อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2052 ของล้ำค่าระดับกึ่งสรวงสวรรค์?
อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 2052 ของล้ำค่าระดับกึ่งสรวงสวรรค์?
ทันทีที่จางเซวียนถอย กระแสดาบฉีมากมายนับไม่ถ้วนก็ฟาดฟันไปทั่วบริเวณที่เขาเคยยืนอยู่เมื่อครู่ก่อน เมื่อมองไป จางเซวียนเห็นมังกรอสรพิษ นกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัว และหมาจิ้งจอกหูขาวนอนหมดเรี่ยวแรงอยู่กับพื้น
ด้วยการปะทะกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญจากหอเทพเจ้าเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ พวกมันก็บาดเจ็บสาหัส
ผู้ที่เล่นงานมันคือวัยรุ่นอีก 2 คนที่เหลือ
จางเซวียนเพิ่งจัดการชายวัยรุ่นที่เป็นหัวหน้ากลุ่มไปได้เพียงกระบวนท่าเดียว แต่ชายวัยรุ่นอีก 2 คนที่เหลือปราบอสูรทั้งสี่ตัวของเขาจนราบคาบ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วกว่าที่เขาคิดไว้มาก
แถมทั้งคู่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆขณะที่เล่นงานสี่อสูรอมตะของเขา
สถานการณ์ดูไม่ดีเลย ชายวัยรุ่นที่เป็นหัวหน้าอาจเสียแขนไปข้างหนึ่ง แต่นั่นเป็นแค่ความพ่ายแพ้เล็กน้อยที่ลดทอนประสิทธิภาพการต่อสู้ลงนิดหน่อยเท่านั้น ขณะที่ตัวเขาสูญเสียอสูรอมตะถึงสี่ตัว ทำให้เสียเปรียบกว่าเดิมมาก
ตอนนี้ ชายวัยรุ่นที่เป็นหัวหน้ากลับคืนสู่สังเวียนการต่อสู้แล้ว เขาจัดการปิดบาดแผลที่หัวไหล่เพื่อห้ามเลือด ก่อนจะสะบัดข้อมือแล้วนำฉนวนโลหะอันหนึ่งออกมา
เพราะเป็นของล้ำค่าระดับอมตะขั้นสูงปฐพี ฉนวนโลหะอันนี้จึงไม่ได้ทรงพลังอย่างดาบเล่มเมื่อครู่ แต่ด้วยความหนักอึ้งของวัสดุที่ใช้ ก็ถือว่าน่าสะพรึงไม่น้อย
“ไปเลย!” ชายวัยรุ่นโยนฉนวนโลหะออกไป
ฟึ่บ!
จางเซวียนพลันรู้สึกว่าตัวเขาถูกโอบล้อมด้วยภูเขาสูงตระหง่าน ร่างของเขาดูเหมือนจะถูกปราการบางอย่างรัดรึงไว้ จนไม่อาจดิ้นรนให้หลุดพ้นได้
ดาบถงซังมีระดับขั้นสูงกว่าฉนวนโลหะอันนี้มาก แต่ฉนวนโลหะก็หนักอึ้งเกินไป แม้ด้วยศิลปะเพลงดาบอันเหนือชั้นของจางเซวียน เขาก็ยังเผชิญหน้ากับมันตรงๆได้ยาก
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ขอดูหน่อยเถอะว่าคุณจะรับมืออย่างไร!”
เห็นจางเซวียนถูกรัดรึงด้วยแรงกดดันของฉนวนโลหะ วัยรุ่นคนหนึ่งคำรามเยาะขณะพุ่งเข้าใส่จางเซวียนและปล่อยพลังจากฝ่ามือ
ขอแค่พวกเขาทำให้จางเซวียนหมดหนทาง ภารกิจนี้ก็จะสำเร็จลุล่วง เพราะถึงอย่างไร เงื่อนไขเพียงข้อเดียวที่พวกเขาต้องระมัดระวังก็คือไม่ทำร้ายอีกฝ่ายจนถึงตาย ส่วนจะบาดเจ็บสาหัสแค่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
“คุณเบิ่งตาดูให้ชัดๆก็แล้วกัน!”
ขณะที่พลังจากฝ่ามือของชายวัยรุ่นพุ่งเข้าใส่จางเซวียน ฝ่ายหลังก็หัวเราะลั่น
พริบตาต่อมา ฉนวนโลหะที่อยู่กลางอากาศก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้แรงกดดันที่รัดรึงจางเซวียนอยู่สลายไปด้วย จางเซวียนจึงใช้โอกาสนี้เล่นงานชายวัยรุ่นที่อยู่ตรงหน้า
ฟึ่บ!
