Jun Jiu Ling หวนชะตารัก - บทที่ 120 นายท่านไม่พอใจแล้ว
บทที่ 120 นายท่านไม่พอใจแล้ว
Ink Stone_Romance
ในฐานะบุตรชายคนโต ที่จริงนายท่านใหญ่หนิงอยู่ในบ้านไม่มีอำนาจมากนัก เขาจัดการงานทั่วๆ ไป ดูแลผู้คน เรื่องคบหาคนข้างนอก เรื่องในเรือนงานศพตบแต่ง สาวใช้หญิงรับใช้อะไร แรกเริ่มนายหญิงผู้เฒ่าหนิงเป็นคนตัดสินใจ ต่อมาก็เป็นนายหญิงใหญ่หนิงตัดสินใจ การตัดสินใจของนายหญิงผู้เฒ่าหนิงกับนายหญิงใหญ่หนิง เขาเห็นด้วยมาตลอดไม่เคยคัดค้าน
หนิงอวิ๋นเยี่ยนรู้ว่าบิดาไม่คัดค้านการแต่งงานระหว่างพี่ชายกับจวินเจินเจิน แต่นางก็ไม่คิดว่าท่านพ่อสนับสนุน อย่างไรสำหรับบิดาแล้วนี่ก็เป็นเพียงเรื่องหลอก เขาไม่อาจเข้าใจว่าทำไมท่านแม่โวยวายเช่นนี้กับเรื่องหลอกๆ เรื่องหนึ่ง
แม้ไม่อาจเข้าใจ ท่านพ่อก็เป็นเช่นนั้นเหมือนก่อน ไม่พูดอะไรกับการกระทำ การตัดสินใจของท่านแม่
ไม่ว่ากรณีไหน โลกในเรือนแห่งนี้ เขายินดีให้นางทำตัวตามสบายมีความสุข
แต่เวลานี้นาทีนี้ เห็นชัดว่าเขาไม่คิดจะเป็นเช่นนี้แล้ว
นี่เกิดอะไรขึ้น? ประโยคไหนทำให้ท่านพ่อโกรธแล้ว? ทำไมอยู่ดีๆ โมโหเล่า?
หนิงอวิ๋นเยี่ยนกำมือแน่นมองนายท่านใหญ่หนิง
นายหญิงใหญ่หนิงเห็นชัดว่าคิดไม่ถึงอย่างยิ่ง จากนั้นสีหน้าก็คล้ำเขียว ในดวงตาน้ำตาคลอ
“ท่านกำลังว่าข้าหรือ?” นางเอ่ยเสียงสั่น “ท่านว่าข้าพอเสียทีหรือ?”
นายท่านใหญ่หนิงสีหน้าบึ้งตึง
“แน่นอนว่าเจ้าสิ” เขาเอ่ยเด็ดขาดฉับไว
แม้ในห้องมีเพียงพวกเขาครอบครัวเดียวสี่คน แต่นายหญิงใหญ่หนิงยังคงรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าทีหนึ่งต่อหน้าผู้คน ในสมองเสียงดังเปรี้ยง ทั้งร่างเหมือนลุกติดไฟ
“ท่าน ท่าน…” นางมองนายท่านใหญ่หนิง น้ำตากลิ้งร่วงลงมา อยากพูดอะไรก็เหมือนไม่รู้จะพูดอะไร “ท่านทำอย่างนี้กับข้าได้ยังไง?”
พูดพลางฟุบร่างไปบนเตียง ร้องไห้โฮ
หนิงอวิ๋นเยี่ยนครั้งนี้ไม่ได้ปิดหน้าร่ำไห้กับท่านแม่แล้ว แต่สีหน้าหวาดกลัววิตกนั่งคุกเข่าอยู่ด้านข้าง เหมือนยังไม่ได้สติกลับมา
นายท่านใหญ่หนิงไม่ได้เดินออกไปอย่างรำคาญเช่นนั้นเหมือนแต่ก่อน แล้วก็ไม่ได้ไปปลอบ แต่หน้าบึ้งตึงมองไปทางหนิงอวิ๋นเจา
“เมื่อครู่เจ้าว่าเมืองหลวงมีเรื่องอะไรไม่ดี?” เขาเอ่ยถาม “พวกเจ้าตอนแรกอยู่ที่เมืองหลวงตกลงกันว่าอย่างไร?”
