Kill the Hero - ตอนที่ 7
Kill the Hero 007
ที่เกทสวนสาธารณะของเมือง มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวออกมาจากเกท
“ขอบคุณครับ คุณคิมวูจิน”
เขาคือคิมวูจิน
หลังจากการมาถึงของคิมวูจิน ประตูที่บิดเบี้ยวก็ได้หายไปจากโลก
“โว้ว! ”
“มันจบแล้ว! ”
ทหารทั้งหมดมองเห็นได้จากระยะไกล จากนั้นก็ให้กำลังใจ และปรบมือ
เมื่อประตูหายไปภารกิจของพวกเขาก็จบลงแล้ว
เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะมีความสุข
ดังนั้นคิมวูจินจึงไม่ได้คิดมากในเรื่องของความชื่นชม และเสียงเชียร์ของทหาร
ครั้งหนึ่งเขาเคยชินกับการได้รับเสียงเชียร์มากกว่าใคร ๆ
สำหรับสมาคมเมสสิอาห์ การกระทำทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายใต้ร่มธงของพวกเขา มักจะได้รับการโห่ร้องต้อนรับอย่างล้นหลามด้วยความเต็มใจจากทั้งโลก
น่าเสียดาย ไม่ใช่ทุกคนที่มองคิมวูจินเช่นนี้
มีคนไม่กี่คน ที่จ้องมองเขาอย่างเปิดเผย
เป็นบังจูซอบ และปาร์ตี้
‘หมอนั่นยังมีชีวิตอยู่’
ในขณะที่ทหารมองว่า คิมวูจินเป็นฮีโร่ ทั้งสี่คนก็มองเขาเป็นมอนสเตอร์
ไม่แปลกที่พวกเขาจะทำแบบนั้น
‘ไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร? ‘
‘พวกนั้นไม่ได้บอกว่านี่เป็นดันเจี้ยนแรกของเขาเหรอ? เขายังจัดการเคลียร์มันได้ด้วยตัวคนเดียวอีก? ‘
‘ฉันไม่รู้ด้วยแล้ว ฉันกลัว…’
ในขณะที่พวกเขาต่อสู้กับก็อบลินสองสามตัว ต่อสู้อย่างไร้ประโยชน์อยู่เป็นเวลาสองวัน คนที่พวกเขาคิดว่าเป็นแค่ปลิงตัวใหญ่กลับจบลงด้วยการฆ่าพวกก็อบลินทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว
แน่นอนว่าสำหรับคิมวูจิน ข่าวลือนั้นมีประโยชน์ต่อชื่อเสียงของเขา
แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญ
“คุณได้ยินรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นด้านในไหมครับ? ”
คิมวูจินถามคูซังฮุน สมาชิกของทีมสนับสนุน เขาตอบกลับหลังจากพยักหน้า
“ผมได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาพูดว่าอยู่ ๆ ดันเจี้ยนก็ถูกเคลียร์… ”
สีหน้าของคูซังฮุนไม่ดีเท่าไร
“คุณทำได้ยังไงครับ? “
ในฐานะสมาชิกของทีมสนับสนุน หน้าที่ของเขาคือเขียนรายงานเกี่ยวกับวิธีการเคลียร์ดันเจี้ยน เพื่อที่เขาจะเขียนรายงานเรื่องนี้ ผู้เล่นในดันเจี้ยนต้องอธิบายว่าทำได้อย่างไร
แต่หลังจากข้ามเกทมา บังจูซอบ และพวกก็บอกว่า อยู่ ๆ ดันเจี้ยนก็ถูกเคลียร์
และพวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในดันเจี้ยนเลย
มันไม่สามารถเข้าใจได้จากมุมมองของคูซังฮุน
‘เมื่อดูจากรูปการณ์ของบังจูซอบ และปาร์ตี้ พวกเขาอาจจะไม่ได้สู้อย่างถูกต้อง’
ในมุมมองของทุกคน บังจูซอบ และปาร์ตี้เป็นผู้เล่นหลักในการเคลียร์ดันเจี้ยน
คิมวูจินเป็นแค่ตัวแถมที่มากับกลุ่ม และการที่คิมวูจินได้รับอนุญาตจากสมาคมฟีนิกซ์ให้เข้าร่วมการโจมตีดันเจี้ยนนี้ก็ต้องขอบคุณบังจูซอบกับพวก
อย่างไรก็ตามเมื่อดูจากสถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขา มันยากที่จะบอกว่าพวกเขามีส่วนร่วมในการโจมตี
‘แต่นั่นหมายความว่า คิมวูจิน เป็นคนกำจัดมอนสเตอร์ทั้งหมดด้วยตัวเอง…’
พูดอีกอย่างคือคิมวูจินเคลียร์ดันเจี้ยนด้วยตัวเอง
คิมวูจินอธิบายกลยุทธ์ของเขาให้คูซังฮุนฟัง
“ทำให้ดี”
“ครับ?”
