Kill the Hero - ตอนที่ 5
Kill the Hero 005
แสงสว่างจ้าเกินกว่าที่ดวงตาจะมองเห็นได้ พวกเขาหรี่ตาลง และป่าอันเขียวชอุ่มก็ปรากฏต่อหน้าคิมวูจิน
“โว้ว”
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เสียงร้องก็ดังมาจากด้านหลัง
“โอ้ พระเจ้า”
เสียงอุทานมาจากบังจูซอบ และสหายของเขา ทุกคนตกใจมาก
“ประทับใจมาก ไม่รู้สึกเหมือนกับว่าเราอยู่ในต่างโลกจริง ๆ เหรอ?”
“ฉันรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกมเสมือนจริงเลย”
“เกมเสมือนจริงเทียบกับที่นี่ไม่ได้ด้วยซ้ำ นี่มันเหมือนจนแยกไม่ออกแล้ว”
หลังจากอุทาน พวกเขาทั้งหมดก็เริ่มพูด
“นี่เป็นสถานที่ที่โหดร้ายมาก มีกฎเกณฑ์แตกต่างจากความจริงที่เราคุ้นเคย ถ้ามีคนตายที่นี่ มันเป็นโลกที่พวกเราชุบชีวิตพวกเขาไม่ได้”
บังจูซอบที่กำลังพูดอยู่ ชักดาบออกมาจากฝักที่ห้อยอยู่บนเอวของเขา
ชิ้ง!
เสียงดาบที่เขาดึงออกจากฝักนั้น เป็นลางร้ายมาก
“ทุกคน อย่าลดการ์ดลง”
บังจูซอบที่กวัดแกว่งดาบของเขา ทำท่าทางน่ากลัว
อึก!
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ ปาร์ตี้ของเขาก็พยักหน้าตอบ และกลืนน้ำลายอย่างประหม่า กลับกันคิมวูจินไม่ได้ตื่นเต้นเลย เขาไม่ต้องพยายามควบคุมตัวเอง เขาไม่สนใจสถานการณ์ในตอนนี้ ไม่ว่าจะบังจูซอบหรือพฤติกรรมของปาร์ตี้ ไม่ได้กังวลว่าบังจูซอบ และพวกกำลังส่งเสียงดังพอที่จะกระตุ้นพวกก็อบลินที่อาจอยู่ใกล้ ๆ และเขาก็ไม่สนใจว่าบังจูซอบจะสวิงดาบ เพื่อบรรเทาความกังวล คิมวูจินไม่ได้สนใจอะไรเลยแม้แต่น้อย
นี่ดีที่สุดแล้ว
คิมวูจินสนใจแต่ข้อมูลที่ได้รับจากสิ่งรอบข้างเท่านั้น
‘นี่มันต้นดัมพรี มียางออกมาเล็กน้อย ภูมิประเทศเป็นป่า แต่มีความลาดชันมาก
การสำรวจภูมิประเทศโดยรอบเป็นพื้นฐานของการล่าในดันเจี้ยน
‘ถ้าดูรอยเท้าที่ก็อบลินทิ้งไว้ใกล้ต้นไม้ต้นนั้น … น่าจะเป็นกลุ่มก็อบลินมากกว่าสามตัว หมายความว่ามีก็อบลินจำนวนมาก และดูจากภูมิประเทศโดยรอบ พวกมันส่วนใหญ่ต้องอยู่ในถ้ำแน่ นอกจากนี้ยังมีร่องรอยของก็อบลินอยู่แถวนั้น แต่ไม่มีกลิ่นของก็อบลิน หมายความว่าไม่มีก็อบลินอยู่ที่นี่ในตอนนี้’
ถ้างั้น…
“นายบอกว่าชื่อ คิมวูจิน ใช่ไหม?”
บังจูซอบถามคิมวูจิน
“ฉันได้ยินว่า นี่เป็นครั้งแรกที่นายล่า แล้วนายก็เคยเป็นทหารรับจ้าง”
คิมวูจินพยักหน้าโดยไม่ได้พูดอะไร
“งั้นนายควรทำความคุ้นเคยกับพฤติกรรมของมอนสเตอร์ นายสอดแนมได้ไหม?”