หนิงอวิ๋นเจามานั่งปลอบข้างกายนายหญิงใหญ่หนิงแล้ว ได้ยินท่านพ่อถามก็ลุกขึ้นยืน
“ตอนนั้นที่ข้ากับท่านอาจะออกจากเมืองหลวงเคยถามคุณหนูจวินว่าจะกลับมาด้วยกันไหม” เขาเอ่ย
ตอนนั้นที่รีบออกจากเมืองหลวงเป็นการตัดสินใจของท่านอา จุดนี้เขาไม่ได้โกหก ส่วนใครถามคุณหนูจวินว่ากลับมาด้วยกันหรือไม่ เขาก็ไม่เอ่ยชัดเจนแล้ว อย่างไรสัญญาหมั้นกำลังจะสำเร็จ ใครไปถามก็เป็นเรื่องสมควร
นายท่านใหญ่หนิงพยักหน้า
“ความกังวลของท่านอาเจ้าถูกต้องแล้ว เช่นนี้ถึงหลบข่าวได้ชั่วคราว” เขาเอ่ย
“แต่คุณหนูจวินรู้สึกว่าเรื่องนี้เพียงพอกดข่มผ่านไปได้แล้ว ไม่ต้องกลับมา” หนิงอวิ๋นเจาเอ่ย “อย่างไรฮ่องเต้ตอนนั้นก็ออกคำสั่งตำหนิลู่อวิ๋นฉีแล้ว”
หลังหนิงอวิ๋นเจาบอกว่ามีสัญญาหมั้นกับคุณหนูจวิน ฮ่องเต้ก็ออกคำสั่งตำหนิลู่อวิ๋นฉีทันที นี่เป็นการไว้หน้าและให้เกียรติตระกูลหนิง
นายท่านใหญ่หนิงสีหน้ายิ่งเคร่งขรึม
“ถ้าอย่างนั้นทำไมนางกลับมาเล่า? หรือว่าทุกอย่างไม่ได้สงบลงเท่านี้” เขาเอ่ยถาม
ถ้าอย่างนั้นก็สาหัสแล้ว
นั่นย่อมไม่ได้เกี่ยวข้องเพียงแค่คุณหนูจวินแล้ว ยังมีตระกูลหนิงของพวกเขาด้วย ตอนนี้ตระกูลหนิงของพวกเขากับคุณหนูจวินผูกอยู่ด้วยกัน ดังนั้นเมื่อได้ยินหนิงอวิ๋นเจาเมื่อครู่เอ่ย “กลับมากะทันหัน…เรื่องที่เมืองหลวงไม่ดี…กังวลตระกูลของพวกเรา” ประโยคนี้ออกมา เขาก็ตื่นตัวระวังทันที
ตอนนี้เรื่องนี้ไม่ใช่แค่สัญญาหมั้นแผ่นหนึ่งแล้ว ส่วนความรักใคร่ชอบพอของหนุ่มสาวยิ่งไม่ต้องพูดถึง ในฐานะนายท่านของบ้าน ผู้ใหญ่ของตระกูล สิ่งที่เขาใส่ใจคืออนาคตของวงศ์ตระกูล
เดิมต้องการฟังหนิงอวิ๋นเจากล่าวต่อ ดันถูกนายหญิงใหญ่หนิงขัด แล้วยังโวยวายเรื่องเล็กน้อยจุกจิกไม่สำคัญอีก
ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ชอบแล้วก็ชอบ ก็แต่งเข้ามา มีอะไรหนักหนา โวยวายไม่จบไม่สิ้น โลกในบ้านแห่งนี้เจ้าตัดสินใจ สร้างปัญหาได้ตามใจ ด้านนอกมีเขาคอยเฝ้าคอยคุม ไม่รบกวน ลืมตาข้างหนึ่งหลับตาข้างหนึ่งไม่เป็นไร
แต่เกี่ยวข้องกับเรื่องอนาคตของวงศ์ตระกูล เจ้าผู้หญิงคนหนึ่งไม่แบ่งแยกหนักเบาทำอะไรเลอะเลือน เขาก็ไม่อาจไม่ยุ่งแล้ว
ไม่ต้องพูดถึงตัวอย่างอื่น พูดถึงตระกูลหลิน
ก่อนหน้านี้ตระกูลหลินนั่นบุตรสาวถูกคุณหนูจวินทำร้ายจนชื่อเสียงย่อยยับ ต่อมาก็ถูกนายน้อยตระกูลฟางเที่ยงคืนพังประตูค้นบ้านเป็นเรื่องเป็นราวจนหน้าดำคล้ำเครียด แต่ผลสุดท้ายเล่า ตระกูลหลินเป็นศัตรูกับตระกูลฟางไหม?
