยตัวเขาไปก่อนแล้วจากนั้นเราก็จะไปบุกฐานพวกมันทันที ถ้าเราปล่อยเขาและรีบโจมตีทันทีเด็กคนนี้ไม่มีทางไปบอกคนอื่นทันหรอก ไม่ก็ถ้าเขารู้ทางไปฐานทัพพวกนั้นละก็นะ”
“โอเค” เจ้าอ้วนพยักหน้าและเดินไปกับเด็กชาย
หลังจากออกมาได้แล้วเจ้าอ้วนก็ผลักเด็กชาย “นายเป็นอิสระแล้ว”
เจอร์รี่มองไปที่เขาก่อนที่จะวิ่งออกไป
เขาไม่ได้วิ่งไปในเมือง แต่เป็นในป่า
หลังจากดูรอบๆแล้วว่าไม่มีใครตามเขามา เขาจึงส่งสัญญาณออกไป
ทันใดนั้นก็มีฝูงนกบินมาวนรอบหัวไหล่ของเขา เด็กหนุ่มบอกกับนกเหล่านั้น “นี่ ฉันต้องให้นายส่งข้อความไปที่จตุรัสไทม์สแควร์ นายรู้ทางไปใช่ไหม?”
ตาขวาของเขาเปล่งแสงสีทองออกมา และพูดอย่างช้าๆ
“ไปที่จตุรัสไทม์สแควร์และหาชายที่ชื่อ ชาร์ล และส่งต่อความทรงจำของฉันให้กับเขา ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกโจมตีนะ ถ้านายไปถึงที่จตุรัสแล้วชาร์ลจะตามหานาย”
เจ้านกขยับหัวราวกับกำลังบันทึกข้อความแล้วจากนั้นเจ้านกก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
เด็กหนุ่มตะโกน “อดทนไว้ นี่สำคัญต่อพวกเรามาก! ช่วยเราด้วยเถอะ!”
เจ้านกร้องออกมาอีกสองถึงสามครั้ง จากนั้นมันก็บินขึ้นสู่ท้องฟ้าและร่วงลงสู่พื้น
เด็กหนุ่มรีบวิ่งไปดูอาการของมันและพบว่ามันตายเสียแล้ว
“ไม่! ไม่!” เด็กหนุ่มร้องไห้
จากนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลังเขา “ดูเหมือนว่านายต้องใช้สัตว์ที่มีสมองมากกว่านี้เพื่อที่จะส่งต่อความทรงจำของนายนะ”
เด็กหนุ่มรีบหันกลับมาและพบกับชินยี่ที่ยิ้มให้กับเขา
“ไม่นะ…” เด็กหนุ่มเริ่มร้องไห้
“ใช่…ฉันขอโทษที่หลอกนาย แต่ดูเหมือนว่าเราต้องคุยกันหน่อยแล้วล่ะ” ชินยี่บอกแบบนั้น นัยน์ตาของเขาแสดงถึงความอ่อนโยน
——————————————————-
IA:เล่ม 3 บทที่ 29 โชคชะตา (ตอนที่ 1)
เด็กหนุ่มถูกนำตัวกลับมา มันไม่ยากเท่าไหร่เลยที่จะตามตัวเขา
ชินยี่ยืนอยู่บนพื้นดินที่แห้งแล้งเงยหน้าขึ้นมองฟ้า โดยที่มีเหวินโหรวยืนอยู่ข้างๆเขา
เธอขอโทษ “ฉันถามเจ้าอ้วนแล้ว ช่วงสุดท้ายที่เขาอยู่กับเจอร์รี่ก็คือเมื่อคืน ฉันหละหลวมเกินไปหน่อยทั้งๆที่เจ้าอ้วนบอกให้ฉันระวังตัวมากกว่านี้”
“การประมาณคนอื่นต่ำเป็นเรื่องปกติ ฉันไม่แปลกใจหรอก ใครๆก็เคยพลาดมาก่อนทั้งนั้น เธออย่าไปคิดมากเลย”
เหวินโหรวกลอกตา “ทำไมฉันถึงรู้สึกนายไม่ค่อยพอใจกับฉันกันนะ?”
