Jun Jiu Ling หวนชะตารัก - ภาค 2 ตอนที่ 77 เกี่ยวอะไรกับเจ้า
ทิวทัศน์ยามตะวันพลบทอดตัวลงมา ยังไม่ถึงเวลาจุดโคมไฟ แต่สายตาก็มืดมัวแล้ว ด้านในโถงรับแขกของอาลักษณ์หลินคนมากมายยืนอยู่ รู้สึกยิ่งกดดัน
นายหญิงหลินมองฟางจิ่นซิ่วแล้วถอนหายใจ
“คุณหนูฟาง นายท่านครอบครัวข้าไม่อยู่ที่บ้าน” นางว่า “คุณหนูจวินก็ไม่ได้มาเหมือนกัน”
“ข้าเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันพูดจากันแล้วเดินไปกับตา” ฟางจิ่นซิ่วเอ่ยขึ้น “นายหญิงหลินจะบอกว่าข้าโกหกหรือ?”
นายหญิงหลินสีหน้าจนปัญญานิดหนึ่งโกรธเกรี้ยวนิดหนึ่ง
“ข้าย่อมไม่กล้ากล่าวว่าคุณหนูฟางโกหก” นางว่า “เพียงแต่ข้าไม่รู้ว่าคุณหนูจวินกับนายท่านของข้ายังมีอะไรพูดจากันได้อีก”
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร หลินจิ่นเอ๋อร์ก็เป็นบุตรสาวแท้ๆ ของอาลักษณ์หลิน แม้ทำร้ายคนก่อน แต่สุดท้ายจุดจบอนาถยิ่งนัก โบราณว่าเสือร้ายไม่กินลูกตน อาลักษณ์หลินไม่เพียงไม่ปกป้องชำระแค้น ตรงกันข้ามยังไม่อาจไม่ส่งบุตรสาวไปศาลพบรรพชน
แม้อธิบายปกปิด เรื่องของหลินจิ่นเอ๋อร์ก็ยังปิดไม่อยู่ ทำให้ตระกูลหลินอับอาย
สำหรับตระกูลหลินแล้ว นี่เป็นถูกคุณหนูจวินบีบบังคับไร้ทางเลือก แม้กดเก็บความชังเอาไว้ได้ แต่ก็ไม่อยากไปมาหาสู่อีก
ถ้อยคำทิ่มแทงในวาจาของนายหญิงหลิน ฟางจิ่นซิ่วไม่อับอายโกรธเกรี้ยว
“ข้าก็รู้สึกว่าพวกเขาไม่มีสิ่งใดพูดจากันได้ แต่ในเมื่อพูดกันแล้วนั่นก็ย่อมเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องพูด” นางว่า “ข้าบอกกับนายหญิงหลินตรงๆ ข้าไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร ข้าเชื่อว่านายหญิงหลินก็ไม่รู้เช่นกัน ดังนั้นยังคงขอให้เชิญใต้เท้าหลินออกมา ข้าก็ไม่ใช่จะถามใต้เท้าหลินว่าเรื่องอันใด เพียงให้บอกว่าคุณหนูจวินไปไหนเท่านั้น อย่างไรฟ้าก็ไม่สว่างแล้ว นางยังไม่ได้กลับบ้าน”
นายหญิงหลินสีหน้าเปลี่ยนไปมาอยู่ครู่หนึ่ง
“ข้าไม่รู้จริงๆ” นางว่า “เจ้าก็รู้ พักนี้ในอำเภอเกิดเรื่อง นายอำเภอหลี่ถูกจับ คนอื่นๆ ในจวนที่ว่าการอำเภอก็ล้วนถูกคุมตัวสอบสวน นายท่านไม่ได้ออกจากบ้านมาหลายวันแล้ว วันนี้เจ้าเมืองหม่าประกาศยกเลิกการควบคุม นายท่านถึงออกจากบ้าน”
นางพูดถึงตรงนี้ก็หยุดชะงัก ลังเลนิดหน่อย
“เขาออกจากบ้านไปทำไม?” ฟางจิ่นซิ่วมองเห็นความลังเลของนางจี้ถามทันที
นายหญิงหลินถอนหายใจในใจ มองแม่นางน้อยที่ช่างบีบคั้นคนผู้นี้ เปลี่ยนเป็นก่อนหน้านี้นางไม่มีทางคิดถึงแน่นอนว่าจะต้องเผชิญหน้ากับการตั้งคำถามของเด็กสาวเช่นนี้ แล้วยังเป็นตระกูลพ่อค้าคนหนึ่ง
พูดความจริงสิ่งที่อาลักษณ์หลินตัดสินใจทำกับหลินจิ่นเอ๋อร์ นางแม้เชื่อฟัง แต่ในใจก็ไม่พอใจอย่างมาก
