Invincible Combat Strength System ระบบสงคราม - ตอนที่ 67
ICSS บทที่ 67: ตอกไว้กับกำแพง!
“ฮ่า ฮ่า มาแก้แค้นเร็วจริงๆ!”
หนิงเทียนหลินหัวเราะอยู่ในใจเพราะหัวหน้าแก๊งคือหนึ่งในสี่คนที่เขาจัดการไปในห้องอาบน้ำเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ที่ชื่ออาเกวียง หัวหน้าที่หัวล้านคงจะถูกพาไปโรงพยาบาลแล้ว
แต่ไม่ว่าจะรักษายังไงมือขวาของเขาก็คงไม่หายดีได้หรอก หนิงเทียนหลินจำได้ว่ากระดูกเขาเละเทะมาก และคนที่สูงกว่าเขาประมาณนิ้วไข่ก็เสียหายไปแล้ว ในชีวิตนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีความสัมพันธ์อีกต่อไปและมันก็ไม่ต่างจากขันทีในวังโบราณ
“ลูกพี่! มันอยู่นั่นไง! ไอ้ตัวนี้แหละ…”
ในเวลานี้เขาดิ้นรนคลานออกมาจากห้อง พยายามที่จะลุกขึ้นและเห็นว่าชายวัยกลางคนกำลังเดินมาตรงทางเดิน และได้เห็นพี่ชายตัวเองนำกลุ่มคนที่กำลังโกรธแค้นเข้ามาก็รู้สึกพอใจขึ้นมาทันทีและรีบตะโกนเรียกพี่ชาย เขาอยากที่จะแก้แค้น!
วันนี้เขาจะต้องให้พี่ชายหักขาไอ้หนุ่มนั่นให้ได้! ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนโง่แต่เราก็ร่ำรวย โลกนี้มันเป็นของคนรวยไม่ใช่เหรอ! ตราบใดที่ไม่มีการฆ่ากันตาย เงินก็แก้ไขปัญหาได้ทุกอย่าง!
เพียงแค่ว่า “ไอ้ลูกหมา” นี่ยังไม่ได้พูดอะไรออกมา กระบองลอยไปตรงหน้าเขาเมื่อเขาไม่ได้ตอบสนองอะไร กระบองก็ลอยปลิวอย่างแรงเลยไหล่เขาไปที่ด้านหลัง
“ปัง!”
กระบองไม้อันสุดท้าย ด้วยสายตาที่ตกตะลึงของทุกคน ลอยอย่างแรงเสียบเข้าที่ไหล่ของอีกฝ่ายทำให้ร่างปลิวไปติดอยู่ที่กำแพง
“น่าเสียดาย กะระยะผิดไปหน่อย จริงๆแล้วเล็งไว้ที่หัวนะเนี่ย”
หนิงเทียนหลินแสดงความเสียดายออกมาเงียบๆ ตอนนี้เขาหวังที่จะระเบิดหัวของชายคนนั้นด้วยไม้กระบอง น่าเสียดายที่กระบองลอยไปไม่ตรงเป้าเลยทำได้แค่เพียงเสียบเข้าที่ไหล่ของอีกฝ่ายเท่านั้น แต่เขาก็ไม่เคยเล่นปาลูกดอก
อย่างไรก็ตามเขามั่นใจมากว่าถ้าไม้เสียบเข้าที่หัวของอีกฝ่ายจริงๆ มันจะต้องทำให้หัวระเบิดและตายในทันทีแน่ๆ!
เขาอยากที่จะฆ่าคนๆนี้อย่างโหดร้ายและเขาแค่ต้องการ****ชูหยิชาน
“นี่…คือสิ่งที่คนบางคนทำได้งั้นเหรอ…”
และภาพเหตุการณ์นี้ทำให้คนที่เห็นตกใจกลัวมาก แม้แต่พี่ชายที่เพิ่งรีบวิ่งขึ้นบันไดมาพร้อมกับขาที่พิการเล็กน้อยและพร้อมกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังเขาด้วย รปภ. จะทำเรื่องพวกนี้ได้ไหม? ด้วยกระบองไม้ สามารถตรึงคนเข้ากับกำแพงปูได้จริงๆเหรอ! ทรงพลังอะไรขนาดนี้!