ชินยี่หัวเราะออกมา “ถ้าจะให้พูดล่ะก็ ให้คิดซะว่าตอนนี้ทุกคนรอบตัวเธอตอนนี้แข็งแกร่งมากและระมัดระวังตัวตลอดเวลา ซึ่งนั่นไม่เป็นผลดีกับเรามากๆ และถ้าคิดมากเกินไปก็จะขี้กังวลเกินไปแบบเจ้าอ้วน ถ้าเธอไปถึงจุดที่ต้องระแวงในตัวเด็กแล้วล่ะก็…นั่นแหละที่เรียกว่า โรคขี้ระแวง”
“ที่นายพูดมาก็ไม่ต่างกันเลยนะ” เหวินโหรวขำราวกับเด็ก
และอันเหวินก็โผล่เข้ามาหาพวกเธอ พร้อมกับยื่นลูกดอกคืนให้กับชินยี่ “เอาคืนไปเลย!
“หา?” ชินยี่ไม่เข้าใจ
“นายโกงฉันไป 500BP ยังไม่พอแถมที่อยู่ของพวกกลายพันธ์นี่นายก็หลอกฉันด้วย เรน่าไม่เจออะไรที่นั่นเลยเพราะว่ามันไม่มีอะไรที่นั่นไง เพราะฉะนั้นฉันคืนเจ้าลูกดอกนี่ให้นายแล้วก็คืนเงินฉันมาด้วย!” อันเหวินตะโกนด้วยความโกรธ
ชินยี่ตอบเสียงเบา “ฉันไม่มีที่อยู่ของพวกกลายพันธ์ซะหน่อย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่มีมันนะ”
“ที่ไหน?”
“จตุรัสไทม์สแควร์”
“ชัวร์ไหม?”
“ไม่แน่ใจ แต่ก็แน่ใจได้อยู่”
“ทำไม?”
“นั่นก็เพราะว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกน้องของแม็กนีโต้ แต่เป็นนักเรียนของชาร์ล เซเวียร์ ฉันเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมสตรอมถึงโผล่มาเจอเราตอนที่สู้กับแม็กนีโต้ แต่โชคยังดีที่การต่อสู้ที่ผ่านมาเขาไม่ได้โผล่มาด้วย ไม่งั้นเราน่าจะเป็นปัญหามากกว่านี้ ชาร์ลอยู่ที่ไทม์สแควร์และฉันไม่อยากจะให้เขามายุ่งเกี่ยวด้วยซักเท่าไหร่”
จากที่แผงข้อมูล ศาสตราจารย์เอ็กซ์ไม่ได้อยู่ในกลุ่มของพวกกลายพันธ์ เขากับนักเรียนของเขาจึงยังเป็นกลางอยู่ พวกนั้นน่าจะอยู่ภายใต้แม็กนีโต้ ชินยี่ไม่อยากจะสร้างศัตรูที่แข็งแกร่งจนเกินไปอย่างชาร์ล เซเวียร์ หรือ ศาสตราจารย์เอ็กซ์หรอก
แต่ศาสตราจาราย์เอ็กซ์ก็เหมือนกับว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการกลายพันธ์อยู่บ้าง ดังนั้นนักเรียนบางคนของเขาถึงไปอยู่กับฝั่งของแม็กนีโต้ และเมื่อเขารู้ถึงการมาของพวกนักผจญภัย ชาร์ลถึงเลือกที่จะแจ้งข่าวนี้กับแม็กนีโต้
“ถ้างั้นนายจะยอมแพ้เหรอ?”
“ใช่”
“งั้นก็เอาลูกดอกนี่กลับไปเซ่!” อันเหวินร้อง
ชินยี่เห็นท่าทางของเธอก็เลยพูดจากวนประสาทกลับไป “เธอไม่รู้เหรอว่าสินค้านี้ซื้อแล้วไม่รับคืนน่ะ?”
