อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 1682 กองทัพนับแสน
อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1682 กองทัพนับแสน
จางเซวียนใช้เวลาไม่นานก็มาถึงตีนเขาแห่งหนึ่ง ที่นั่น เขาพบเผ่าพันธุ์ปีศาจสี่ตัวกำลังลาดตระเวน พลังจิตวิญญาณพวยพุ่งมาจากบริเวณโดยรอบ ดูเหมือนเผ่าพันธุ์ปีศาจพวกนี้กำลังพยายามขับเคลื่อนค่ายกลอันหนึ่ง
ในบรรดาเผ่าพันธุ์ปีศาจทั้งสี่ ตัวที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นนักรบขั้นชั่วกัลปาวสาน มีพละกำลังเทียบเท่ากับโหมวอู่ ส่วนอีกสามตัวที่เหลือเป็นนักรบขั้นการพักฟื้นภายใน
ที่อยู่ตรงหน้าพวกมันคือค่ายกลทะลุมิติ แต่เท่าที่ดูจากธงค่ายกลที่อยู่โดยรอบ ค่ายกลนี้ดูเหมือนจะเก่ามาก ดังนั้น การเปิดใช้งานจึงเป็นเรื่องยาก
เผ่าพันธุ์ปีศาจตัวที่แข็งแกร่งที่สุดกำลังจ้องหน้าอีกสามตัวที่เหลืออย่างโกรธเกรี้ยว พร้อมกับโวยวายไปด้วย
“ท่านโม่เย่ ผมได้พยายามเต็มที่แล้ว แต่ค่ายกลอันนี้เก่าเกินไป ไม่มีอะไรที่ผมสามารถทำได้อีกแล้ว!” เผ่าพันธุ์ปีศาจตัวหนึ่งที่กำลังพยายามขับเคลื่อนค่ายกลทักท้วงด้วยเสียงอ่อยๆ
“หุบปากแล้วทำงานไป ถ้ามันใช้การไม่ได้ล่ะก็ ทั้งแกทั้งฉันหัวขาดแน่!” โม่เย่โบกมืออย่างเย็นชา
“ขอรับ!”
เผ่าพันธุ์ปีศาจตัวนั้นไม่กล้าทักท้วงอีก มันขับเคลื่อนพลังปราณอย่างดุเดือดเข้าสู่ค่ายกล ถึงขนาดที่ทำให้พลังจิตวิญญาณในบริเวณโดยรอบเข้มข้นขึ้น และค่ายกลเก่าคร่ำคร่าอันนั้นก็เริ่มออกอาการ ดูเหมือนมันพร้อมจะใช้งานได้ทุกขณะ
แต่สีหน้าของเผ่าพันธุ์ปีศาจตัวที่กำลังพยายามขับเคลื่อนค่ายกลก็ซีดเผือดลงอย่างรวดเร็ว มันใกล้จะหมดเรี่ยวแรงเต็มที
“เร็วเข้า รีบเข้ามาช่วยผม!” เผ่าพันธุ์ปีศาจตัวนั้นร้องบอกอีกสองตัวที่เหลือ
เผ่าพันธุ์ปีศาจที่มีวรยุทธขั้นการพักฟื้นภายในอีกสองตัวรีบกัดนิ้วโดยไม่ลังเล และมอบหยดเลือดให้กับค่ายกลทะลุมิติ
วิ้ง!
ทันใดนั้น พลังจิตวิญญาณที่อยู่โดยรอบก็เข้มข้นขึ้นจนแทบจะจับต้องได้ แสงเจิดจ้าสว่างเรืองออกมาจากค่ายกลทะลุมิติ
“ดี!” เห็นค่ายกลทะลุมิติใช้งานได้แล้ว โม่เย่คำรามก่อนจะก้าวเข้าไป
ฟึ่บ!
โม่เย่ถูกโอบล้อมด้วยลำแสง รอยแยกแห่งมิติปรากฏขึ้นตรงหน้า เขาก้าวเข้าไปในนั้นและหายวับไปอย่างรวดเร็ว
พลั่ก!
ทันทีที่โม่เย่จากไป เผ่าพันธุ์ปีศาจที่มีวรยุทธขั้นการพักฟื้นภายในที่เหลืออีกสามตัวก็ล้มลงไปกองกับพื้น
ดูเหมือนการเปิดใช้งานค่ายกลจะสูบเรี่ยวแรงของพวกมันไปจนหมด
“โชคดีนะที่พวกเราทำสำเร็จ ไม่อย่างนั้นคงหัวขาดแน่…” แม้จะเหน็ดเหนื่อย แต่ทั้งสามก็ยิ้มได้ด้วยความโล่งอก
ถ้าไม่สามารถเปิดใช้งานค่ายกลได้ พวกมันคงตายแน่!
