อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 1942 ล้มเลิกเสียเถอะ
อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1942 ล้มเลิกเสียเถอะ
ในยุคนั้น ตระกูลตั้นมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน ลำพังแค่นักรบขั้นผู้ทำลายล้างมิติที่มีอยู่ถึง 3 คนก็เกินพอจะทำให้เหล่าศัตรูยอมจำนนให้ตระกูลตั้นแล้ว แม้แต่สำนักเจ้าเมืองก็ยังไม่กล้าทำตัวเป็นศัตรูกับพวกเขา แต่เลือกที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีผ่านข้อตกลงผูกมัดการแต่งงาน
ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหลังจากความโชคร้ายที่เกิดขึ้น อันนำมาซึ่งความตายของผู้เชี่ยวชาญเกือบทุกคนในตระกูลตั้น ทรัพย์สมบัติของตระกูลตั้นถูกคนอื่นๆฉกฉวยไปภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่เขาก็ยังคงมีความมั่งคั่งระดับหนึ่งจากการสั่งสมทรัพย์สินเงินทองที่ได้มาตลอดระยะเวลาหลายปี ไม่มีเหตุผลอะไรที่ตั้นเฉี่ยวเทียนจะต้องรวมหัวกับเหล่ากองโจร!
ด้วยเหตุนี้ ฝูงชนกลุ่มหนึ่งที่ออกจะมีเหตุมีผลสักหน่อยจึงรู้สึกว่าเรื่องนี้ยังไม่มีคำอธิบาย
“นายหญิงน้อยที่ 2…”
ขณะที่ทุกคนกำลังสงสัย เสียงฝีเท้าเร่งร้อนก็ดังขึ้น พวกเขาเงยหน้ามอง เห็นนายหญิงน้อยที่ 2 แห่งสำนักเจ้าเมือง, เฉว่ชิง พรวดพราดเข้ามาอย่างร้อนอกร้อนใจ
ภาพนั้นทำให้ฝูงชนมีสีหน้าประหลาด
ด้วยสัญญาผูกมัดการแต่งงานระหว่างตั้นเฉี่ยวเทียนกับเฉว่ชิง เธอไม่ควรจะมายุ่งเกี่ยวกับการพิพากษาครั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่เป็นกลางที่อาจเกิดขึ้น แต่เธอกลับบุกพรวดพราดเข้ามา…
ที่ตามหลังเฉว่ชิงคือบรรดาคนรับใช้ของสำนักเจ้าเมือง แต่ละคนมีสีหน้าปั่นป่วน ราวกับคิดไม่ถึงว่านายหญิงน้อยที่ 2 จะบุกเข้ามาในการพิพากษาอย่างหุนหันพลันแล่นแบบนั้น
“ทำไม?”
เฉว่ชิงสลัดบรรดาคนรับใช้ที่พยายามจะรั้งตัวเธอไว้ เธอจ้องหน้าตั้นเฉี่ยวเทียนด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ ราวกับไม่อยากเชื่อว่าอีกฝ่ายจะทรยศ
“เราหมั้นหมายกันตั้งแต่อายุยังน้อย แม้คุณจะไม่สามารถฝึกฝนวรยุทธได้ ฉันก็ไม่เคยดูถูกคุณ ทั้งยังปฏิบัติตัวต่อคุณเหมือนเดิม คราวนี้สำนักดาบเมฆเหินมาที่เมืองของเราเพื่อเปิดรับศิษย์สายตรงฉันคิดว่าคงเป็นโอกาสดีสำหรับเราทั้งคู่ จึงพยายามฝึกฝนอย่างหนักเพื่อให้ได้การยอมรับจากศิษย์พี่หัวและได้เป็นศิษย์สายตรงระดับล่างคนหนึ่งของสำนักดาบเมฆเหิน ฉันคิดว่าการได้เป็นศิษย์สายตรงระดับล่างของที่นั่นจะทำให้ฉันมีโอกาสได้สมุนไพรคุณภาพดีมารักษาคุณจากอาการเจ็บป่วย คุณจะได้กลับมาฝึกฝนวรยุทธได้อีกครั้งและสร้างตระกูลตั้นของคุณให้รุ่งเรืองดังเดิม…” เฉว่ชิงส่ายหน้าอย่างหม่นหมอง ผิดหวังกับการทรยศจากคนที่เธอรัก
“ฉันคิดว่าคุณน่าจะภาคภูมิใจในตัวฉัน จึงส่งคนไปรายงานคุณเรื่องนี้ แล้วทำไมคุณถึงรวมหัวกับพวกกองโจรเพื่อยับยั้งสิ่งนี้ล่ะ? คุณถึงกับลักพาตัวฉันไปและปล่อยให้พวกกองโจรซ้อมฉัน พยายามบังคับฉันให้เปลี่ยนใจให้ได้…คุณคิดหรือว่าฉันจะลืมคุณเพียงเพราะฉันได้เข้าสู่สำนักดาบเมฆเหิน…ฉันไม่ได้ทำอย่างนี้เพียงเพื่อตัวฉันเอง แต่เพื่ออนาคตของเรา นี่จะเป็นกุญแจที่เปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของเราไปอย่างสิ้นเชิง!”
