Kill the Hero - ตอนที่ 81
Kill the Hero 081
ก่อนที่จะย้อนกลับมา คิมวูจินได้เข้าร่วมกับสมาคมเมสสิอาห์ตอนที่เลเวล 55
เขาเริ่มมีชื่อเสียงจากการเคลียร์ดันเจี้ยนอย่างต่อเนื่อง และไปเข้าตาสมาคมเมสสิอาห์ตอนช่วงที่ล่าจิ้งจอกมีเขา
เมื่อเขามาถึงเลเวล 55 สมาคมเมสสิอาห์ก็ได้ยื่นข้อเสนอให้เขาอีกครั้ง
– ‘หมาล่าเนื้อ’ คิมวูจิน เราต้องการความช่วยเหลือจากคุณ
ลีเซจุนหัวหน้าสมาคมเมสสิอาห์ และผู้กอบกู้โลกได้ยื่นข้อเสนอให้เขาเป็นการส่วนตัว และคิมวูจินไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ
หลังจากนั้นคิมวูจินก็กลายเป็นหมาล่าเนื้อของสมาคมเมสสิอาห์
มอนสเตอร์ต่อมอนสเตอร์ ผู้เล่นต่อผู้เล่น ไอเทมต่อไอเทม … สิ่งที่สมาคมเมสสิอาห์ร้องขอ เขาจะล่ามันมาให้
ในที่สุด คิมวูจินก็กลายเป็นหมาล่าเนื้อที่ดีที่สุดของสมาคมเมสสิอาห์
แน่นอนว่าชื่อ ‘หมาล่าเนื้อ’ ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อคิมวูจิน เขาไม่ใช่คนแรก และจะไม่ใช่คนสุดท้าย
ในความเป็นจริงมีผู้เล่นมากกว่าหนึ่งคนที่มีฉายาว่า ‘หมาล่าเนื้อ’ ในทุกสมาคม มีผู้เล่นหลายร้อยถึงหลายพันคนทั่วโลกที่รู้จักกันในนามของหมาล่าเนื้อ
และยังมีคนที่ถูกเรียกว่าหมาล่าเนื้อในสมาคมเมสสิอาห์ ก่อนที่คิมวูจินจะเข้ามาด้วย
ซุซุกิ เอจิ!
เขาเป็นหมาล่าเนื้อที่เก่งที่สุดในสมาคมเมสสิอาห์
แน่นอนว่าหลังจากนั้นไม่นานข้อมูลนี้ก็เป็นที่รู้กัน
เป็นช่วงเวลาที่เขาเลเวล 100 และโจมตีดันเจี้ยน 4 ชั้น
พูดง่าย ๆ ก็คือ เมื่อคุณเลเวลถึง 100 คุณจะสามารถออกจากการเป็นหมาล่าเนื้อ และย้ายไปเป็นผู้เล่นธรรมดาได้
นั่นเป็นวิถีของหมาล่าเนื้อ
ถ้าหมาล่าเนื้อล่าอย่างเปิดเผย ผู้คนจะแค่มองพวกมัน แล้วปล่อยให้พวกมันทำต่อไปงั้นเหรอ? มันเป็นไปไม่ได้
ดังนั้นหมาล่าเนื้อส่วนใหญ่จึงยังคงไม่มีชื่อปรากฏ และมักจะออกจากตำแหน่งทันทีที่มันล่าได้ยากหรือถึงระดับที่คาดไว้
ตามธรรมชาติแล้ว สถานที่ที่พวกเขาจะไปหลังจากเกษียณนั้น เต็มไปด้วยหมาล่าเนื้อตัวอื่นที่กระตือรือร้นต้องการตำแหน่งนี้
‘เมื่อมองย้อนกลับไป เขายื่นมือมาให้ฉัน เพราะเขาต้องการนักหวด’ ( TL : มือตีในกีฬาเบสบอล )
คิมวูจินกลายเป็นนักหวดของ ซุซุกิ เอจิ นี่ไม่ใช่แค่การคาดเดาที่คลุมเครือ
