Kill the Hero - ตอนที่ 37
Kill the Hero 037
ในความเป็นจริง พวกกลายพันธุ์มักจะอ่อนแอ ปกติแล้วพวกมันจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน และหลายตัวก็ตายในที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของพวกมันเอง
แต่ในดันเจี้ยนนั้นต่างออกไป
มอนสเตอร์ส่วนใหญ่ที่มีการกลายพันธุ์หรือรูปแบบต่าง ๆ ในดันเจี้ยนมีพลังล้นเหลือหรือมีความสามารถพิเศษ
Seug!
ลิซาร์ดเผือกที่ออกมาจากบึงโคลนอันกว้างใหญ่ที่โผล่ขึ้นมาบนพื้นดินก็เป็นเช่นนั้น ประการแรก เมื่อเทียบกับลิซาร์ดทั่วไปแล้ว ขนาดของมันต่างกันโดยสิ้นเชิง ตอนที่ยืนด้วยขาทั้งสอง มันสูงถึง 3 เมตร มันใหญ่มากพอที่ออร์คจะเดินจากไปหลังจากเห็นมัน และหางของมันก็ยาวเกือบ 2 เมตร
นั่นหมายความว่าลิซาร์ดเผือกกลายเป็นมอนสเตอร์ที่มีความยาว 5 เมตร เวลาที่มันคลาน 4 ขา
จุดเด่นของมันมี หนังสีขาว ดวงตาสีแดง ที่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่เหมือนใครภายในบึงสีดำ
การปรากฏตัวของมัน เป็นหลักฐานว่าลิซาร์ดเผือกเป็นราชาของที่นี่อย่างชัดเจน
Churl!
การก้าวเดินอย่างอาจหาญ และสง่างามจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าปราศจากความมั่นใจในการจัดการกับนักล่าที่อาจคุกคามชีวิตของมันได้
Tteolgeuleog! Tteolgeuleog!
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมลิซาร์ดเผือกจึงไม่ตื่นตระหนก เมื่อมีโครงกระดูกลิซาร์ดแมนขวางทางมันด้วยมีดทื่อ ๆ ในมือ
Churl?
แต่กลับมองไปที่โครงกระดูกลิซาร์ดแมนด้วยสายตาที่สงสัยในจุดประสงค์ของมัน
กลับกัน โครงกระดูกลิซาร์ดแมนทำหน้าที่อย่างซื่อตรง
มันพุ่งเข้าหาลิซาร์ดเผือกด้วยความเป็นศัตรู
มันเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง
Seug!
แต่ทันทีที่ลิซาร์ดเผือกลุกขึ้นยืนสองขา บรรยากาศก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่อาจบรรยายได้ไหลออกมาจากร่างสูง 3 เมตรนั้น
นั่นคือตอนที่ลิซาร์ดเผือกเหวี่ยงร่างของมันอย่างรวดเร็ว
Huwoong!
หางหนักของมันกวาดพื้นอย่างไร้ความปรานี
ลิซาร์ดเผือกไม่แม้แต่จะสนใจว่าการโจมตีครั้งนี้ จะทำลายเศษโครงกระดูกพวกนี้ได้ไหม
ทหารโครงกระดูกหยุดอยู่นอกระยะหางของมันเพียงนิดเดียวเท่านั้น
Huwoong!
มันเหวี่ยงหางในอากาศอย่างเป็นธรรมชาติ ลิซาร์ดเผือกหมุนตัวไปรอบ ๆ อีกครั้ง และเผชิญหน้ากับทหารโครงกระดูก
ในตอนนั้น ทหารโครงกระดูกได้ลุกขึ้นยืนต่อหน้าของลิซาร์ดเผือก
มันเริ่มคำนวณวิธีการต่อสู้กับลิซาร์ดเผือกที่ทรงพลัง และมีระยะโจมตีที่น่ากลัว
แต่จากมุมมองของลิซาร์ดเผือก ดูเหมือนกับเจ้าเศษโครงกระดูกพวกนี้กำลังก้มลงมามัน
Kaaa!
ความหยาบคายนี้ ทำให้ลิซาร์ดมุ่งความโกรธทั้งหมดไปยังทหารโครงกระดูก
ความปรารถนาที่จะบดขยี้ทหารโครงกระดูกให้เป็นผุยผงปรากฏอยู่ทั่วร่างกาย
ตอนนี้เองที่คิมวูจินตัดสินใจก้าวเข้ามา
คิมวูจินพุ่งเข้าหาลิซาร์ดเผือกจากด้านหลัง
จากนั้นกำคูครีในมือขวาเหวี่ยงลงไปบนผิวหนังสีขาวของลิซาร์ดเผือกเหมือนกับตอนใช้ขวาน
Puu-ukk!
