Lady to Queen บัลลังก์แค้นจักรพรรดินี - บทที่ 72 เพราะข้ารักท่าน
ตอนนี้เปโตรนิยากำลังประหม่าเพราะนางเพิ่งเคยทำอะไรแบบนี้เป็นครั้งแรก นางค่อยๆ เหลือบมองรอธซีที่เอาแต่เดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ข้างๆ พลางคิดว่าแสงแดดพอเหมาะที่ส่องกระทบใบหน้าของเขาดูคล้ายกับแสงรัศมีอย่างไรอย่างนั้น ในตอนนั้นเองรอธซีก็เอ่ยปากถาม
“มีอะไรติดที่หน้าข้าหรือเปล่าครับ เลดี้”
“ปะ เปล่าค่ะ” เปโตรนิยาตกใจพลางรีบแก้ตัว “ข้ากำลังชมการแต่งกายของท่านอยู่ค่ะ วันนี้ท่านดูดีมาก”
“ดีจังเลยครับที่ถูกใจเลดี้” เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพูดต่อ “ข้ากังวลทีเดียวครับ หากเลดี้ไม่พอใจข้า…จะทำอย่างไร”
“…หากเป็นเช่นนั้นข้าคงไม่รับข้อเสนอของลอร์ดหรอกคะ”
“ขอบคุณครับ เลดี้” รอธซีกล่าวขอบคุณก่อนจะเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน “เลดี้มีเรื่องที่อยากทำหรือเปล่าครับ”
“เรื่องที่อยากทำหรือคะ”
“ข้าวางแผนจะใช้เวลาในวันนี้กับเลดี้ทั้งวัน ดังนั้นข้าจึงอยากจะทำอะไรที่เลดี้อยากทำครับ”
“อ่อ…”
เปโตรนิยาไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าตนจะต้องมานำเดตเช่นนี้ นางจึงอดตกใจกับคำพูดของรอธซีไม่ได้ หญิงสาวพึมพำด้วยสีหน้าลำบากใจ
“ที่จริง…ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยค่ะ”
“อ้าว อย่างนั้นหรือครับ”
รอธซีกล่าวอย่างเสียดาย
“ถ้าอย่างนั้นเริ่มคิดตอนนี้เลยก็ได้ครับ ไม่ต้องกังวัลนะครับ”
“ลอร์ดมีอะไรที่อยากทำไหมคะ”
“ข้าไม่ได้บอกไปแล้วหรือครับ” รอธซียิ้มอย่างทรงเสน่ห์ “ข้าสนุกกับทุกเรื่องที่ได้ทำกับเลดี้ครับ”
“…”
“ไม่ว่าจะทำอะไร ขอแค่มีเลดี้อยู่ข้างๆ ก็พอแล้วครับ”
“…ค่ะ”
ผู้ชายคนนี้ชอบพูดอะไรน่าอายอยู่เรื่อย ไปเรียนมาจากที่ไหนกัน เปโตรนิยาคิดอย่างไม่พอใจก่อนจะพึมพำกับตัวเองว่าต้องทำอย่างไรให้วันนี้กลายเป็นวันสุดท้ายที่จะได้พบกัน
เรื่องนั้นก็ง่ายๆ แค่ทำให้ชายคนนี้เอือมนางก็พอแล้ว เมื่อคิดได้ดังนั้นสีหน้าของเปโตรนิยาก็พลันสดใสขึ้นมา หญิงสาวเรียกอีกฝ่าย
“ลอร์ดคะ”
“ครับ เลดี้ เชิญกล่าวมาได้เลยครับ”
“ข้ามีเรื่องที่อยากทำแล้วค่ะ”
“อะไรหรือครับ”
แพทริเซียยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พลางตอบ
“ข้าอยากไปลานประลองค่ะ”
“…ลานประลองหรือครับ”
สีหน้าของรอธซีในตอนนี้ใครได้เห็นก็ต้องดูออกว่าเขากำลังตกใจ เขาถามย้ำอีกครั้ง และเปโตรนิยาก็พยักหน้ารับคำ
“ค่ะ ลานประลอง”
“ลานประลองที่มีนักสู้ถือดาบมาสู้กัน ที่…”
“ค่ะ ลานประลองนั้นแหละค่ะ” เปโตรนิยากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ที่มีคนออกมาสู้กันจนกว่าจะตายกันไปข้างนั่นแหละค่ะ”
ที่จริงแล้วเปโตรนิยาไม่เคยไปลานประลองมาก่อน นางไม่เข้าใจพวกขุนนางที่สนุกกับการเสียเลือดเสียเนื้อโดยไม่จำเป็นด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม สำหรับตอนนี้นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด ใครจะมาชมชอบสตรีที่ใจเหี้ยมขนาดนี้ เปโตรนิยาคิดว่าแผนการของตนจะต้องสำเร็จอย่างแน่นอนจึงยิ้มอย่างพออกพอใจ แต่นางคงลืมอะไรไปอย่าง
“…”
“เลดี้ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
“ว้าย จะไม่เป็น…! ไม่เป็นไรค่ะ!”
