Kill the Hero - ตอนที่ 33.1
Kill the Hero 033-1
การเคลื่อนไหวของพวกเขาซ่อนเร้นเหมือนกับสิงโตที่ไล่ล่าเหยื่อ
Seug!
พวกเขาไม่ได้แตะต้องศพฮอบก็อบลินที่กระจัดกระจายไปทั่ว
สิ่งที่ทำให้เป็นแบบนี้ได้ คือทักษะที่เรียกว่า “ไนท์วิชั่น” เป็นทักษะเฉพาะของผู้ที่มีนักล่าไร้เสียงเป็นรัศมีเท่านั้น
ทักษะนี้มีเอฟเฟกต์คล้ายกับแว่นตากลางคืน ทำให้ปาร์คอียอน และคนของเธอมองเห็นในความมืด
แต่มันไม่ได้หมายความว่าจะมองเห็นชัดเหมือนตอนกลางวัน
การมองเห็นของพวกเขาถูกย้อมเป็นสีเขียว และการรับรู้ของพวกเขาก็ไม่คมชัดเหมือนปกติ
คล้ายกับคนสายตาไม่ดีที่ต้องเดินโดยไม่สวมแว่น
‘หยุด! ‘
นั่นคือเหตุผลที่ปาร์คอียอนหยุดคนของเธอต่อหน้าศพฮอบก็อบลิน
ปาร์คอียอนย่อตัวลงตรวจสอบซากศพฮอบก็อบลิน
หลังจากมองไปรอบ ๆ เป็นเวลาสั้น ๆ เธอก็เห็นหอกสองสามเล่มที่แทงขึ้นมาเหมือนกับหน่อไม้
มันเป็นกับดัก
กับดักมีไว้สำหรับคนที่ตัดสินใจจะไม่หลีกเลี่ยงศพฮอบก็อบลิน
ปาร์คอียอนไม่แปลกใจที่เห็นสิ่งนี้
‘เขาค่อนข้างระวังตัว’
เธอยิ้ม
‘ผู้ชายคนนี้ต้องปิดบังอะไรบางอย่างเอาไว้’
พวกเขารู้แล้วว่าคิมวูจินไม่ใช่คนธรรมดา
หลักฐานก็คือปาร์คอียอน และคนของเธอถูกส่งมาที่นี่
พวกเขาไม่ใช่นักล่าผู้เล่นทั่วไป
พวกเขาเป็นมืออาชีพที่ทำหน้าที่เก็บกวาดความผิดพลาดของนักล่าผู้เล่นคนอื่นที่เข้าร่วมกับสมาคมหัวกะโหลก
แน่นอนว่าระดับความสามารถของพวกเขานั้น นักล่าผู้เล่นทั่วไปเทียบไม่ได้
‘ฉันจะได้ข้อมูลจากเขาแน่นอน’
ทักษะนี้เป็นช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างพวกเขากับนักล่าทั่วไป และช่องว่างจะมากขึ้นในแง่ของการแก้ปัญหา
หลังจากพบกับดักที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางศพฮอบก็อบลินแล้ว เธอจึงส่งสัญญาณให้คนที่อยู่ข้างหลัง
‘มีกับดัก ระวังตัวมากขึ้น’
‘ครับ’
ชายเหล่านั้นตอบกลับด้วยสัญญาณมือ
จากนั้น พวกเขาก็ดำเนินการต่อไปอย่างลับ ๆ
พวกเขาเคลื่อนไหวพร้อมกับค้นหากับดักเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ระหว่างซากศพฮอบก็อบลินทีละกอง
มันเป็นงานที่น่าเบื่อหน่าย แต่ไม่มีใครบ่น
ในที่สุดพวกเขาก็พบสิ่งที่ต้องการ
แสงคบเพลิงปรากฏขึ้นในโลกสีเขียวสลัว
‘หยุด! ‘
ปาร์คอียอนหยุดคนของเธอ ในขณะเดียวกัน ทุกคนก็เอื้อมมือไปหาลูกศรอย่างระมัดระวัง
จากนั้นพวกเขาก็คว้าธนู และถือลูกศรเอาไว้
การกระทำทั้งหมดของพวกเขาดำเนินไปอย่างช้า ๆ
การวางลูกศรบนคันธนู การรั้งสายธนูของพวกเขา เป็นไปราวกับว่ากำลังเล่นวิดีโอแบบสโลว์โมชั่น
ในแง่นี้ นั่นเป็นข้อดีของการใช้ธนู
ไม่มีจุดให้แกว่งดาบอย่างช้า ๆ กลับกันแม้ธนูจะถูกดึงออกมาช้า แต่ก็ทรงพลังไม่ต่างกับดาบเวลาปล่อยสายธนู