“ไม่สนโว้ย นายหลอกฉันนะ”
ได้ยินแบบนั้นชินยี่ก็เปลี่ยนสีหน้า “เธอนี่มันเป็นผู้หญิงที่โคตรน่ารำคาญแท้ อย่าลืมสิว่าเธอต้องจ่ายฉันหลังจากกลับไปจากโลกนี้แล้ว ก่อนที่ฉันมาจะโลกนี้ฉันก็ยืมเงินเขามาเหมือนกันแหละ และก็ต้องคืนเขาเป็นเรื่องธรรมดาไม่มีใครรับประกันได้หรอกว่าถ้าให้ยืมมาแล้วจะได้คืนไหม ถ้าเกิดว่าคนที่ยืมดันตายในภารกิจนี้ก็ขาดทุน พูดง่ายๆก็คือฉันต้องคุ้มกันเธอให้รอดจนกลับไปได้ก่อนเพื่อที่จะให้เธอจ่ายเงินคืนฉันได้ ดังนั้น 500BP ที่เธอจ่ายไปก็เพื่อให้ได้สุดยอดบอดี้การ์ดอย่างฉัน คุ้มไหมล่ะ? แต่ว่าน่าเสียดายที่เธอไม่รู้เรื่องการจัดการเงินซักเท่าไหร่ เธอไม่สามารถคำนวนเรื่องกำไรได้ดีเพราะเธอมัวแต่คิดเรื่องราคาที่อยู่ตรงหน้า คนที่ไม่สนคุณค่าของสิ่งที่จ่ายไปแต่ไม่สนใจว่าได้ซื้ออะไรมาบ้างน่ะไม่ควรที่จะเป็นเพื่อนกับใครทั้งนั้นแหละ… งั้นถ้าเธอไม่ต้องการลูกดอกนี่แล้วก็ยกเลิกข้อตกลงเลยละกัน”
เมื่อชินยี่พูดจบเขาก็เก็บลูกดอกและยกเลิกสัญญาไป
อันเหวินตะลึง ทั้งๆที่เธอถูกโกงไปตั้ง 500BP แต่ทำไมพอชินยี่พูดแล้วมันดูเหมือนกับว่าเธอได้กำไรซะงั้น
ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ล่ะ?
เธอไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้มาก่อน
ถึงในใจของเธอจะไม่ค่อยสนใจมากเรื่องที่ต้องให้ 500BP กับชินยี่ เพราะยังไงซะเขาก็เคยช่วยเธอมาก่อนเงินแค่นั้นก็ไม่น่าจะน้อยเกินไปสำหรับการตอบแทนนี่นา
การทดแทนคุณมันก็เรื่องหนึ่ง และการหลอกมันก็อีกเรื่องหนึ่งเหมือนกัน
อันเหวินรับไม่ได้ที่ต้องจ่ายเงินที่โดนโกงให้กับชินยี่ แต่หลังจากที่เขาพูดแบบนั้นมันแสดงได้ถึงความห่วงใยที่เขามีให้กับพวกเธอ ในจังหวะนี้อันเหวินงงไปหมดแล้ว
เหวินโหรวเดินมาข้างๆแล้วมองเธอด้วยสายตาน่าสมเพชและกระซิบ “ไม่มีใครกลัวหรอกว่าจะมีเพื่อนเยอะแยะ ยิ่งในโลกที่มีแต่การฆ่าฟันกันแบบนี้ ชินยี่ต้องการเพื่อนที่เก่งกาจแบบเธอนะเพราะว่ามันข้องเกี่ยวกับความเป็นความตายเลยนะ เขาคิดทบทวนมาดีแล้วแหละว่าเขาอยากจะเป็นเพื่อนกับเธอ ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่รู้ว่าลึกๆแล้วเธอเป็นคนที่เชื่อถือได้ไหมนะ ดังนั้นการที่เขาทำสัญญาแบบนี้มันก็ไม่เสียหายทั้งสองฝ่ายจริงไหมล่ะ? แถมเธอยังไม่ต้องผ่านการทดสอบลับๆจากเขาด้วย ถ้าเกิดเธอต้องการความช่วยเหลือล่ะก็เราก็พร้อมเสมอเพราะยังไงเราก็เป็นชาวจีนเหมือนกัน ถือว่าเป็นบริการพิเศษก็แล้วกันนะ”