สามารถได้ยินเสียงหยาบ ๆ จากหลังของลิซาร์ดเผือกที่ถูกตัดออกราวกับการใช้ขวานสับใส่ท่อนไม้ และเผยให้เห็นเนื้อด้านในของมัน
Puk!
คิมวูจินแทงหอกที่ถือในมือซ้ายเข้าไปในบาดแผล
Tuk!
จากนั้นคิมวูจินก็ด้ามหอกออกจากปลายหอก
ตอนนี้เอง
Kaa!
เป็นเวลาที่ลิซาร์ดเผือกหันกลับมาหลังจากโดนโจมตีที่ไม่คาดคิดจากด้านหลัง คิมวูจินก็ได้วิ่งหนีไปแล้ว
ลิซาร์ดเผือกหยุดชะงัก เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์
Tteolgeuleog! Tteolgeuleog!
ในหูของมัน ลิซาร์ดเผือกสามารถได้ยินเสียงของทหารโครงกระดูกที่เดินเข้ามาอย่างช้า ๆ
Huwoong!
วูบบบ!
ลิซาร์ดเผือกเหวี่ยงหางใส่ทหารโครงกระดูกอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ทหารโครงกระดูกก้าวถอยหลัง และสังเกตการเคลื่อนไหวของมันอีกครั้งอย่างใกล้ชิด
มันดูเหมือนกับสัตว์ร้ายที่กำลังหิวโหยก่อนไล่ล่าเหยื่ออันโอชะ
Kayah!
ลิซาร์ดเผือกจ้องมองไปที่ทหารโครงกระดูกด้วยเจตนาฆ่าฟันที่พุ่งออกมาด้วยความโกรธ
และคิมวูจินก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง
ทุกอย่างเป็นเหมือนกับก่อนหน้านี้
ในขณะที่ลิซาร์ดเผือกกำลังเสียสมาธิ เพราะทหารโครงกระดูก คิมวูจินก็เข้ามาทางด้านหลังของลิซาร์ดเผือก และทำร้ายมันด้วยคูครี จากนั้นแทงด้วยหอก และหักด้ามหอกทิ้งอีกครั้ง
หลังจากนั้นคิมวูจินก็หายตัวเข้าไปในพุ่มไม้ และลอบสังเกตเห็นลิซาร์ดเผือก
‘ตอนนี้มันจะทำยังไง? ’
นี่เป็นกลยุทธ์การโจมตีที่คิมวูจินเตรียมไว้เพื่อลิซาร์ดเผือกโดยเฉพาะ
โดยทั่วไปแล้ว ลิซาร์ดเผือก และออร์คแชมเปียนเป็นมอนสเตอร์ประเภทเดียวกัน
ทั้งคู่หยิ่งยโสก้าวร้าว และมีไหวพริบในการต่อสู้ แต่ไม่ค่อยฉลาดนัก
แต่มีความแตกต่างที่ชัดเจนอย่างหนึ่งระหว่างออร์คแชมเปียน และลิซาร์ดเผือก
‘มันคิดจะหนีเหรอ? ’
มันไม่เหมือนกับออร์คแชมเปียน ตรงที่ลิซาร์ดเผือกรู้จักหนี เมื่อสถานการณ์ไม่สู้ดี
และยิ่งไปกว่านั้น ดันเจี้ยนนี้ยังเต็มไปด้วยจุดซ่อนตัวมากมายอย่าง หนอง บึง ที่ลิซาร์ดเผือกสามารถล่าถอยได้
มันเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ดันเจี้ยนแห่งนี้ กลายเป็นนรกที่คอยกลืนกินผู้เล่นดาวรุ่งมากมายนับไม่ถ้วน
เนื่องจากไม่มีสิ่งใดที่พวกเขาสามารถทำได้ เมื่อลิซาร์ดเผือกหนีลงไปในบึง หลังจากได้รับบาดเจ็บหนัก
การเผาร่างของมันด้วยไฟเหมือนตอนล่าโทรลก็ไร้ผลเช่นกัน เนื่องจากมีบึงน้ำอยู่
เพราะมันจะลงไปในบึง เพื่อดับไฟทันทีที่ร่างของมันถูกเผา
