อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 1654
อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1654 สภาวะครรภ์เป็นพิษแต่กำเนิดยังอวดดี
หลังจากสภาวะครรภ์เป็นพิษแต่กำเนิดหนีไปแล้ว จางเซวียนก็ใช้ประโยชน์จากเปลวเพลิงสีดำในการบ่มเพาะจิตวิญญาณต้นกำเนิดของเขาอีกนาน จนหมู่เมฆสีดำเหล่านั้นค่อยๆสลายตัวไป
ด้วยสิ่งนี้ ก็ถือว่าเขาผ่านการทดสอบเปลวเพลิงสวรรค์แล้ว!
หลังจากเอาชนะการทดสอบของวรยุทธระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้น 2 ร่างอันทรงเกียรติที่ผู้คนทั่วไปต่างพรั่นพรึงได้แล้ว จิตวิญญาณต้นกำเนิดของจางเซวียนก็เปลี่ยนเป็นสีทอง เพียงแค่การดีดนิ้วครั้งเดียวก็ทำให้เกิดเสียงเหมือนโลหะกระทบกันดังก้อง
หากใครสักคนไม่รู้มาก่อนว่านั่นคือจิตวิญญาณต้นกำเนิด ก็จะต้องคิดว่าเป็นอีกร่างหนึ่ง
หลังจากบ่มเพาะกายเนื้อของเราด้วยเปลวเพลิงสวรรค์แล้ว จิตวิญญาณต้นกำเนิดก็เริ่มจะมีรูปร่างคล้ายกายเนื้อ ไม่น่าแปลกใจแล้วว่าทำไมลู่ชงถึงสามารถยืนหยัดต้านทานได้แม้แต่กับปรมาจารย์ระดับ 9 ดาวกลุ่มนั้น! จางเซวียนคิดด้วยความตื่นเต้น
จิตวิญญาณต้นกำเนิดสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ตามเจตจำนงของผู้นั้น หากไม่ต้องการให้ใครเห็น ต่อให้มันมีสีทองเจิดจ้า จิตวิญญาณต้นกำเนิดก็ยังสามารถปกปิดตัวเองจากการมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ หรือหากต้องการให้เห็น จิตวิญญาณต้นกำเนิดก็สามารถปรากฏได้ในรูปลักษณ์อันเฉียบคมราวกับอาวุธ จนถึงขั้นที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับเดียวกันก็ยังไม่อาจบอกได้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันคือจิตวิญญาณ
ไม่น่าแปลกใจแล้วที่เหล่าผู้พยากรณ์จิตวิญญาณได้รับความยำเกรงมากในยุคสมัยโบราณ แม้จะมีจำนวนเพียงหยิบมือที่สามารถผ่านการทดสอบร่างอันทรงเกียรติได้ แต่ผู้ที่ประสบความสำเร็จก็จะมีอานุภาพการต่อสู้ที่เหนือชั้นกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบกับนักรบทั่วไป
ที่สำคัญกว่านั้น อายุขัยของผู้พยากรณ์จิตวิญญาณเหล่านั้นยังยืนยาวกว่านักรบทั่วไปด้วย
สำหรับนักรบทั่วไป ต่อให้บ่มเพาะกายเนื้อด้วยพลังปราณและปรับเปลี่ยนเซลล์ทั้งหมดในร่างกายหลังจากสำเร็จวรยุทธขั้นการพักฟื้นภายในแล้ว ก็ยังมีอายุขัยอยู่ได้เพียง 1,500 ปีเท่านั้น
