Kill the Hero - ตอนที่ 34.1
Kill the Hero 034-1
หนึ่งในสิทธิพิเศษที่ดีที่สุดที่มอบให้กับผู้เล่น คือสิทธิประโยชน์ทางการแพทย์
ในยุคที่ผู้เล่นเป็นกระดูกสันหลังอันแข็งแกร่งของประเทศ รัฐบาลทุกประเทศได้ให้การดูแลทางการแพทย์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แก่ผู้เล่น และในเกาหลีก็เช่นกัน
ผู้เล่นที่มีสัญชาติเกาหลีสามารถรับบริการทางการแพทย์ทั้งหมดในเกาหลีได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ
สิทธิประโยชน์ครอบคลุมค่าใช้จ่ายสำหรับห้องส่วนตัว ที่ปกติจะใช้ได้เฉพาะ VIP เท่านั้น ทุกอย่างในโรงพยาบาลเป็นบริการฟรีสำหรับผู้เล่น ซึ่งมาจากเป็นภาษีของรัฐบาล
มันค่อนข้างใจกว้าง
‘ดีนะที่รักษาฟรี’
ถ้าคิมวูจินต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง เขาคงคิดแล้วคิดอีก เพื่อหาแผนอื่นที่ไม่ต้องทำร้ายตัวเอง ผลประโยชน์ที่ได้จากเรื่องนี้นั้นดีมาก ถ้าไม่มีผลประโยชน์นี้ เขาคงจะต้องคิดทบทวนใหม่
มันก็แค่อ้อมไปอีก
อาการบาดเจ็บของคิมวูจินเป็นสิ่งที่ทำขึ้นเอง
ทันทีที่ดันเจี้ยนถูกเคลียร์ มันเป็นช่วงเวลาที่เขาสังหารฮอบก็อบลินได้ 444 ตัว เขาแทง และฟันตัวเองด้วยธนูกับมีด
ฉลามที่อยู่ไกลออกไป จะพุ่งเข้าหาเขาทันทีที่ได้กลิ่นเลือด นั่นคือสาเหตุที่เขาทำร้ายตัวเอง
ก๊อก! ก๊อก!
“นี่ฉันเอง ปาร์คยองวาน ฉันเข้าไปได้ไหม?”
และตอนนี้ฉลามก็ปรากฏตัวขึ้นหลังจากได้กลิ่นเลือดแล้ว
“ครับ เข้ามาได้เลย”
คลิก!
ปาร์คยองวานปรากฏตัวหลังจากเปิดประตู ยิ้มอย่างขมขื่นขณะที่เขาสำรวจป้ายเตือน “ข้อควรระวังเมื่อเข้าใกล้ (เลือดเป็นพิษ) ” แปะอยู่ที่เตียงของคิมวูจิน
“เพราะเลือดพิษ การผ่าตัดคงจะยากมาก”
“ครับ ถ้าบาดแผลของผมลึกกว่านี้ ผมคงต้องตายแล้วแน่ ๆ”
มันไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ
ถ้าบาดแผลของคิมวูจินลึกกว่านี้ ชีวิตของเขาจะตกอยู่ในอันตราย เพราะอาการเสียเลือดมาก
การรักษาด้วยตัวเองไม่ใช่ปัญหา เนื่องจากเลือดของคิมวูจิน ไม่ใช่พิษที่มีฤทธิ์กัดกร่อน ปัญหาคือการถ่ายเลือดนั้นเป็นไปไม่ได้
‘นั่นคือเหตุผลที่ฉันต้องปรับมันให้เหมาะสม แต่ … ’
แน่นอนว่าคิมวูจินปรับระดับอาการบาดเจ็บของเขาเองด้วยซ้ำ
สำหรับคนที่เคยเสี่ยงชีวิตมานับไม่ถ้วนก่อนหน้านี้ มันไม่ยากที่จะทำ
‘มันอันตรายจริง ๆ ‘
ปาร์คยองวานที่ไม่รู้ความจริง ไม่ได้สงสัยสาเหตุของอาการบาดเจ็บเลย เขาเริ่มแสดงความเห็นใจต่อคิมวูจิน
“ฉันได้ยินข่าวลือบางอย่างเกี่ยวกับสมาคมหัวกะโหลกมา”
