Invincible Combat Strength System ระบบสงคราม - ตอนที่ 102
ICSS บทที่ 102: ต้นไทร
“เมื่อไร!”
“เมื่อไร!”
เสียงเพลงแสนหวานและแผ่วเบาแต่ดูเหมือนจะเป็นเสียงที่มหัศจรรย์, สั่นสะเทือนและดูแปลกมากในท้องฟ้ายามค่ำคืนในเวลาตี 4 และ
หนิงเทียนหลินรู้สึกรางๆ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณลักษณะทางกายภาพของเขาที่ดีกว่าคนปกติธรรมดา เขาก็คงจะไม่ได้ยินเสียงเพลงนี้แน่ๆ!
เสียงนี้ดูเหมือนจะมีผลกับหัวใจของคน!
“นี่เป็นอาวุธเวทมนต์ที่เรียกว่าระฆังวิญญาณ แต่จะถูกใช้เพื่อรวบรวมวิญญาณ ไม่ว่าวิญญาณจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถเรียกได้ในทันทีนอกนั้นก็เปล่าประโยชน์!”
ระบบการต่อสู้อธิบายเพิ่มในเวลานี้และกล่าวเสริมในตอนสุดท้าย หนิงเทียนหลินสังเกตเห็นว่ามีวิญญาณปรากฎขึ้นมาจากทุกด้าน ยืนอยู่ข้างๆยมฑูต 2 คนนี้ เหมือนกับว่ายืนอยู่ตรงนี้อยู่แล้ว
และในไม่ช้าพวกเขาก็ยืนเรียงเป็นแถวแบบเรียงหนึ่งเรียบร้อย
“ไม่ได้ผลแน่ๆ! มีวิญญาณเยอะมาก แบบนี้ฉันจะฆ่าวิญญาณ 2 ตัวนั่นได้ยังไง!”
หนิงเทียนหลินขมวดคิ้วลึก เขาไม่ได้คาดคิดว่าพวกวิญญาณที่กลับไปเยี่ยมญาติพี่น้องจะถูกเรียกกลับมายืนอยู่ข้างยมฑูต 2 คนนี้เร็วขนาดนี้ เขาวางแผนว่าจะใช้ข้อได้เปรียบจากเวลานี้และเขาเพิ่งจะคิดได้ว่าจะคุยกับชาย 2 คนนี้ยังไง
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเรื่องง่ายๆนี้จะเริ่มไม่ง่ายแล้ว
“จะฆ่าไม่ได้ได้ยังไง!” ระบการต่อสู้เปล่งเสียงออกมา
“ยมฑูตนี้จะฆ่าวิญญาณพวกนี้ทุกตัว สนใจเรื่องวิญญาณทั้ง 100 ดวงไหมล่ะ?
“วิญญาณพวกนี้ก็แค่ทรงพลังในด้านวิญญาณ แต่พลังในการต่อสู้ของแต่ละตัวน้อยกว่า 15 ด้วยซ้ำ พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนายเลยสักนิด!”
หนิงเทียนหลินตัวแข็งและถามออกมาในทันที
“นายหมายถึงจะให้ฉันฆ่าวิญญาณทั้งหมดเลยเหรอ?”
หลังจากนั้นหัวใจของเขาก็เต้นรัวเกินอันตราปกติไปมาก ความคิดนี้มันบ้ามากๆ นี่มันวิญญาณตั้งร้อยดวงนะ ไม่ใช่คนร้อยคนนะ! หนิงเทียนหลินยังไม่เคยสู้กับวิญญาณมาก่อนเลย! เขาไม่รู้ว่าพวกนี้ทำอะไรได้บ้าง
ความเข้าใจในเรื่องวิญญาณของเขาก็แค่ 7 วันตอนที่เขาเป็นวิญญาณอยู่ในหยินเชาไต้ฟู!