แต่สำหรับผู้พยากรณ์จิตวิญญาณจะแตกต่างออกไป พวกเขาอาจมีชีวิตอยู่ได้ราว 3000 ปีหรือนานกว่านั้นเลยทีเดียว
แต่เหล่าผู้พยากรณ์จิตวิญญาณก็มีจุดอ่อนอันร้ายกาจ คือการเสื่อมถอยทั้ง 5 ของจิตวิญญาณ…
การเป็นผู้พยากรณ์จิตวิญญาณมีข้อได้เปรียบหลายอย่าง แต่ก็พอๆกันกับความเสียเปรียบที่พวกเขาต้องเผชิญ อุปสรรคยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผู้พยากรณ์จิตวิญญาณก็คือการเสื่อมถอยทั้ง 5 ของจิตวิญญาณ แต่โชคดีที่ศิลปะแห่งจิตวิญญาณเทียบฟ้าที่จางเซวียนฝึกฝนทำให้เขาไม่ต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านั้น เขาจึงไม่ต้องกังวลอะไร
ขณะที่จางเซวียนยังคงทึ่งในการพัฒนาของเขา เขาก็หันไปมองตัวโคลน และเห็นว่าร่างกายของหมอนั่นเปลี่ยนเป็นสีทอง ในเวลาเดียวกัน จิตวิญญาณของอีกฝ่ายก็ได้รับการบ่มเพาะอย่างเต็มที่แล้ว รังสีอันทรงพลังแผ่ออกมาจากร่างของเขา บ่งบอกถึงอานุภาพอันน่าสะพรึงที่เขามีอยู่
“ร่างอันทรงเกียรติ โลกจารึก?” จางเซวียนถึงกับอ้าปากค้าง
เขาเคยเรียกใช้พลังงานจากหยดเลือดของปรมาจารย์ขงและใช้ประสิทธิภาพการต่อสู้ของนักรบขั้นชั่วกัลปาวสานโลกจารึกมาก่อน ดังนั้น แม้จะไม่เคยสำเร็จวรยุทธขั้นนั้นด้วยตัวเอง แต่ก็พอรู้คร่าวๆ ถึงการวัดระดับของวรยุทธขั้นอื่น
ร่างของตัวโคลนของเขาเป็นสีทองทั่วทั้งตัว แม้แต่ม่านตาก็ยังเป็นสีทอง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหมอนั่นสำเร็จวรยุทธขั้นร่างอันทรงเกียรติอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
ไม่น่าเชื่อว่าตัวโคลนจะยกระดับวรยุทธได้รวดเร็วขนาดนี้…
จางเซวียนกุมหัวใจที่เจ็บปวดของเขาไว้
เจ้านั่นช่างรู้วิธีที่จะทำให้เขาช้ำใจได้ดีจริงๆ!
เขาเคยคิดว่าตัวเองพัฒนาก้าวหน้าได้รวดเร็วแล้ว แต่หมอนั่นก็ก้าวหน้ารวดเร็วกว่าเขาเสียอีก!
“ตอนนี้แกควรกลับเข้ารังนางพญามดได้แล้ว…” จางเซวียนสั่งการตัวโคลนก่อนจะหันกลับมาขัดเกลาวรยุทธของเขา
จากนั้นก็ร่อนลงจากกลางอากาศ กลับสู่พื้นดิน
“คะ-คะ-คุณผ่านการทดสอบเปลวเพลิงสวรรค์ขั้นสูงสุดแล้วจริงๆหรือ?” หอกสวรรค์กระดูกมังกรตั้งคำถามขณะตัวสั่นไม่หยุด
มันคิดว่านายท่านของมันคงมอดไหม้เป็นเถ้าถ่านแล้วเมื่อต้องเผชิญกับการทดสอบเปลวเพลิงสวรรค์อันแสนทรงพลัง ใครจะไปคิดว่าเขาจะเอาชนะมันได้รวดเร็วขนาดนี้?
นี่ยังเป็นความสามารถของมนุษย์อยู่หรือเปล่า?
