อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2042 คุณอยากให้ผมยอมจำนนหรือ?
อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 2042 คุณอยากให้ผมยอมจำนนหรือ?
มังกรอสรพิษพยายามดิ้นรน แต่ร่างของมันยังคงสั่นสะท้านไม่หยุดจากแรงปะทะของทั้ง 2 คำก่อนหน้านี้
จางเซวียนยิ้มเขินๆ จากนั้นก็ชักดาบถงซังออกแล้วเก็บมันไว้ในแหวนเก็บสมบัติ
เกิดความเงียบงันชั่วครู่ก่อนที่มังกรอสรพิษจะพูดขึ้นอีกครั้ง “คุณไม่ใช่สายเลือดมังกรบริสุทธิ์ตัวจริงนี่…”
“ตาแหลมดีนะ ผมไม่ปฏิเสธหรอกว่าที่คุณพูดมาน่ะถูกต้อง แต่นั่นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่ว่าผมสามารถเปล่งเสียงแปดโน้ตมังกรสวรรค์ได้” จางเซวียนตอบ “อีกอย่าง ผมก็สามารถขัดเกลาสายเลือดมังกรในร่างของคุณและเพิ่มโอกาสในการฝ่าด่านวรยุทธไปสู่ขั้นที่สูงขึ้นให้คุณได้เช่นกัน”
เขามองไม่เห็นความจำเป็นใดๆที่จะต้องหลอกลวงมังกรอสรพิษ ในทางตรงกันข้าม ถ้าเขาสร้างความคาดหวังลมๆแล้งๆให้มัน ต่อไปมันอาจทรยศเขาก็ได้เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกหลอก
เกิดความเงียบงันอันยาวนานขณะที่มังกรอสรพิษพยายามกระเสือกกระสนให้หลุดจากแรงกดดันที่ถาโถมเข้าใส่สายเลือดของมัน แต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายมันก็ไม่มีทางเลือกนอกจากก้มหน้างุด “ผมจะยอมจำนน…”
แปดโน้ตมังกรสวรรค์คือความสามารถเฉพาะของมังกรสายเลือดบริสุทธิ์ เป็นความจริงที่รู้กันดีว่า ไม่มีใครเปล่งเสียงเหล่านี้ได้ นอกจากผู้ที่มีสายเลือดมังกรบริสุทธิ์เท่านั้น
มังกรอสรพิษไม่รู้ว่าจางเซวียนเปล่งเสียงแปดโน้ตมังกรสวรรค์ได้อย่างไร แต่เรื่องนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าแม้อีกฝ่ายจะไม่ได้มีสายเลือดมังกรบริสุทธิ์ แต่ก็น่าจะมีสายสัมพันธ์บางอย่างกับชนชั้นนำของเผ่าพันธุ์มังกร
ในสายตาของมัน จางเซวียนคือผู้ที่สูงส่งกว่า มันไม่รู้สึกว่าน่าอับอายขายหน้าอะไรหากจะยอมจำนนให้คนระดับนี้
แถมกระแสดาบฉีของอีกฝ่ายก็ซึมซาบเข้าสู่จุดสำคัญในร่างกายของมันแล้วตอนที่มันขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไม่ได้ ถ้ามันปฏิเสธไม่ยอมรับเขา ก็มีโอกาสที่ร่างกายจะถูกฉีกกระชากจากภายใน
ถึงชายวัยกลางคนผู้นี้จะเป็นแค่นักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ แต่พละกำลังอันน่าทึ่งของกระแสดาบฉีของเขาไม่ใช่สิ่งที่จะประมาทได้ แม้ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งทนทานอย่างเหนือชั้นของมัน มันก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถต้านทานพลังของกระแสดาบฉีนั้น
“คุณตัดสินใจถูกต้องแล้วล่ะ” จางเซวียนตอบขณะทำสัญญาผูกมัดจิตวิญญาณกับมังกรอสรพิษ
พูดกันตามตรง เขาเองก็ไม่มั่นใจนักว่าแปดโน้ตมังกรสวรรค์จะใช้ได้ผล โดยเฉพาะเมื่อมังกรอสรพิษเป็นสมาชิกตัวจริงของเผ่าพันธุ์มังกร เขาเตรียมการที่จะต้องใช้กำลังแล้วหากจำเป็น แต่แล้วก็ต้องยินดีปรีดาที่ได้รู้ว่ามันใช้การได้ดีกว่าที่คิดไว้มาก
เท่าที่เห็น ต่อให้คู่ต่อสู้ของเขาเป็นเผ่าพันธุ์เสมือนมังกร ก็น่าจะใช้แปดโน้ตมังกรสวรรค์เล่นงานอีกฝ่ายให้พ่ายแพ้ได้เช่นกัน
“เอ่อ…มังกรอสรพิษยอมจำนนให้เขาง่ายๆแบบนั้นหรือ?”