นักล่าไร้เสียง นั่นคือเหตุผลที่เขาบังคับให้คนที่เชื่อ และติดตามเขาใช้ธนู
‘เขากำลังเคลื่อนไหว’
จากนั้นแสงก็เคลื่อนออกไปไกลขึ้น
การเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่ได้ทำให้ปาร์คอียอน และคนของเธออารมณ์เสีย
ไม่จำเป็นต้องส่งสัญญาณระหว่างกัน
พวกเขาขยับอย่างช้า ๆ พร้อมกับดึงคันธนู ค่อย ๆ ลดระยะห่างกับแสง เมื่อเทียบกับสิ่งที่พวกเขาอดทนมาจนถึงตอนนี้ การอดทนมากขึ้นอีกนิดก็ไม่ใช่เรื่องยากนัก
แม้แต่ในขณะนี้ ปาร์คอียอนก็ไม่ว่อกแว่กง่าย ๆ
‘เตรียมเข้าปะทะ’
เธอให้คนของเธอ นำหน้าไปทีละคน
มันเป็นมาตรการที่จะทำให้ทุกคนไม่เดือดร้อน เมื่อมีอะไรเกิดขึ้น
ทั้ง 3 คน ค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปในลักษณะนั้น
Puuhoo!
จากนั้นคนที่อยู่ตรงหน้าปาร์คอียอนก็เริ่มเสียหลักตามด้วยเสียงลม
“หือ อ่า? ”
ชาย 2 คนที่กลั้นหายใจมาจนถึงจุดนี้ ต่างตกใจกลัวจนอดตะโกนออกมาไม่ได้
“อ่า!”
“อึก! “
เสียงของพวกเขากลายเป็นเสียงกรีดร้องทันที
เป็นเสียงที่บ่งบอกว่าร่างกายของพวกเขาถูกแทงด้วยหอกที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นดินสูง 5 เมตรเหมือนต้นไผ่
“กะ เกิดบ้าอะไรขึ้น?”
ดวงตาของปาร์คอียอนเบิกกว้างด้วยความตกใจ
เพราะเธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ และลูกน้อง
มันจะน่าแปลกใจน้อยกว่าการได้เห็นกับดักจากภาพยนตร์เรื่องอินเดียน่าโจนส์
‘ได้…ยังไง? ’
อย่างไรก็ตาม ปาร์คอียอนไม่มีโอกาสได้ถามคำถามนั้น
Puk!
‘อึก! ‘
ลูกศรแทงเข้าที่ไหล่ของปาร์คอียอน
ปี 2020 เมื่อโลกกลายเป็นเกม สามัญสำนึกที่ใช้ในการทำความเข้าใจโลกก็พังทลายลง
กฎของสังคมที่ทำให้โลกยังทำงานได้อยู่ก็พังทลายลงในช่วงเวลานั้นเอง
คิมวูจินรู้ดีกว่าใคร ๆ
แม้จะเป็นเรื่องผิดปกติที่มีคนขุดดินลงไปถึง 5 เมตร เพื่อสร้างกับดัก แต่มันไม่ได้ผิดปกติสำหรับคิมวูจิน
ไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่ทำ
สิ่งที่จำเป็นคือเวลา
ปาร์คอียอน และคนของเธอให้เวลาที่คิมวูจินต้องการเสมอ
แน่นอนว่านอกจากนี้ คิมวูจินยังมีเหยื่ออีกมากมายที่กระจัดกระจายไปทั่ว
คิมวูจินใช้กับดักเล็ก ๆ หลายอัน ทำให้ปาร์คอียอน และคนของเธอเคลื่อนที่ช้าลง ค่อย ๆ กัดกร่อนสมาธิ และความแข็งแกร่ง เพื่อทำให้ความรู้สึกของพวกเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ผิดเพี้ยนไป
มันทำให้พวกเขาเชื่อว่าพวกเขากำลังเคลื่อนที่ผ่านกับดักที่คิมวูจินวางเอาไว้อย่างไร้ที่ติ คิมวูจินทำให้พวกเขาคิดว่าตัวเองกำลังออกล่าอย่างสมบูรณ์แบบ
ในที่สุด เหล่านักล่าก็ติดกับ
สิ่งที่ต้องทำก็คือฆ่าเหยื่อของเขา!