แต่ตอนนี้นางไม่มีความโกรธแค้นอะไรแล้ว
ก็เหมือนดั่งคำพูดที่คุณหนูตระกูลฟางคนนี้พูดตรงประตูเมื่อครู่ ตระกูลฟาง ก็คือตระกูลฟางที่เคลื่อนทหารขุนนางสองเมืองทหารม้าซานซีกับเหอหนานสองมณฑล ทุบประตูใหญ่จวนที่ว่าการอำเภอ จับนายอำเภอ เมื่อครู่ให้ผู้คนของหยางเฉิงได้เห็นการประหารลงดาบสามครั้งศีรษะไม่หลุดตระกูลนั้น
ตระกูลฟางแห่งนี้หาเรื่องไม่ได้จริงๆ
นายหญิงหลินถอนหายใจ
“คุณหนูฟาง ข้าไม่รู้จริงๆ” นางว่า แล้วชะงักไปนิดหนึ่ง “นายท่านเพียงพูดว่ามีเรื่อง แต่ไม่ได้บอกกับข้าว่าเรื่องอันใด ข้าก็ไม่สะดวกถาม”
มีเรื่อง
ย่อมต้องมีเรื่อง มีเรื่องจริงๆ
ฟางจิ่นซิ่วสูดหายใจลึกๆ ทีหนึ่ง
“เช่นนั้นเขาไปที่ใด?” นางเอ่ยถาม
นายหญิงหลินส่ายศีรษะ
“นายท่านไม่ได้พูด” นางว่า
ฟางจิ่นซิ่วมองนาง นายหญิงหลินก็มองนางอย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน
“เขามีพูดว่าวันนี้จะกลับไม่กลับไหม?” เฉินชีเอ่ยถามแทรก
สีหน้านายหญิงหลินนิ่งไปนิดหนึ่ง
“บอกว่า ไม่กลับมาแล้ว” นางว่า พูดถึงตรงนี้ก็รีบร้อนส่ายศีรษะอีก “แต่เขาไปไหนข้าไม่รู้จริงๆ”
เฉินชีหัวเราะ
“นายหญิงหลิน ท่านเป็นภรรยา แม้กระทั่งสามีอยู่ที่ใดก็ไม่รู้หรือ” เขาหัวเราะเอ่ยขึ้น
สีหน้านายหญิงหลินแดง มองเฉินชีดวงดวงตาที่โมโหยิ่งนัก
หากไม่ใช่ติดอยู่ที่ตระกูลฟางสามคำนี้ ตระกูลตกต่ำนี่ยืนเบื้องหน้านางยังไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงวาจาใหญ่โตไม่อับอายเช่นนี้
“ถ้าเช่นนั้นนายหญิงหลินรบกวนท่านบอกกล่าวสักหน่อยว่าอาลักษณ์หลินอาจไปที่ใด” ฟางจิ่นซิ่วเอ่ยขึ้น
นายหญิงหลินกำมือที่กุมอยู่ด้วยกันแน่น
หมายความว่าอย่างไร นี่คือจะค้นบ้านหรือล้อมจับล่ะ? พวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าเป็นใคร?
ทว่าคำพูดนี้นางไม่กล้าเอ่ยออกมา
เพราะตระกูลฟางย่อมกล้าทำเรื่องอย่างค้นบ้านล้อมจับจริงๆ แล้วก็ทำออกมาได้จริงๆ เช่นกัน
จวนที่ว่าการอำเภอยังทุบได้ นางย่อมไม่กล้าบอกว่าประตูคฤหาสน์ตระกูลหลินแข็งกว่าจวนที่ว่าการอำเภอ
“เขา ข้าไม่รู้จริงๆ อาจอยู่ที่จวนว่าการกระมัง” นายหญิงหลินกัดฟันเอ่ยขึ้นช้าๆ
พูดยังไม่ทันจบ หญิงรับใช้คนหนึ่งเวลานี้ก็เดินเข้ามาอย่างรีบร้อน กระซิบข้างหูนายหญิงหลินหลายประโยค
ฟางจิ่นซิ่วมองเห็นสีหน้านายหญิงหลินเปลี่ยนไปในฉับพลัน สายตาที่มองมาทางตนพลันคมปลาบ เหมือนกับในห้องที่จุดโคมสว่างขึ้นกะทันหัน
“คุณหนูฟาง” นางเอ๋ยขึ้นเสียงดัง ความกลัวแต่เดิมสลายหายไป ที่มาแทนที่คือสายตาเย็นชาดูแคลน “ข้าลืมถามไป เป็นเจ้าต้องการตามหานายท่านตระกูลข้า หรือตระกูลฟางต้องการหา?”