แน่นอนว่ามันมีทักษะสร้างไฟที่ไม่สามารถดับได้ แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นเลเวลน้อยกว่า 30 จะใช้ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อการต่อสู้นี้กลายเป็นการต่อสู้ล้างผลาญโดยไม่คาดคิด แผนการของผู้เล่นก็ถูกโยนทิ้งไป และในที่สุดก็ส่งผลให้ผู้เล่นคนนั้นตาย (TL : ต่อสู้ล้างผลาญในที่นี้ก็คือ การต่อสู้แบบสิ้นเปลืองไปจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง)
คิมวูจินเตรียมตัวเข้าร่วมการต่อสู้ เพื่อล้างผลาญกับลิซาร์ดเผือก
‘มันไม่สำคัญ ถึงแม้ว่ามันจะหนีไปก็ตาม’
หอกสองอันที่เขาแทงเข้าไปในร่างกายของมัน เป็นแผนการเบื้องต้นสำหรับการต่อสู้ เพื่อล้างผลาญ
[ลิซาร์ดเผือกติดพิษจากเลือดพิษ]
จากนี้ไปปลายหอกในร่างจะกัดกินสุขภาพของมัน จนกว่ามันจะละลายกลายเป็นเศษซากไป
ถึงแม้ว่ามันจะวิ่งหนีไป แต่ก็ไม่มีประโยชน์ที่คิมวูจินจะรีบร้อน
เหตุผลที่เขาใช้ทหารโครงกระดูกธรรมดาแทนทหารโครงกระดูกสีดำก็เพื่อการต่อสู้ระยะยาวเช่นกัน
Kaa!
คิมวูจินเห็นลิซาร์ดเผือกแสดงความโกรธไปยังทหารโครงกระดูกอีกครั้ง
‘ดูเหมือนตอนนี้มันยังคิดจะสู้ต่อ’
ด้วยมุมนี้ คิมวูจินมองไปรอบ ๆ หอกที่วางอยู่รอบตัวเขา
มีร่างของลิซาร์ดแมนที่พร้อมจะสังเวยได้ทุกเมื่อ เพื่อเรียกทหารโครงกระดูก
ในที่สุดเขาก็หยิบแท่งพลังงานอันสุดท้ายในแขนออกมา
‘ฉันจะฆ่าแก ถึงแม้ฉันจะต้องสู้กับแกทั้งวันก็ตาม’
78
นั่นคือจำนวนหอกภายในหลังขาวผ่องของลิซาร์ดเผือก
เห็นได้ชัดว่าลิซาร์ดเผือกอยู่ในสภาพที่ไม่ดีเท่าไร
Shii…
ความเร็วลิ้นของมันช้าลงจนขนาดเต่ายังหัวเราะ ดวงตาสีแดงของมันที่เคยเปล่งประกายด้วยชีวิตชีวานั้น หมองคล้ำเหมือนปลาพอลแล็คแช่แข็งที่เน่าแล้ว
อย่างไรก็ตาม ลิซาร์ดเผือกยืนตัวตรงด้วยสองขาของมัน และคอยระมัดระวัง ขณะที่มองไปรอบ ๆ
มันใช้พลังสุดท้ายที่เหลืออยู่ออกไป เพื่อแสดงให้เห็นว่ามันไม่ได้อ่อนแอ
[เลือดพิษแพร่กระจายไปทั่วร่างกายของลิซาร์ดเผือก]
[สุขภาพของลิซาร์ดเผือกลดลงอย่างมาก]
แต่ในหูของนักล่าผู้ที่รออยู่ กลับได้ยินเรื่องที่ลิซาร์ดเผือกกำลังต่อสู้อย่างไร้ประโยชน์อยู่เรื่อย ๆ
ในความเป็นจริง ผลลัพธ์ของการล่านี้ถูกกำหนดไว้แน่นอนแล้ว
ลิซาร์ดเผือกไม่มีทางบอกได้ว่านักล่าอยู่ที่ไหน แม้ว่าเขาจะปรากฏตัวขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ตาม คิมวูจินไม่ได้เปิดเผยตัวเองออกไป
เขาเข้าไปใกล้ศพลิซาร์ดตัวหนึ่งที่เขาเตรียมไว้ และอัญเชิญทหารโครงกระดูกออกมา
Tteolgeuleog! Tteolgeuleog!
