อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2139 โจมตีด้วยวิธีไหน?
อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 2139 โจมตีด้วยวิธีไหน?
เธอรีบขับเคลื่อนพลังปราณและขจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย ทำให้กลายเป็นหัวหน้าตู้ชิงหย่วนผู้สง่างามคนเดิม จากนั้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะรีบตามจางเซวียนไปติดๆ
ส่วนจางเซวียนก็ได้แต่ส่ายหน้าเมื่อเห็นตู้ชิงหย่วนยังห่วงสวยแม้จะอยู่ในสถานการณ์คับขัน เขาเดาะลิ้น จากนั้นก็เปิดประตูและเดินออกไป
ไม่มีใครอยู่ข้างนอกแม้แต่คนเดียว
เมื่อช่วยเหลือตู้ชิงหย่วนได้แล้ว จางเซวียนก็ไม่แยแสกับการปลอมตัว ในเมื่อไม่น่ามีใครทำร้ายเขาได้นอกจากปรมาจารย์ขง จึงเดินหน้าต่อไป
“ทางออกอยู่นั่น” ตู้ชิงหย่วนที่ยังงุนงงเอ่ยขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้ว
ยิ่งเดินลึกเข้าไปเท่าไหร่ อันตรายที่พวกเขาต้องเผชิญก็มีมากขึ้นเท่านั้น จางเซวียนอาจไม่รู้พละกำลังที่แท้จริงของหัวหน้าขง แต่เธอรู้ดีว่าชายผู้นั้นมีพละกำลังบ้าคลั่งแค่ไหน ในแง่ของประสิทธิภาพการต่อสู้ เขาเทียบชั้นได้แม้แต่กับเทพเจ้า!
ไม่เพียงเท่านั้น อีกฝ่ายยังมีผู้เชี่ยวชาญขั้นกึ่งสรวงสวรรค์อยู่ใต้บังคับบัญชาอีกมากมาย ทั้งคู่คงตายแน่หากทำให้เขารู้ตัว!
“ผมไม่ได้คิดจะหนี ผมมาที่นี่เพราะปรมาจารย์ขง” จางเซวียนอธิบายยิ้มๆ
คราวนี้เขาให้ตัวโคลนต่อสู้ไปพร้อมๆกัน แถมตัวเขาก็ทำความเข้าใจเวทนาสวรรค์และหัวใจเส้นด้ายสอดประสานพันปมได้สำเร็จแล้ว ตราบใดที่ปรมาจารย์ขงยังไม่ได้เป็นเทพเจ้า โอกาสที่พวกเขาจะเอาชนะได้ก็มีสูงมาก
เหตุผลเดียวที่เขาปลอมตัวก็เพราะเกรงจะก่อให้เกิดความแตกตื่น ทำให้ศัตรูรีบกำจัดตู้ชิงหย่วนหรือไม่ก็ใช้เธอเป็นตัวประกัน ในเมื่อตอนนี้ตู้ชิงหย่วนปลอดภัย ก็ไม่จำเป็นต้องปกปิดอะไรอีก
“ปรมาจารย์ขง? คุณหมายถึงหัวหน้าขงใช่ไหม?” ตู้ชิงหย่วนชะงัก “ลำพังเราสองคนน่ะเอาชนะเขาไม่ได้หรอก ต้องเรียกหานเจี้ยนชิวกับคนอื่นๆ…”
ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบ เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นตรงหน้า เสียงหนึ่งตั้งคำถามอย่างสงสัย “คุณเป็นใคร? เดี๋ยวก่อน คุณคือตู้ชิงหย่วนไม่ใช่หรือ? ออกมาได้อย่างไรกัน? พวกเรา!”
เสียงนั้นดังก้องไปทั่วทั้งห้องโถงใหญ่
ในชั่วพริบตา ร่างนับไม่ถ้วนก็ปรากฏตัวขึ้นบริเวณทางเดิน ปิดกั้นเส้นทางหลบหนีทั้งหมดไว้
“นักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ 13 คน…” ตู้ชิงหย่วนตัวสั่นด้วยความพรั่นพรึง
ถ้าพวกเธอแอบหนีไปเสียตั้งแต่เมื่อครู่ก่อน ก็คงหนีรอด แต่หมอนี่กลับอยากตามหาหัวหน้าขง!
ตอนนี้ทั้งคู่ถูกล้อมด้วยนักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ถึง 13 คนที่ไม่ได้อ่อนด้อยกว่าเธอสักนิด พวกเขาไม่มีทางเอาชีวิตรอดไปได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ
ตู้ชิงหย่วนรู้สึกราวกับความหวังเมื่อครู่แหลกสลายไปหมดสิ้น ทำให้เธอจมดิ่งเข้าสู่วังวนของความสิ้นหวังอีกครั้ง
เทพเจ้าแห่งจิตวิญญาณ คุณไม่บอกฉันสักนิดว่าชายที่คุณพึงพอใจน่ะแสนจะไว้ใจไม่ได้!