นี่เป็นสิ่งที่บังจูซอบแนะนำ มันเข้าใจได้ไม่ยากเลยถึงเจตนาเบื้องหลังข้อเสนอของเขา
‘โฮ่ หมอนี่จะใช้ฉันเป็นเหยื่อล่อสินะ หืม’
บังจูซอบตั้งใจจะใช้คิมวูจินเป็นเหยื่อล่อก็อบลิน
‘อย่างที่คิด’
คำแนะนำที่ว่าเขาก็คิดเอาไว้อยู่แล้ว คิมวูจินรู้อยู่แล้วว่าคนพวกนี้เป็นผู้เล่นประเภทไหนตั้งแต่วินาทีแรกที่พบกัน ไม่ สำหรับคิมวูจินมีผู้เล่นแค่สองประเภทเท่านั้น … พวกที่มุ่งมั่นในการช่วยโลกหรือตั้งใจที่จะทำลายโลกให้มากที่สุด
ถ้าบังจูซอบ และพวกเต็มใจที่จะอุทิศตัวเองแม้สักเล็กน้อย เพื่อให้โลกเป็นสถานที่ที่ดีกว่านี้ พวกเขาจะไม่เข้าสมาคมฟีนิกซ์
‘ฉันว่ามันคงแปลกมากกว่า ถ้าพวกเขาจะดีกับฉัน หลังจากเห็นสิ่งที่ฉันแสดงแล้ว’
สังเกตเห็นได้ว่า คิมวูจินไม่เคยแสดงความสามารถให้ปาร์ตี้ของเขาเห็น มันคาดเดาได้ว่าพวกเขาจะไม่มีความมั่นใจหรือความไว้วางใจ แต่ถึงบังจูซอบจะทำดีกับเขา เขาก็ยังคงสงสัยอยู่ดี
“ฟังดูดีนะ”
โดยไม่คิดถึงความตั้งใจของบังจูซอบ คิมวูจินไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ
“แล้วฉันจะค้นหาได้ยังไง?”
หลังจากได้ยินคำถามนั้น บังจูซอบตอบราวกับว่าเขารออยู่แล้ว
“ฉันอยากให้นายค้นหาตรงนั้น ในขณะที่เราเคลียร์พื้นที่อยู่ นายกลับมารวมกับเราได้ตลอดเวลา ถ้ามีอะไรผิดปกติ”
“เข้าใจแล้ว”
สิ้นสุดของการสนทนาของพวกเขา มันเกินพอแล้ว คิมวูจินลุกออกจากที่นั่ง และหลังจากที่เขาหายตัวไป บังจูซอบก็หันไปหาเพื่อนร่วมทีมแล้วพูดว่า
“ฉันนึกว่าเขาจะคัดค้านซะอีก แต่มันง่ายจนน่าแปลกใจ”
ทุกคนยิ้มให้กับคำพูดของเขา
“ใช่ไหม? ฉันก็คิดว่าเขาจะร้องไห้ แล้วพยายามเกาะติดกับเราให้มากที่สุดซะอีก”
“บางทีเขาอาจจะมีความสุขที่เขาได้มีบทบาทก็ได้นะ?”
“เอาล่ะ ฉันคิดว่าคุณแค่เห็นมันเป็นแบบนั้น”
“ทุกคนมารวมกันอีกครั้ง”
บังจูซอบพูดกับพวกเขาด้วยท่าทางที่จริงจัง
“ฟัง จากนี้ไป เราจะต้องต่อสู้นองเลือดด้วยกัน”
แล้วการล่าก็อบลินก็เริ่มขึ้น
บทบาทของผู้เล่น ถูกกำหนดโดยรัศมีของพวกเขา อาจจะกล่าวได้ว่านักสู้อมตะคือนักรบ ผู้พิทักษ์ความรู้คือนักเวท และผู้สวดมนตร์ต่อวิญญาณศักดิ์สิทธิ์คือนักบวช ผู้เล่นมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ มักเป็นหนึ่งในสามอาชีพนี้ ส่งผลให้อาชีพทั้งสามกลายเป็นอาชีพพื้นฐานของปาร์ตี้เวลาต้องเคลียร์ดันเจี้ยน โดยพื้นฐานแล้ว ทีม 4 คนของบังจูซอบมีนักรบมากกว่าปาร์ตี้มาตรฐาน แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด ในทางทฤษฎีมันไม่ได้เป็นข้อเสียร้ายแรงอะไร
อย่างไรก็ตาม ปกติปัญหาจะอยู่ที่ตัวพวกเขาเอง บังจูซอบตระหนักถึงความจริงข้อนี้ก็เมื่อตอนที่ดาบของเขาติดอยู่ในร่างของก็อบลิน
สวบ!