สิ่งที่นางลืมไปก็คือนางไม่เคยชมการต่อสู้มาก่อน เปโตรนิยารู้สึกว่าตัวเองแพ้น็อคตั้งแต่สิบนาทีแรกหลังเริ่มการต่อสู้และอยากจะออกไปจากที่นี่เต็มที แต่หากนางพูดออกไปนางก็จะกลายเป็นคนขี้โกหก อ๊ะ เดี๋ยวนะ แบบนี้ก็ไม่เลว?…เสียที่ไหนล่ะ หากเจอกันครั้งหน้านางคงรู้สึกตะขิดตะขวงใจอย่างมาก เปโตรนิยาเปลี่ยนความคิด
“ไม่เป็นไรหรือครับ เลดี้? จริงๆ หรือครับ?” แต่ในสายตารอธซีดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นเลย “ถ้าไม่อยากดูต่อแล้วจะออกไปก็ได้นะครับ เลดี้”
“แต่ว่า…” เปโตรนิยาไม่อาจปฏิเสธเป็นครั้งที่สอง นางบ่นพึมพำ “เงินก็จ่ายไปแล้วนะคะ”
น่าเสียดายออก… เปโตรนิยาพึมพำทั้งหลับตาแน่นอย่างทำอะไรไม่ถูก รอธซีรู้สึกว่าหญิงสาวน่ารักเป็นบ้าและพูดราวกับเขาไม่ได้สนใจเรื่องเงิน
“ออกไปกันเถอะครับ เลดี้”
“แต่เงิน…”
“ข้ามีเงินเยอะครับ ไม่เป็นไรหรอกครับ”
พูดจบรอธซีก็อุ้มร่างบางขึ้นโดยไม่ถามความสมัครใจของเจ้าตัวสักคำ แน่นอนว่าสายตาของคนรอบข้างย่อมพุ่งเป้ามาที่ทั้งสองคน เปโตรนิยาแหวออกมาเบาๆ และหลับตาแน่นด้วยความอับอายเหลือทน
“ทำอะไรคะ นี่มันที่สาธารณะนะ!”