ขณะที่เฉว่ชิงพูด น้ำตาก็เอ่อขึ้นมาปริ่มขอบตาก่อนจะเริ่มไหลเป็นทาง เธอเบือนหน้าไปจากตั้นเฉี่ยวเทียน ราวกับไม่อาจทนมองหน้าชายหนุ่มได้อีก
“ถ้าอย่างนั้น ก็เป็นเพราะนายหญิงน้อยที่ 2 ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่สำนักดาบเมฆเหิน เรื่องนี้ทำให้ตั้นเฉี่ยวเทียนรู้สึกเสียหน้า เขาจึงเลือกรวมหัวกับพวกกองโจรเพื่อยับยั้งไม่ให้มันเกิดขึ้น…”
“ตั้นเฉี่ยวเทียนโง่เง่าเหลือเกิน เขาไม่รู้ตัวหรือว่ามีศัตรูของตระกูลตั้นอีกมากมายที่อยากฆ่าเขา เหตุผลเดียวที่เขายังมีชีวิตอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะสำนักเจ้าเมืองกับนายหญิงน้อยที่ 2 ปกป้องไว้ บางที…อาจเป็นเพราะเขารู้ตัวว่าสิ่งที่เขากังวลใจอยู่จะต้องเกิดขึ้นทันทีเมื่อนายหญิงน้อยจากไป นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาเลือกจะทำอะไรเสี่ยงๆเพื่อหวังว่าจะสามารถยับยั้งนายหญิงน้อยที่ 2 ให้อยู่ที่นี่ได้!”
“หากนายหญิงน้อยหายตัวไป เธอจะไม่อาจเข้าสู่สำนักดาบเมฆเหินได้อีกเลยเมื่อคนจากสำนักดาบเมฆเหินออกจากที่นี่ ด้วยสิ่งนี้ ขอแค่เขาผูกมัดสัญญาการแต่งงานไว้ให้ดี ความปลอดภัยของตัวเขาเองก็เป็นอันรับประกันได้ จะไม่มีใครกล้าแตะต้องเขาอีก!”
“ทุกอย่างดูจะลงตัว…นั่นอธิบายได้ว่าทำไมใบหน้าของนายหญิงน้อยที่ 2 ถึงดูจะบวมเล็กน้อย เธอคงได้รับบาดเจ็บนิดหน่อยจากการจับกุมของกองโจร”
“ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ใครจะกล้าลงมือลงไม้กับนายหญิงน้อยแห่งสำนักเจ้าเมืองล่ะ?”
“ไอ้พวกกองโจรน่ะกล้าทำทุกอย่างแหละ ขอแค่ใครสักคนเงินถึง ถ้าไม่ใช่เพราะความประมาทเลินเล่อของเขา คงไม่มีใครคิดจะสงสัยตั้นเฉี่ยวเทียน เขาวางแผนทุกอย่างไว้รอบคอบจริงๆ!”
…..
ได้ยินข้อกล่าวหาเหล่านั้น ทุกคนพยักหน้าอย่างเข้าใจขณะหันไปมองตั้นเฉี่ยวเทียนอีกรอบ ความขยะแขยงปรากฏบนสีหน้าของพวกเขา
สาวน้อยคนหนึ่งทำเพื่อคุณมากมายขนาดนี้ แต่คุณไม่มีความสำนึกในบุญคุณเลยสักนิด ไอ้สิ่งที่ทำลงไปนี่…ยังเรียกตัวเองว่าเป็นมนุษย์ได้หรือเปล่า?
“ถ้าเป็นโลกใบเก่าของผม เธอจะต้องได้รางวัลออสก้าร์แน่!” จางเซวียนกำลังสลึมสลือด้วยความเบื่อหน่าย ก็พอดีกับที่นายหญิงน้อยมาทำให้เขาเพลิดเพลินใจด้วยการแสดงอันน่าทึ่ง
เพียงพูดออกมาไม่กี่คำ เธอก็ปลุกเร้าความเห็นอกเห็นใจของฝูงชนได้ ด้วยทักษะการแสดงระดับนี้ เขาคงต้องกล่าวหาคณะกรรมการตัดสินว่ารับเงินใต้โต๊ะแน่หากเธอไม่ได้รางวัล
ธรรมชาติของมนุษย์ย่อมเห็นอกเห็นใจผู้อ่อนแอและสตรี ยังไม่ต้องพูดถึงสตรีสาวสวยอย่างเฉว่ชิง ทั้งหมดที่เธอต้องทำก็คือใช้คำพูดไม่กี่ประโยคและน้ำตา 2-3 หยดเพื่อทำให้ฝูงชนเกิดความคล้อยตาม
ในตอนแรก ทั้งหลักฐานและพยานที่มีดูจะมีน้ำหนักไม่มากพอที่จะกล่าวหาว่าตั้นเฉี่ยวเทียนพัวพันกับอาชญากรรมครั้งนี้ อีกอย่าง สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นปราศจากแรงผลักดันที่ชัดเจนที่บ่งบอกว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้อง คนสติดีคนไหนจะรวมหัวกับกองโจรเพื่อทำอะไรที่เป็นการต่อต้านสำนักเจ้าเมืองโดยปราศจากเหตุผล?