ดาบของเขาแทงเข้าไปในร่างของก็อบลินเกือบครึ่ง ได้แสดงให้เห็นถึงความคม และพลังอันน่าประทับใจ
‘หืม? อุ๊!’
พลังนั้นกลายเป็นจุดอ่อน
“ฉัน… ฉันดึงดาบไม่ออก! ”
ดาบแทงลึกเข้าไปในร่างของก็อบลิน ดังนั้นจึงไม่สามารถดึงออกมาเร็ว ๆ ได้
‘แม่ง! แม่งเอ๊ย!’
สถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ทำให้เขาตกใจ และก็อบลินตัวอื่นก็วิ่งไปด้านหลังของบังจูซอบ
Kaya!
“อ๊ากกกกก! ”
ก็อบลินชนบังจูซอบจากข้างหน้า ทำให้ทั้งคู่ล้มลงบนพื้น ตอนนั้นเอง ก็อบลินตัวอื่นก็โจมตีบังจูซอบจากทางด้านหลัง … ก็อบลินฉวยโอกาสในช่วงเวลานั้น พวกก็อบลินหยิบก้อนหินตีไปที่หัวของบังจูซอบ
Kaang! Kaang!
โชคดีที่หมวกของบังจูซอบ ได้ลดแรงกระแทกลงไปมาก
“อ้าก! อ้าก! ”
แต่บังจูซอบก็ยังมึนจากเสียงที่กระแทกที่หมวกของเขา
“ช่วยด้วย! ช่วยฉันด้วย! ”
บังจูซอบตะโกนขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมทีมของเขา ซึ่งยังคงต่อสู้กับก็อบลินอีกสองตัว ด้วยปฏิกิริยาจากเสียงร้องของบังจูซอบได้สร้างความตื่นตระหนกในหัวใจของเพื่อนร่วมทีม
‘เรา เราจะทำยังไงกันดี? ’
‘เขา… เขาจะไม่ตายใช่ไหม? ’
แทนที่จะช่วยให้สถานการณ์นี้ดีขึ้น การร้องขอความช่วยเหลือกลับยิ่งทำให้ทุกคนตื่นตระหนก ในสถานการณ์เช่นนี้ ความรู้ และการฝึกทั้งหมดที่พวกเขาได้รับมานั้นไร้ประโยชน์ ถ้าไม่ใช่เพราะไอเทมที่พวกเขาเตรียมไว้ … ถ้าพวกเขาเป็นพึ่งจะได้ผู้เล่นที่เข้ามาในดันเจี้ยน พวกเขาคงจะถูกพวกก็อบลินฆ่าแล้ว ต้องขอบคุณไอเทมที่ทำให้พวกเขารอดชีวิตมาได้
“ไอ้พวกก็อบลินโง่! ”
ในที่สุดบังจูซอบ และเพื่อนร่วมทีมก็สามารถเอาชนะก็อบลินทั้งหกตัวได้หลังการต่อสู้ที่ดุเดือดผ่านไปได้ 30 นาที พวกเขาทรุดนั่งลงทันทีด้วยความเหนื่อยล้า โดยไม่ได้พูดคุยอะไรกัน พวกเขาเริ่มพักผ่อน มันแย่มากที่ดันเจี้ยนไม่อนุญาตให้ทำเช่นนั้น
Kieeehh!
“น นั่นมันอะไรน่ะ?”
“ม มันเกิดเชี่ยอะไรขึ้นเนี่ย? ”
ป่าเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องของก็อบลิน
ผู้เล่นประเภทนักรบ มักจะใช้ดาบเป็นอาวุธหลักตอนเริ่มต้น มนุษย์มีอาวุธหลายประเภท แต่คนสมัยใหม่ส่วนใหญ่ต้องการใช้ดาบมากกว่า เพราะในเกม ภาพยนตร์ การ์ตูน และนิยาย ดาบมีภาพลักษณ์ที่ทรงพลังมาก สำหรับคนธรรมดาที่เคยดูสื่อประเภทนี้ ดาบนั้นแข็งแกร่งที่สุด อเนกประสงค์ที่สุด และมีประสิทธิภาพมากที่สุดในบรรดาอาวุธทั้งหมด
แต่ความจริงดาบในฐานะอาวุธนั้น ไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่าที่คนทั่วไปคิด มันมีประสิทธิภาพน้อยกว่าที่จินตนาการไว้ โดยเฉพาะกับมอนสเตอร์ตัวจริง ระยะห่างจากมอนสเตอร์จะสั้นลง ด้วยสัญชาตญาณการป้องกันตัว คิมวูจินไม่อาจยอมรับเรื่องไร้เหตุผลแบบนี้ได้
คิมวูจินไม่ได้จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ในระยะประชิดกับพวกมอนสเตอร์ แต่เขาไม่เคยต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งอย่างไร้เหตุผล เว้นแต่ว่าเขาจะไม่มีทางเลือก มันเป็นความรอบคอบที่คิมวูจินเลือกแส้เป็นอาวุธ แน่นอนว่าแส้นั้นมีข้อจำกัดในตัวมันเอง และมันมีข้อจำกัดมากกว่ามีดด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ถ้าเงื่อนไขทั้งหมดเหมาะกับการใช้แส้ มันอาจแสดงประสิทธิภาพที่เหนือชั้นกว่าอาวุธอื่น ๆ ได้ คิมวูจินได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงนี้ตอนที่ต่อสู้กับก็อบลินสามตัว
Jjwaak!