ทหารโครงกระดูกรีบวิ่งเข้าหาลิซาร์ดเผือกทันที
Kaa…
ลิซาร์ดเผือกปิดตาสีแดงอย่างไม่เต็มใจหลังจากที่ตระหนักว่ายังมีฝันร้ายอื่นที่ต้องเผชิญ
มันเตรียมจะพบกับจุดจบของมัน
แม้แต่ในตอนนี้ คิมวูจินก็ยังไม่ปรากฏตัวต่อหน้าลิซาร์ดเผือก
ถ้ามีคนถามว่าใครเลือดเย็นกว่ากัน ระหว่างคิมวูจินกับลิซาร์ดเผือก หลังจากได้เห็นฉากนี้ ทุกคนจะตอบว่าคิมวูจินเป็นคนเลือดเย็นกว่า
เวลาผ่านไปในลักษณะนี้เอง
[ลิซาร์ดเผือกถูกกำจัดแล้ว]
[ได้รับความสำเร็จ ‘นักล่าลิซาร์ดเผือก’]
[ได้รับแค็ตตาล็อกเป็นรางวัล]
การแจ้งเตือนได้ยืนยันการจบสิ้นของลิซาร์ดเผือกในที่สุด
[เลเวลเพิ่มขึ้น]
[ทูตแห่งนรก ประหลาดใจกับการท้าทายของคุณ]
[ทูตแห่งนรก มอบพลังบางส่วนให้]
[ระดับของทักษะเลือดพิษเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ]
[ระดับของทักษะอาวุธเลือดเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ]
ในตอนท้ายของเวทีที่โหดร้าย ผู้ชมได้แสดงความยินดี และมอบของขวัญให้คิมวูจิน อย่างไรก็ตาม ไม่มีการแจ้งเตือนที่ยืนยันการสิ้นสุดดันเจี้ยน
เป็นเพราะคิมวูจินยังไม่ได้ไข่ของลิซาร์ดเผือกที่เป็นเงื่อนไขหลักของดันเจี้ยน
‘ตอนนี้ได้เวลาเคลื่อนไหวแล้ว’
คิมวูจินปรากฏตัวต่อหน้าลิซาร์ดเผือกเป็นครั้งแรก
แน่นอนว่าไร้ความรู้สึก
คิมวูจินพลิกลิซาร์ดเผือกเหมือนเครื่องจักร สิ่งแรกที่เขาทำหลังจากนั้นคือการถลกหนังลิซาร์ดเผือก
สถานการณ์แตกต่างจากตอนที่เขาล่าออร์คแชมเปียน
ไม่มีผู้ชมที่นี่ และเขามีเวลาเหลือเฟือ
นั่นหมายความว่าเขามีอิสระที่จะปล้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้
‘หนังของลิซาร์ดเผือกพอที่จะสร้างชุดเกราะเกรดหายาก เลเวล 30’
นี่เป็นเรื่องปกติในดันเจี้ยน
เป็นเรื่องปกติอย่างยิ่งที่จะนำของออกจากดันเจี้ยนให้ได้มากที่สุด คิมวูจินไม่สามารถทำตามปกติได้ในดันเจี้ยนก่อนหน้านี้ เนื่องจากสถานการณ์ต่าง ๆ
เป็นธรรมดาที่ทักษะการเก็บเกี่ยวของคิมวูจินนั้นจะยอดเยี่ยมมาก
สำหรับคนที่ถลกหนังมังกรสูงเกือบ 100 เมตรได้ ลิซาร์ดเผือกที่ยาว 5 เมตรนั้นจะนับเป็นอะไรได้
ความเสียใจเพียงอย่างเดียวของเขาคือหนังที่มีค่าที่สุดของลิซาร์ดเผือก คือหนังที่แผ่นหลังของมัน และมันอยู่ในสภาพที่แย่มาก เพราะการโจมตีของคิมวูจิน
หลังจากนั้น คิมวูจินก็ผ่าท้องของลิซาร์ดเผือกทันที
จากนั้น ไข่ใบหนึ่งก็ปรากฏขึ้น
[ได้รับไข่ของลิซาร์ดเผือก]
[ดันเจี้ยนเคลียร์]
จากนั้น เขาก็ได้รับการแจ้งเตือนที่ยืนยันว่าดันเจี้ยนจบแล้ว
‘ในที่สุดมันก็อยู่ในมือของฉันแล้ว’
ไข่ของลิซาร์ดเผือกที่ปรากฏนี้ มีขนาดใกล้เคียงกับไข่นกกระจอกเทศ
มีสีที่เป็นเอกลักษณ์
เปลือกเป็นสีขาว แต่มีแถบพลังสีม่วงห่อหุ้มเปลือก ทำให้มันดูน่ากลัวมากขึ้น
ในขณะที่มองดูมัน คิมวูจินก็นึกถึงความทรงจำในอดีต
‘ตอนนี้ฉันจะได้เห็นสิ่งที่สมาคมเมสสิอาห์ซ่อนเอาไว้ได้แล้ว’
ในปี 2025 สมาคมเมสสิอาห์ได้รับไข่ของลิซาร์ดเผือกหลังจากการเสียสละครั้งใหญ่ แต่ข้อมูลเกี่ยวกับไข่ถูกเก็บเป็นความลับ
ไม่มีแม้แต่ข้อมูลยืนยันว่าเป็นไอเทมหรือทักษะในตำนานหรือไม่
ผู้คนคาดเดาว่ามันเป็นไอเทมหรือทักษะในตำนาน เนื่องจากสมาคมเมสสิอาห์ประเมินมูลค่าว่าจะต้องปกปิดข้อมูลของมันเอาไว้
Puck!