ตอนที่ ซุซุกิ เอจิ เลเวล 80 คิมวูจินก็เลเวล 55 ซึ่งเป็นเลเวลที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสัมผัสด้วยกระบอง* ( TL : baton touch ศัพท์เบสบอลของญี่ปุ่น )
จากมุมมองของสมาคมเมสสิอาห์ คงเป็นเรื่องยากที่จะหาคนมาแทนที่ ซุซุกิ เอจิ ดังนั้น ‘พระเมสสิอาห์’ ลีเซจุนจึงนำหมาล่าเนื้อตัวใหม่มาด้วยตัวเอง
แน่นอนว่าในตอนนั้น สมาคมเมสสิอาห์ได้คำนวณพลาดไป
‘หลังจากนั้น ฉันก็ตามเขาทันอย่างรวดเร็ว’
คิมวูจินจับ ซุซุกิ เอจิ ได้อย่างรวดเร็ว
ตอนที่คิมวูจินได้รับคัดเลือกครั้งแรก ในตอนที่เขาเข้ารับตำแหน่งของ ซุซุกิ เอจิ กับทีม เขาก็ได้ยินเรื่องราวมากมายของ ซุซุกิ เอจิ อยู่ตลอดเวลา
ดังนั้นจึงเป็นธรรมดา ที่เขาจะรู้จัก ซุซุกิ เอจิ ดี
‘ความสามารถของเขาน่าทึ่งมาก’
เขายอดเยี่ยมมากแค่ไหน
‘ทีมของเขาอยู่คนละระดับกัน’
นอกจากนี้เขายังใช้ประโยชน์จากการทำงานเป็นทีมมากกว่าการต่อสู้ด้วยตัวเอง
คิมวูจินรู้ดีกว่าใคร ๆ ว่าจริง ๆ แล้วหมาล่าเนื้อนั้น จะแข็งแกร่งมากที่สุด ตอนที่ต่อสู้เป็นกลุ่ม มากกว่าตอนที่พวกมันล่าตัวเดียว
‘ถ้าฉันปล่อยให้เขาเติบโตไปกว่านี้ เขาก็จะกลายเป็นสัตว์ประหลาด’
ดังนั้น ถ้าคิมวูจินปล่อยเขาไป เขาก็จะกลายเป็นสัตว์ประหลาดมากกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้
เพราะจริง ๆ แล้วในสายตาของคนอื่น เขาก็เป็นสัตว์ประหลาดอยู่แล้ว
แม้กระทั่งในตอนนั้น ถึงเขาจะถูกคิมวูจินแซงไปแล้ว แต่ ซุซุกิ เอจิ ก็ยังคงเป็นผู้เล่นคนสำคัญในสมาคมเมสสิอาห์
‘เพราะสมาคมเมสสิอาห์รู้ว่าเขามีแหวนของแลนเซลอตอยู่’
นี่เป็นเพราะความจริงแล้ว เป็นสมาคมเมสสิอาห์เองที่มอบแหวนของแลนเซลอตให้เขา
‘ไอเทมเก่าของลีเซจุน’
เพราะลีเซจุนเคยเป็นเจ้าของแหวนของแลนเซลอต
ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมองยังไง คิมวูจินก็ต้องกำจัด ซุซุกิ เอจิ ก่อนที่เขาจะได้เผชิญหน้ากับสมาคมเมสสิอาห์
แต่จนถึงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ คิมวูจินไม่ได้ตั้งใจจะล่า ซุซุกิ เอจิ แต่อย่างใด
‘ฉันไม่คิดว่าเราจะได้พบกันเร็วขนาดนี้’
ไม่ คิมวูจินได้แต่คิด และเตรียมวิธีที่จะให้เขาหลบเลี่ยงสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้ ตอนที่สมาคมเมสสิอาห์ตัดสินใจที่จะให้ ซุซุกิ เอจิ ตามล่าเขา