ฟางจิ่นซิ่วในใจเต้นตึกตักเข้าใจแล้ว
เรื่องที่ตนเองถูกขับออกจากตระกูลฟางเปิดเผยแล้ว
“นี่มีอะไรแตกต่างเล่า” เฉินชียิ้มเฝื่อนเอ่ยขึ้น คนก็ขยับมาข้างฟางจิ่นซิ่วก้าวหนึ่ง มือกำลำไม่ไผ่แน่น “คุณหนูฟางถามก็คือตระกูลฟางถามแหละ”
นายหญิงหลินหัวเราะหยัน
“ใช่หรือ?” นางว่า “แต่ข้าได้ยินว่า คุณหนูสามฟางถูกขับออกจากตระกูลฟางแล้ว”
พร้อมกับประโยคนี้ของนาง บรรดาสาวใช้หญิงรับใช้ที่เดิมทีหดตัวสั่นอยู่ก็ยืดตัวหลังตรง
“เจ้าคิดยกชื่อตระกูลฟางมาแอบอ้างหลอกลวงสินะ” นายหญิงหลินหัวเราะหยันเอ่ยขึ้น โบกมือ “จับนางไว้”
บรรดาสาวใช้หญิงรับใช้ท่าทางดุร้ายล้อมเข้ามาทันที
“ทั้งหมดอย่าขยับ” เฉินชีร้องเสียงดัง สะบัดลำไม้ไผ่ในมือ
มัดหญ้าฟางด้านบนถูสะบัดร่วงลงมา เหวี่ยงเข้าใส่ร่างของบรรดาสาวใช้หญิงรับใช้ที่ล้อมเข้ามา พาให้ร้องตกใจกันเป็นแถบ คนก็พากันถอยหลัง
ฉวยช่องว่างนี้ เฉินชีกระโดดเข้าไปใช้ลำไม้ไผ่พาดไว้บนลำคอของนายหญิงหลิน
นายหญิงหลินกรีดร้องออกมา
“ทั้งหมดอย่าขยับ” เฉินชีร้องตะโกน “ถอยหลังให้หมด”
บรรดาสาวใช้หญิงรับใช้ตกใจสีหน้าซีดเผือด นายหญิงหลินก็ได้แต่กรีดร้องไม่หยุด แล้วโบกมือสั่งให้บรรดาหญิงรับใช้ถอยออกไป
“มีอันใดพูดจากันดีๆ” พวกนางเอ่ยเสียงสั่น
ลำไม้ไผ่แม้ไม่ใช่มีด แต่เฉินชีเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ชายมีพละกำลัง ใช้ลำไม้ไผ่รัดคนตายก็ไม่ใช่ทำไม่ได้
ฟางจิ่นซิ่วมองเฉินชีสีหน้ายุ่งเหยิงต้องการพูดอะไรก็ไม่ได้พูด
“พวกเจ้าคิดทำอะไร? พวกเจ้าจะปล้นหรือ? พวกเจ้าคิดว่าหนีรอดรึ?” นายหญิงหลินร้องเสียงแหลม
“นายหญิงหลิน ข้าไม่ได้มีเจตนาอื่น ข้าเพียงต้องการรู้ว่าอาลักษณ์หลินอยู่ที่ใด?” ฟางจิ่นซิ่วสูดหายใจลึกทีหนึ่งเอ่ยนิ่งๆ
“นายท่านของข้าอยู่ที่ไหนเกี่ยวอะไรกับเจ้า?” นายหญิงหลินตะโกน
“ข้าบอกแล้วว่าข้าต้องการตามหาคุณหนูจวิน คนของตระกูลฟางก็กำลังตามหานางอยู่” ฟางจิ่นซิ่วเอ่ย
คนของตระกูลฟาง นายหญิงหลินกลับหัวเราะแล้ว
ตอนนี้นางไม่กลัวสักนิดแล้ว ต่อให้ลำคอถูกคนใช้ลำไม้ไผ่กดอยู่ นางก็ไม่กลัวแล้ว
ฟางจิ่นซิ่วคนนี้ตอนนั้นก็อยู่ที่หอจิ้นอวิ๋นเหมือนกัน ลูกสาวของนางถูกทำร้ายนางก็มีส่วนเกี่ยวด้วย ทำอันใดคุณหนูจวินไม่ได้ สุนัขตกน้ำที่ถูกขับออกจากตระกูลฟางตัวนี้นางจะตีไม่ได้งั้นรึ?