คิมวูจินดึงธนูเล็งไปยังเหยื่อที่ไม่ตกหลุมพราง
Ting!
ลูกศรถูกยิงออกจากคันธนูของคิมวูจินอย่างแม่นยำ และแทงลึกเข้าไปในไหล่ซ้ายของปาร์คอียอน
เขาไม่คิดว่าตัวเองจะพลาด
แม้ว่าคิมวูจินจะไม่สามารถมองเห็นได้ในที่มืดอย่างไนท์วิชั่น แต่เขาก็ยังฟังเสียงได้อยู่
คิมวูจินเรียนรู้วิธีระบุตำแหน่งของเป้าหมายด้วยเสียงจากนักยิงธนูที่เก่งเป็นอันดับสองของคนที่เขารู้จัก และเขาได้ฝึกฝนทักษะให้เฉียบคมผ่านการฆ่าชีวิต และความตายมานับไม่ถ้วน
โดยปกติแล้วมันสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
เว้นแต่ศัตรูของเขาจะโง่ พวกเขาจะเคลื่อนที่ทันทีที่โดนยิง ทำให้แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะระบุเป้าหมายด้วยเสียงเพียงอย่างเดียว
ดังนั้น คิมวูจินจึงติดใยแมงมุมที่มีราคาแพงมากไว้ตรงปลายลูกศร
ใยแมงมุมแบบเดียวกับที่เขาเคยใช้จับสไลม์แปลงร่างในอดีต!
Kkwaag!
คิมวูจินดึงใยแมงมุมทันที
Ting!
ใยแมงมุมเริ่มตึง และร่างของปาร์คอียอนก็ถูกดึงเข้าหาคิมวูจิน
‘คึก!’
สถานการณ์ที่ไม่คาดคิดทำให้ปาร์คอียอนอึกอัก
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีหลุมที่อยู่ข้างหน้าเธออีก และมันได้กลืนกินคนของเธอไปถึง 2 คนแล้ว
ตอนนี้ในใจของเธอคิดได้เพียงสิ่งเดียว
‘ไม่มีทางหนี’
ไม่มีทางรอด!
งั้นเราจะตายไปด้วยกัน!
หญิงสาวที่มุ่งมั่นวิ่งไปข้างหน้า และกระโดดข้ามหลุมที่คนของเธอเสียชีวิตลง เธอวิ่งเข้าหาคิมวูจิน แทนที่จะถูกใยของคิมวูจินลากไปรอบ ๆ
‘ฉันจะฆ่าเขา’
ทันใดนั้นก็มีมีดคูครีอยู่ในมือของเธอ
เป็นไปไม่ได้ที่จะยิงธนูให้ถูกเป้าหมายในขณะที่ไหล่ของเธอได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ การยิงธนูในระยะใกล้ก็ไร้ความหมาย
คิมวูจินได้คาดเดาการกระทำของเธอผ่านใยที่หย่อนลง เขาได้ปล่อยใยทิ้งไป
‘ฉันไม่เห็นลูกธนู เธอเปลี่ยนมาใช้มีดแทน? เธอต้องได้เรียนมาจากผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง’
การทิ้งชีวิตหนึ่งชีวิต แล้วเปลี่ยนไปใช้มีดแทนที่จะยื้อยุดกับใย เป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่ทำกัน ถ้าไม่ได้รับการฝึกฝน และการเรียนรู้ที่เหมาะสม
‘ถึงฉันจะเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องแบบนั้นแล้วก็เถอะ’
หรือก็คือเขาคิดเอาไว้อยู่แล้ว
Puk!
จู่ ๆ เท้าของปาร์คอียอนก็ติดอยู่ที่พื้น
“คึก!”
เขาเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่อีกฝ่ายตัดสินใจจะกระโดดข้ามกับดัก
ข้อเท้าของปาร์คอียอนติดอยู่ในหลุมที่คิมวูจินขุดขึ้นมา
ในขณะเดียวกัน กับดักก็บอกถึงตำแหน่งที่แน่นอนของปาร์คอียอนให้คิมวูจินรู้
คิมวูจินลดระยะห่างระหว่างตัวเขากับปาร์คอียอนลงในพริบตา
Puk!
ทันใดนั้น ดาบซิมิทาร์ของคิมวูจินก็เจาะลึกเข้าไปในหน้าอกของปาร์คอียอน
ตอนนั้นเอง ดวงตาของคิมวูจินได้เปลี่ยนเป็นสีดำ
[ดวงตาแห่งอนูบิส ได้เปิดออก]