“ชายวัยกลางคนผู้นั้นเป็นใครกัน?”
“ผมไม่เคยเห็นเขาเลย เขาน่าจะไม่ได้มาจากหอนานาอสูร…”
เหล่าผู้อาวุโสจากหอนานาอสูรที่ต่างก็บาดเจ็บสาหัสมองหน้ากันอย่างงุนงง
พวกเขาคิดว่าคราวนี้คงต้องตายแน่ ไม่นึกไม่ฝันสักนิดว่านักรบอมตะตัวจริงคนหนึ่งจะโผล่เข้ามาช่วยชีวิตพวกเขาและทำให้มังกรอสรพิษยอมจำนนได้ภายในเวลาเพียง 1 นาที…
ใครๆก็รู้ว่าผู้อาวุโสหยวนใช้เวลาเนิ่นนานหลายปีในการขัดเกลาเลือดมังกรและเสาะหาลูกมังกรทะเลเหนือ รวมแล้ว เขาอุทิศเวลาถึง 30 ปีเพื่อให้มั่นใจว่าภารกิจครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ อีกทั้งปริมาณทรัพยากรที่เขาใช้ไปก็ถือว่ามากมายมหาศาลจนน่าตกใจ แต่แล้วก็ลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ยับเยิน
ในทางกลับกัน ทั้งหมดที่นักรบอมตะตัวจริงคนนี้ทำลงไปก็คือเปล่งเสียงออกมา 2 ครั้ง แล้วมังกรอสรพิษก็ยอมจำนนให้เขาง่ายๆเสียอย่างนั้น!
ทำไมถึงแตกต่างกันได้ขนาดนี้? นี่มันมากเกินไป!
“มันเป็นแค่สมาชิกตัวหนึ่งของเผ่าพันธุ์มังกรที่ยอมจำนนให้กับผู้ที่สามารถเปล่งเสียงแปดโน้ตมังกรสวรรค์ได้”
แม้ฝูงชนจะยังคงอึ้งตะลึงกับสถานการณ์ที่พลิกผันอย่างปุบปับ แต่ก็ไม่ได้ประหลาดใจกับผลลัพธ์มากนัก
ในฐานะผู้อาวุโสของหอนานาอสูร พวกเขาเคยได้ยินเรื่องของแปดโน้ตมังกรสวรรค์เช่นกัน และรู้ดีว่ามันมีความสำคัญสูงสุดต่อเผ่าพันธุ์มังกร เป็นเจตจำนงที่แท้จริงของสายเลือดมังกรบริสุทธิ์ ไม่มีสายเลือดมังกรตัวไหนจะสามารถต้านทานแรงกดดันโดยสัญชาตญาณนั้น
“ตอนนี้พวกคุณพักก่อนเถอะ ผมจะไปจัดการนกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวนั่น” จางเซวียนพูดพร้อมกับโบกมือ เขาเดินตรงไปยังอสูรอมตะอีก 2 ตัวที่ยังคงอึ้งตะลึงอยู่
การที่มังกรอสรพิษรวมหัวกันกับนกฟีนิกซ์และเสือเขี้ยวดาบ ก็หมายความว่าพวกมันมีความสนิทสนมกันดี เขารู้ว่ามีแต่จะทำให้มังกรอสรพิษลำบากใจหากบังคับให้มันเล่นงานอสูรสองตัวนั้น ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่ดีที่สุดที่เขาทำได้ก็คือไม่ให้อีกฝ่ายเข้ามายุ่ง เขาจะจัดการให้นกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวยอมจำนนด้วยตัวเอง
“ขอบคุณนายท่าน” มังกรอสรพิษตอบอย่างสำนึกในบุญคุณ
ถือเป็นเรื่องน่าหนักใจมากหากเจ้านายคนใหม่ของมันสั่งให้มันเล่นงานอสูรอีก 2 ตัวที่เหลือ นั่นจะทำให้มันตกที่นั่งลำบาก ในฐานะอสูรที่เป็นบริวารของใครคนหนึ่ง มันไม่มีสิทธิ์กระด้างกระเดื่องต่อคำสั่งของเจ้านาย แต่ก็นั่นแหละ มันใช้เวลามายาวนานกับนกฟีนิกซ์และเสือเขี้ยวดาบ แม้จะมีการประชันขันแข่งกันบ้าง แต่ก็ไม่อาจทรยศพรรคพวกด้วยวิธีแบบนี้ได้…
เห็นได้ชัดว่าเจ้านายใส่ใจความรู้สึกของมันตอนที่พูดประโยคนั้นออกมา
“คุณอยากให้ผมยอมจำนนหรือ? สายเลือดฟีนิกซ์จักรพรรดิแล่นอยู่ในสายเลือดของผม แปดโน้ต มังกรสวรรค์ของคุณน่ะทำอะไรผมไม่ได้หรอก!” ได้ยินคำนั้น นกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวคำราม
เผ่าพันธุ์มังกรถือเป็นผู้นำเหล่าอสูรก็จริง แต่เผ่าพันธุ์ฟีนิกซ์จักรพรรดิก็ไม่ได้ด้อยกว่ากัน ฟีนิกซ์ จักรพรรดิได้รับการยกย่องแม้แต่บนท้องฟ้า, โลกของเทพเจ้า!