นี่ไม่ใช่มีดนะแต่มันคือกระบองไม้!
ถ้าเป็นมีดสั้น ฉากแบบนี้มีให้เห็นแค่ในหนังกังฟูเท่านั่นแหละ!
“ฉัน…ฉันมาแล้ว ในนามของพี่ใหญ่…ฉันต้องขอโทษสำหรับความไม่สะดวกของนายด้วย”
ฮาดรอนเห็นหนิงเทียนหลินหันมาและจ้องไปที่ร่างของเขาและทันใดนั้นก็โยนมีดยาวในมือทิ้งและคุกเข่าลง เขาหวาดกลัว ถึงแม้เขาจะเป็นเจ้าพ่อเงินกู้ของพวกแก๊ง แต่เขาก็ไม่ใช่ซุปเปอร์แมนนะ!
แค่อีกฝ่ายจ้องเขาด้วยสายตาแบบนี้เขาก็ตายได้แล้ว! เขาเห็นว่ามี รปภ. อีก 6 คนที่นอนกองอยู่ที่พื้น ร้องโอดครวญ นั่นฟันของพวกนั้นร่วงหมดปากเลยเหรอ?
ถ้าเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วเรื่องที่เด็กหนุ่มนี่ลงมือในห้องอาบน้ำเป็นแค่ของเล่น ตอนนี้ก็เป็นการแสดงฝีมือของจริงแล้วล่ะ! นั่นมันกำแพงปูนเลยนะ ต้องใช้ค้อนทุบเท่านั้น เขาไม่รู้เลยว่าต้องใช้กำลังมากแค่ไหน!
คน 30 คนที่เขาพามาด้วยคงจะไม่เพียงพอที่จะสู้กับเด็กหนุ่มตรงหน้าแน่ๆ!
อีกฝ่ายต้องได้รับการฝึกมาอย่างดีแน่ๆหรือไม่ก็เป็นเจ้าแห่งกังฟู! บางทีเขาอาจจะเป็นเจ้าแห่งความแข็งแกร่ง! ถ้ามีใครเอาปืนให้เขาตอนนี้ เขาก็ไม่กล้าลุกขึ้นมาอยู่ดี!
“มาขอโทษแต่เอามีดมาเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?”
หนิงเทียนหลินยิ้มอย่างเยือกเย็น เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่ามันเกิดอะไรขึ้น? ตอนนั้นในห้องอาบน้ำพวกนี้อาจจะยังแก้แค้นไม่ได้ แต่ก็กลับไปแล้วรวบรวมพรรคพวกและกลับมาเพื่อแก้แค้น
“ฉัน…เราได้ยินว่ามีบางคนสร้างปัญหาที่นี่และฉันกลัวว่าพวกนั้นอาจจะทำร้ายนาย ฉันก็เลยมาเพื่อช่วยนาย”
ฮาดรอนคิดเหตุผลที่ฟังไม่ค่อยขึ้นออกมาและในเวลาเดียวกันก็ตะโกนไปที่เด็กหนุ่มที่อยู่ด้านหลังเขา
“ทุกคนเลิกยุ่งกับชายคนนี้ สิ่งที่ชายคนนี้ทำมันสมควรแล้ว!”
“แก๊ก!”
“แก๊ก!”