ในที่สุดแส้ก็ทำให้เกิดรอยแตกที่น่ากลัว มันตัดผ่านอากาศ
Kieeehh!
เสียงแหวกอากาศตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของก็อบลินอย่างต่อเนื่อง
ตุ๊บ!
ท่ามกลางเสียงกรีดร้อง มีเสียงแขนซ้ายของก็อบลินตกลงบนพื้น มันเป็นไปตามที่บรรยายไว้ แส้ตัดแขนของก็อบลิน
Kieeehhhh…
นั่นคือพลังของแส้ แส้เป็นอาวุธที่สร้างความเจ็บปวดมาก คิมวูจินกำแส้แล้วเหวี่ยงมันไปทางก็อบลินตัวที่สอง
Jjwaak!
แส้สร้างเสียงที่น่ากลัวเวลามันกระทบหรือเฉือนท้องของก๊อบลิน
Kieeehh!
ตอนที่ก็อบลินกรีดร้อง ท้องของก็อบลินก็เปิดออก และลำไส้เริ่มไหลออกมา ก็อบลินล้มลงกับพื้น ในขณะที่กุมท้องของตัวเองแล้วทรุดลง
ตอนนี้เหลือก็อบลินเพียงตัวเดียว
Kieee, Kieee!
น่าเสียดายที่ก็อบลินตัวที่เหลือนั้น ทำได้แค่กรีดร้อง และไม่สามารถทำอะไรได้อีก
Kieee!
เป็นเพราะก็อบลินไม่อาจเข้าใจการโจมตีของคิมวูจินด้วยสามัญสำนึกของมันได้ จากมุมมองของก็อบลิน มีสิ่งที่มองไม่เห็นมาจากร่างของคิมวูจินได้บินเข้ามา และฆ่าพวกพ้องของมัน ดังนั้นก็อบลินจึงไม่แม้แต่จะหนีได้
Kieee…!
สิ่งน่ากลัวที่มองไม่เห็นจะตัดร่างของมัน ถ้ามันหันหลัง ทำให้ก็อบลินตัวแข็งเหมือนรูปปั้น คิมวูจินเหวี่ยงแส้ไปที่ก็อบลิน
Jjwaak!
มีเสียงลมกระโชกพร้อมกับแส้ได้ตัดหัวก็อบลิน
Keck!