คูซังฮุนรู้สึกงุนงงกับคำอธิบายของคิมวูจิน
‘อะไรของคุณครับ…’
เขารู้สึกอายเล็กน้อย
คิมวูจินจัดการพวกก็อบลิน “ได้ดี” เขาคงไม่ต้องเขียนในรายงานแบบนี้ใช่ไหม?
อย่างไรก็ตาม คิมวูจินดูเหมือนจะไม่คำนึงถึงสถานการณ์ของคูซังฮุนมากนัก
“ผมจัดการพวกมันได้ทั้งหมด เพราะงั้นช่วยบอกพวกเขาให้ฝากเงินรางวัล 90% ของการเคลียร์ดันเจี้ยนครั้งนี้ เข้าบัญชีของผมด้วย”
ในขณะที่คุย คิมวูจินมองไปที่ปาร์ตี้ของบังจูซอบ
คูซังฮุนมองตามคิมวูจิน
บังจูซอบกับพวกหลบสายตาแล้วหันไปทางอื่น
“ถ้าพวกเขาคัดค้านคำขอของผม ช่วยเตรียมพื้นที่ให้ผมได้อยู่กับพวกเขาตามลำพังสักพักให้หน่อยนะครับ”
เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ คูซังฮุนก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
ชายข้างหน้าเขา น่ากลัวจนแม้แต่พวกบังจูซอบก็ยังต้องหลบ
“ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้ว ผมอยากจะพักสักหน่อย”
คนอย่างคูซังฮุนไม่กล้าเผชิญหน้ากับคิมวูจินเพียงเพื่อให้ได้ข้อมูลจากเขาหรอก
‘ให้ตายเถอะ ฉันต้องไปเจอหัวหน้าทีมอีกแล้ว’
ตอนนี้คูซังฮุนจึงเตรียมตัวรับฟังผู้บังคับบัญชาของเขา
คิมวูจินมองไปที่คูซังฮุนแล้วคิด
‘ฉันอาจจะต้องคุยกับหัวหน้าทีมหลังจากนี้ประมาณ 30 นาที’
คิมวูจินเดินผ่านคูซังฮุน และไปยังห้องรอชั่วคราวที่ทำจากเต็นท์
‘งั้นมาดูแค็ตตาล็อกกันก่อน’
“แค็ตตาล็อก”
ทันทีที่เขาพูดคำสั่ง หนังสือเล่มเล็กบางก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าคิมวูจิน
ใหญ่กว่าฝ่ามือเล็กน้อย หนาประมาณ 5 มม. ทำจากวัสดุที่คล้ายกับกระดาษพาร์ชเมนต์ ( TL : กระดาษพาช์ชเมนต์ใช้รองอบขนม )
มันดูเหมือนหนังสือธรรมดา ๆ
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เล่นมันเป็นหนังสือที่มีค่ามากที่สุดในโลก
เพราะข้างในคือแค็ตตาล็อก สำหรับเลือกไอเทม และทักษะ
แต่ละหน้าในแค็ตตาล็อก มีไอเทม และทักษะหน้าละหนึ่งรายการ
เมื่อคุณฉีกหน้าใด คุณจะได้รับสิ่งที่คุณเห็นในหน้านั้น
‘สีคือ … ‘
คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของแค็ตตาล็อกคือสีของแสงที่เปล่งออกมาจากหน้ากระดาษ มันเป็นสิ่งที่บ่งบอกคุณค่าของไอเทม