เพื่อที่จะเปิดเผยความลับนั้น คิมวูจินได้เคาะส่วนบนของเปลือกไข่ออกด้วยคูครีของเขา
Pajig!
ภายในเปลือกไข่ที่แตกออก มีเปลือกใหม่ปรากฏขึ้น
Pajig!
คิมวูจินเคาะไข่ลิซาร์ดเผือกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ละครั้งก็จะมีเปลือกไข่อีกชั้น
เหมือนกับหัวหอม จำนวนชั้นของเปลือกที่เขาเคาะออกนั้นมีหลายชั้น
และทุกครั้งที่ชั้นนอกของเปลือกแตกออก พลังสีม่วงที่หุ้มเปลือกก็จะแข็งแกร่งขึ้น
หลังจากนั้นไม่นาน สีขาวก็หายไปจากเปลือก เหลือแค่สีม่วง เมื่อคิมวูจินเคาะอีกครั้ง ไข่ก็แตกออกเป็นสองส่วน และในที่สุดหน้าทักษะที่สร้างจากออบซิเดียนก็ปรากฏขึ้น
คิมวูจินหยิบหน้าทักษะขึ้นมา
[พลังของอโพฟิส]
– ข้อกำหนดในการได้รับ : ทูตแห่งนรก
– เลเวลที่ต้องการ : Lv1 หรือสูงกว่า
– เอฟเฟกต์สกิล : เพิ่มภูมิคุ้มกันจากพิษทั้งหมด
พลังของอโพฟิส
‘…แม่ง’
จากในความทรงจำของคิมวูจิน มันเป็นพรที่มีแค่ราชาแห่งพิษมรณะคนเดียวเท่านั้นที่ครอบครอง
ราชาแห่งพิษมรณะ
คิมวูจินพบเขาครั้งแรกในปี 2026 ที่ปักกิ่ง
คิมวูจินผู้มุ่งหน้าไปยังปักกิ่งพร้อมกับทีม เพื่อเคลียร์ดันเจี้ยน 6 ชั้น ได้เผชิญหน้ากับราชาแห่งพิษมรณะที่หน้าดันเจี้ยนเกท
และในที่เกิดเหตุ คิมวูจินได้สูญเสียเพื่อนร่วมทีมไป 7 คน
หลังจากเห็นเพื่อนร่วมทีมของเขาเสียชีวิต โดยไม่ได้แม้แต่จะสั่งลาได้ เพราะภัยคุกคามจากพิษของราชาแห่งพิษมรณะ คิมวูจินก็ได้หนีไป
ตั้งแต่นั้นมา ราชาแห่งพิษมรณะ และคิมวูจินก็มีความสัมพันธ์เป็นศัตรูกัน
แม้กระทั่งตอนนี้ คิมวูจินยังจำชื่อเพื่อนร่วมทีมทุกคนที่เสียชีวิตเพราะราชาแห่งพิษมรณะได้ เขาสามารถวาดใบหน้าของพวกเขาได้ด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ ทักษะที่ช่วยให้สัตว์ประหลาดตัวนี้แข็งแกร่ง และสิ่งที่ควรเป็นของสมาคมเมสสิอาห์ ได้อยู่ในมือของคิมวูจินแล้ว
เบื้องหลังความหมายของเรื่องนี้ง่ายมาก
สมาคมเมสสิอาห์มอบมันให้กับราชาแห่งพิษมรณะ
หรือราชาแห่งพิษมรณะขโมยมันไปจากสมาคมเมสสิอาห์
นั่นคือความเป็นไปได้
และคำตอบก็ชัดเจน
‘สมาคมเมสสิอาห์สร้างราชาแห่งพิษมรณะใช่ไหม?’