“อ้อ เจ้าสำนักจางใช่ไหม? ในเมื่อคุณอุตส่าห์มาเยี่ยมหอนิรันดร์ของเราแล้ว หากไม่ต้อนรับคุณให้สมเกียรติก็คงจะหยาบคายไปหน่อย ใช่หรือเปล่า?” นักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์คนหนึ่งในกลุ่มจดจำจางเซวียนได้
คำพูดของเขาทำให้คนอื่นๆตาลุกโพลง
ทุกคนรู้ดีว่าหัวหน้าขงให้ความสำคัญกับจางเซวียนมากแค่ไหน หากพวกเขาจับตัวชายหนุ่มได้ จะต้องได้รับการตบรางวัลอย่างงามแน่
ฟึ่บ!
เจตนาสังหารเข้มข้นอบอวลไปทั่ว เหล่านักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ชักอาวุธของพวกเขาออกมา
ตู้ชิงหย่วนขนลุกขนชันไปทั่วทั้งตัว เธอขยับเข้าใกล้จางเซวียนและพูดว่า “ด้วยพละกำลังของฉันตอนนี้ ฉันรับมือกับพวกนั้นได้แค่ 2 คนเป็นอย่างมาก ฉันตรวจสอบพวกเขาแล้ว คิดว่าน่าจะพยายามเปิดทางให้คุณหลบหนีได้ด้วยการเล่นงาน 3 คนที่อยู่ตรงหน้าฉัน เพราะฉะนั้นเฝ้าระวังให้ดี รีบหนีไปทันทีที่คุณเห็นช่องทาง ตกลงไหม?”
มีแต่บาดแผลทางร่างกายของเธอเท่านั้นที่ได้รับการเยียวยาจนหายดี ส่วนจิตวิญญาณของเธอยังไม่ได้กลับสู่สภาพเดิม และแท่นบูชาซึ่งเป็นไม้ตายที่มีพละกำลังสูงสุดก็ถูกทำลายไปแล้ว
เมื่อพิจารณาถึงพละกำลังที่มีอยู่ คงน่าทึ่งเต็มทีถ้าเธอเล่นงานนักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์จากหอเทพเจ้าได้ถึง 2 คน
“หลบหนี?”
“ฉันซาบซึ้งในบุญคุณมากที่คุณเต็มใจฝ่าอันตรายเข้ามาช่วยชีวิตฉัน” ตู้ชิงหย่วนพูดด้วยแววตามุ่งมั่น “แต่อายุขัยของฉันใกล้สิ้นสุดเต็มทีแล้ว ถ้าจะมีใครคนหนึ่งเอาชีวิตรอดออกไปจากที่นี่ได้ ก็ควรจะเป็นคุณ ฉันขอฝากอนาคตของตำหนักคว้าดาวกับทวีปที่ถูกลืมไว้กับคุณด้วย…”
“ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอก!” จางเซวียนหัวเราะหึๆเมื่อเห็นท่าทีของตู้ชิงหย่วน
เห็นทั้งคู่สบายอกสบายใจถึงขนาดพูดคุยกันได้ หัวหน้ากลุ่มตวาดก้อง “ทุกคน เล่นงานพวกเขา! เมื่อหัวหน้ากลับมา จะต้องพอใจแน่ถ้าเห็นเราจับตัวจางเซวียนได้!”
เมื่อทนร้อนใจไม่ไหว ทั้งกลุ่มเปิดการโจมตี
ฟิ้ววววว!
กระแสพลังงานแผ่ออกจากบริเวณโดยรอบ เกิดเป็นกรงแน่นหนาที่กักขังจางเซวียนกับตู้ชิงหย่วนไว้
“จางเซวียน รีบหนีไป!” ตู้ชิงหย่วนร้องออกมา
เธอไม่คิดว่าตัวเธอกับจางเซวียนจะมีความรู้ความเข้าใจเรื่องค่ายกลผนึกกำลังมากนัก และรู้ดีว่าต้องติดกับแน่หากมัวรอช้า จึงรีบพุ่งเข้าใส่เพื่อเปิดการโจมตี
แต่แล้วภาพตรงหน้าเธอก็พลันพร่าเลือน กรงพลังงานที่อยู่รอบตัวสลายตัวไปอย่างกะทันหัน ยังไม่ทันที่เธอจะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร จางเซวียนก็ไปยืนอยู่ตรงหน้าหัวหน้ากลุ่มแล้ว เขาบีบคออีกฝ่ายไว้แน่น
จางเซวียนจ้องหน้าหัวหน้านักรบทั้งกลุ่มด้วยสีหน้าที่ดูไม่แยแสจนน่าสะพรึง เขาตั้งคำถาม “หัวหน้าขงอยู่ไหน?”