เกรดธรรมดาจะไม่มีแสงใด ๆ แต่เกรดหายากจะเรื่องแสงสีเงิน เกรดยูนีคเรืองแสงสีทอง และเกรดตำนานหรือเกรดเรื่องเล่า สัมผัสของหน้านั้น ๆ จะแตกต่างออกไป
หมายความว่า ถ้าใครโชคดีพอ พวกเขาอาจจะได้รับไอเทมในตำนานก็ได้
‘แค็ตตาล็อกนี้มีแต่สีขาว’
แน่นอนว่าปาฏิหาริย์จะไม่เกิดขึ้นกับคิมวูจินง่าย ๆ
ไม่มีแสงใด ๆ ออกมาจากแค็ตตาล็อกที่เขาได้รับมาจากรัศมีทูตแห่งนรกเลย คิมวูจินก่อนที่จะกลับมายังอดีตนั้นก็ไม่มีโชคเรื่องแค็ตตาล็อกเช่นกัน
คิมวูจินไม่คิดมาก เขาค่อย ๆ ดูแค็ตตาล็อก
แค็ตตาล็อกที่คิมวูจินได้รับมีทั้งหมด 3 หน้า
‘มันเป็นทักษะทั้งหมด’
ทั้งสามหน้าเป็นหน้าทักษะ
[พลังงานอัสนี]
[พลังงานระเบิด]
[ทหารโครงกระดูก]
สองทักษะแรกไม่คุ้มค่าเท่าไร
พลังงานอัสนี (Energy Bolt) เป็นทักษะสร้างธนูเวทโดยใช้มานา พลังงานระเบิด (Energy Bomb) เป็นทักษะพื้นฐานที่อนุญาตให้ผู้ใช้โยนระเบิดพลังงานแบบย่อส่วน ( TL : ย่อในที่นี้คือบีบอัดพลังงานให้เล็กลง )
ทักษะเหล่านี้จะพลังเพิ่มขึ้น เมื่อระดับ (Rank) ทักษะกับพลังงานหรือมานาเพิ่มขึ้นตามเลเวลของระดับ (Rank)
มันไม่ใช่ทักษะที่คิมวูจินสนใจ
‘ทหารโครงกระดูก (Skeleton Soldier) …’
อย่างไรก็ตาม ทักษะทหารโครงกระดูกนั้นแตกต่างกัน
‘มันทำให้ฉันนึกถึงความทรงจำแย่ ๆ’
โยฮันน์ จอร์จ ราชาแห่งอันเดด เพราะหนึ่งในทักษะประจำตัวของเขา คือ ทหารโครงกระดูก
ทหารโครงกระดูกของเขาเหมือนสัญลักษณ์แห่งความหวาดกลัว
ฉากที่ผู้เล่นหลายร้อยคนเข้าสู้กับทหารโครงกระดูกของโยฮันน์ จอร์จ แต่กลับกลายเป็นทหารโครงกระดูกนับพันแทน มันเป็นสิ่งที่แม้แต่ในนรกก็ยังไม่มีให้เห็น
‘มันคือฝันร้าย’
เมื่อเทียบกับฉากดังกล่าว การกระทำที่คิมวูจินทำกับพวกก็อบลินก็ไม่ต่างอะไรกับการละเล่นของเด็ก
แน่นอนว่าทักษะทหารโครงกระดูกยังมีข้อเสียอยู่
‘เพราะฉันไม่มีทางสู้กับเขาในพื้นที่ที่มีซากศพได้’
ทักษะทหารโครงกระดูกใช้ศพจากเป้าหมายที่ถูกฆ่าโดยผู้ใช้เท่านั้น
เหนือสิ่งอื่นใด ทักษะในการเรียก นักรบแห่งความตาย, อัศวินแห่งความตาย และลิช ที่ถือว่าเป็นยอดฝีมือของทหารโครงกระดูก พวกเขาสามารถเรียกได้ตลอดเวลา แต่จำเป็นต้องเสียสละทหารโครงกระดูกโดยไม่มีข้อแม้
มันเป็นข้อบกพร่องที่ร้ายแรง