จางเซวียนไม่สนใจความตกตะลึงของหอกสวรรค์กระดูกมังกร เขาหัวเราะหึๆแทนคำตอบ จากนั้นก็เตรียมจะกลับเข้าสู่กายเนื้อ แต่แล้วก็ต้องหรี่ตาด้วยความประหลาดใจ “เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”
กายเนื้อของเขาที่นั่งอยู่กับพื้นมีใบหน้าดำเมี่ยม ควันสีดำลอยโขมงออกจากศีรษะ ร่างนั้นสั่นสะท้านไม่หยุดราวกับกำลังได้รับความเจ็บปวดแสนสาหัส
“เมื่อครู่นี้มีควันสีดำพุ่งออกมาจากหมู่เมฆและดำดิ่งเข้าสู่กายเนื้อของคุณ ผมคิดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณต้นกำเนิดของคุณ ก็เลยไม่ได้ยับยั้งมันไว้…” หอกสวรรค์กระดูกมังกรพูดด้วยความกระอักกระอ่วน
ส่วนจางเซวียนก็หน้าดำคร่ำเครียด
ฉันดูเหมือนคนตายหรือไง? เพียงเพราะแกเป็นกระดูก ก็ไม่ได้หมายความว่าแกควรจะตัดสินทุกคนด้วยมาตรฐานของตัวเองนะ!
อีกอย่าง มีที่ไหนกันที่จิตวิญญาณต้นกำเนิดที่แตกสลายจะกลับเข้าสู่กายเนื้อได้?
รู้ดีว่ามัวเสียเวลากับโครงกระดูกก็ไม่มีประโยชน์ จางเซวียนรีบนำจิตวิญญาณต้นกำเนิดกลับเข้ากายเนื้อของเขา หลังจากที่ลืมตาขึ้นในอีกไม่นานหลังจากนั้น ใบหน้าของจางเซวียนก็บิดเบี้ยวด้วยความพรั่นพรึง
เขาโมโหจนแทบระเบิดออกมา
สภาวะครรภ์เป็นพิษแต่กำเนิดที่จางเซวียนเพิ่งขับไล่มันออกจากจิตวิญญาณต้นกำเนิดของเขาไปนั้นกำลังนอนนิ่งอย่างสบายใจอยู่ในกายเนื้อของเขา ตอนที่เขานำจิตวิญญาณต้นกำเนิดกลับเข้าร่าง มันก็ยังทักทายเขาอย่างสบายอารมณ์ราวกับพบเพื่อนเก่า!
เขานึกว่าตัวเองกำจัดมันออกไปได้ตลอดกาลแล้ว แต่ใครจะไปคิดว่ามันหนีจากจิตวิญญาณต้นกำเนิดของเขาเพียงเพื่อจะกลับเข้าสู่กายเนื้อ!
มันคิดว่าเรื่องนี้เหมือนการย้ายบ้านหรือไง?
ย้ายจากกายเนื้อเข้าสู่จิตวิญญาณ และตอนนี้ก็ย้ายออกจากจิตวิญญาณกลับเข้าสู่กายเนื้อ…
ฉันดูเหมือนคนที่แกควรจะเข้ามาวุ่นวายด้วยหรือไง?
จางเซวียนหน้าดำคร่ำเครียด เขารวบรวมพลังปราณเทียบฟ้าและปล่อยมันเข้าใส่สภาวะครรภ์เป็นพิษแต่กำเนิด
“ตายซะเถอะ!”
เพราะความหวาดกลัวพลังปราณเทียบฟ้าที่ทำให้มันต้องระเห็จออกจากกายเนื้อเข้าสู่จิตวิญญาณของเขา แต่ในเมื่อมันบังอาจกลับเข้าสู่กายเนื้อของเขาอีก เขาก็ต้องเล่นงานมันให้สิ้นซาก!
ในชั่วพริบตา พลังปราณเทียบฟ้าก็เข้าปะทะกับสภาวะครรภ์เป็นพิษแต่กำเนิดและผลักดันให้มันถอยไปเรื่อยๆ
แต่หลังจากนั้นไม่นาน สภาวะครรภ์เป็นพิษแต่กำเนิดก็ดำดิ่งเข้าสู่กระแสพลังปราณเทียบฟ้า มันว่ายวนอยู่ในกระแสพลังปราณเทียบฟ้าอย่างสบายใจ เหมือนตัวโคลนที่อยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงสีดำเมื่อครู่ก่อน
“แก…” จางเซวียนถึงกับผงะ
สภาวะครรภ์เป็นพิษแต่กำเนิดควรจะหวาดกลัวพลังปราณเทียบฟ้า เมื่อเจอเข้ากับพลังปราณเทียบฟ้า มันก็ควรจะหาที่ซ่อน แล้วเกิดอะไรขึ้นถึงไปว่ายวนอยู่ในนั้นได้?