โอกาสที่เขาจะขโมยมันไปจากสมาคมเมสสิอาห์ได้ มันก็คล้ายกับความน่าจะเป็นที่คิมวูจินกลับมายังอดีต ในเมื่อแม้แต่คิมวูจินก็ยังไม่รู้ถึงการมีอยู่ของหน้าทักษะนั้น
ท้ายที่สุด มันเป็นข้อพิสูจน์ว่าราชาแห่งพิษมรณะเป็นผลงานของสมาคมเมสสิอาห์
‘มี…เหตุผลมากมายให้ทำแบบนั้น’
มันคุ้มค่าที่จะทำเช่นนั้น
ราชาแห่งพิษมรณะเป็นตัวร้าย
เขาทำทุกอย่างที่ต้องการ และทำลายทุกสิ่งที่เขาพบว่ามันน่าน่ารำคาญ ยิ่งไปกว่านั้น ปี 2026 เป็นช่วงที่เขามีบทบาท ช่วงเวลาที่ความโกลาหลปะทุขึ้นราวกับไฟป่า
ปีที่เมืองนับไม่ถ้วนถูกทิ้งให้อยู่ในซากปรักหักพัง โดยมอนสเตอร์ที่ออกมาจากดันเจี้ยน และประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเริ่มสูญเสียความสามารถในการควบคุม ในช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับการพยายามช่วยตัวเอง ไม่มีใครอยากเป็นศัตรูกับสัตว์ประหลาดอย่างราชาแห่งพิษมรณะ
มันเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนต้องการผู้เล่นที่มีคุณธรรม ผู้สามารถตัดสินการกระทำของผู้เล่นที่ชั่วร้ายได้
การดำรงอยู่ของราชาแห่งพิษมรณะทำให้สมาคมเมสสิอาห์เปล่งประกายเจิดจ้ายิ่งขึ้น
โดยธรรมชาติแล้ว สมาคมเมสสิอาห์ก็มีบทบาทเช่นนี้
สมาคมเมสสิอาห์ที่ต่อสู้กับมอนสเตอร์ เพื่อกอบกู้โลกตอนนี้ มีเหตุผลที่จะลงโทษผู้เล่นเพื่อโลก
หลังจากนั้น สมาคมเมสสิอาห์ได้ขอไอเทมในตำนาน เพื่อแลกกับการลงทัณฑ์ราชาแห่งพิษมรณะ และโลกก็ถูกบังคับให้ทำตาม
ไอเทมในตำนานถูกรวบรวมเพื่อจัดการกับราชาแห่งพิษมรณะ
พวกเขายังคัดเลือกอาสาสมัคร เพื่อทำลายราชาแห่งพิษมรณะ
จริง ๆ พวกเขาไม่จำเป็นต้องรับสมัครใคร เพื่อขอความช่วยเหลือ
เพราะมีหมาล่าเนื้อที่แข็งแกร่งที่สุดในสมาคมเมสสิอาห์ ผู้ซึ่งเป็นคนที่สูญเสียเพื่อนของตัวเอง และกำลังเดือดดาลด้วยความโกรธ
‘ในท้ายที่สุด หลังจากสังหารราชาแห่งพิษมรณะได้ สมาคมเมสสิอาห์ก็กลายเป็นผู้พิพากษาของโลก’
คิมวูจินฆ่าราชาแห่งพิษมรณะ
เขาล้างแค้นเพื่อนที่ตายไปแล้วสำเร็จ
แต่ตอนนี้ เขาตระหนักแล้วว่าเรื่องทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของความทะเยอทะยานของสมาคมเมสสิอาห์
การเสียสละอันสูงส่งของผู้ที่เต็มใจจะตายเพื่อช่วยโลกนี้ คือการตายอย่างหมา และคิมวูจินก็กำลังโกรธด้วยเหตุผลนี้
[เรียนรู้ทักษะพลังของอโพฟิส]
[ได้รับภูมิคุ้มกันจากพิษทั้งหมด]
‘ลีเซจุน ฉันจะฆ่าแกเอง’
มันแค่ทำให้เขารู้สึกโกรธมากขึ้นเท่านั้น