เหตุผลนั้นง่ายมาก
‘ฉันคิดว่ามันน่าจะอยู่หลังจากเลเวล 100 แล้ว’
เขาไม่มั่นใจเต็มร้อยว่าจะชนะได้
เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะจัดการกับ ซุซุกิ เอจิ กับทีมด้วยความสามารถที่เขามีอยู่ในปัจจุบัน
แน่นอนว่านั่นคือไม่กี่วันที่ผ่านมา
การที่คิมวูจินอยู่ที่นี่ นั่นหมายความว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป
จากนี้ไป มีแค่สิ่งเดียวที่คิมวูจินจะพิจารณา
‘ถ้าทำได้ ก็ควรจะตัดไฟตั้งแต่ต้นลม’
และนั่นคือวิธีการล่าเหยื่อตัวใหม่ของเขา
…
บนถนนที่รกเกินกว่าจะถูกมองว่าเป็นถนนจริง ๆ
รถบัสเก่า ๆ สภาพทรุดโทรม จนน่าแปลกใจจริง ๆ ที่มันยังขับได้ มันสั่นสะเทือนไปตามถนนพร้อมกับส่งเสียงแปลก ๆ
“เกือบจะถึงแล้ว”
คิมวูจินอยู่บนรถบัสคันนั้น
เขามีผมมันเลื่อมเข้ากับเสื้อ และกางเกงที่มีกลิ่นค่อนข้างเหม็น นัยน์ตาสีเข้มถูกล้อมรอบไปด้วยรอยคล้ำ ใบหน้าของเขาซีดมากจนดูเหมือนว่าทาแป้งไว้ รูปลักษณ์ของเขาให้กลิ่นอายที่โดดเดี่ยว ขณะที่เขานั่งอยู่ที่มุมหนึ่งของรถบัส
มันไม่ใช่ลักษณะของผู้เล่น
ในความเป็นจริง คิมวูจินไม่ได้มาที่นี่ในฐานะผู้เล่น
“เฮ้ นายน่ะ”
“Yes?”
“ครับ?”
“นี่เป็นครั้งแรกที่นายมาโกดังใช่ไหม?”
โกดัง นั่นคือบทบาทของคิมวูจินในวันนี้
และเป็นหน้าที่ของคนอื่น ๆ บนรถบัส
บทบาทของพวกเขาคือสิ่งที่พบเห็นได้เฉพาะสถานที่แบบเขตพิเศษแคซองเท่านั้น หรือก็คือ ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่โกดัง
เพราะความจริงที่ว่าผู้เล่นสามารถนำไอเทมเข้า และออกจากดันเจี้ยนด้วยช่องเก็บของได้เท่านั้น จึงจำเป็นต้องมีผู้เล่นมากขึ้น เพื่อขนไอเทมเพิ่มขึ้น ดังนั้นผู้เล่นที่ตั้งใจจะโจมตีดันเจี้ยน จะจ้างผู้เล่นคนอื่น และใช้พวกเขาเป็นช่องเก็บของแทน
พูดง่าย ๆ ก็คือ เขาขายร่างกาย เขาให้ยืมชีวิตของเขา
แน่นอนว่าผู้เล่นทั่วไปจะไม่สามารถเข้าใจได้ เพราะผู้เล่นทั่วไปเป็นผู้เล่นที่สามารถเพลิดเพลินกับความมั่งคั่ง และชื่อเสียงได้ มันไม่อาจเทียบได้กับคนทั่วไป
“นี่เป็นครั้งแรกของนายในฐานะโกดังใช่ไหม?”
“อ่า ไม่ใช่”
“โอ้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เจอนาย แล้วนายมาทำอะไรที่นี่ล่ะ? ต้องการอะไร? ฆาตกรรม ข่มขืน ทำร้ายร่างกาย หรืออาจจะฉ้อโกง?”