อีกฝ่ายถูกกระแสดาบฉีแผดเผาอวัยวะสำคัญภายในทั้งหมด เขามีสีหน้าสิ้นหวังก่อนจะทรุดฮวบลงกับพื้น
เขานึกไม่ถึงว่าฉนวนโลหะจะหายวับไปต่อหน้าต่อตาแบบนั้น ทำให้ชายหนุ่มที่เมื่อครู่นี้ยังขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไม่ได้กลายเป็นอิสระ และเขาก็นึกไม่ถึงด้วยว่าอีกฝ่ายจะมีกระแสดาบฉีมากมายที่รอโอกาสตอบโต้
ฟู่!
หลังจากเล่นงานวัยรุ่นไปได้อีกคนหนึ่ง จางเซวียนระบายลมหายใจยาว แต่ก็ยังไม่กล้าปล่อยให้การ์ดตก
เพื่อล่อหนึ่งในคนเหล่านั้น เขาตั้งใจแบกรับแรงกดดันจากฉนวนโลหะไว้ก่อน และเพื่อให้แน่ใจว่าการสังหารจะเป็นไปอย่างเฉียบขาด จางเซวียนจึงสะสมกระแสดาบฉีไว้จนเต็มพิกัด ทำให้ทางเดินพลังปราณ 2-3 เส้นของเขาเสียหายไปเล็กน้อย
ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพไม่ดีนัก แต่ก็รู้ว่ายังไม่ใช่เวลาหยุดพัก
ชายวัยรุ่นอีกคนหนึ่งรู้ดีว่าจางเซวียนกำลังอ่อนแอ และเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่คิดจะปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ ขณะที่จางเซวียนเคลื่อนไหว ชายวัยรุ่นคนนั้นก็เข้ามาจากด้านหลังและปล่อยพลังฝ่ามืออันหนักหน่วงออกมา แรงปะทะนั้นทำให้ร่างของจางเซวียนลอยขึ้นสู่กลางอากาศ มันทรงพลังเสียจนเขากระเด็นไป ดูเหมือนจะสูญเสียความรู้สึกทั้งหมดไปอย่างสิ้นเชิง
ราวกับการโจมตีนั้นได้คร่าชีวิตของเขา
“อะไรกัน?”
ชายวัยรุ่นเลิกคิ้วด้วยความระแวง
เขาแน่ใจว่าได้ยั้งมือแล้ว เพราะเกรงจะพลั้งมือทำให้จางเซวียนต้องตาย ถ้าอีกฝ่ายตายจริงๆล่ะก็ เขาไม่มีทางเผชิญหน้ากับนายท่านได้แน่!
แต่ร่างกายของจางเซวียนก็อ่อนปวกเปียกเสียขนาดนั้น หรือว่าเขาบังเอิญเล่นงานเข้าที่จุดสำคัญและสังหารอีกฝ่ายเสียแล้ว?
เป็นไปไม่ได้! มันต้องไม่เป็นแบบนี้!
เขาถูกฆ่าตายแน่ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้น!
ด้วยความกังวลใจ ชายวัยรุ่นปรี่เข้าหาร่างแน่นิ่งของจางเซวียน ตั้งใจจะดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แล้วการมองเห็นของเขาก็พร่าเลือนไปขณะที่ร่างหนึ่งปรากฏตรงหน้า
“คุณ…”
ร่างนั้นสวมเสื้อผ้าแบบเดียวกับเขา แต่ไม่ใช่สมาชิกในกลุ่มของเขาอย่างแน่นอน เขาคือหนึ่งในชายเสื้อคลุมสีดำที่เป็นนักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ผู้ล้มเหลวในภารกิจครั้งก่อน!
ขณะที่ชายวัยรุ่นกำลังสงสัยว่าจู่ๆหมอนี่มาอยู่ตรงหน้าเขาได้อย่างไร ก็พลันรู้สึกเจ็บแปลบที่ลำคอ
เขาลดสายตาลงมอง…ตุ้บ!
ศีรษะของเขาหลุดออกจากลำคอแล้ว
เรื่องจริงก็คือจางเซวียนไม่ได้นำหุ่นโลหะไร้วิญญาณออกมาเพียงตัวเดียว แต่นำออกมาถึง 2 ตัว ขณะที่ชายวัยรุ่นกำลังสนใจหุ่นโลหะไร้วิญญาณตัวแรกอยู่ อีกตัวหนึ่งก็สำแดงศิลปะเพลงดาบและตัดศีรษะของเขา
ในสถานการณ์ทั่วไป กลยุทธแบบนี้ไม่น่าจะได้ผล แต่เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นติดต่อกันอย่างรวดเร็วจนชายวัยรุ่นเกิดความมึนงง เขาลดความระแวงระวังลงไปชั่วขณะ จึงเกิดเป็นจุดอ่อนให้หุ่นโลหะไร้วิญญาณตรงเข้าเล่นงานได้
พลั่ก!