“พวกเรากำลังเดตกันอยู่คงไม่เป็นไรหรอกครับ ทุกคนน่าจะเข้าใจ”
…หากจะพูดกันตามตรงคือ สายตาของผู้ชายโดยรอบดูคล้ายอยากจะโยนทั้งคู่ลงไปในสนามประลอง แต่ในเมื่อเปโตรนิยาหลับตาอยู่ เพราะฉะนั้นก็ช่างเถอะ รอธซีก้มลงไปกระซิบข้างหูเปโตรนิยาอย่างแผ่วเบา
“รอสักครู่นะครับ เดี๋ยวก็จะได้ออกไปแล้ว”
“…”
เปโตรนิยาเอาแต่หลับตาไม่พูดอะไร ในระหว่างนั้นก็มีเสียงโห่ร้องดังกระหึ่มจนแก้วหูแทบแตก ดูเหมือนจะมีนักสู้คนหนึ่งตายไปแล้ว ทำไมคนพวกนี้ถึงมองเป็นเรื่องสนุกได้นะ เปโตรนิยาขมวดคิ้วมุ่นทั้งที่ยังหลับตา ทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงของรอธซีอีกครั้ง
“คิดเสียว่าที่นี่คืองานเลี้ยงสิครับ”
“…”
“รอบข้างเต็มไปด้วยของหวานมากมาย”
“…อา”
ได้ฟังดังนั้น ใจของเปโตรนิยาก็สงบลงได้บ้าง ขณะที่นางกำลังคิดถึงบราวนีในงานรำลึกวันสถาปนาจักรวรรดิที่นางกินไม่หมด แสงแดดก็ส่องลงมากระทบเปลือกตา เมื่อลืมตาขึ้น นางก็สบเข้ากับสายตาของรอธซีที่หวานยิ่งกว่าช็อคโกแลตในบราวนี เปโตรนิยารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องโดยไม่รู้ตัว
“เอ่อ…”
“ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วนะครับ เลดี้”
“…ขอบคุณค่ะ” เปโตรนิยากล่าวขอบคุณก่อนจะสำรวจท่าทีของอีกฝ่ายและร้องขอ “เอ่อ…ปล่อยข้าลงตรงนี้เลยก็ได้ค่ะ”
“ไม่ครับ”
ได้ยินดังนั้นเปโตรนิยาก็ตะลึงงัน
“ทำไมล่ะคะ”
“ไม่ปล่อยให้ลงหรอกครับ”
“ตอนนี้ข้าอายมากๆ เลยค่ะ”
คนที่เดินผ่านไปผ่านมากำลังมองมาทางนี้ ให้ตกเป็นเป้าสายตาเช่นนี้ข้าไม่เอาด้วยหรอก นางเอ่ยปาก
“รีบปล่อยข้าลงไปเถอะค่ะ”
“เรียกชื่อข้าสักครั้งสิครับ” เขาขอร้องพลางยิ้มอย่างซุกซน “แค่ครั้งเดียวครับ”
“…”
ขี้โกงนี่นา เปโตรนิยาถอนหายใจในใจพลางเอ่ยชื่อหนึ่งออกมา
“…รอธซี”
“ขอบคุณครับ เปโตรนิยา”
รอธซีทำเนียนเรียกชื่อของหญิงสาวก่อนจะปล่อยร่างบางลงยืนบนพื้น เปโตรนิยาหน้าแดงโดยไม่ได้รับรู้ว่าเมื่อครู่เขาเรียกชื่อของนางออกมา ไม่รู้ทำไมนางถึงรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะเพราะเหตุการณ์เมื่อครู่
เมื่อค่อยๆ หันไปมองด้านข้างก็พบว่ารอธซีกำลังมองนางราวกับมองเด็กน้อยคนหนึ่ง เปโตรนิยารู้สึกลำบากใจกับสายตาที่เต็มไปด้วยความรักนั้น ปากก็เอ่ยถาม
“มะ…มีอะไรหรือคะ”
“แผนการของเลดี้ดูออกง่ายมากเลยครับ”
“…”
“น่ารักมากเลย”
“…ไม่ใช่เรื่องน่าชมเชยหรือเปล่าคะ”
“เลดี้โกหกไม่เก่งเลยนะครับ” รอธซียิ้มอย่างอ่อนโยนพลางกล่าว “ไม่ต้องห่วงนะครับ เลดี้ ข้าไม่มีทางเบื่อหรือผิดหวังในตัวเลดี้แน่นอนครับ ขอสาบานด้วยเกียรติของตระกูลเบรดิงตันเลย”
“…”
“และข้าขอสาบานอีกว่า ข้าจะไม่เปลี่ยนใจจนกว่าเลดี้จะยอมรับข้าด้วยครับ”