สมาคมหัวกะโหลก เมื่อพูดคำนั้นออกมา ใบหน้าของคิมวูจินก็เย็นชาขึ้น
ปาร์คยองวานที่นำเก้าอี้มานั่งใกล้คิมวูจินก็มีสีหน้าแข็งกร้าวเช่นกัน
“นายพูดถูก พวกเขาล่าผู้เล่น พวกเขาจะต้องล่าผู้เล่นในดันเจี้ยนระดับ A+ ด้วยแน่ นั่นอาจเป็นสาเหตุที่มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แต่ในดันเจี้ยนได้มีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นกับสมาคมหัวกะโหลก และเพื่อที่จะตรวจสอบมัน…”
“ดังนั้น พวกเขาจึงพุ่งเป้ามาที่ผม ผมที่ดูจัดการง่าย ถ้าผมถูกจับได้ ผมคงถูกทรมานจนกว่าผมจะคายอะไรออกมา”
ปาร์คยองวานที่ได้ฟังน้ำเสียงเย็นชาออกมาจากปากของคิมวูจิน เขาคิดกับตัวเองพลางพยักหน้าเบา ๆ
‘เรื่องนี้ง่ายกว่าที่คิด’
วันนี้ปาร์คยองวานตั้งใจจะชักชวนคิมวูจิน
เขาตั้งใจจะทำให้การโจมตีสมาคมหัวกะโหลกน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น โดยใช้เรื่องนี้เป็นเหยื่อล่อ
แทนที่จะเปิดเผยความจริง แล้วทำให้สมาคมหัวกะโหลกหดหัวกลับไป เขาตั้งใจจะเปลี่ยนคิมวูจินให้กลายเป็นเหยื่อที่ยอดเยี่ยม เพื่อให้สมาคมหัวกะโหลกกัด
นอกจากนี้เขายังได้เตรียมพร้อมในกรณีที่คิมวูจินต้องการจะระเบิดเหตุการณ์นี้ให้เป็นชิ้น ๆ เอาไว้แล้ว เขาวางแผนจะคุกคามคิมวูจิน หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น (TL : ถ้าคิมวูจินต้องการเปิดเผยเรื่องนี้)
แต่เมื่อดูปฏิกิริยาในตอนนี้ของคิมวูจิน ดูเหมือนว่าเขาไม่จำเป็นต้องใช้วิธีที่ยุ่งยาก
‘อ่า เพราะว่าเขาเป็นคนฉลาด เขาอาจจะรู้ว่าเขาทำอะไรเรื่องสมาคมหัวกะโหลกไม่ได้’
ในความเป็นจริง ถ้ามองอย่างมีเหตุมีผล ไม่มีอะไรที่คิมวูจินจะสามารถต่อกรกับสมาคมหัวกะโหลกได้ ก่อนอื่นเลย มันไม่มีทางพิสูจน์ได้ว่าการบาดเจ็บของคิมวูจินนั้นเกิดจากฝีมือของสมาชิกสมาคมหัวกะโหลก
นอกจากนี้ การฟ้องร้องเรื่องดังกล่าวยังใช้เวลานานกว่าหนึ่งปี ไม่มีการรับประกันว่าคิมวูจินจะยังมีชีวิตอยู่จนถึงตอนที่ผลคำตัดสินออกมา
หมายความว่า…ไม่ว่าคิมวูจินจะทำอะไรก็ไร้ประโยชน์
“แม่ง”
คิมวูจินแสดงความไม่พอใจต่อหน้าปาร์คยองวาน
ดวงตาของปาร์คยองวานเปล่งประกาย
“นายคงจะโมโหมาก”
“มีคนที่ต้องการจะฆ่าผม จะไม่ให้ผมโกรธได้ยังไง”
“ใช่ นายพูดถูก ถ้าเป็นฉัน ฉันไม่อยู่เฉย ๆ แน่ อันที่จริง ฉันไม่เคยไว้ชีวิตใครก็ตามที่ทำกับฉันแบบนั้น”
หลังจากเปิดเผยความคิดของตัวเอง ปาร์คยองวานก็พยักหน้า และถามคำถาม
“นายอยากจะชกหน้าพวกนั้นไหม?”
คิมวูจินมองไปที่ปาร์คยองวาน และถาม
“มีวิธีเหรอครับ?”
