Invincible Combat Strength System ระบบสงคราม - ตอนที่ 57
ICSS บทที่ 57: ไม่ใช่ผีจริงๆด้วย
“ภาพลวงตาแน่ๆ! ต้องเป็นภาพลวงตาแน่ๆ! ฉันจะเจอเขาที่นี่ได้ยังไง!”
หลินเจียอี้ แน่นอนว่าต้องจำคนๆนี้ได้ หลังจากเหตุการณ์นั้นก็ยังไม่ถึง
5 วันเลย นี่คือชายที่ช่วยเธอจากน้ำมือของพวกแก๊ง แม้จะแค่ข้างหลัง แต่รูปร่าง ท่าทาง และทรงผมเขาเหมือนเดิมไม่มีผิด! ผู้ชายคนนี้คือคนที่ช่วยเธอวันนั้นแน่ๆ!
“มันจบแล้ว! เขาเป็นผี! เขามาหาฉันอีกแล้ว!”
ถึงแม้เขาจะเป็นผู้มีบุญคุณที่ได้ช่วยชีวิตเธอ หลินเจียอี้ไม่อยากจะเชื่อว่าอีกฝ่ายจะเป็นผี ไม่ใช่คน! แต่ตอนนี้เขามาปรากฎต่อหน้าเธอและนี่มันดูจริงมากๆ! ทำไมเขายังตามรังควานเธออยู่อีก?
“จะอ้วก!”
ในเวลานี้คุณอาหวังที่ยืนอยู่ข้างเธอรีบหันตัวกลับแล้วอาเจียนออกมาเพราะทั้งห้องเต็มไปด้วยซากปลาตายและเลือดก็กองอยู่ทุกที่ ตอนที่ประตูถูกเปิดออกก็จะได้กลิ่นเหม็นฟุ้งกระจายไปทั่ว ไม่ต่างอะไรกับโรงฆ่าสัตว์! ความสนใจของหลินเจียอี้อยู่ที่ร่างของหนิงเทียนหลิน เลยไม่มีปฎิกิริยากับเรื่องกลิ่นมากนัก
“ครับ?”
หนิงเทียนหลินหยุดการแคลื่อนไหวแล้วหันกลับมา แน่นอนเขาได้ยินเสียงอาเจียนอย่างชัดเจนจนต้องหันกลับมา แต่แค่เพียงมองแว่บเดียวเขาก็ถึงกับตัวแข็งเพราะเขาได้เจอกับเธอ นี่คือเด็กสาวที่เขาได้ช่วยชีวิตจากน้ำมือของพวกแก๊งที่ชานเมืองในจินฉวน!
เธอมาที่นี่!
ปฎิกิริยาแรกของเขาคืออีกฝ่ายหาเขาเจอด้วยความตั้งใจ ไม่งั้นจะเป็นไปได้ยังไงที่จะมาเจอกันในร้านขายปลาในตลาดสดแบบนี้ในเมืองจิงเปยแบบนี้ต้องเป็นการมาตามหาเขาแน่ๆ!
“สตาร์วอร์ส เกิดอะไรขึ้น นายไม่ได้ลบข้อมูลฉันงั้นเหรอ? เกิดอะไรขึ้น? เธอตามหาฉันเจอได้ยังไง?”
หนิงเทียนหลินคิดว่าคงเป็นเพราะพ่อของเธอแน่ๆ เธอเจอเขาด้วยความตั้งใจ เขามองไปรอบๆตัวและด้านหลังของเด็กสาว เด็กสาวคนนี้จะมาคนเดียวได้ยังไง? บางทีอาจจะมีบอดี้การ์ดกลุ่มใหญ่ตามเธอมาด้วยก็ได้
“นายถามฉันแล้วฉันจะไปถามใคร”
สตาร์วอร์สตอบอย่างเยือกเย็นและเขาก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมาอยู่ที่ประตูได้ยังไงแต่เขากล้าการันตรีเลยว่าเป็นไปไม่ได้แน่ๆที่ข้อมูลของเจ้านายเขาจะรั่วไหลออกไป ไม่ต้องพูดถึงข้อมูลในเรื่องเครือข่ายเลยเพราะทั้งหมดได้รับการตรวจสอบหมดแล้ว แม้แต่ภาพวีดีโอก็ถูกล้างโดยระบบไปหมดแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาข้อมูลของหนิงเทียนหลินจากที่ไหนเลย!
บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องของโชคชะตาในตำนาน…
“ผิดแล้ว! คนที่มาด้วยกับเธอเพิ่งจะถามว่ามีปลาคาร์พขายหรือเปล่า?”
ทันใดนั้นหนิงเทียนหลินก็รับรู้ถึงบุคคลอีกคนที่มาด้วย อีกฝ่ายอาจจะเจอเขาด้วยความบังเอิญแต่เขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่านี่จะเป็นไปได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดเขาไม่อยากที่จะเจอเด็กสาวคนนี้โดยเฉพาะพ่อของเธอ และความรู้สึกที่รุนแรงของพ่อเธอทำให้เขามั่นใจมากว่ามันช่วยไม่ได้ที่เขาจะต้องได้เจอและมีเรื่องกับพ่อเธออีกครั้ง!
“เธอมาได้ยังไง? หาที่นี่เจอได้ยังไง?”
หนิงเทียนหลินขี้เกียจที่จะคาดเดาเรื่องอะไรแบบนี้ เลยถามออกไปตรงๆ แล้วถ้าข้างนอกมีคนเป็นโหลรออยู่ล่ะ พลังการต่อสู้ของเขาตอนนี้
ข้างนอกจะมีกี่คน เขาจะสู้ได้เท่าไร! น่าตื่นเต้นจริงๆ เขากล้าที่จะฆ่าให้หมดทุกคนเลย!
อย่างไรก็ตามน้ำเสียงเขาก็ยังสบายๆเพราะเขาจำได้ว่าเด็กสาวร้องไห้เพื่อที่จะกันพ่อเธอจากการทำร้ายเขา และถึงขนาดพาพ่อเธอขึ้นไปหาหลักฐานทีละชั้นเองเลยก็ดูไม่แย่เท่าไร
“อะไรน่ะ!”
แต่หลินเจียอี้ไม่ได้ตอบอะไร ตอนที่เธอได้ยินคำถามของหนิงเทียนหลิน เธอตะโกนและมองเข้าไปในร้านเพราะในเวลานี้หนิงเทียนหลินกำลังถือมีดไว้ในมือและที่หน้าก็เต็มไปด้วยเลือด เลือดของปลาคาร์พ นี่ดูน่าสยองและเลอะเทอะมากเลย
ควบคุมกับที่ในใจของหลินเจียอี้ หนิงเทียนหลินคือผี งั้นคำถามนี้ทำให้เธอตกใจโดยตรง ตะโกนและรีบวิ่งหนีออกไป
“เกิดอะไรขึ้น! เป็นอะไรเหรอเจียอี้”
คุณอาหวังที่กำลังอาเจียนรีบฝืนอาการคลื่นไส้ เช็ดปากและรีบวิ่งตามหลินเจียอี้ไปทันที เธอรักงานนี้มาก ไม่เคยรู้สึกเหนื่อยเลยและเธอก็ทำหน้าที่อย่างดี นอกจากนี้หลินเจียอี้คือคนที่เธอเฝ้าดูการเจริญเติบโตมาโดยตลอดจนเกิดความรักใคร่ งั้นเมื่อเธอได้ยินเสียงกรี๊ดร้องของหลินเจียอี้เธอก็รีบลุกขึ้นมาทันที
“ผี!”
“ผี!”
ใบหน้าของหนิงเทียนหลินทำให้เธอกลัวขึ้นมาจริงๆ ถึงแม้ว่าเลือดพวกนี้จะมาจากเลือดปลาก็ตามแต่เลือดปลาเป็นแสนๆตัวก็ทำให้หน้าของหนิงเทียนหลินดูหน้ากลัวมากๆเลย ควบคูไปกับเงาดำมืดในใจของเธอที่คิดไปแล้วว่าหนิงเทียนหลินคือผี
“เปล่า! เขาไม่ใช่ผี!”