‘ถ้าไม่ใช่ข้อจำกัดนั้น ฉันคงฆ่าเขาไม่ได้’
เพราะใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนพวกนี้ คิมวูจินจึงสู้กับราชาแห่งอันเดดตามลำพัง และในที่สุดก็ฆ่าเขาได้
‘ฉันโชคดีจริง ๆ ‘
เขานึกถึงวันที่สู้กับราชาแห่งอันเดดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็หยุดคิด
ตอนนี้สำหรับคิมวูจินการเลือกหนึ่งในสามทักษะนั้นสำคัญกว่า และคิมวูจินก็ให้ความสำคัญกับมัน
อันที่จริงไม่ต้องคิดด้วยซ้ำ
‘ขว้างหินหรือยิงธนูยังดีกว่าใช้พลังงานอัสนีหรือพลังงานระเบิด’
การที่คิมวูจินขว้างก้อนหินมันยังมีประโยชน์ และประสิทธิภาพมากกว่าการใช้พลังงานอัสนีกับพลังงานระเบิดอีก
‘ในทางกลับกัน ทหารโครงกระดูก…’
ไม่เหมือนกับทักษะอีกสองทักษะ ทักษะทหารโครงกระดูก อาจเป็นตัวช่วยที่ดีของคิมวูจิน
‘อย่างน้อยที่สุด มันอาจจะถ่วงเวลาได้สักหน่อย’
แน่นอนว่า เขาไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย
สิ่งเดียวที่ทหารโครงกระดูกทำให้คิมวูจินได้ คือการถ่วงเวลาไม่กี่วินาที
อย่างไรก็ตาม คิมวูจินรู้ดีกว่าทุกคนถึงความสำคัญของไม่กี่วินาทีนั้น นอกจากนี้ เขายังมีความสามารถในการใช้ประโยชน์จากไม่กี่วินาทีเหล่านั้น
แคว่ก!
ดังนั้น คิมวูจินจึงฉีกหน้าทักษะทหารโครงกระดูกจากแค็ตตาล็อกโดยไม่ลังเล
หลังจากที่เขาฉีกหน้าทักษะ เขาก็ได้รับทักษะทหารโครงกระดูก
[เรียนรู้ทักษะทหารโครงกระดูก]
[ทหารโครงกระดูก]
– ระดับทักษะ : F
– เอฟเฟกต์สกิล : ใช้ศพเป็นเครื่องสังเวยเรียกทหารโครงกระดูกออกมา
– จำนวนโครงกระดูกที่สามารถอัญเชิญได้ : 1
คิมวูจินตรวจสอบทักษะของเขาเสร็จแล้ว ก็ตรวจสอบข้อมือซ้ายของเขา
เขาดูนาฬิกา
‘น่าจะได้เวลาแล้ว…’
ตอนนี้เอง
“ขอ ขอโทษครับ…”
คูซังฮุนแสดงท่าทางขออภัย เขาส่งสมาร์ทโฟนของเขาไปให้คิมวูจินพูด
“ต้องขอโทษที่รบกวนคุณนะครับ แต่หัวหน้าทีมอยากคุยกับคุณเกี่ยวกับรายงาน…”
คิมวูจินยิ้มให้กับคำพูดเหล่านั้น
‘การอุ่นเครื่องจบลงแล้ว’
ดันเจี้ยนเกทไม่ต่างอะไรกับระเบิด
ไม่มีใครรู้ว่ามอนสเตอร์ด้านในจะออกมาเมื่อไร
สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือมนุษย์ และเป็นผู้เล่นที่จัดการกับระเบิดนั้น ก็มีความไม่แน่นอนเหมือนกับมอนสเตอร์