ไม่ใช่สักนิด ตรงกันข้ามกลับคบหาใกล้ชิดตระกูลฟางแน่นแฟ้นกว่าเดิม ผลสุดท้ายเรื่องการปลูกฝีที่มาจากเมืองหลวงก็ถูกอาลักษณ์หลินเอาไปไว้ในมือ โกยผลงานกับหัวใจประชาชนไปกอบใหญ่ นี่หากไม่มีตระกูลฟางสนับสนุนอยู่ข้างหลัง ไม่เชื่อหรอกว่าจะผลัดถึงตระกูลหลินของเขา
อย่างไรการปลูกฝีก็เป็นเรื่องที่คุณหนูจวินควบคุม
บนโลกนี้มีแค้นไม่อาจอยู่ร่วมฟ้าจริง แต่ก็มีวันนี้เป็นศัตรูพรุ่งนี้กลายเป็นมิตร ความสัมพันธ์ที่พิจารณาผลได้ผลเสียด้วย
เทียบกับตระกูลหลิน พวกเขาตระกูลหนิงกับตระกูลฟางและคุณหนูจวินยิ่งนับไม่ได้ว่ามีความแค้น เรื่องรักๆ ใคร่ๆ เล็กน้อยนับเป็นเรื่องอะไรใหญ่ได้
สายตาของผู้หญิงนี่สั้นตื้นเขินโกรธง่ายบุ่มบ่าม เขาในฐานะผู้ที่ดูแลตระกูลย่อมไม่อาจเลอะเลือน
ได้ยินคำถามของบิดา หนิงอวิ๋นเจาก็พยักหน้าอีกครั้ง
“ตั้งแต่หลังข้ากับท่านอาจากมา เมืองหลวงก็เกิดเรื่องขึ้นมากมายนัก” เขาเอ่ยแล้วถอนหายใจเบาๆ ทีหนึ่ง “ความตายของใต้เท้าน้อยหวง ที่จริงมากน้อยก็เกี่ยวข้องกับคุณหนูจวิน”
ความตายของใต้เท้าน้อยหวงเรื่องใหญ่ปานนี้ เพียงพอชักนำให้ราชสำนักสะเทือนหนัก นายท่านใหญ่หนิงย่อมรู้แล้ว นายท่านรองหนิงก็รีบลนลานกลับเมืองหลวงเพราะเรื่องนี้เช่นกัน
เรื่องนี้ไม่ใช่เกี่ยวข้องกับบุตรชายเฉิงกั๋วกงหรือ? ทำไมยังเกี่ยวกับคุณหนูจวินอีก?
เรื่องใหญ่ขนาดนี้!
“เรื่องใหญ่ขนาดนี้ เจ้าทำไมยังไม่รีบพูด พิรี้พิไรสนใจเรื่องเล็กน้อยจุกจิกเหล่านี้ทำอะไร” นายท่านใหญ่หนิงโมโหเอ่ยพลางสะบัดแขนเสื้อไปข้างนอก “ตามข้ามา”
หนิงอวิ๋นเจามองไปทางนายหญิงใหญ่หนิง
“ท่านแม่ ท่านอย่าเป็นเช่นนี้เลย ข้าไปครู่เดียวแล้วจะกลับมาคุยกับท่าน” เขาเอ่ยเสียงอ่อนโยน
ไม่รอนายหญิงใหญ่หนิงเอ่ยวาจา นายท่านใหญ่หนิงที่เดินไปถึงประตูด้านนั้นก็หันกลับมาอีกครั้งแล้ว
“ให้เจ้ารีบหน่อยไม่ได้ยินหรือ? ยิ่งร่ำไรขึ้นทุกที ไม่สมเป็นบัณฑิตจริงๆ” เขาตวาดไม่สบอารมณ์
หนิงอวิ๋นเจาขานรับ ตอนนี้ถึงก้าวเร็วไวตามไป
บิดาบุตรสองคนจากไปแล้ว ในห้องกลายเป็นเงียบลง เสียงร้องไห้ของนายหญิงใหญ่หนิงไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรหยุดลงแล้ว น่าจะเป็นตอนนายท่านใหญ่หนิงกับหนิงอวิ๋นเจาหนึ่งถามหนึ่งตอบ
ไม่มีใครสนใจนาง พวกเขาพูดเรื่องของตนเอง ราวกับนางไม่มีตัวตนอยู่
นายหญิงใหญ่หนิงนั่งบนเตียง บนหน้ายังมีน้ำตา สีหน้าซีดเซียวดังเช่นก่อนหน้า แต่แววตากลับกลายเป็นไร้แววยิ่งกว่าก่อนหน้า
เรื่องเล็กน้อยจุกจิก?