“ทำไมคะ” น้ำเสียงของเปโตรนิยาเจือด้วยความเศร้าสร้อยเล็กน้อย “ทำไมถึงดีกับข้าขนาดนี้”
“คำตอบนั้นง่ายมากครับ เลดี้เปโตรนิยา”
รอธซีสารภาพด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“เพราะข้ารักเลดี้น่ะสิครับ”
***
“มีร์ยา”
แพทริเซียเรียกมีร์ยา ครั้นถูกเรียกมีร์ยาก็รีบเดินเข้ามาหา
“เพคะ ฝ่าบาท เรียกหาหม่อมฉันหรือเพคะ”
“อืม ข้ามีเรื่องจะไหว้วานน่ะ” แพทริเซียยิ้มพลางกล่าว “ช่วยส่งดอกกุหลาบร้อยดอกไปที่ตำหนักเวนทีได้ไหม เอาเป็นกุหลาบที่งดงามเหมือนกับเจ้าของตำหนักนั้น แล้วก็ห่อให้สวยๆ ด้วยนะ”
“อะไรนะเพคะ ฝ่าบาท” มีร์ยาเบิกตาโพลงพลางกล่าวเสียงดัง “ฝ่าบาทกำลังตรัสถึงเรื่องอันใดเพคะ ประชวรตรงไหนหรือเปล่าเพคะ”
“ขอโทษนะ มีร์ยา แต่ข้าสบายดี”
“ไม่เพคะ ฝ่าบาท พระองค์ต้องประชวรที่ไหนสักแห่งไม่ผิดแน่”
ปกติแล้วมีร์ยาไม่ใช่คนที่จะตื่นเต้นกับอะไรง่ายๆ แต่คราวนี้นางควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ
“กุหลาบหรือเพคะ ซ้ำยังให้ถึงหนึ่งร้อยดอก ที่หม่อมฉันมีปฏิกิริยาเช่นนี้มันแปลกหรือเพคะ”
“ไม่นะ ก็ปกติดีนี่” แพทริเซียว่าพลางยกยิ้มมุมปาก “ปกติมากเลยทีเดียว”
“…”
เช่นนั้นจะบอกว่าคนที่ไม่ปกติคือฝ่าบาทเองหรือเพคะ มีร์ยาบ่นพึมพำในใจ แพทริเซียหัวเราะราวกับอ่านใจมีร์ยาได้
“ใช่แล้ว มีร์ยา ข้าต้องการปฏิกิริยาเช่นนี้ล่ะ เจ้าช่างภักดีต่อข้าจริงๆ”
“…เพคะ?”
“เอาล่ะ รีบไปจัดการเถอะ มาร์เชอเนสเอธิลเลอร์จะได้ดีใจอย่างไรล่ะ”
“…”
มีร์ยาคิดว่าฝ่าบาทต้องมีบางอย่างผิดปกติเป็นแน่ พร้อมกันนั้นนางก็เดินออกจากห้องไปอย่างไร้สติ คล้อยหลังมีร์ยา แพทริเซียก็ฮัมเพลงราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นพลางพลิกหน้าหนังสือที่อ่านค้างไว้ไปยังหน้าต่อไป เนื้อหานั้นเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมที่ตัวร้ายเป็นฝ่ายสังหารผู้กล้า
***
และแล้วเปโตรนิยากับรอธซีก็ตัดสินใจจะใช้เวลาร่วมกันอย่างประนีประนอมและสงบสุข เปโตรนิยาคิดอย่างแน่วแน่ว่าอย่างน้อยก็อย่าไปลานประลองเลย และสถานที่ที่ทั้งคู่เลือกไปก็คือตลาด เปโตรนิยาถูกใจสถานที่เดตที่รอธซีเป็นคนเลือกอย่างมาก เพราะนางชอบซื้อของเป็นชีวิตจิตใจ แต่รอธซีกลับเป็นกังวลว่าหากหญิงสาวยังไม่ถูกใจจะทำอย่างไรดี เปโตรนิยาเรียกรอธซี
“ลอร์ดคะ”
“ครับ เลดี้ ว่ามาเถอะครับ”
“ท่านไม่ค่อยชอบอะไรแบบนี้หรือคะ”
“อะไรแบบนี้หรือครับ”
“ก็พวกซื้อของ ไม่ก็…เดินชมตลาดน่ะค่ะ” เปโตรนิยาเอ่ยถามอย่างลังเลใจ “ได้ยินว่าปกติพวกผู้ชายมักไม่ชอบอะไรแบบนี้…”