พริบตาต่อมา ร่างปวกเปียกของจางเซวียนก็กระแทกกับพื้นอย่างแรง เขากระอักเลือดออกมา 3 กองใหญ่
ด้วยการใช้ความสามารถของน้ำเต้าตงฉู่และหุ่นโลหะไร้วิญญาณ จางเซวียนสามารถเล่นงานคู่ต่อสู้สองคนของเขาได้ภายในเวลา 5 อึดใจ แต่ก็ใช้พละกำลังของร่างกายไปจนถึงขีดสุด เรียกได้ว่า เกือบจะไม่ไหวแล้ว
โดยเฉพาะตอนที่เขาจงใจต้านทานพลังฝ่ามือจากชายวัยรุ่นคนหนึ่งเพื่อล่อลวงอีกฝ่าย ถ้าไม่ใช่เพราะเคล็ดวิชาเทียบฟ้าและการที่อีกฝ่ายยั้งมือไว้ เขาคงตายแน่
จางเซวียนรีบนำขวดหยกออกมาและดื่มน้ำในนั้นลงไป ไม่ช้าก็รู้สึกว่าอาการบาดเจ็บค่อยๆทุเลา เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นก็หันไปมองชายวัยรุ่นคนสุดท้ายซึ่งเสียแขนไปข้างหนึ่ง
“เจ้านายของคุณต้องการตัวผมเพราะอะไร?”
ถึงจางเซวียนจะรู้มาว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการที่เขาทำความเข้าใจเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าได้สำเร็จ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น
เจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าไร้เทียมทานก็จริง แต่ก็ดูไม่มีเหตุผลที่องค์กรสูงส่งอย่างหอเทพเจ้าจะลดตัวลงมาเล่นงานแค่นักรบอมตะตัวจริงเพียงคนเดียว
อีกอย่าง ดูเหมือนคนพวกนี้ตั้งใจจะจับเขาเป็นๆด้วย
เงื่อนงำต่างๆดูไม่เชื่อมโยงกัน จางเซวียนรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ก็ระบุไม่ได้ว่าคืออะไร
“คุณไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้รู้หรอก” ชายวัยรุ่นตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
พูดตามตรง เขาเองก็อึ้งกับสถานการณ์ตรงหน้า ไม่เคยคิดเลยว่าผู้ที่มีวรยุทธอ่อนด้อยกว่าพวกเขาถึงหนึ่งขั้นเต็มๆจะเล่นงานแขนของเขาและสังหารเพื่อนร่วมทีมอีกสองคนได้ภายในเวลาเพียง 5 อึดใจ
เมื่อรู้แล้วว่าชายหนุ่มคนนี้ทรงพลังขนาดไหน เขามีสีหน้าเคร่งเครียด
นายท่านหงุดหงิดมากกับความล้มเหลวครั้งก่อน หากครั้งนี้เขาปฏิบัติภารกิจไม่สำเร็จ…
ชายวัยรุ่นตัวสั่นเมื่อนึกถึงชะตากรรมที่รอคอยอยู่ นายท่านมีวิธีการมากมายที่จะทำให้ผู้ที่ขัดใจเขารู้สึกอยากตายมากที่สุดในชีวิต!
เขาสูดหายใจลึกและหรี่ตา “นายท่านพูดถูก คุณเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าสะพรึงจริงๆ ผมไม่อยากใช้ของล้ำค่าที่นายท่านมอบให้ แต่ดูเหมือนจะไม่มีทางเลือก…”
เขาสะบัดข้อมือ แล้ววัตถุที่มีลักษณะเหมือนจานรูปกลมก็ลอยขึ้นสู่กลางอากาศ ทันทีที่มันปรากฏ ก็เกิดรอยร้าวขึ้นในมิติโดยรอบ
“ของล้ำค่าระดับกึ่งสรวงสวรรค์?” จางเซวียนหรี่ตา
จางเซวียนไม่เคยเห็นของล้ำค่าระดับกึ่งสรวงสวรรค์มาก่อน แต่การปรากฏตัวของมันทำให้มิติโดยรอบพังทลาย บ่งบอกถึงประสิทธิภาพที่อยู่ในนั้น แถมความเข้มข้นของรังสีที่ของล้ำค่าแผ่ออกมาก็ไม่ต่างกับหานเจี้ยนชิว ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคือของล้ำค่าที่เหนือชั้นกว่าระดับอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์!