_______
เมื่อชินยี่กลับมาที่โรงแรม เจอร์รี่ก็นั่งขดตัวเองอยุ่ที่มุมห้อง
ชินยี่มองไปที่เขาที่กำลังมีอาการตื่นตระหนก และพูดกับเอาอย่างอ่อนโยน “อย่ากลัวเลย ฉันไม่ทำร้ายนายหรอก”
เจอร์รี่ส่ายหัว “ฉันไม่กลัวหรอก”
ชินยี่ประหลาดใจนิดนึงกับคำตอบนั่น
จากดวงตาของเขาก็มีน้ำตาไหลออกมาทั้งสองข้าง เขาเช็ดน้ำตาก่อนจะมองชินยี่ “ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพวกนายต้องการจะฆ่าพวกเรา ทำไมมนุษย์ถึงอยู่ร่วมกับพวกกลายพันธ์ไม่ได้ล่ะ? พวกเราทำอะไรผิด? เพราะว่าแค่เราประหลาดนายถึงจะฆ่าเราเหรอ?”
ชินยี่ถอนหายใจเบาๆ
“ไม่ใช่ความผิดของนายหรอก”
“นายหมายความว่าไง?” เจอร์รี่ตกใจ
“ฉันบอกว่านั่นไม่ใช่ความผิดของนาย”
“ทำไมนายถึง…”
“ถ้านายถามว่าทำไมฉันถึงฆ่าพวกกลายพันธุ์ล่ะก็ ฉันก็ตอบได้เพียงแค่ว่ามันเป็นเพราะโชคชะตาเท่านั้นแหละ ฉันบอกนายมากกว่านี้ไม่ได้หรอก แต่ฉันบอกได้เลยว่าสิ่งที่ฉันทำมันก็ไม่ถูกเหมือนกัน บางอย่างในชีวิตเราต่อให้รู้อยู่แก่ใจว่ามันผิดแต่เราก็ต้องทำ”
เด็กหนุ่มมองชินยี่ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินคำพูดว่า การฆ่าพวกกลายพันธ์เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
เขาไมได้พูดถึงความแตกต่างของพวกกลายพันธ์ที่มีลึกซึ้งถึงระดับพันธุกรรม การมีอยู่ของพวกกลายพันธ์นั้นสั่นคลอนความปลอดภัยของคนปกติ เขาไม่ได้พูดแบบนั้นออกไป
แต่ในเวลาเดียวกันชินยี่เองก็ไม่ได้ท่าทีว่าจะหยุดการกระทำนี้
และเจอร์รี่ก็พูดขึ้น “ฉันไม่เชื่อว่าจะมีโชคชะตาไหนที่ไม่อาจขัดขืนได้”
“อย่าพูดอะไรโง่ๆน่าไอ้หนู คำพูดสวยหรูนั่นก็แค่เอาไว้หลอกคนทั่วไปเท่านั้นแหละ ทุกคนมีโชคชะตาของตัวเองและไม่ใช่ว่าทุกคนจะต่อต้านมันได้ ยกตัวอย่างเช่น นายเลือกเกิดไม่ได้ นายเป็นพวกกลายพันธ์ และโชคชะตาสำหรับพวกเราคือเกิดมาเพื่อกำจัดพวกนาย เพราะฉะนั้นฉันจึงเลือกได้ว่าจะฆ่าหรือปล่อยใครไป”
———————————————