“ถ้านายคิดว่าจะมีทางที่นายทำไม่ได้” เสียงของระบบการต่อสู้ฟังดูน่าขำ ทำให้หนิงเทียนหลินรู้สึกว่าดูเหมือนมันจะต้องมีผลที่ตามมาแน่ๆ
“และฉันบอกแล้วว่ามันจะดีกับนายเองหลังจากที่ได้ฆ่าวิญญาณพวกนี้”
สำหรับประโยชน์ที่จะได้รับระบบการต่อสู้ยังไม่ได้บอก
“โอเค ฉันจะทำ!” หนิงเทียนหลินโหดร้ายและไร้ความปราณี ในเวลาเดียวกันนั้นก็เปิดประตูแห่งการแลกเปลี่ยนเพื่อหาบางอย่างเพื่อแลกเปลี่ยน แล้วจึงค่อยๆเดินตรงเข้าไปหาวิญญาณพวกนี้ แผนมันเปลี่ยนไปแล้วและความตั้งใจของเขาก็เปลี่ยนไปแล้ว
“วิญญาณ 100 ดวงมาถึงแล้วและเราก็ไปได้แล้ว”
เสียงเฉียบดังออกมาจากตรอกและเขาก็กำลังจะไปแล้ว ในมือของพวกเขาต่างก็ถือกุญแจไปสู่หยินเชาไต้ฟูไว้ด้วย ตราบใดที่ยังถือกุญแจอยู่ พวกเขาจะไปโผล่ที่ถนนอุยก๋วนในหยินเชาไต้ฟูได้ในทันที
“ตายซะ!”
ในเวลานี้ในคืนที่เงียบสงบ ก็มีเสียงบางอย่างดังออกมาทันทีในระยะที่ห่างออกไปจากพวกเขาประมาณ 100 เมตรพร้อมันนั้นก็มีระลอกคลื่นที่มองไม่เห็นจากระยะ 100 เมตรออกมาจากเงามืดและก็มาจากข้างหลังพวกเขาที่ห่างออกไป 2-300 เมตรอีก ซึ่งออกมาจากทุกทิศทุกทาง
เหมือนกึ่งทรงกลมที่ครอบคลุมพื้นที่ภายใน 500 เมตรนี้
แดนกักขัง!
หนิงเทียนหลินเพิ่งจะแลกมันมากจากระบบการแลกเปลี่ยน ไอ้เจ้าสิ่งนี้ทำให้เขาต้องเสียคะแนนพลังงานไปตั้ง 50 คะแนน
แดนกักขัง ก็เหมือนกับชื่อของมันใช้เพื่อกักขังด้านหนึ่งของโลกและสิ่งมีชีวิตที่อยู่ด้านหลังจะไม่สามารถหนีออกไปไหนได้เลย! เหมือนเป็นที่กักขังอะไรสักอย่าง
ตอนนี้หนิงเทียนหลินพร้อมที่จะฆ่าวิญญาณมากกว่าร้อยดวงพร้อมกันแล้ว เขาเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว อย่างน้อยที่สุดเขาไม่สามารถปล่อยให้พวกนี้หนีไปได้เลยก่อนที่เขาจะเริ่ม! ไม่งั้นคงจะเป็นปัญหาแน่ที่จะจัดการวิญญาณสักดวง!
แดนกักขังก็มีทั้งดีและไม่ดี ด้านที่ดีเราจะสามารถกักขังได้ทั้งกาแล็กซี่และสนามดวงดาวเป็นเวลานานนับไม่ถ้วนตั่นก็ต้องใช้คะแนนพลังงานที่ไม่จำกัดด้วย นั่นคือเรื่องง่ายๆที่ตอนนี้เขาไม่สามารถทำได้
แดนกักขังที่เขาเพิ่งจะแลกมาเป็นเกรดที่ต่ำที่สุด เขากักขังได้แค่ในระยะ 500 เมตรเท่านั้นและมันจะคงอยู่แค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
แต่เวลาครึ่งชั่วโมง หนิงเทียนหลินก็รู้สึกว่ามันเพียงพอที่จะใช้ฆ่าวิญญาณทั้งหมดนี้แล้ว!
“ปึง!”
ในเวลาเดียวกัน ครึ่งนาทีต่อมาหัวหน้ายมฑูตก็กำกุญแจไว้ในมือแล้วประตูเล็กๆก็ก่อตัวขึ้นตรงหน้าพวกเขาและเดินเข้าไปในประตูเล็กๆนั้น พวกเขาจะต้องไปปรากฎตัวที่ถนนอุยก๋วนในหยินเชาไต้ฟูในทันที
“อะไรกัน? เกิดอะไรขึ้น?”