ร่ำไร?
การแต่งงานของบุตรชายนางถูกนายท่านใหญ่หนิงนิยามเช่นนี้แล้ว? นางสนใจการแต่งงานของบุตรชายเช่นนี้ ในสายตาเขาก็คือเรื่องเล็กน้อยจุกจิก?
ไม่ ไม่ใช่เรื่องแต่งงานของบุตรชาย แต่เป็นความเห็นกับความคิดของนาง ในสายตานายท่านใหญ่หนิงคือเรื่องเล็กน้อยจุกจิก
ในสายตาพวกเขานางก็คือเรื่องเล็กน้อยจุกจิกหรือ?
นางมีชีวิตอยู่ที่ตระกูลหนิงนี่มายี่สิบกว่าปีแล้ว ที่แท้ถึงกับสิ่งใดก็ไม่ใช่หรือ?
ไม่ เดิมทีไม่ใช่ เดิมทีไม่มีใครทำเช่นนี้กับนาง ทุกสิ่งนี้เป็นเพราะตอนนี้พบ…
จวินเจินเจิน
ต่อหน้าจวินเจินเจินคนนั้น กระทั่งสามีที่เคียงข้างมานานปีปานนี้ยังเลื่อมใส ทอดทิ้งนางแล้ว
อาศัยอะไรกัน อาศัยอะไรกัน
นายหญิงใหญ่หนิงส่งเสียงร้องไห้แหลมแสบหูอีกครั้ง นอนคว่ำบนเตียง
หนิงอวิ๋นเยี่ยนถูกเสียงร้องไห้นี่ปลุกได้สติกลับมา แต่นางไม่ได้โถมเข้าไปร่ำไห้เป็นเพื่อนหรือปลอบประโลมเช่นนั้นอย่างก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยังคงคุกเข่านั่งนิ่งอยู่เหมือนเดิม
ทำไมเป็นเช่นนี้เล่า?
ทำไมท่านพ่อตำหนิท่านแม่แล้ว?
ก่อนหน้านี้ท่านพ่อไม่เอ่ยวาจาก็นับว่ายอมรับความเห็นของท่านแม่เงียบๆ ถ้าอย่างนั้นเขาเอ่ยปากตำหนิท่านแม่ คือแสดงท่าทีของเขาต่อเรื่องนี้แล้ว
ท่านพ่อตามสบายปล่อยผ่านเรื่องเหล่านี้ แต่เมื่อเข้ามายุ่งก็ไม่อาจขัดได้แล้ว
อย่างไรเขาถึงเป็นเจ้าบ้าน
ทำไมเป็นเช่นนี้เล่า? เพื่อจวินเจินเจิน?
จวินเจินเจินอาศัยอะไรเล่า?
ก่อนหน้านี้ทำร้ายตนเองจนถูกไล่ออกจากบ้านแต่งงานก่อนเวลา ตอนนี้ยังไล่ท่านแม่ลงจากตำแหน่งในบ้านอีก
นางยังไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นนะ นางยังไม่ทันแต่งเข้าบ้านมาเลยนะ นางยังไม่ทันเรียกว่าหนิงจวินซื่อเลย
นางทำได้ยังไงกัน? แค่เพราะท่านพี่ชอบนางรึ?
หนิงอวิ๋นเยี่ยนนั่งอยู่บนพื้นหัวสมองโล่งขาวไปหมด
……………………………………….