ขณะที่กำลังฉลองชัยชนะเล็กๆของตัวเองอยู่นั้น เผ่าพันธุ์ปีศาจร่างสูงใหญ่ตัวหนึ่งก็เดินตรงเข้ามา
“ท่านโหมวอู่!”
เมื่อเห็นเผ่าพันธุ์ปีศาจร่างสูงใหญ่ตัวนั้น ทั้งสามรีบลุกขึ้นยืนและทักทาย
“เอาล่ะ เปิดใช้งานค่ายกลเดี๋ยวนี้ ผมอยากตามโม่เย่ไป” โหมวอู่โบกมืออย่างวางอำนาจ
แน่นอนว่าจางเซวียนปลอมตัวเป็นโหมวอู่
ดูจากการที่โม่เย่รีบร้อนจากไปโดยใช้ค่ายกลทะลุมิติ ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะต้องมีบางอย่างที่มันต้องรีบไปจัดการ และในเมื่อจางเซวียนเห็นแล้ว เขาก็จะต้องยับยั้งอีกฝ่ายไว้ให้ได้ ในเวลาเดียวกัน ก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในหมู่เผ่าพันธุ์ปีศาจ
“ท่านโหมวอู่ คุณอยากไปที่ทะเลพันใบหรือ?”
เผ่าพันธุ์ปีศาจตัวที่เปิดใช้งานค่ายกลแทบปล่อยโฮ
เมื่อครู่นี้พวกมันเหน็ดเหนื่อยแทบตายกว่าจะทำให้ค่ายกลทะลุมิติใช้งานได้ ขืนต้องทำอีกครั้งหนึ่ง มีหวังเสียชีวิตแน่!
เผ่าพันธุ์ปีศาจตัวหนึ่งกัดฟันและพูดว่า “ท่านโหมวอู่ ขออภัยด้วยที่ผมต้องถามแบบนี้ แต่คุณจะต้องมุ่งหน้าไปยังดวงดาวแห่งแม่น้ำตามคำสั่งของอำมาตย์เฉินหลิงไม่ใช่หรือ?”
เมื่อได้ยินคำว่า ‘ดวงดาวแห่งแม่น้ำ’ จางเซวียนเงียบไปและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
ในเมื่อโหมวอู่มาที่อาณาจักรใต้ดินแห่งภูเขาพยัคฆ์มังกรพร้อมกับคำประกาศของอำมาตย์เฉินหลิง ก็แปลว่าหุบเขาพยัคฆ์มังกรน่าจะเป็นดวงดาวแห่งแม่น้ำที่เผ่าพันธุ์ปีศาจตัวนั้นพูดถึง ดูเหมือนชื่อที่เผ่าพันธุ์มนุษย์กับเผ่าพันธุ์ปีศาจใช้เรียกสถานที่เดียวกันจะมีความแตกต่างกันไป
“ผมจัดการปัญหาที่ดวงดาวแห่งแม่น้ำแล้ว อำมาตย์เฉินหลิงเพิ่งสั่งการให้ผมเดินทางไปที่ทะเลพันใบเพื่อไปพบกับโม่เย่ นี่ผมต้องรายงานความเคลื่อนไหวของผมให้พวกคุณรับรู้ด้วยหรือไง?” จางเซวียนหรี่ตาขณะที่เจตนาสังหารระเบิดออกจากร่างของเขา
พลังงานมหาศาลพลุ่งพล่านอยู่ภายใต้เกราะอันหนาหนัก ดูเหมือนจางเซวียนพร้อมจะเปิดการโจมตีได้ทุกเมื่อ
เกราะของโหมวอู่นั้นเหมือนกับของเหิงเจียง เขาจึงทำแค่ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์เล็กน้อยเพื่อให้เหมือนกับอีกฝ่าย
“ผมไม่กล้าตั้งคำถามกับความเคลื่อนไหวของท่านโหมวอู่หรอก!” เผ่าพันธุ์ปีศาจตัวนั้นหน้าซีดด้วยความพรั่นพรึง มันรีบหันไปถ่ายทอดพลังปราณเข้าสู่ค่ายกลทะลุมิติ