เป็นบทบาทที่พบได้ในสถานที่แบบเขตพิเศษแคซอง คนที่ไม่สามารถอยู่ท่ามกลางผู้เล่นทั่วไปมารวมตัวกัน
หรือก็คือทุกคนในนี้เป็นแบบนั้น
“ฉันคิดว่านายกังวลเกินไปนะ อยากให้ฉันแนะนำนายกับพวกเวรคนอื่น ๆ นายจะได้ผ่อนคลายเอาไหม? เฮ้ เห็นผู้ชายหัวโล้นคนนั้นไหม? เขาข่มขืนกับฆ่าคน 5 คน แล้วนายเห็นหมูข้าง ๆ นั่นไหม? เขาฆ่าไปสี่”
ผู้คนยอมใช้ชีวิตอย่างน่ารังเกียจมากกว่าจะชดใช้ให้กับอาชญากรรมที่พวกเขาทำไว้
“โอ้ นั่นเจ็ดครั้ง ถ้านายรวมการฆาตกรรมด้วย และผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ เขา…ตอนที่ฉันเห็นเขาครั้งแรก เขาดูเหมือนน่าจะวางยาแล้วก็ข่มขืน แต่นั่นเป็นแค่การคาดเดา”
ถ้าเป็นคิมวูจินในอดีต เขาจะฆ่าพวกมันทั้งหมดทันทีโดยไม่ลังเล
แต่ต่อหน้าพวกมันในตอนนี้ คิมวูจินไม่ได้เปิดเผยความตั้งใจของตัวเอง
เหตุผลแรกคือพวกมันไม่ใช่เป้าหมาย
‘นี่คือนักแสดงที่ ซุซุกิ เอจิ ซ่อนไว้ที่นี่’
อย่างที่สองคือชายที่มีลักษณะคล้ายงูคนนี้ เป็นนักแสดงของ ซุซุกิ เอจิ เพื่อให้คอยตรวจสอบโกดัง ในกรณีที่มีปัญหา
ก็ไม่ได้แปลกอะไร
เว้นแต่ ซุซุกิ เอจิ จะโง่ แน่นอนว่าเขาจะต้องตรวจสอบว่ามีกับดักหรือปัญหาอะไรกับโกดังที่เขาใช้ไหม
นอกจากนี้ ถ้าเป็นครั้งแรกของผู้เล่นในฐานะโกดัง ก็ยิ่งมีเหตุผลให้ต้องระวังพวกเขามากขึ้น
“แล้วของนายล่ะ?”
ดังนั้นคิมวูจินจึงแสดงต่อหน้านักแสดง
“ฉันถูกคนที่ฉันเชื่อใจทรยศ…”
ทันทีที่เขาเห็นการแสดงออกของคิมวูจิน โจฮันโฮที่เป็นคนถามก็พยักหน้า
“งั้นมันก็เป็นการหลบหนี”
ต้องขอบคุณการแสดงที่สมจริงของเขา จึงไม่จำเป็นต้องอธิบายเพิ่มเติม
โจฮันโฮพยักหน้าให้คิมวูจิน และเชื่อเขาจริง ๆ
“ให้เพื่อนของนายชดใช้สิ่งที่เขาทำกับนาย และบังคับให้พวกมันมีชีวิตที่ยากลำบากในอนาคต บอกฉันได้ ถ้านายต้องการความช่วยเหลือ”
เขายกนิ้วโป้งให้คิมวูจินที่ไม่ตอบสนอง
‘ใช่ เขาต้องชดใช้สำหรับการทรยศต่อโลกนี้’
เหตุผลที่คิมวูจินพูดเรื่องนี้ เป็นเพราะคำตอบของเขาเหมาะจะทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อ
เอี๊ยด!
พวกเขามาถึงที่หมาย
“ลงไป!”