“ขะ-เขา เขาไม่อยู่…” หัวหน้ากลุ่มตอบด้วยเสียงสั่นเครือ
เขาไม่ทันระมัดระวังตัวกับความรวดเร็วของจางเซวียน เนื้อตัวของเขาสั่นเทาด้วยความตกตะลึง
“เขาไม่อยู่?” จางเซวียนขมวดคิ้ว
เขาคิดว่าปรมาจารย์ขงน่าจะพยายามซึมซับรังสีสวรรค์ที่นี่…ถ้าอีกฝ่ายไม่อยู่ แล้วจะไปอยู่ที่ไหน?
แบบนี้ไม่ดีแน่ ถ้าปรมาจารย์ขงกลายเป็นเทพเจ้า สิ่งที่จะเกิดตามมาย่อมสร้างความลำบากไม่น้อย พวกเขาจะไม่มีทางรับมือกับอีกฝ่ายได้เลย
“ผมไม่เชื่อคุณ” จางเซวียนตอบด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
นิ้วของเขารัดลำคอของอีกฝ่ายแน่นกว่าเดิม จางเซวียนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจเฮือกพร้อมกับขมวดคิ้ว “ปรมาจารย์ขงไม่ได้อยู่ที่นี่จริงๆ…”
เขาไม่ได้เชื่อถือคำพูดของศัตรูจากสีหน้า แต่ใช้การค้นหาจิตวิญญาณ
ซึ่งก็เป็นอย่างที่อีกฝ่ายพูด หลังจากที่ออกไป หัวหน้าขงก็ยังไม่ได้กลับมา
ขณะที่จางเซวียนได้แต่ส่ายหน้าอย่างหงุดหงิด ตู้ชิงหย่วนก็มองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าทึ่งจัด
เมื่อครู่นี้เองที่เธอคิดว่าตัวเธอกับจางเซวียนคงจบเห่แน่ แต่ในชั่วพริบตา อีกฝ่ายก็เล่นงานหัวหน้ากลุ่มได้ ที่น่าหวาดผวากว่านั้นก็คือไม่มีใครในกลุ่มนั้นตรงเข้าช่วยหัวหน้าของพวกเขาเลย ราวกับทุกคนถูกตรึงอยู่กับที่!
ตู้ชิงหย่วนชี้นิ้วไปที่นักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์อีก 12 คนที่อยู่รอบตัวเธอและพึมพำ “พวกนั้น…”
ทุกคนล้วนแต่ยืนนิ่ง ไม่ขยับตัวสักนิด แต่เธอก็มองเห็นความหวาดกลัวในแววตาส่วนลึกของพวกนั้น ราวกับคนเหล่านี้ได้เห็นบางอย่างที่ทำให้พรั่นพรึงไปถึงจิตวิญญาณ
“มีอะไร?” จางเซวียนโยนร่างหัวหน้ากลุ่มทิ้งไปก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมือ
“ทำไมพวกนั้นถึงไม่เคลื่อนไหวเลย?” ตู้ชิงหย่วนถามอย่างระแวง
“พวกเขาตายแล้ว คนตายน่ะเคลื่อนไหวไม่ได้หรอก” จางเซวียนตอบอย่างไม่แยแส ราวกับกำลังพูดถึงความเป็นจริงธรรมดาๆข้อหนึ่ง
เขาเองก็สงสัยว่าตู้ชิงหย่วนตกใจเรื่องอะไร กลับกลายเป็นเรื่องนี้เอง
ในเมื่อพวกนั้นจงใจเล่นงานเขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องออมมือให้ จางเซวียนจึงใช้หัวใจเส้นด้ายสอดประสานพันปมเชือดคอทั้ง 12 คนพร้อมกันในคราวเดียว
เขาจงใจไว้ชีวิตหัวหน้ากลุ่มครู่หนึ่งเพื่อเค้นเอาข้อมูล
“พวกนั้นตายแล้ว?” ตู้ชิงหย่วนผงะ
เธอเดินเข้าไปหานักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์คนหนึ่งอย่างระแวงและผลักร่างของเขา
พลั่ก!
ร่างนั้นร่วงลงไปกองกับพื้น ทำให้พื้นสะเทือนเล็กน้อย แรงสั่นสะเทือนทำให้นักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์อีก 11 คนที่เหลือร่วงลงไปกองกับพื้นเช่นกัน
ตู้ชิงหย่วนขยี้ตาอย่างแรง เกรงว่าจะตาฝาด
หมอนี่เปิดการโจมตีตั้งแต่เมื่อไหร่?