แต่เพราะก่อนหน้านี้ใช้พลังมากเกินไป ร่างกายจึงถึงขีดสุดของความทนทาน
เผ่าพันธุ์ปีศาจอีกสองตัวรู้ดีว่าต้องถูกลงโทษแน่หากไม่สามารถเปิดใช้งานค่ายกลทะลุมิติให้โหมวอู่ จึงรีบเข้ามาช่วย
“ผมเพิ่งแก้ปัญหาที่ดวงดาวแห่งแม่น้ำเสร็จสิ้น และไม่รู้ว่าสถานการณ์ที่ทะเลพันใบเป็นอย่างไร บอกผมมาซิว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น?” ขณะที่เฝ้าดูเผ่าพันธุ์ปีศาจเค้นพลังปราณทุกหยาดหยดเข้าสู่ค่ายกลทะลุมิติ จางเซวียนก็ตั้งคำถามขึ้นมาลอยๆ
ในเมื่อดวงดาวแห่งแม่น้ำคืออาณาจักรใต้ดินแห่งภูเขาพยัคฆ์มังกร ก็แปลว่าทะเลพันใบคงจะเป็นชื่อของอาณาจักรใต้ดินอีกแห่งหนึ่ง อันที่จริง ถ้าเขาเดาถูก มันน่าจะเป็นหนึ่งในหกอาณาจักรใต้ดินที่เผ่าพันธุ์ปีศาจทุ่มเทกองกำลังไปที่นั่น
คงจะดีหากเขาได้มุ่งหน้าไปที่นั่นและแก้ไขวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น น่าจะบรรเทาความกดดันที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ได้มาก
“รายงานท่านโหมวอู่ พวกเราไม่มีสิทธิ์รับรู้ข้อมูลเหล่านั้น จึงไม่แน่ใจเท่าไหร่…แต่ท่านโม่เย่พูดไว้เมื่อครู่นี้ว่าทั้งอำมาตย์เฉินชิงและอำมาตย์เฉินหลิงได้สั่งการเป็นเสียงเดียวกันให้ตรึงกองกำลังไว้ที่ทะเลพันใบเพื่อบุกเข้าโจมตีเผ่าพันธุ์มนุษย์!” เผ่าพันธุ์ปีศาจตัวหนึ่งรีบตอบ
“ตรึงกองกำลังไว้? บุกเข้าโจมตี?” จางเซวียนเลิกคิ้ว
ที่อาณาจักรใต้ดินแห่งภูเขาพยัคฆ์มังกร เซียนดาบชิงรู้สึกได้ว่ากองทัพเผ่าพันธุ์ปีศาจไม่ได้รีบร้อนจะเข้าโจมตีตระกูลจาง และยังสงสัยอยู่ว่าพวกมันอาจกำลังรอคอยกำลังเสริม กองทัพที่มีเผ่าพันธุ์ปีศาจเพียงหมื่นตัวนั้นจัดว่ารับมือได้ไม่ยาก แต่หากพวกมันมีกำลังเสริม ก็คงเป็นฝันร้ายสำหรับตระกูลจาง!
เมื่อสันนิษฐานจากข้อมูลที่เขาได้รับมา ก็ดูเหมือนว่าทะเลพันใบไม่น่าจะใช่อาณาจักรใต้ดิน แต่เป็นปราการที่กองกำลังเสริมตั้งอยู่
เรื่องนี้ไม่ใช่ข่าวดีเลย แน่นอนว่าเหล่าปรมาจารย์ที่ตรึงกำลังอยู่ในอาณาจักรใต้ดินที่กำลังเสริมเคลื่อนพลเข้าไปนั้นจะต้องเผชิญกับอันตรายใหญ่หลวง
แถมคราวนี้ยังเป็นคำสั่งที่ทั้งอำมาตย์เฉินชิงกับอำมาตย์เฉินหลิงสั่งการเป็นเสียงเดียวกันด้วย!