เมื่อสิ้นคำพูด เขาก็ได้ยินเสียงมีดวางลงกับพื้น ลูกน้องพวกนี้ก็รู้สึกหวาดกลัวเหมือนกัน คนพวกนี้ไม่ได้ฉลาดนัก ชอบการรังแกคนไม่มีทางสู้แต่กลับคนที่แข็งแกร่งกว่า ทรงอำนาจกว่า! เด็กหนุ่มคนนี้เป็นแบบนั้นเลย
“วางมือขวาลงที่พื้น”
หนิงเทียนหลินไม่เห็นได้ยังไงว่าฮาดรอนที่อยู่ตรงหน้าเขาใบหน้าซีดเซียวไปหมด ถึงแม้เขาจะนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น แต่ก็ยังคงมีความเย็นชาอยู่ในน้ำเสียงซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ
“มือขวา…วางลงที่พื้น”
ฮาดรอนไม่ค่อนชัดเจนและทำให้รู้สึกแย่เล็กน้อย น้ำเสียงของอีกฝ่ายเย็นชาเกินไปทำให้ไม่ง่ายเลยที่จะขอโทษ จึงเกิดความลังเลเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรกับเขา
“ไม่เข้าใจหรือไง?” หน้าของหนิงเทียนหลินดื้อรั้นขึ้นมาในทันที “ภายใน 3 วินาทีถ้ายังไม่วาง ฉันจะฆ่าให้หมดเลย!”
“3”
“2”
โดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบโต้อะไร เขาก้เริ่มนับถอยหลังทันที
“วางแล้ว”
“วางแล้ว”
หลังจากที่รอให้หนิงเทียนหลินไปต่อ ไอ้เด็กคนนี้ไม่เพียงกีดกันเขาแต่ยังให้เขาวางมือขวาลงที่พื้นอีกและตอนนี้เขาก็ยังคุกเข่าอยู่และดูเหมือนหนิงเทียนหลินจะเล็งอยู่ที่หัวของเขา การได้เห็นเหตุการณ์นี้ ทำให้ไม่มีใครในพวกแก๊งทั้ง 30 คนที่จะกล้าเดินหน้าเข้ามาหรือพูดอะไรออกมา
ทุกคนต่างหยุดนิ่งเพราะอำนาจของหนิงเทียนหลิน
แม้แต่ตลอดทางเดินมีเพียงแค่ชายที่โดนตรึงอยู่กับกำแพงและร้องโอดครวญอยู่เท่านั้น
“โอ้!”
ก่อนที่มือของฮาดรอนจะแตะลงที่พื้น ร่างของหนิงเทียนหลินก็ก้มลงและในมือเขาก็ถือกริซสีฟ้าไว้ พร้อมทั้งแทงเข้าไปที่กลางมือขวาของฮาดรอน แทงทะลุลงไปถึงฝ่ามือตรึงเขาไว้กับพื้น มันแปลกมากที่มือขวาของฮาดรอนไม่มีเลือดเลย แต่กลับมีชั้นน้ำแข็งขึ้นมาแทน ดูเหมือนว่าอากาศเย็นจากกริซจะทำให้มันแข็งตัว
“3 นาที”
“ถ้าฉันดึงกริซนี่ออกภายใน 3 นาที มือขวาของนายจะรักษาไม่ได้แต่ถ้าเลย 3 นาทีไปแล้วและกริซนี่ยังปักอยู่ ไม่ต้องพูดถึงมือขวานายเลยแต่แขนทั้งแขนของนายจะต้องหลุดออกมาด้วย”
หนิงเทียนหลินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาโดยไม่สนใจสีหน้าของฮาดรอนเลยที่ตอนนี้บิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวด อีกอย่างเขาไม่ได้พูดเล่นเพราะกริซนี้ไม่ใช่กริซธรรมดา แต่เป็นอาวุธแห่งการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยอากาศเย็นซึ่งเขาได้มาตอนที่รับของขวัญรับน้องใหม่
“ฉันอยากจะดึงกริซออกนะแต่มีเงื่อนไขเดียว คือให้ลูกน้องของนายใช้มีดพวกนี้เพื่อนำความตายมาสู่ชายคนนั้น!” หนิงเทียนหลินพูดพร้อมทั้งชี้นิ้วไปที่ชายที่ถูกตรึงอยู่กับกำแพง ชายวัยกลางคนที่ตอนนี้กำลังทรมานและร้องโอดครวญ พร้อมทั้งพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“จำไว้นายตายแน่!”
“ถ้าเขาไม่ตาย จะไม่ใช่แค่มือและแขนเท่านั้นนะที่นายจะรักษาไม่ได้ แต่ฉันจะเอาชีวิตนายด้วย!”