แต่เมื่อเฉว่ชิงกล่าวหาเขาด้วย ทุกอย่างก็ดูจะย่ำแย่ ต่อให้สำนักเจ้าเมืองก็ไม่อาจถอนตัวจากเรื่องนี้ พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำตามความต้องการของฝูงชนและพิพากษาตั้นเฉี่ยวเทียน
เรื่องนี้อธิบายได้ว่าทำไมนายหญิงน้อยที่ 2 ถึงได้การยอมรับให้เป็นศิษย์สายตรงระดับล่างของสำนักดาบเมฆเหินตั้งแต่ยังไม่ได้จัดการทดสอบ
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่เพียงแต่ชื่อเสียงของเฉว่ชิงจะไม่ด่างพร้อย เธอยังจะได้รับการยกย่องว่าเป็นสตรีที่มีจิตใจมั่นคงเข้มแข็งด้วย ส่วนตั้นเฉี่ยวเทียนก็จะกลายเป็นไอ้ชั่วร้ายที่ทำลายความปรารถนาดีของเฉว่ชิง และถึงกับพยายามทำร้ายเธอ สิ่งนี้จะทำให้สำนักเจ้าเมืองมีเหตุผลอันชอบธรรมที่จะยกเลิกสัญญาผูกมัดการแต่งงาน
มันคือการจัดฉากที่สลับซับซ้อนหลายชั้นอย่างน่าทึ่ง เป็นแผนอันชาญฉลาดของไอ้ชั่วร้ายตัวจริง!
ตั้นเฉี่ยวเทียนโมโหเดือดจนแทบระเบิดออกมา
ผมยอมตกลงยกเลิกการหมั้นหมายและการแต่งงานแล้ว แต่คุณก็ยังไม่พอใจ ยังอยากจะเล่นงานผมอีกเพื่อที่คุณจะได้ลอยนวลอย่างใสสะอาด ตอนที่ผมปฏิเสธ สิ่งแรกที่คุณคิดก็คือสังหารผม พอไม่สำเร็จ คุณก็พยายามใส่ร้ายป้ายสีผม ป้ายความผิดในสิ่งที่ผมไม่ได้ทำ…
คุณทำร้ายผมทุกวิถีทาง!
“นายหญิงน้อยที่ 2 อย่าเสียน้ำตาให้คนอย่างเขาเลย เขาไม่คู่ควร!”
เมื่อเห็นว่าชักจูงความคิดของฝูงชนให้คล้อยตามได้แล้ว เฉว่เฉินรู้ว่าแผนการของเขาสำเร็จลุล่วง
ในเวลานี้ ต่อให้ตั้นเฉี่ยวเทียนจะพูดอะไร ก็ไม่มีวันแก้ไขสถานการณ์ได้อีกแล้ว เฉว่เฉินถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นก็ปลอบเฉว่ชิงก่อนจะสั่งการคนรับใช้ “พวกคุณมัวรีรออะไรอยู่? รีบพานายหญิงน้อยที่ 2 กลับไป!”
“ได้” คนรับใช้ทั้ง 2 รีบพาเฉว่ชิงที่กำลังร่ำไห้ออกจากการไต่สวน
เฉว่เฉินหันกลับไปมองตั้นเฉี่ยวเทียน นัยน์ตาของเขาเย็นเยียบ “หลักฐานมัดแน่นขนาดนี้ คุณยังมีอะไรจะแก้ตัวไหม?”
รู้ดีว่าต่อให้พูดอะไรออกไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ ตั้นเฉี่ยวเทียนมองหน้าเฉว่ชิงอย่างสุขุม “สรุปจากที่คุณพูดมา เป็นเพราะความน้อยเนื้อต่ำใจของผมที่ทำให้ผมอิจฉาเฉว่ชิงที่ผ่านการทดสอบของสำนักดาบเมฆเหินได้ ดังนั้นผมจึงรวมหัวกับกองโจรเพื่อยับยั้งเธอไม่ให้จากไป?”
“นี่คุณกำลังยอมรับใช่ไหม? หรือยังยืนกรานปฏิเสธทั้งๆที่มีหลักฐานและพยานมากมายหักล้างคุณอยู่?”เฉว่เฉินคำราม
“ยอมรับ?” ตั้นเฉี่ยวเทียนส่ายหน้าและถอนหายใจเล็กน้อย ราวกับคร้านจะโต้เถียงกับคนอย่างเฉว่เฉิน “ผมอยากขอพบศิษย์พี่หัวเจียงเหอแห่งสำนักดาบเมฆเหิน”
“บังอาจ! คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้าขอพบนายท่านหัว?”
เฉว่เฉินคิดว่าตั้นเฉี่ยวเทียนกำลังจะกระพือเรื่องการที่พวกเขาพยายามยกเลิกสัญญาผูกมัดการแต่งงานก่อนหน้านี้ให้เป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นมา จึงเตรียมมาตรการตอบโต้ไว้เพื่อบีบอีกฝ่ายให้จนมุม
แต่หมอนี่กลับขอพบศิษย์พี่หัวแทน…เพราะอะไร?
“ผมน่ะมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ แต่ได้ยินว่าสำนักดาบเมฆเหินกำลังเปิดรับศิษย์สายตรงระดับล่าง ซึ่งขอแค่ผ่านการทดสอบ ก็จะได้เข้าร่วมกับพวกเขา ในฐานะพลเมืองคนหนึ่งของเมืองชวนเจียงที่อยู่ในช่วงอายุตามกำหนด ผมเชื่อว่าผมมีสิทธิ์เข้าร่วมการทดสอบเหมือนกัน ถูกไหม?” ตั้นเฉี่ยวเทียนพูด
“ทุกคนในเมืองชวนเจียงย่อมมีสิทธิ์จะได้เป็นศิษย์สายตรงระดับล่างของสำนักดาบเมฆเหิน แต่คุณ…ตั้นเฉี่ยวเทียน คุณน่ะไม่มีโอกาสหรอก ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพยายามยื้ออะไร แต่สำนักเจ้าเมืองมีสิทธิ์พิพากษาพลเมืองทุกคนในเมืองชวนเจียง ด้วยความชั่วร้ายที่คุณได้ทำลงไป ไม่มีทางที่สำนักเจ้าเมืองจะมองข้ามอาชญากรรมของคุณ!” ได้ยินคำพูดนั้น เฉว่เฉินหัวเราะลั่น ราวกับเพิ่งฟังเรื่องตลกที่สุดในโลก
นักรบระดับเซียนขั้น 6 ไม่เอาไหนคนหนึ่งอยากเข้าร่วมการทดสอบของสำนักดาบเมฆเหิน? เอาความกล้ามาจากไหนถึงพูดเรื่องเหลวไหลขนาดนี้ออกมาได้?
“อีกอย่าง คุณคิดหรือว่าคนสำคัญอย่างนายท่านหัวจะยอมจัดการทดสอบเป็นพิเศษให้ขยะไม่เอาไหนอย่างคุณ?” เฉว่เฉินพูดต่อ
“เขาช่างไม่เจียมตัวเอาเสียเลย!”
“ทุกคนที่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการทดสอบล้วนแต่เป็นอัจฉริยะผู้ปราดเปรื่อง หมอนั่นทั้งพิการและฝึกฝนวรยุทธไม่ได้…คิดจะทำให้ผู้คนทั่วทั้งทวีปหัวเราะเยาะเมืองของเราหรือไง?”
“นายท่านหัวกำลังยุ่งกับการคัดเลือกอัจฉริยะตัวจริงจากเมืองของเรา จะมีเวลามาประเมินคนพิการอย่างเขาได้อย่างไร?”
“หัวสมองของหมอนี่คงได้รับความกระทบกระเทือนที่ไหนสักแห่ง…”
ฝูงชนพากันหัวเราะลั่น
“สิ่งที่คุณกำลังคิดอยู่น่ะ ล้มเลิกเสียเถอะ ไม่มีทางที่ศิษย์พี่หัวจะมาที่นี่เพื่อทำการทดสอบขยะอย่างคุณหรอก ผมขอแนะนำให้คุณสารภาพผิดในอาชญากรรมที่ทำลงไปเสียดีกว่า อย่างน้อยเราก็พอจะช่วยเหลือคุณไม่ให้ต้องทรมานมาก…” เฉว่เฉินตวาดก้อง
แต่ยังพูดไม่ทันจบ เสียงสุขุมเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านนอกลานบ้าน…
“ทำไมผมจะมาที่นี่เพื่อจัดการทดสอบให้เขาไม่ได้?”
ร่างสูงร่างหนึ่งก้าวยาวๆเข้ามาในลานบ้าน
หัวเจียงเหอ