แปดโน้ตมังกรสวรรค์อาจเอาชนะอสูรตัวอื่นๆได้ แต่ไร้ผลกับมันอย่างสิ้นเชิง!
ดังนั้น ต่อให้มนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าทำให้มังกรอสรพิษยอมจำนนได้สำเร็จ วิธีการของเขาก็ไม่มีวันใช้ได้ผลกับมัน!
“กับคุณน่ะ ผมไม่ต้องใช้แปดโน้ตมังกรสวรรค์หรอก” จางเซวียนตอบอย่างสุขุมขณะยกมือขึ้น
ฟึ่บ!
ธงค่ายกลจำนวนหนึ่งที่กระจัดกระจายอยู่กับพื้นพุ่งขึ้นสู่กลางอากาศและลอยตัวอยู่โดยรอบ
“เปิดใช้งาน!” จางเซวียนตวาดก้องขณะที่พวกมันจัดระเบียบตัวเองใหม่และพุ่งลงสู่พื้นอีกครั้ง
ฝูงมดได้ทำลายธงค่ายกลส่วนใหญ่ไปแล้ว แต่ก็ยังเหลือจำนวนหนึ่งที่ยังใช้การได้ ในเมื่อมันปักอยู่กับพื้น ค่ายกลขนาดมหึมาที่กินอาณาเขตยาวกว่า 20 ลี้จึงถูกเปิดใช้งานทันที
“มันคือค่ายกลปิดกั้น?”
ทุกคนประหลาดใจ
แม้แต่มังกรอสรพิษและอสูรอมตะอีก 2 ตัวก็งุนงงว่าจางเซวียนกำลังทำอะไร
พวกมันคาดว่าชายวัยกลางคนจะเปิดใช้งานค่ายกลสังหารหรือค่ายกลภาพลวงตาเพื่อเล่นงานพวกมัน แต่ใครจะไปคิดว่าสุดท้ายจะเป็นแค่ค่ายกลปิดกั้นอันหนึ่ง
ค่ายกลชนิดนี้จะป้องกันบุคคลภายนอกไม่ให้เข้ามาแอบดูหรือแอบฟังสิ่งที่เกิดขึ้นภายในค่ายกลได้ แต่ดูจะไม่มีประโยชน์มากนักในการต่อสู้
“ด้วยการประสานค่ายกลเข้ากับสภาพภูมิประเทศของภูเขาเมฆเหิน เราน่าจะรักษามันไว้ได้ราว 30 อึดใจ…” จางเซวียนพึมพำก่อนจะพยักหน้าและยิ้มออกมา “แค่นั้นก็พอแล้ว!”
“อะไรที่เรียกว่าพอแล้ว? คุณกำลังจะบอกว่าสามารถทำให้ผมยอมจำนนได้ภายใน 30 อึดใจหรือ? อวดดีจนหูหนวกตาบอดไปหมดแล้วล่ะ!” นกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว
มันใช่เรื่องที่ควรหลงตัวเองไหม?
เหตุผลเดียวที่คุณเอาชนะมังกรอสรพิษได้อย่างง่ายดายก็เพราะคุณสามารถเปล่งเสียงแปดโน้ต มังกรสวรรค์ได้ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับวรยุทธหรือความสามารถที่แท้จริงของคุณเลย!
คุณคิดหรือว่าลำพังนักรบอมตะตัวจริงอย่างคุณจะต้านทานพละกำลังของอสูรอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์อย่างผมได้?
ทำให้ผมยอมจำนนภายใน 30 อึดใจ?
ฝันไปเถอะ!