“คนของตระกูลฟาง ฟางจิ่นซิ่ว มารดาบังเกิดเกล้าของเจ้าทำร้ายนายน้อยตระกูลฟาง ต้องการสะบั้นสายเลือดตระกูลฟาง ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าเจ้ากับตระกูลฟางยังมีความเกี่ยวพันอะไรอีก” นายหญิงหลินแค่นหัวเราะเอ่ยขึ้น พลางจับลำไม้ไผ่ “ข้าบอกเจ้า เจ้าไม่ใช่คนตระกูลฟางแล้ว เลิกยกธงใหญ่ตระกูลฟางอันนี้มาขู่คน เจ้าบอกตระกูลฟางต้องการตามหาคน คนตระกูลฟางทำไมไม่มา? กลับให้เจ้าคนที่ทำร้ายตระกูลฟางคนนี้มา? เจ้าเห็นข้าเป็นคนโง่รึ?”
ฟางจิ่นซิ่วกำมือแน่นกัดริมฝีปากล่าง
คนของตระกูลฟาง จะมาหรือไม่?
พวกเขาจะเชื่อคำพูดของตนไหม?
เชื่อว่าตนเห็นคุณหนูจวินอยู่กับอาลักษณ์หลินไหม?
หรือบางทีอาจเหมือนหลิ่วเอ๋อร์สงสัยว่าตนเองจงใจก่อกวนแบบนั้น ชักนำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างตระกูลฟางกับตระกูลหลิน
“ข้าบอกเจ้า ต่อให้เจ้าฆ่าข้า ก็อย่าได้คิดเดินออกไปจากตระกูลหลิน!” นายหญิงหลินตะโกนเสียงแหลม คลุ้มคลั่งจับลำไม้ไผ่ไว้
ผู้หญิงที่คลุ้มคลั่งทำเฉินชีหวิดจะล้มลง
“ไม่ถอยไปอีก ข้าจะฆ่านาง” เขาก็พลันออกแรงรัดไว้ คำรามเอ่ยขึ้น
นายหญิงหลินหวีดร้องเจ็บปวด ตาเหลือก
สาวใช้หญิงรับใช้ในห้องวุ่นวายหลีกทางให้
“เจ้ารีบไป รีบไป” เฉินชีตะโกนบอกฟางจิ่นซิ่ว
ฟางจิ่นซิ่วมองเขานิ่งไม่ขยับ
“ไป? ไปไหนเล่า? ” นางหัวเราะเอ่ยขึ้น
เฉินชีรีบร้อนถลึงตา
“เจ้าอยากไปไหนก็ไปที่นั่นสิ” เขาว่า
ฟางจิ่นซิ่วมองหญิงรับใช้ในห้อง มองคนมากมายของตระกูลหลินข้างนอกที่ได้ยินเสียงออเข้ามา หัวเราะอีกครั้ง
ต่อให้เดินออกไป ยังมีความหมายอะไรอีก
“ไม่ต้องสนใจข้า ตีนางให้ตาย!” นายหญิงหลินกรีดร้องตะโกน
แก้แค้นให้จิ่นเอ๋อร์ แก้แค้นให้จิ่นเอ๋อร์
เฉินชีอย่างไรที่ถืออยู่ก็คือลำไม้ไผ่ไม่ใช่มีด บรรดาข้ารับใช้ชายตระกูลหลินล้วนพุ่งเข้ามาโถมเข้าใส่ ส่วนบรรดาสาวใช้หญิงรับใช้ก็ฉวยโอกาสโถมเข้าใส่ฟางจิ่นซิ่ว ขณะที่กำลังโกลาหล ด้านนอกก็มีเสียงร้อนรนดังขึ้น
“นายหญิง นายหญิง แย่แล้ว คนของตระกูลฟางล้อมบ้านของพวกเราไว้แล้ว”
คนด้านในห้องหยุดนิ่งทันที เสียงเอะอะฉับพลันหายไป
คนของตระกูลฟาง?
คนมากมายเงียบสนิท ตอนนี้ถึงได้ยินเสียงโหวกเหวกข้างนอก รวมถึงคบเพลิงที่จุดสว่างดุจท้องนภาครึ่งหนึ่งลุกไหม้
ปึง ปึง ปึง
เสียงดังสนั่นข้างนอกลอยมา นั่นเป็นเสียงทุบประตู ประตูใหญ่ตระกูลหลินย่อมแข็งแกร่งเทียบไม่ได้กับประตูใหญ่ของจวนที่ว่าการอำเภอ ผ่านไปสามทีก็ได้ยินเสียงโครมทีหนึ่ง
คาดว่าเป็นประตูถูกทุบล้มแล้ว
สีหน้านายหญิงหลินซีดเผือดไร้สีเลือด ดวงตาตะลึงงัน
คนของตระกูลฟางมาจริงๆ แล้ว?
คนของตระกูลฟางมาจริงๆ แล้ว
ฟางจิ่นซิ่วก้มศีรษะ ร่างกายที่เกร็งเครียดผ่อนคลายลงช้าๆ มีน้ำตาหยดหนึ่งร่วงหล่นลงบนหลังมือ
……………………………………….