ก็อบลินตัวที่สามไม่อาจจะกรีดร้องได้อีก ทรุดตัวลงบนพื้น
[คุณได้เลเวลอัพแล้ว]
ขณะนั้นมีแจ้งเตือนดังขึ้นในหัวของคิมวูจิน
[คุณได้รับความสนใจจากทูตแห่งนรก]
[ความสำเร็จ ‘ผู้ที่ได้รับความสนใจ’ สำเร็จแล้ว]
คิมวูจินได้ยินการแจ้งเตือนใหม่นี่เช่นกัน เมื่อได้ยินแจ้งเตือนนี้ คิมวูจินก็ยกริมฝีปากเป็นรอยยิ้มข้างเดียว
‘อย่างที่คิด ฉันจะได้รับความสนใจจากเขา ด้วยการทำอะไรแบบนี้…’
ผู้ที่ได้รับความสนใจ
มันหมายถึง ผู้เล่นได้รับความสนใจจากรัศมีของเขา อธิบายง่าย ๆ คือเหมือนเป็นดาวรุ่ง
‘ความสำเร็จนี้ มีความต้องการต่ำกว่าที่คิดไว้’
นี่เป็นครั้งที่สองที่คิมวูจินได้รับความสำเร็จนี้ เขาได้รับความสำเร็จนี้แม้กระทั่งตอนที่เขายังเลือกรัศมี นักสู้อมตะ
‘เพิ่มสถานะของผู้เล่น 1%’
เพราะแบบนี้ มันจึงไม่จำเป็นที่เขาจะต้องตรวจสอบเอฟเฟกต์ของความสำเร็จ
“หน้าต่างสถานะ”
ดังนั้น คิมวูจินจึงทำแค่เปิดหน้าต่างสถานะของเขาเท่านั้น
[คิมวูจิน]
– เลเวล : 2
– รัศมี : ทูตแห่งนรก
– สถิติ : กายภาพ (11) / ความแข็งแกร่ง (2) / มานา (3) ( TL : กายภาพ มาจาก 체력 ซึ่งแปลตรง ๆ เลยก็คือ พลังสุขภาพ ENG ไม่ได้แปลว่า HP แต่ใช้ Constitution )
– คะแนนที่เหลือ : 3
คิมวูจินใช้คะแนนที่เหลือไปที่กายภาพทันที
‘ท้ายที่สุด ไม่ว่าจะตอนนี้หรือภายหลัง คุณก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าปราศจากความสามารถทางกายภาพ’
และในอนาคตเขาวางแผนจะเทคะแนนทั้งหมดไปที่กายภาพ
‘ลีเซจุน มันจำเป็นยิ่งขึ้นถ้าฉันจะสู้กับเขา…’
นอกจากนี้ ลีเซจุน เป้าหมายของเขา ว่ากันว่ามีความสามารถทางร่างกายที่ทรงพลังที่สุดในโลก ถ้าไม่มีความแข็งแกร่งทางกายภาพที่เท่ากันก็ลืมไปได้เลย ฟันคุณคงจะหักทันทีที่กัดเขา ถ้าเขาจะเผชิญหน้ากับลีเซจุนคนเดียว กายภาพก็ยิ่งสำคัญมากขึ้นเพื่อจะฆ่าเขา ท้ายที่สุด เขาก็วางแผนจะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง
‘ใครจะช่วยฉันฆ่าวีรบุรุษที่พยายามจะช่วยโลกกัน? ไม่มี ถึงฉันจะหาเพื่อนร่วมทีม แต่ฉันก็ไม่อาจเชื่อใจใครได้อยู่ดี ไม่มีใครในโลกนี้ต้องการฆ่าวีรบุรุษ ถ้าเขามีคุณธรรมหรือมีจิตใจดี’
“จัดการสถิติเสร็จแล้ว”
หลังจากทำทุกอย่างที่เขาต้องทำเสร็จแล้ว คิมวูจินก็มุ่งหน้าไปยังก็อบลินตัวสุดท้ายที่ล้มลงหลังจากพยายามวิ่งหนีตอนที่แขนของมันถูกตัดออก ก็อบลินที่ล้มอยู่ก็มีปฏิกิริยาหลังจากได้ยินเสียงฝีเท้าของคิมวูจิน
Kieee…
ปฏิกิริยาของมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว มันดูขี้ขลาด และมันไม่ได้ส่งเสียง มันกัดฟันแน่นรอความตาย
‘อย่างที่คิดเกี่ยวกับยูนีคไอเทม’
มันเป็นเพราะคุณสมบัติพิเศษของแส้ก็อบลินแชมเปียน ไม่มีอะไรดีไปกว่าความกลัวเมื่อก็อบลิน อันที่จริงแล้ว ถ้ามองที่คุณสมบัติของไอเทม มันคุ้มค่าอย่างแน่นอน เอฟเฟกต์ความกลัวจากแส้ก็อบลินแชมเปียนนั้นคุณสมบัติที่มีค่ามาก ถ้าคุณสมบัตินี้อยู่ในอาวุธที่ผู้เล่นนิยมอย่างดาบ หอกหรือธนู คิมวูจินคงซื้อไม่ไหวถึงแม้เขาจะกู้เงินก็ตาม แต่เพราะมีคนน้อยมากที่รู้วิธีการใช้อาวุธอย่างแส้ แส้มีคนใช้ได้น้อยจนเกือบจะไม่มีเลย เขาจึงสามารถซื้อมันได้
คิมวูจินยืนอยู่ข้างหน้าก็อบลินที่หวาดกลัว และจ้องมองมัน อย่างไรก็ตาม คิมวูจินไม่ได้ฆ่าก็อบลิน การล่าที่แท้จริงพึ่งจะเริ่มต่างหาก