ในเวลานี้คุณอาหวังหันกลับมามอง โดยเฉพาะเมื่อเธอได้เห็นหนิงเทียนหลินที่เดินออกมาจากร้าน เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดและทันใดนั้นเธอก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ต้องเป็นเพราะที่หลินเจียอี้คิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้เป็นผีแน่ๆ จึงรีบอธิบายออกไป
“เลือดพวกนั้นเป็นเลือดของปลาค่ะ ไม่ต้องกลัว! ดูสิคะ ยังมีเกล็ดปลาอยู่บนตัวเขาเลยเห็นไหม?”
เมื่อพูดจบ เธอก็ลองแตะที่ตัวของหนิงเทียนหลินเพื่อที่จะมอบความกล้าให้หลินเจียอี้ เมื่อหลินเจียอี้ได้ยินคำอธิบายและเห็นการกระทำดังกล่าว เธอก็หยุดเดินหนี
“เลอะเทอะอะไรอย่างนี้เนี่ย!”
หนิงเทียนหลินยอมให้คุณอาหวังแตะที่ตัวเขาแต่เขาก็ไม่ใช่หุ่น จึงหันเพื่อหลบอย่างง่ายๆและร่างกายของเขาก็ออกมาจากชายคาและยืนอยู่ท่ามกลางแสงแดด
“ดูสิ! เจียอี้!” เขายืนอยู่กลางแดดได้ด้วย ผีที่ไหนจะทำแบบนี้ได้! และเห็นไหม เขามีเงาด้วย ผีต้องไม่มีเงาสิใช่ไหม!”
คุณอาหวังรีบอธิบายพร้อมทั้งรู้สึกเสียใจที่พาหลินเจียอี้มาที่นี่ด้วย
เธอคิดว่าเป็นเพราะภาพเหตุการณ์นี้ที่ทำให้หลินเจียอี้กลัว เธอไม่รู้ว่าพวกเขาเคยเจอกันมาก่อน
“จริงๆ…ไม่ใช่ผีจริงๆ…”
หลังจากที่ได้ฟัง หลินเจียอี้ก็มองไปตำแหน่งของหนิงเทียนหลินและเธอก็ได้เห็นเด็กหนุ่มที่ยืนตรงหน้าเธอชัดๆ กำลังยืนอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์และก็ยังมีเงาอยู่ด้วย ใกล้จะสิ้นเดือนสิงหาคมและตอนเที่ยงแบบนี้ เป็นช่วงที่ร้อนที่สุดของวันเลย แล้วเธอก็ค่อยๆเงยหน้าและจ้องไปที่หน้าของหนิงเทียนหลิน
“นายเป็นใคร? นายเป็นผีใช้หรือเปล่า”
หนิงเทียนหลินไม่ได้ตอบคำถามน่าขำนี้ เขาจะเป็นผีได้ยังไงถึงแม้เขาจะฟื้นคืนชีพมาจากหยินเชาไต้ฟูก็เถอะ อีกอย่างมันก็เหลือปลาคาร์พ
ไม่มากแล้วด้วย หลังจากฆ่าพวกมันหมดเขาก้พร้อมที่จะไปรายงานตัวที่โรงเรียนแล้ว
“เอ่อใช่! พ่อหนุ่ม เรามาเพื่อซื้อปลาและอยากได้ปลาคาร์พหน่อย”
คุณอาหวังคิดว่าเรื่องเข้าใจผิดได้คลี่คลายแล้วและไม่อยากจะอยู่ที่นี่ต่อแล้ว เธอขอซื้อปลาเพื่อที่จะได้รีบกลับ แต่หลินเจียอี้ที่ยืนถัดจากเธอกลับจ้องไปที่ตาของหนิงเทียนหลินในเวลานี้และพูดออกมาอย่างจริงจังเพราะในเมื่อเขาไม่ใช่ผี
“นายมาที่นี่ทำไม? ตามฉันมาทำไม?”