นับตั้งแต่มีการก่อตั้งสมาคมฟีนิกซ์ ผู้เล่นมักจะก่อเรื่องแถวดันเจี้ยนเกทมากกว่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนอื่น
ทีมสนับสนุนของดันเจี้ยนมีหน้าที่รับผิดชอบแก้ไขเรื่องเหล่านี้
ดังนั้น จองวูซอก หัวหน้าทีมสนับสนุนดันเจี้ยนของสมาคมฟีนิกซ์ จึงไม่ได้ลนลานเมื่อเขาได้รับรายงานดันเจี้ยนจากคูซังฮุน
‘ดูเหมือนว่าจะมีคนแปลก ๆ พึ่งจะมาใหม่’
เขาคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องแปลกอีกเรื่องที่ต้องจัดการ
– ผมถือสายอยู่ครับ
“อ่า คุณคิมวูจิน”
แน่นอนว่าเขาไม่ได้แสดงอารมณ์ที่แท้จริงของเขา
“ผมโทรมาเรื่องรายงาน อย่างที่คุณทราบว่าความร่วมมือในการเขียนรายงานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ยิ่งไปกว่านั้น ในกรณีของดันเจี้ยนนี้ เนื่องจากคุณคิมวูจินมีบทบาทมากที่สุด ความร่วมมือของคุณคิมวูจินจึงสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เราต้องการคำอธิบายของคุณในเรื่องนี้เป็นอย่างมากครับ”
เขาพยายามอย่างมากที่จะทำงานกับคนแปลก ๆ นี่
“ผมรู้ว่ามันยุ่งยาก แต่โปรดให้ความร่วมมือด้วยครับ นอกจากนี้มันยังช่วยในการประเมินผลได้มาก”
ฉันคร่ำครวญ
แน่นอนว่าจองวูซอกรู้
‘ฉันจะไม่โทรหาเขาตั้งแต่แรก ถ้าคำพูดสามารถโน้มน้าวใจเขาได้’
เขารู้ว่าบทสนทนาจะไม่จบแค่นี้
‘คนที่เป็นผู้เล่นใหม่ มักจะทำตัวเหมือนขยะ’
นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าผู้เล่นเป็นกัน
มีผู้เล่นหลายคน คิดว่าพวกเขาเป็นผู้ถูกเลือกจากพระเจ้า และมองว่าคนธรรมดาไม่สามารถแตะต้องได้
เป็นประเภทที่คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนต้องเคารพยกย่องตัวเอง
‘การเตือนจบลงแล้ว’
นั่นเป็นเหตุผลที่จองวูซอกพูดจาโน้มน้าว เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเคารพอีกฝ่ายพอแล้ว
‘ถ้าเขาไม่ต้องการให้ความร่วมมือ เราก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องร่วมมือกับเขาเช่นกัน’
ถ้าคิมวูจินเมินเรื่องนี้ และไม่ให้ความร่วมมือ จองวูซอกก็ตั้งใจจะไม่ให้ความร่วมมือด้วยเช่นกัน
ตอนที่จองวูซอกคิดว่าคิมวูจินจะไม่ให้ร่วมมือนั้น …
– อา ผมขอโทษด้วยเกี่ยวกับเรื่องนั้น
“ครับ?”