ของล้ำค่ารูปร่างเหมือนจานนั้นเรืองแสงที่ทำให้บริเวณโดยรอบสว่างจ้า จางเซวียนยืนอยู่ท่ามกลางแสงสว่าง ร่างกายแข็งทื่อ ไม่อาจเคลื่อนไหวหรือขับเคลื่อนพลังปราณได้
“คุณควรจะภูมิใจนะที่บีบบังคับให้ผมใช้ตัวล็อคจิตวิญญาณทองคำได้” ชายวัยรุ่นจ้องจางเซวียนด้วยแววตาเย็นเยียบ
เป็นอย่างที่จางเซวียนคิดไว้ ของล้ำค่าที่มีหน้าตาเหมือนจานชิ้นนี้คือของล้ำค่าระดับกึ่งสรวงสวรรค์จริงๆ-ตัวล็อคจิตวิญญาณทองคำ!
มันสามารถสกัดกั้นพลังชีวิต จิตวิญญาณ และพลังปราณของคู่ต่อสู้ได้ ทำให้ทุกอย่างหยุดนิ่งอยู่กับที่
“จัดการมัน!” จางเซวียนพยายามสุดตัวที่จะขับเคลื่อนพลังปราณเพื่อปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากพันธนาการนั้น
แต่ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง ไม่ว่าเขาจะขับเคลื่อนพลังงานหนักหน่วงแค่ไหน ก็คล้ายกับมีเขื่อนอันทรงพลังขวางทางอยู่ ไม่ว่าเขาจะใช้เรี่ยวแรงมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ไม่อาจปลดปล่อยพลังงานให้ทะลุผ่านมันได้
เมื่อปราศจากพลังงานที่พยุงร่างกายไว้ จางเซวียนก็หมดหนทางสู้ ชะตากรรมเดียวที่รอคอยอยู่คือการถูกจับตัว
“ไปเลย!”
ตัวล็อคจิตวิญญาณทองคำค่อยๆร่อนลงมาจากกลางอากาศ แม้จะยังไม่ทันเข้าใกล้ จางเซวียนก็รู้สึกได้ถึงพละกำลังมหาศาลที่ถาโถมเข้าใส่ ทำให้เลือดทะลักออกจากจุดชีพจรของเขา
เกิดเสียงหึ่งดังกึกก้องกลางอากาศ
ตราหยกที่หานเจี้ยนชิวมอบให้จางเซวียนไว้แตกสลายในชั่วพริบตา ปราการแสงรูปทรงกลมโอบล้อมร่างของเขาไว้ทันที
ฟึ่บ!
ปราการที่มีลักษณะเหมือนค่ายกลนี้ทำลายแรงกดดันที่ถาโถมเข้าใส่จางเซวียนจนหมด ทำให้เขา ลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง จางเซวียนกลืนน้ำที่ได้จากการต้มน้ำเต้าตงฉู่ลงไป 1 ขวดก่อนจะรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังไร้เรี่ยวแรงตั้งแต่หัวจรดเท้า
เขาเคยคิดว่าตัวเขาคงไม่ห่างไกลนักกับการจะเทียบชั้นกับนักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์หรือของล้ำค่าที่มีวรยุทธระดับนั้น เพราะเขาสามารถต่อสู้ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อกับนักรบระดับอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์ แต่ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าคิดผิด ทันทีที่เข้าใกล้ตัวล็อคจิตวิญญาณทองคำ จางเซวียนรู้สึกได้ทันทีถึงความแตกต่างของวรยุทธทั้งสองขั้นว่ายิ่งใหญ่กว่าที่เขาเคยคิดไว้มาก
ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมทั่วทั้งมิติเบื้องบนถึงหวาดกลัวเทพเจ้า เพราะลำพังของล้ำค่าระดับกึ่งสรวงสวรรค์ก็ทรงพลังมากพอที่จะเล่นงานนักรบอมตะขั้นสูงให้หมดหนทางแล้ว
“เครื่องรางปกป้องที่ทำขึ้นจากหยดเลือดของนักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์หรือ? คุณมีของดีๆอยู่กับตัวหลายชิ้นทีเดียวนะ ว่าแต่…ปราการคุ้มกันของคุณจะอยู่ได้นานสักแค่ไหน?” ชายวัยรุ่นหัวเราะขณะถ่ายทอดพลังปราณเข้าสู่ตัวล็อคจิตวิญญาณทองคำต่อไป