คำสั่งที่เหิงเจียงได้รับจากอำมาตย์เฉินหลิงกับอำมาตย์เฉินซิงก่อนหน้านี้มีความขัดแย้งกัน คำสั่งแรกสั่งการให้เข้าโจมตีทันที ขณะที่คำสั่งที่ 2 สั่งการให้ตรึงกำลังไว้ พูดอีกอย่างก็คือมีความขัดแย้ง กันในหมู่อำมาตย์ แต่ตอนนี้ทั้งคู่หันมาสั่งการเป็นเสียงเดียวกันแล้วว่าให้เปิดการโจมตี…
“มีกำลังพลอยู่ที่ทะเลพันใบมากแค่ไหน? เป็นไปได้หรือเปล่าที่จะโยกย้ายกำลังพลบางส่วนไปเสริมกำลังที่ดวงดาวแห่งแม่น้ำ?” จางเซวียนตั้งคำถามต่อไป
“กองกำลังที่ทะเลพันใบเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าพันธุ์ปีศาจของเรา มีนายทหารชั้นสูงที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของอำมาตย์เฉินหลิงและอำมาตย์เฉินชิงเป็นผู้สั่งการ พวกเขามีกองทัพที่มีกำลังพลนับแสน!” เผ่าพันธุ์ปีศาจตัวหนึ่งตอบอย่างภาคภูมิใจ
“นับแสน?” จางเซวียนแทบล้มทั้งยืนเมื่อได้ยินตัวเลข
พลทหารเผ่าพันธุ์ปีศาจหมื่นตัวนั้นก็มากเกินพอที่จะยับยั้งกองกำลังของตระกูลจางและทำให้อาณาจักรใต้ดินต้องกลายเป็นสนามรบอันดุเดือดแล้ว แต่หากพลทหารเผ่าพันธุ์ปีศาจนับแสนตัวเคลื่อนกำลังพร้อมๆกัน ต่อให้สภาปรมาจารย์สำนักงานใหญ่ก็ไม่อาจยับยั้งพวกมันได้
ใครจะคิดว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจจะมีกองทัพที่ใหญ่โตขนาดนี้?
พวกเขาจะสามารถปกป้องสภาปรมาจารย์ได้หรือหากต้องเผชิญกับข้าศึกที่มีจำนวนนับแสน?
“ใช่แล้ว” เผ่าพันธุ์ปีศาจตัวนั้นดูเหมือนจะพอรู้อะไรอยู่บ้าง “นี่เป็นครั้งแรกที่อำมาตย์ทั้งสอง ร่วมมือกัน พวกเขาเรียกรวมพลเหล่าผู้เชี่ยวชาญเผ่าพันธุ์ปีศาจทั้งหมดเพื่อเปิดทางเข้าสู่ทวีปแห่งปรมาจารย์ พลทหารส่วนใหญ่จากอาณาจักรใต้ดินแห่งอื่นได้มุ่งหน้าไปยังทะเลพันใบแล้ว ซึ่งเหตุผลที่ดวงดาวแห่งแม่น้ำไม่ได้รับคำสั่งก็เพราะอยู่ห่างไกลเกินไป”
ได้ยินคำนั้น จางเซวียนแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก
เขาเคยคิดว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจจะเข้าโจมตีอาณาจักรใต้ดินทั้ง 108 แห่งพร้อมๆกัน และยังคงมีกองกำลังเสริมจำนวนมากที่พร้อมจะเข้าเสริมได้ทุกเวลาที่พวกมันต้องการ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น ทุกอย่างจะน่าสะพรึงมาก
แต่โชคดีที่ไม่ใช่
ดูเหมือนอำมาตย์เฉินหลิงกับอำมาตย์เฉินชิงจะสั่งการให้พลทหารจากอาณาจักรใต้ดินแต่ละแห่งไปรวมตัวกันที่ทะเลพันใบ จากนั้นพวกมันก็จะทุ่มเทกองกำลังเข้าทำลายล้างอาณาจักรใต้ดินเพียงแห่งเดียว
อีกสิ่งหนึ่งที่เขารู้จากคำบอกเล่าของเผ่าพันธุ์ปีศาจก็คือ นี่เป็นครั้งแรกที่อำมาตย์เฉินหลิงกับอำมาตย์เฉินชิงปฏิบัติการไปในแนวทางเดียวกัน เรื่องนี้ทำให้เขาแน่ใจในข้อสันนิษฐานของตัวเองว่าอำมาตย์ทั้งสามของเผ่าพันธุ์ปีศาจนั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันนัก
อันที่จริง ก็พอจะดูออกว่าพวกมันอิจฉาริษยากันเองและมีการงัดข้อกันเล็กๆน้อยๆ เรื่องนี้ทำให้แต่ละตัวไม่อาจทำงานร่วมกันได้ ส่งผลให้กองกำลังเผ่าพันธุ์ปีศาจไม่สามารถปฏิบัติการโจมตีอย่างเด็ดขาด
แต่แล้ว ในตอนนั้นเอง เผ่าพันธุ์ปีศาจตัวหนึ่งก็รู้สึกถึงความผิดปกติและร้องออกมา “นี่มันไม่ถูกแล้ว…ท่านโหมวอู่ คุณเป็นแม่ทัพเผ่าพันธุ์ปีศาจของเรา คุณจะไม่รู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร?”
เผ่าพันธุ์ปีศาจอีก 2 ตัวนัยน์ตาเบิกโพลงเมื่อคิดได้ พวกมันจ้องหน้าจางเซวียนด้วยสายตามุ่งร้ายทันที