หัวใจของจางเซวียนกระตุก หรือว่า…มันได้รับการยกระดับเหมือนกันหลังจากที่ต้องเผชิญกับการทดสอบเปลวเพลิงสวรรค์ ทำให้ตอนนี้มันไม่หวาดกลัวพลังปราณเทียบฟ้าอีกแล้ว?
สภาวะครรภ์เป็นพิษแต่กำเนิดหลบหนีไปเมื่อเจอกับเปลวเพลิงสีดำ แต่มันก็ถูกแผดเผาอยู่ชั่วระยะหนึ่งก่อนจะหลบหนีไปได้ คงเป็นการแผดเผาในช่วงระยะเวลาสั้นๆนั้นที่ทำให้มันพัฒนาตัวเองจนถึงขั้นที่ไม่หวาดกลัวแม้แต่พลังปราณเทียบฟ้าอีกต่อไป
ในฐานะกูรูยาพิษ เขารู้ดีว่ามีพิษบางชนิดในโลกนี้ที่สามารถพัฒนาตัวเองได้ในระยะเวลาอันสั้น
ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ เขาก็เผชิญกับปัญหาใหญ่แล้ว
ที่ผ่านมา สภาวะครรภ์เป็นพิษแต่กำเนิดถูกพลังปราณเทียบฟ้าของเขากดข่มไว้ มันจึงไม่ออกฤทธิ์ แต่ในเมื่อตอนนี้ไม่มีอะไรจะกดข่มมันได้แล้ว หากมันเริ่มแผลงฤทธิ์หรือระเบิดอานุภาพของมันออกมา เขาต้องแย่แน่!
จางเซวียนพยายามอีก 2-3 ครั้ง แต่ดูเหมือนพลังปราณเทียบฟ้าของเขาจะไม่มีผลกับสภาวะครรภ์เป็นพิษแต่กำเนิดอีกแล้ว
ลองดูซิว่าเราจะใช้จิตวิญญาณต้นกำเนิดของเรากดข่มมันได้ไหม!
จางเซวียนตั้งต้นขับเคลื่อนจิตวิญญาณต้นกำเนิดเข้าใส่สภาวะครรภ์เป็นพิษเพื่อหวังว่าจะกดข่มมันได้ เมื่อเผชิญกับจิตวิญญาณที่กำลังใกล้เข้ามา สภาวะครรภ์เป็นพิษแต่กำเนิดก็รีบก็ถอยกรูดด้วยความหวาดกลัว
อ้อ? คงเป็นเพราะจิตวิญญาณต้นกำเนิดของเราได้รับการบ่มเพาะจากเปลวเพลิงสวรรค์ เจ้านั่นจึงยังหวาดกลัวมันอยู่…
เมื่อครู่นี้ เปลวเพลิงสวรรค์ขั้นสูงสุดได้บ่มเพาะจิตวิญญาณต้นกำเนิดของเขา ก็เหมือนกับการซึมซับพลังงานจากการทดสอบสายฟ้าที่ทำให้จิตวิญญาณต้นกำเนิดมีพลังสายฟ้าเป็นองค์ประกอบ ตอนนี้จิตวิญญาณต้นกำเนิดของเขาก็ได้รับการถ่ายทอดพลังจากเปลวเพลิงสวรรค์ขั้นสูงสุดเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ จึงสร้างความหวาดกลัวให้สภาวะครรภ์เป็นพิษแต่กำเนิดได้
เพียงแต่…
เขาจำเป็นต้องประสานจิตวิญญาณของเขาเข้ากับกายเนื้อ ไม่อาจใช้เฉพาะจิตวิญญาณเพื่อควบคุมสภาวะครรภ์เป็นพิษแต่กำเนิดตลอดไปได้
ดูซิว่าเราจะดึงมันออกจากกายเนื้อได้หรือไม่…จางเซวียนกัดฟันและเริ่มต้อนสภาวะครรภ์เป็นพิษให้จนมุมต่อไป