“ฉันคงจะไม่มาที่นี่ ถ้าไม่มีวิธี มันง่ายมาก ก่อนอื่นต้องปิดเรื่องนี้เอาไว้ก่อน”
เมื่อถูกขอให้เก็บเรื่องนี้เอาไว้ คิมวูจินก็พูดด้วยสีหน้าสงสัย
“แต่ถ้าเราปิดมันไว้…”
“จากนั้น สมาคมหัวกะโหลกก็จะมาจัดการกับนาย และจะมีกับดักรอพวกมันอยู่”
คิมวูจินก้มหน้านิ่ง เมื่อมีคำว่า “กับดัก”
“คุณต้องการให้ผมเป็นเหยื่อล่อ”
“ฉันไม่ปฏิเสธ แต่ในโลกนี้ นายต้องยอมเสียอะไรบางอย่าง เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ นายไม่คิดอย่างนั้นเหรอ?”
เมื่อปาร์คยองวานตอบ คิมวูจินก็ถอนหายใจยาว ๆ และเริ่มคิด
ปาร์คยองวานยินดีที่จะรอ และคิมวูจินที่ไตร่ตรองได้ไม่นานก็ถามปาร์คยองวาน
“ทำไมคุณถึงยอมทำถึงขนาดนี้ครับ คุณปาร์คยองวาน? ในเมื่อผมเป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บ…”
คำถามที่ต้องได้รับคำตอบ และปาร์คยองวานก็เตรียมพร้อมเพื่อตอบกลับไป
“มันมีเส้นแบ่งในโลกนี้ที่ไม่ควรข้ามไป และโลกก็ต้องการใครสักคน เพื่อปกป้องมัน”
ปาร์คยองวานได้พูด พร้อมกับส่งซองหรูหราในมือให้คิมวูจิน
“มันเป็นของเยี่ยมผู้ป่วย นายจะใช้เวลาคิดเรื่องนี้อีกสักหน่อยก็ได้ ฉันจะช่วยเอง ถ้านายตัดสินใจได้แล้ว”
หลังจากทิ้งคำพูดเอาไว้ ปาร์คยองวานก็ออกจากโรงพยาบาลไป
คิมวูจินที่ตอนนี้ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังนึกถึงคำพูดที่ทิ้งไว้ของปาร์คยองวาน
‘มีเส้นที่ไม่ควรข้าม และต้องมีใครรักษามันไว้เหรอ? ’
ทันทีที่เขานึกถึงคำพูดเหล่านั้น เขาก็ยิ้มมุมปากเยาะหยัน
‘ตลกน่า’
มันไม่ใช่คำพูดที่เหมาะกับคนที่ขายประเทศ ทั้งที่เวลานั้นประเทศชาติกำลังเผชิญกับวิกฤตที่เลวร้ายที่สุด เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเลยสักนิด
แน่นอนว่าคิมวูจินไม่ได้โกรธ
ปาร์คยองวานที่เขารู้จักเป็นคนแบบนั้น ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ
ของขวัญนี่ต่างหากที่สำคัญกว่า
‘นี่อะไร? ’
เมื่อคิมวูจินแกะกระดาษห่อออก เขาก็มองเห็นแผ่นกระดาษที่เปล่งแสงสีทองออกมา
[ดูดเลือด (吸血) ]
– ข้อกำหนดในการได้รับ : ทูตแห่งนรก
– เลเวลที่ต้องการ : Lv20 หรือสูงกว่า
– เอฟเฟกต์สกิล : รักษาโดยการดูดเลือดของเป้าหมาย ยิ่งมีระดับทักษะสูงขึ้น ปริมาณเลือด และพลังชีวิตที่สามารถดูดซับจากเป้าหมายได้ก็จะยิ่งมากขึ้น
ทักษะดูดเลือด
ดวงตาของคิมวูจินเย็นลงทันทีที่เขาเห็นมัน
‘มันเป็นแบบนี้เอง’
คิมวูจินคิดว่าปาร์คยองวานจะมอบของขวัญให้เขา เพื่อที่จะใช้เขาอย่างได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เพราะถ้าเหยื่อไม่น่ากิน มันก็ใช้ตกปลาไม่ได้
แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่ามันจะเป็นหน้าทักษะ “ดูดเลือด”
‘เมื่อสิ่งนี้มาอยู่ในมือฉัน…ฉันก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปลี่ยนแผน’
แน่นอนว่าในตอนนี้ คิมวูจินถูกบังคับให้ต้องแก้ไขแผนการของตัวเองอีกครั้ง
‘ต้องเอาไข่ลิซาร์ดเผือกมาทันที’
คิมวูจินเตรียมล่าไข่ของลิซาร์ดเผือกทันที (TL : คนแปลไม่ได้ชอบย้ำคำพูดนะ แต่ ENG บอกว่าคนเขียนชอบย้ำคำพูดบ่อย ๆ และจะยังเป็นแบบนี้ต่อไป)