ฟึ่บ!
ขณะที่นกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวตัวแทบระเบิดด้วยความโมโห ร่างที่อยู่บนพื้นดินก็พร่าเลือนไป ก่อนที่มันจะรู้ตัว ชายวัยกลางคนผู้เย่อหยิ่งคนนั้นก็มาปรากฏตัวตรงหน้า
“คุณบินได้หรือ?”
นกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวถึงกับจังงัง
ไม่ใช่เฉพาะมันที่จังงังกับเรื่องนี้ ทุกคนและทุกตัวที่อยู่ตรงนั้นก็จังงังกับสิ่งที่ได้เห็น แม้แต่มังกรอสรพิษก็นึกไม่ถึงว่าเจ้านายของมันจะบินได้!
แม้นักรบอมตะตัวจริงจะได้รับการยกย่องอย่างสูงในทวีปที่ถูกลืม ถือเป็นกลุ่มอำนาจใหญ่ในดินแดนห่างไกลบางแห่งด้วยซ้ำ แต่ผู้ที่กุมอำนาจอย่างแท้จริงในทวีปก็ยังคงเป็นนักรบอมตะขั้นสูง
เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความแตกต่างในประสิทธิภาพการต่อสู้เพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงความสามารถในการบินด้วย ต่อให้นักรบอมตะตัวจริงจำนวน 1 กองทัพมารวมตัวกัน ก็ไม่อาจทำอะไรได้มากหากต้องสู้กับนักรบอมตะขั้นสูงที่บินอยู่กลางอากาศ
ความเหลื่อมล้ำนี้ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมากในประสิทธิภาพการต่อสู้ของพวกเขา
ชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้ามันเป็นแค่นักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ แล้วบินได้อย่างไร? แถมความเร็วในการบินของเขาก็เร็วกว่านักรบอมตะขั้นสูงทั่วไปเสียอีก!
“โจมตีมาเลย ผมก็อยากเห็นความสามารถของคุณเหมือนกัน!” จางเซวียนเอ่ยขณะชักดาบถงซังออกมา เขาคำรามเสียงต่ำ จากนั้นก็ฟันฉับเข้าใส่นกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัว
น้ำเต้าตงฉู่บอกไว้ว่ามันต้องการเลือดของนกตัวนี้ การต่อสู้จึงต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เขาอาจทำให้มังกรอสรพิษยอมจำนนได้โดยใช้แปดโน้ตมังกรสวรรค์ แต่กับนกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวตัวนี้ วิธีการแบบนั้นไม่ได้ผล จำเป็นต้องใช้วิธีเดิมที่ได้ผลดี คือกรรมวิธีการฝึกอสูรแบบอัดให้น่วม
อีกอย่าง เขาก็เพิ่งฝ่าด่านวรยุทธไป 2-3 ครั้ง จึงถือเป็นโอกาสดีที่จะทดสอบพละกำลังที่ได้มาใหม่
ปัญหาเดียวที่อาจเกิดขึ้นจากการต่อสู้โดยใช้พละกำลังเต็มพิกัดก็คือมันเสี่ยงต่อการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขา ด้วยเหตุนี้ จางเซวียนจึงปิดกั้นพื้นที่โดยรอบไว้โดยใช้ค่ายกลปิดกั้น ป้องกันไม่ให้ใครๆรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นภายใน
ฟึ่บ!
ด้วยการฟาดฟันของจางเซวียน กระแสดาบฉีขนาดมหึมาที่มีความยาวราว 12 จ้าง*ก็พุ่งเข้าหานกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัว
นกฟีนิกซ์ไฟคาดไม่ถึงว่านักรบอมตะตัวจริงจะกล้าโจมตีมัน ยิ่งไปกว่านั้น พละกำลังของอีกฝ่ายก็เหนือชั้นกว่าที่มันคิดไว้มาก
เมื่อรู้แล้วว่าชายผู้นี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่รับมือด้วยได้ง่าย มันจึงตัดสินใจถอยชั่วคราวเพื่อหลบเลี่ยงกระแสดาบฉี ก่อนจะอ้าปากกว้างและปล่อยลูกไฟเข้าใส่อีกฝ่าย
จางเซวียนเงื้อดาบของเขาขึ้นเพื่อฟาดฟันลูกไฟนั้นให้แตกเป็น 2 ส่วน แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอย่างนั้น น้ำเต้าตงฉู่ก็พุ่งออกมาจากจุดตันเถียนของเขาและประกาศก้อง “ผมจัดการเจ้านกนั่นเอง!”
————–
*12 จ้าง = 40 เมตร