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือหลังจากนั้นเกือบ 30 วินาที ประตูเล็กๆอย่างที่เขาตั้งใจไว้ก็ไม่ปรากฎขึ้นมาจนเขาต้องขมวดคิ้ว พร้อมกันนั้นเขาก็หันหัวมามองที่เพื่อนและความหมายของคำถามนั้นปรากฏชัดในตัวเอง
“ทำไมมันไม่เปิด?”
ยมฑูตอีกคนก็รู้สึกงงไปด้วย ไม่ใช่ว่าพวกเขามาที่นี่แค่ครั้งหรือสองครั้งและยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย
“ตายซะ!”
“ตายซะ!”
พร้อมกันนี้ไม่ไกลนักก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมา ในคืนที่เงียบสงัดนี้ทำให้มันฟังได้อย่างชัดเจนและพร้อมกันนั้นเสียงหัวใจของยมฑูตทั้ง 2 ก็ดังรัวเป็นกลองเลยทีเดียว
“นายนี่เอง!”
ไม่นานยมฑูตทั้ง 2 และวิญญาณทั้ง 100 ก็เห็นร่างของคนปรากฎขึ้นมา โดยเฉพาะหยินเชาที่เพิ่งเห็นหนิงเทียนหลิน เขาก็ต้องขมวดคิ้วและความรู้สึกไม่ดีก็เกิดขึ้นมาในใจของเขา
ความรู้สึกรางๆว่าเรื่องกุญแจที่ผิดพลาดก็น่าจะเกิดขึ้นเพราะเด็กหนุ่มคนนี้!
“ฉันเอง” หนิงเทียนหลินตอบด้วยรอยยิ้ม
“ท่านยมฑูตอุตส่าห์มาถึงโลกแต่ทำไมกลับกันเร็วจังล่ะ? อยู่ต่ออีกหน่อยสิ!”
“นายจับพวกเราได้จริงๆด้วย!”
เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่หนิงเทียนหลินเรียกเขา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
“นายจับเราได้ตั้งแต่ตอนที่เราเดินเข้าร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เลยเหรอ?”
“ใช่” หนิงเทียนหลินพยักหน้า ไม่ได้ปิดบังเลย
“ดูเหมือนว่านายจะมีเนตรหยินหยางสินะ เราประเมินนายต่ำไปจริงๆ!”
ด้วยเสียงที่ตะโกนเรียก พวกเขาและวิญญาณพวกนี้ต่างก็ซ่อนตัว คนปกติจะหาพวกเขาไม่เจอเลย
“ฮ่าฮ่า” หนิงเทียนหลินหัวเราะอย่างแผ่วเบา
“ไม่สำคัญหรอกว่าจะมีเนตรหยินหยางหรือเปล่า ฉันมาเพื่อบอกพวกนายว่าวันนี้พวกนายจะกลับไปที่หยินเชาไต้ฟูไม่ได้”
“ทำไม?”
“ที่กุญแจใช้ไม่ได้เป็นเพราะนายใช่ไหม?”
ยมฑูตอีกคนเดินออกมาในเวลานี้พร้อมทั้งขมวดคิ้วและถามหนิงเทียนหลินออกไป
แม้แต่วิญญาณที่อยู่หลังพวกเขาต่างก็จ้องมาที่หนิงเทียนหลินด้วยสายตาสงสัย พวกเขาต่างก็เป็นคนธรรมดาที่ตาย ตอนที่พวกเขายังมีชีวิต พวกเขาไม่รู้เลยว่ามีคนแบบหนิงเทียนหลินที่สามารถมองเห็นพวกเขาได้
แต่มันก็เป็นเพียงแค่ความสงสัยและไม่ได้รู้สึกถึงอันตรายเลยสักนิด
“ใช่”
“ฉันทำเอง” หนิงเทียนหลินพยักหน้า
“ไม่มีอะไรหรอกแค่ว่าวันนี้มีบางคนมอบภารกิจให้ฉันมาและขอให้ฉันฆ่าพวกนายให้หมด!”