โดยไม่คาดคิด ปฏิกิริยาของคิมวูจินไม่ใช่แบบที่จองวูซอกคิดเลย
‘อะ อะไรเนี่ย? ‘
มันไม่ได้ใกล้กับที่เขาคิดอยู่ มันห่างไกลจากที่คิดไปไกลมาก
– ขออภัยในความไม่สะดวกอีกครั้งนะครับ
“ไม่ ไม่เป็นไรครับ”
จองวูซอกอึดอัดใจอยู่ครู่หนึ่ง
“ขอบคุณที่ช่วยผมเกี่ยวกับรายงานนะครับ”
– ไม่เป็นไร เราควรจะช่วยกัน ต้องขอบคุณทีมสนับสนุน ที่ผู้เล่นอย่างฉันสามารถตั้งใจเคลียร์ดันเจี้ยนเพียงอย่างเดียวได้”
ด้วยคำพูดเหล่านี้ อารมณ์ที่แสดงออกของจองวูซอกจึงอ่อนลง
‘เขาเป็นคนดี’
“ขอบคุณที่คุณพูดเช่นนี้ครับ ถ้ามีอะไรที่ผมช่วยได้ ผมจะช่วยคุณนะครับ”
เขายินดีให้ร่วมมือกับคนที่ยินดีจะให้ความร่วมมือ
– เป็นไปได้ไหมที่คุณจะแนะนำดันเจี้ยนในระดับที่ผมต้องการเคลียร์? ถ้าไม่รบกวนคุณมากเกินไป
“แน่นอน มันเป็นหน้าที่ของเราในการจับคู่ดันเจี้ยนให้กับผู้เล่น มันไม่ได้รบกวนอะไรครับ”
ดังนั้น เมื่อมีการขอความร่วมมือออกมา จองวูซอกจึงไม่ต้องกังวล
– ถ้ามีดันเจี้ยน 1 ชั้นที่เพิ่งปรากฏในเขตเมือง ที่กำหนดให้ผู้เลเวล 10 หรือต่ำกว่า ความยากอยู่ที่ระดับ B และดันเจี้ยนมีความเกี่ยวข้องกับก็อบลินผมต้องการเคลียร์มันครับ
เมื่อได้ยินคำขอของคิมวูจิน จองวูซอกเคาะแป้นพิมพ์ตรงหน้าเขาทันที
จากนั้นผลลัพธ์ก็ปรากฏขึ้นหนึ่งรายการ
“อ่า มีหนึ่งรายการในซองนัมครับ เคลียร์เผ่าซีคก็อบลิน ต่ำกว่าเลเวล 10 ความยากระดับ B … ”
จองวูซอกดูแล้วตอบ
“แต่ถ้าเป็นดันเจี้ยนระดับ B คุณจะต้องได้รับการอนุมัติจากสมาคม คุณต้องการไหมครับ? ”
คิมวูจินตอบคำถามนั้น
– ผมคงต้องทำงานให้หนักขึ้น เพื่อให้ได้รับการอนุมัติ
จองวูซอกหัวเราะกับคำพูดนั้น
“ฮ่าฮ่า ผมก็คิดแบบนั้นครับ”
ท้ายที่สุดการประเมินผู้เล่นต้องประเมินผ่านรายงาน
ตอนนี้จองวูซอกตัดสินใจแล้ว
‘มีปาร์ตี้ที่ดีอยู่ 3 ปาร์ตี้แล้ว ดังนั้นการเคลียร์ก็ไม่มีปัญหา สมาชิกที่เหลือก็พึ่งจัดตั้ง แบบนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรถ้าจะเพิ่มคนเข้าไป เพื่อให้เขาได้รับประสบการณ์บ้าง’
จองวูซอกยินดีที่จะให้การดูแลเป็นพิเศษกับคิมวูจิน โดยใช้ตำแหน่งของเขาในฐานะหัวหน้าทีมสนับสนุนดันเจี้ยน
“ถ้าคุณส่งรายงานมาให้ผม ผมจะสมัครให้คุณทันที แต่ผมไม่อาจรับประกันว่าจะได้รับการอนุมัตินะครับ”
คิมวูจินตอบรับคำพูดนั้น
– ขอบคุณครับ ถ้าทุกอย่างออกมาดี อาหารก็อยู่ที่ผมนะครับ
นั่นคือจุดสิ้นสุดการโทร
จองวูซอกที่วางสมาร์ทโฟนของเขายิ้มด้วยความพึงพอใจ
‘ฉันไม่เคยพบกับผู้เล่นที่ดี ทำงานหนัก และให้ความร่วมมือมาก่อนเลย’