“พวกผู้ชายทั่วไปจะชอบหรือไม่แล้วมันสำคัญอย่างไรหรือครับ” แววตาของเขายิ้มอย่างอ่อนโยน ปากก็ปลอบใจเปโตรนิยา “สิ่งที่สำคัญคือข้าชอบการเดินซื้อของกับเลดี้ครับ”
“…”
เขาต้องไปร่ำเรียนจากที่ไหนมาไม่ผิดแน่ น่าจะเรียนมาจากหนุ่มเจ้าสำราญหาตัวจับยากเสียด้วย เปโตรนิยาเอาแต่ย้ำกับตัวเองว่าอย่าหลงคารมอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันก็เดินต่อไปโดยไม่พูดอะไร รอธซีมองเบื้องหลังของเปโตรนิยาด้วยสีหน้าพึงพอใจพลางยิ้ม
แน่นอนว่าของที่ซื้อมาล้วนมุ่งเน้นไปที่ตัวเปโตรนิยาเป็นหลัก ทั้งเครื่องประดับและสิ่งของฟุ่มเฟือยสำหรับผู้หญิงที่ไม่มีผู้ชายที่ไหนสนใจ แต่เท่าที่เปโตรนิยาเห็น ดูเหมือนว่ารอธซีเองก็เพลิดเพลินกับการเลือกดูสิ่งของเหล่านั้นเช่นกัน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขาสนุกเพราะได้เดินซื้อของกับนางจริงๆ หรือแค่แกล้งทำเพื่อเอาใจนาง แต่หากจะบอกว่า ‘แกล้งทำ’ ขีดความอดทนของรอธซีก็คงสูงมากทีเดียว
เพราะนางเดินไปเดินมาทั่วตลาดถึงสามชั่วโมงเพื่อหาทางสลัดเขาทิ้ง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงเดินตามโดยไม่ปริปากบ่นแม้ครึ่งคำ ทั้งยังช่วยนางเลือกของอีกด้วย อันนี้เหมาะกับเลดี้ อันนี้ไม่เหมาะกับเลดี้ สีนี้น่าจะเหมาะกับเลดี้มากกว่าสีนั้น… ดูเหมือนเขาจะคุ้นชินกับเรื่องแบบนี้ ในที่สุดเปโตรนิยาก็ต้องเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เหตุใดท่านถึงดูเชี่ยวชาญนักล่ะคะ”
“อะไรหรือครับ”
“การซื้อของกับผู้หญิงน่ะค่ะ”
“แย่จริง” รอธซีส่ายหน้าราวกับว่านางพูดอะไรผิดไปพร้อมกับแก้คำพูดของนาง “คำพูดของเลดี้มีจุดที่ผิดมหันต์อยู่นะครับ”
“ผิดมหันต์เลยหรือคะ”
“เลดี้มิได้เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดานี่ครับ”
เขากล่าวอย่างจริงจัง
“เลดี้เป็นผู้หญิงที่ข้ารักครับ”
“…”
“ไม่ใช่แค่ผู้หญิงธรรมดา”
“…เข้าใจแล้วค่ะ”
เขาช่างเป็นผู้ชายที่ทำให้นางพูดไม่ออกอยู่เรื่อย เปโตรนิยาคิดดังนั้นและเดินต่อ ขณะที่นางเริ่มรู้สึกเมื่อยขาและไม่มีอะไรจะทำแล้ว นางคิดว่าควรจะพอแค่นี้ ในตอนนั้นเองนางก็รู้สึกสะดุดตากับของสิ่งหนึ่ง
“ว้าว”
นางอุทานออกมาโดยไม่รู้ตัวทำให้ความสนใจของรอธซีมุ่งไปทางนั้นโดยอัตโนมัติ เขาเอ่ยถามด้วยความคาดไม่ถึง
“ลูกแก้วหรือครับ”
“น่าจะใช่นะคะ”
เปโตรนิยาเดินไปที่แผงลอยด้วยความอยากรู้อยากเห็น แน่นอนว่ารอธซีก็เดินตามไปด้วย เปโตรนิยามองสำรวจ ลูกแก้วที่ส่องประกายหลากสีด้วยความอัศจรรย์ใจ รอธซีคิดว่าหญิงสาวอยากได้ลูกแก้วนั้นจึงตั้งใจจะซื้อให้ ขณะที่เขากำลังจะเอ่ยปาก เจ้าของแผงลอยก็พูดขึ้นมาเสียก่อน
“ช่างเป็นคุณหนูที่กังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึงเสียจริง”