อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2041 กลับสู่ร่างเดิมของแก
อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 2041 กลับสู่ร่างเดิมของแก
เขารู้ดีว่าการจะหนีเอาตัวรอดในสถานการณ์แบบนี้ทำได้ยากมาก ทางเลือกเดียวที่ยังเหลืออยู่ก็คือ ต้องเดินหน้าลุย
“ได้!”
ผู้อาวุโสคนอื่นๆพยักหน้ารับ พวกเขาสะบัดข้อมือ จากนั้นก็นำถุงใบหนึ่งที่มีขนาดราวฝ่ามือออกมา
ฟึ่บ!
อสูรอมตะมากมายปรากฏรอบตัวพวกเขา
นั่นคือกระสอบอสูรหรือ?
จางเซวียนที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมหนึ่งครุ่นคิด
เมื่อตอนที่เดินทางมา ชายชราได้บอกเขาว่าบรรดาศิษย์สายตรงและผู้อาวุโสที่มีคุณสมบัติเพียงพอจะมีกระสอบอสูรที่ถูกทำให้เชื่องแล้ว ซึ่งทำงานในรูปแบบเดียวกันกับรังนางพญามดของเขา กระสอบนี้สามารถบรรจุอสูรไว้ภายในและนำติดตัวไปไหนมาไหนได้
ความสามารถในการเก็บรักษาอสูรอมตะตัวมหึมามากมายไว้ภายในได้โดยไม่ก่อให้เกิดอาการบอบช้ำใดๆนั้น แปลว่ากระสอบอสูรเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่น่าทึ่งไม่เบา
ฮื่ออออ! ฮื่ออออ!
สิ่งนี้ทำให้ประสิทธิภาพการต่อสู้ของเหล่านักฝึกอสูรเพิ่มสูงขึ้นในทันที แม้สถานการณ์จะยังไม่เป็นใจกับพวกเขาเสียทีเดียว แต่อย่างน้อยที่สุดก็แน่ใจได้ว่าคู่ต่อสู้ไม่อาจเล่นงานพวกเขาได้อย่างง่ายดายนัก
“สกัดกั้นพวกมันไว้!” ผู้อาวุโสเลี่ยวกับคนอื่นๆตวาดก้อง
อสูรส่วนใหญ่ที่ถูกนำออกมามีวรยุทธระดับอมตะขั้นสูงระดับล่าง แต่ถึงอย่างนั้น ประสิทธิภาพการต่อสู้ของพวกมันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะประมาทได้ พวกมันโผขึ้นสู่กลางอากาศอย่างรวดเร็วเพื่อขวางทางมังกรอสรพิษ นกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัว และเสือเขี้ยวดาบเจ็ดหางไว้ พวกมันอาจเทียบชั้นกับอสูรอมตะทั้งสามซึ่งมีวรยุทธระดับอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์ไม่ได้ แต่อย่างน้อยที่สุดก็พอจะทำให้ทั้งสามพัลวันอยู่พักหนึ่ง
“เป็นถึงอสูรอมตะ แต่พวกแกเต็มใจยอมให้ตัวเองถูกใช้งานโดยมนุษย์ต่ำต้อย ฉันนึกไม่ออกเลยว่าจะมีอะไรน่าอับอายไปกว่านี้” มังกรอสรพิษคำราม
มันกลืนเลือดมังกรทั้งหมดลงไปภายในอึกเดียว พริบตาต่อมา รังสีแผดกล้าอย่างน่าทึ่งก็พวยพุ่งออกไปโดยรอบ รังสีนี้ทั้งทรงพลังและน่าสะพรึง ทำให้เหล่าอสูรที่ผู้อาวุโสเพิ่งปล่อยออกมาตัวสั่นไม่หยุด แต่ละตัวยืนนิ่งอยู่กับที่ หมดความกล้าหาญในการต่อสู้อย่างสิ้นเชิง
มันคือรังสีโดยธรรมชาติของเผ่าพันธุ์มังกรที่ทำให้อสูรตัวอื่นๆหวาดกลัว…จางเซวียนคิดอย่างเคร่งเครียด
เผ่าพันธุ์มังกรได้ชื่อว่าเป็นผู้นำของเผ่าพันธุ์อสูร สายเลือดมังกรบ่งบอกถึงพละกำลังทำลายล้างที่เป็นสุดยอด อสูรทุกตัวหวาดกลัวรังสีของเผ่าพันธุ์มังกร โดยเฉพาะกับมังกรที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ ทุกตัวเกิดมาเพื่อเป็นฮ่องเต้ ไม่มีอสูรตัวไหนกล้ากระด้างกระเดื่องต่อพวกมัน
มีช่องว่างไม่น้อยระหว่างมังกรอสรพิษกับมังกรที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ แต่หลังจากที่มังกรอสรพิษกลืนเลือดมังกรเข้มข้นในขวดหยกที่ผู้อาวุโสหยวนเตรียมไว้ลงไป รังสีของมันก็เข้มข้นขึ้นจนถึงระดับที่เทียบได้แม้แต่กับเผ่าพันธุ์เสมือนมังกร
ด้วยเหตุนี้ อสูรทุกตัวที่เหล่าผู้อาวุโสนำออกมาจึงล้วนแต่ไม่กล้าต่อต้าน มันคือความยำเกรงโดยสัญชาตญาณที่มีต่อเผ่าพันธุ์ที่สูงส่งกว่า พวกมันไม่ต่างอะไรกับไม้ประดับของสนามรบ
เมื่ออสูรทั้งหมดตัวแข็งทื่อไปด้วยความหวาดกลัว นกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวและเสือเขี้ยวดาบเจ็ดหางก็ใช้โอกาสนี้ตรงเข้าเล่นงานเหล่านักฝึกอสูร
เหล่าผู้อาวุโสพยายามปกป้องตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว ทั้งติดตั้งค่ายกลผนึกกำลังและใช้อสูรเป็นเครื่องคุ้มกัน แต่ช่องว่างของประสิทธิภาพการต่อสู้ระหว่างสองฝ่ายต่างกันมากเกินไป ไม่ช้าพวกเขาก็นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น เลือดทะลักออกจากบาดแผลเวอะหวะบนร่างกาย
“จับตัวพวกนั้นไว้และพากลับไปที่รัง เราจะใช้พวกเขาเป็นตัวประกันเพื่อแลกเปลี่ยนกับกรรมวิธีการขัดเกลาสายเลือดมังกร!” มังกรอสรพิษสั่งการ
แม้พวกมันจะไม่มีวันยอมจำนนให้มนุษย์ แต่ก็สนใจข้อเสนอก่อนหน้านี้ของผู้อาวุโสหยวน ดังนั้นจึงตัดสินใจใช้มนุษย์กลุ่มนี้เป็นเครื่องเจรจาต่อรองกับอีกฝ่าย
ไม่มีทางที่ผู้อาวุโสหยวนจะละเลยชีวิตของเหล่ามิตรสหายของเขา ความตายของผู้อาวุโสเหล่านี้จะส่งผลกระทบกระเทือนอย่างหนักต่อหอนานาอสูร และหากผู้อาวุโสหยวนปล่อยให้มิตรสหายต้องตายอย่างทรมาน ก็จะเสื่อมเสียเกียรติยศในสายตาของเหล่าสมาชิกของหอนานาอสูรด้วย
ช่างโง่เขลาจริงๆที่เหล่านักฝึกอสูรคิดว่าจะเอาชนะอสูรอมตะทั้ง 4 ได้สบาย…จางเซวียนรำพึงขณะส่ายหน้า
ไม่แปลกใจแล้วที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่มีใครทำให้อสูรอมตะเหล่านี้ยอมจำนนได้เลย พวกมันเจ้าเล่ห์เจ้ากลเกินไป!
ตั้งแต่ต้นจนจบ สี่อสูรอมตะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ทั้งหมด ในทางกลับกัน ดูเหมือนเหล่าผู้อาวุโสของหอนานาอสูรคือผู้ที่ถูกปั่นหัวจนทำอะไรไม่ถูก
เราควรใช้ความพยายามไปกับการทำให้อสูรอมตะตัวอื่นยอมจำนนจะดีกว่า จางเซวียนคิด
เขาสนอกสนใจในการทำให้สี่อสูรอมตะยอมจำนน แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็นเท่าไหร่ ทั้งหมดที่เขาต้องการคืออสูรพาหนะ ซึ่งหากจำเป็น เขาก็ใช้อสูรอมตะบินได้ทั่วๆไปได้เช่นกัน
ไม่ใช่เพราะจางเซวียนคิดว่าตัวเขาเทียบชั้นกับสี่อสูรอมตะไม่ได้ เพราะด้วยวรยุทธขั้นอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ เจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าที่เขามีอยู่ อีกทั้งเคล็ดวิชาเทียบฟ้า เขาก็มั่นใจว่าน่าจะเอาชนะมังกรอสรพิษได้ไม่ยาก
แต่หากทำแบบนั้น ก็จะดึงดูดความสนใจของหอเทพเจ้า อีกอย่าง สิ่งที่เขาต้องรับมือด้วยที่นี่ไม่ได้มีแค่มังกรอสรพิษ
จางเซวียนไม่เคยเป็นคนเห็นแก่ตัว เขาจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือผู้อาวุโสเลี่ยวกับคนอื่นๆหากมั่นใจเต็มร้อยว่าจะทำสำเร็จ แต่จะไม่ลงทุนถึงขนาดเอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพียงเพื่อคนแปลกหน้า ผู้อาวุโสเลี่ยวกับคนอื่นๆรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาจะต้องเจอกับอะไรเมื่อตัดสินใจจะต่อกรกับมังกรอสรพิษ พวกเขาจึงน่าจะเตรียมตัวรับมือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดไว้แล้วเช่นกัน
ขณะที่จางเซวียนกำลังจะถอนตัวจากเหตุการณ์ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในหัวสมองของเขา “นายท่าน ถ้าคุณจับเจ้านกที่อยู่ตรงนั้นได้แล้วให้ผมดื่มเลือดของมันล่ะก็ ผมคิดว่าผมน่าจะทำลายฉนวนที่สกัดกั้นร่างของผมและกลับสู่ร่างเดิมได้!”
“กลับสู่ร่างเดิมของแก?” จางเซวียนเลิกคิ้ว
เขารีบเพ่งสมาธิเข้าสู่จุดตันเถียน และเห็นน้ำเต้าตงฉู่เดินวนไปมาอย่างกระวนกระวาย มันไม่เคยมีทีท่าแบบนี้มาก่อน
“ใช่ รูปลักษณ์ปัจจุบันของผมที่เป็นน้ำเต้าน่ะเป็นแค่รูปแบบหนึ่งที่ผมสร้างขึ้นหลังจากถูกสกัดกั้นพละกำลังไว้ ส่วนร่างที่แท้จริงของผมคืออสูรในตำนานที่มีอำนาจควบคุมทั้งดินแดน ทันทีที่ผมได้ร่างเดิมกลับคืนมา ต่อให้หอเทพเจ้าก็จะไม่เป็นภัยคุกคามกับคุณอีกต่อไป!” น้ำเต้าตงฉู่ตอบอย่างตื่นเต้น
จางเซวียนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตั้งคำถามอย่างเคร่งเครียด “แกแน่ใจนะ?”
น้ำเต้าตงฉู่ออกจะไว้ใจไม่ค่อยได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่ามันมีประสิทธิภาพการต่อสู้สูงมาก เห็นได้จากการที่มันสามารถกลืนกินและซึมซับพลังของดาบระดับอมตะขั้นสูงได้อย่างง่ายดาย
สิ่งเดียวที่มันยังขาดอยู่ก็คือความสามารถในการโจมตี หากมันปล่อยฉนวนที่สกัดกั้นตัวเองไว้และเป็นอิสระได้ ก็น่าจะกลายเป็นพันธมิตรผู้ทรงพลังอย่างเหลือเชื่อที่อยู่เคียงข้างเขา
ลำพังแค่ข้อเท็จจริงที่ว่ามันสามารถสร้างความหวาดกลัวให้กับเหล่านักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์จากหอเทพเจ้าได้ในครั้งนั้น ก็บ่งบอกแล้วว่ามันน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีวรยุทธขั้นกึ่งสรวงสวรรค์หรืออาจสูงกว่า
“ก็ใช่น่ะสิ คุณกำลังดูถูกผมหรือ?” น้ำเต้าตงฉู่คำราม
“ก็ได้…” ได้ยินคำนั้น จางเซวียนสูดหายใจลึกและตัดสินใจเด็ดเดี่ยว เขากัดฟัน จากนั้นก็เดินออกจากที่ซ่อนและตะโกนออกไป “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
เสียงของเขาดึงดูดความสนใจของมังกรอสรพิษ นกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัว ผู้อาวุโสเลี่ยว และทุกคนที่อยู่บริเวณนั้น พวกเขาล้วนแต่ประหลาดใจที่ได้รู้ว่ามีใครคนหนึ่งซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆ
“นักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์? คนระดับคุณกล้าปรากฏตัวต่อหน้าผมด้วยหรือ? จับเขาไว้ เอาไปรวมกับคนอื่นๆที่เหลือ!” มังกรอสรพิษคำรามพร้อมกับหรี่ตา
การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของชายหนุ่มทำให้มันงุนงงไปครู่หนึ่ง มันคิดว่าผู้ที่สามารถซ่อนตัวอยู่ใต้จมูกของมันได้น่าจะมีพละกำลังสูงส่งกว่านี้ ใครจะไปรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นแค่นักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์?
มันเล่นงานนักรบระดับนี้จำนวนมากมายได้ด้วยการตวัดกรงเล็บเพียงครั้งเดียว คนแบบเขาไม่มีอันตรายต่อมันสักนิด!
ฟู่!
เมื่อได้ยินคำสั่ง นกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวถลาลงมาและปล่อยลมหายใจที่เป็นเปลวเพลิงรดจางเซวียน
จางเซวียนยืนประจันหน้ากับการโจมตีของนกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัว เขามองมังกรอสรพิษและยิ้มให้ “ดูเหมือนคุณจะมั่นใจในตัวเองเหลือเกินนะ ถ้าอย่างนั้น เราเล่นเกมกันสักหน่อยดีไหม? มาดูกันว่าคุณจะรับมือได้หรือเปล่า?”
“ฮะ?”
มังกรอสรพิษนึกไม่ออกว่าจางเซวียนจะทำอะไร
หมอนี่สมองเพี้ยนหรือเปล่า? หรือพยายามจะสร้างปาฏิหาริย์ท่ามกลางความสิ้นหวัง?
เมื่อนึกไม่ออก มังกรอสรพิษหันหน้าไปอีกทางและไม่แยแสข้อเสนอของจางเซวียน
“โมว! มู!”
พื้นดินดูราวกับจะแยกออกจากกันในทันที เสียงน่าสะพรึงสองเสียงนั้นนำมาซึ่งพายุดุเดือด มันพุ่งเข้าใส่มังกรอสรพิษ ทันทีที่สองเสียงนั้นเข้าหู มันก็รู้สึกราวกับเลือดในตัวเย็นเป็นน้ำแข็ง ร่างของมันสั่นสะท้านไม่หยุดขณะร่วงลงมาจากกลางอากาศ
พลั่ก!
มังกรอสรพิษร่วงลงมากระแทกพื้น
“หัวหน้า…”
นึกไม่ถึงว่ามังกรอสรพิษที่แข็งแกร่งที่สุดจะร่วงผล็อยจากกลางอากาศด้วยการเปล่งเสียงเพียง 2 คำ นกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวกับเสือเขี้ยวดาบเจ็ดหางถึงกับผงะ
“มันคือแปดโน้ตมังกรสวรรค์?”
“เขามีสายเลือดมังกรบริสุทธิ์หรือ?”
ทันทีที่พวกมันนึกได้ ก็จ้องมองจางเซวียนด้วยแววตาที่บ่งบอกความพรั่นพรึง
ในฐานะอสูรอมตะชั้นยอดของทวีปที่ถูกลืม พวกมันพอรู้เรื่องของเผ่าพันธุ์มังกรอยู่บ้าง แปดโน้ตมังกรสวรรค์คือภาษาที่ใช้กันในหมู่มังกรสายเลือดบริสุทธิ์เท่านั้น แต่ชายวัยกลางคนผู้นี้สามารถเปล่งเสียงเหล่านั้นได้
นั่นจะไม่หมายความว่าเขามีสายเลือดมังกรบริสุทธิ์หรือ?
ใครๆก็รู้ว่าความยิ่งใหญ่ของสายเลือดมังกรบริสุทธิ์นั้นไม่ต่างอะไรกับเทพเจ้าตัวจริง…แล้วจะให้พวกมันกล้าต่อกรกับเทพเจ้าได้อย่างไร?
นกฟีนิกซ์กับเสือเขี้ยวดาบมีสีหน้าทึ่งจัด พวกมันจ้องมองชายวัยกลางคนผู้นั้นเดินเข้าหามังกรอสรพิษแล้วตบศีรษะของมันเบาๆ “เป็นเด็กดีนะ แค่ฟังคำสั่งของผมอย่างว่าง่าย คุณก็จะไม่เป็นอะไร…”
“ถ้าคุณอยากให้ผมฟังคำสั่งของคุณล่ะก็ ทำไมไม่เอาดาบออกจากคอของผมเสียก่อน…”