ครู่ต่อมาเขาก็หน้าดำคร่ำเครียด เวรละ มันติด…
เป็นความจริงที่ว่าเขาสามารถปรับเปลี่ยนขนาดของจิตวิญญาณต้นกำเนิดได้หลังจากที่สำเร็จความเข้าใจเรื่องแก่นสารของมิติและการสกัดกั้นมิติแล้ว แต่เรื่องนี้ก็ยังมีข้อจำกัด เมื่อเผชิญหน้ากับการไล่ล่าของจิตวิญญาณต้นกำเนิดของเขา สภาวะครรภ์เป็นพิษแต่กำเนิดก็ผลุบเข้าไปในทางเดินพลังปราณที่เล็กที่สุดภายในร่างกายของจางเซวียน จนถึงขนาดที่แม้แต่จิตวิญญาณต้นกำเนิดก็ไม่อาจแทรกตัวเข้าไปได้
หากเขาแทรกตัวเข้าไป ทางเดินพลังปราณจะต้องระเบิด และความบอบช้ำอย่างหนักก็จะเกิดขึ้นตามมา
ทันทีที่จิตวิญญาณต้นกำเนิดของจางเซวียนล่าถอย สภาวะครรภ์เป็นพิษแต่กำเนิดก็ผลุบออกมาจากทางเดินพลังปราณขนาดเล็กที่สุดนั้นและเริ่มเต้นระบำอย่างลิงโลดในชัยชนะ จางเซวียนทนดูความโอหังของมันไม่ได้อีกต่อไป เขารีบส่งจิตวิญญาณต้นกำเนิดกลับเข้าไปทันที แต่สภาวะครรภ์เป็นพิษก็รีบกลับเข้าไปในทางเดินพลังปราณนั้นเพื่อซ่อนตัว
กระบวนการแบบเดิมดำเนินไปอีกหลายครั้ง ราวกับมันกำลังยั่วโมโหเขา “ฉันออกมาแล้ว ฉันกลับเข้าไปแล้วนะ ฉันออกมาแล้ว ฉันกลับเข้าไปอีกแล้วล่ะ…ฮ่าฮ่า ถ้าแกคิดว่าจะจับฉันได้ ก็ลองสิ!”
“แกอย่าทำตัววุ่นวายจะดีกว่า ไม่อย่างนั้น ต่อให้ต้องเสี่ยงกับการทำลายกายเนื้อของฉัน ฉันก็จะฆ่าแกให้ตาย!” จางเซวียนคำรามขณะนำจิตวิญญาณต้นกำเนิดกลับเข้าสู่กายเนื้อ
เขาใช้พลังปราณเทียบฟ้าปิดกั้นทางเดินพลังปราณไว้เพื่อป้องกันไม่ให้สภาวะครรภ์เป็นพิษแต่กำเนิดออกมาเพ่นพ่าน ก่อนจะนวดหว่างคิ้วด้วยความลำบากใจ
ไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว…
Comments for chapter "ตอนที่ 1654 "
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
Jae2T
เนื้อเรื่องผิดครับเหมือนจะเป็นของอีกตอย
Nat
1654กับ1655
เนื้อหาซ้ำกันครับ
Nat
ขอบคุณครับ
Nat
เนื้อหา1654กับ1655ซ้ำกันครับ
ธีรภทร
1564 หายไปครับ 1564 กับ 1565 เหมือนกันเลย ลงผิดรึเปล่าครับ แก้ไขด้วยนะครับ อยากอ่าน
Bay
เหมือนข้ามไปหน่อยนึง สภาวะครรเป็นพิษกลับเข้ามาตอนไหน