แล้วโจมตีด้วยวิธีไหน?
นักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ 13 คนถูกสังหารในชั่วพริบตา…เรื่องแบบนี้เป็นไปได้ด้วยหรือ?
เขาเพิ่งมาถึงทวีปที่ถูกลืมได้เพียงเดือนเดียว…เป็นไปได้หรือที่ใครสักคนจะทรงพลังได้ในระยะเวลาอันสั้นขนาดนี้?
ตู้ชิงหย่วนแทบหายใจหายคอไม่ออก
เธอเพิ่งคิดอยู่หยกๆว่าชายผู้นี้ไม่คู่ควรกับเทพเจ้าแห่งจิตวิญญาณสักนิด แต่นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทวีปที่ถูกลืมที่นักรบผู้หนึ่งยกระดับวรยุทธจากนักปราชญ์โบราณขั้น 4 มาเป็นผู้ไร้เทียมทานในหมู่นักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ได้ภายในเวลา 1 เดือน!
ถ้าเขามีเวลาอีก 1 เดือน มิกลายเป็นเทพเจ้าแห่งจิตวิญญาณเลยหรือ?
เธอพลันรู้สึกราวกับว่าคนอื่นๆต่างคืบคลานเรื่องการพัฒนาวรยุทธ ขณะที่ชายผู้นี้พุ่งทะยานไปข้างหน้า
“รอแป๊บนึงนะ” จู่ๆชายหนุ่มก็พูดออกมา
เขาส่งยิ้มให้ จากนั้นก็เดินเข้าไปถอดแหวนเก็บสมบัติของนักรบแต่ละคน แล้วเก็บทุกศพเข้าไปในแหวนเก็บสมบัติด้วยการโบกมือ
“ไม่เลว ดูเหมือนพวกนี้จะมียาเม็ดอยู่มากมาย ผมคิดว่าถึงอย่างไรคนของหอนิรันดร์ก็ร่ำรวยไม่เบา” จางเซวียนออกความเห็นพร้อมกับพยักหน้าอย่างพอใจ
เขายังคิดอยู่ว่าจะหายาเม็ดอมตะมหัศจรรย์อีก 70 เม็ดสำหรับการฝ่าด่านวรยุทธได้จากที่ไหน แต่แล้วก็แสนยินดีปรีดาที่ได้ยาเม็ดมาจำนวนมากกว่านั้นอีกหลังจากสังหารนักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ไป 15 คน
สมกับที่เป็นหอนิรันดร์!
“ในเมื่อหัวหน้าขงไม่อยู่ ก็คงไม่มีอันตรายแล้วล่ะ คุณรออยู่ตรงนี้สักครู่นะ ผมจะไปสำรวจรอบๆ” จางเซวียนพูดก่อนจะหายตัวไป
“สำรวจรอบๆ? เขาจะตามหาอะไร?” ตู้ชิงหย่วนยืนงง
จางเซวียนไม่ใส่ใจตู้ชิงหย่วน เขาเดินหน้าเข้าสู่ห้องที่อยู่ด้านในสุด
จากการค้นหาจิตวิญญาณก่อนหน้านี้ จางเซวียนแน่ใจแล้วว่าตอนนี้เขาอยู่ในสำนักงานใหญ่ของหอนิรันดร์
ในเมื่อที่นี่คือสำนักงานใหญ่ ก็แน่นอนว่าจะต้องมีทรัพย์สมบัติมากมาย
เพราะปรมาจารย์ขงฉกฉวยรังสีสวรรค์ของเขาไป ไม่ว่าด้วยวิธีไหน เขาก็จะต้องเอาคืนให้ได้สักหน่อย ไม่อย่างนั้นก็จะกลายเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่
ด้วยเหตุนี้ ขณะที่กำลังทำการค้นหาจิตวิญญาณ จางเซวียนก็ตรวจสอบว่าคลังสมบัติของหอนิรันดร์สำนักงานใหญ่อยู่ที่ไหน
และแน่นอนว่านั่นคือสถานที่ที่เขากำลังมุ่งหน้าไป!
จางเซวียนไปตามเส้นทางที่ได้เห็นในการค้นหาจิตวิญญาณและเดินหน้าต่อไป
นอกจากนักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์กลุ่มนั้น ในหอนิรันดร์สำนักงานใหญ่ก็ไม่มีใครอื่น จางเซวียนสังหารทุกคนหมดแล้ว จึงไม่มีอันตรายใดๆอีก ส่วนค่ายกลที่ถูกติดตั้งไว้โดยรอบก็ไม่เป็นภัยกับผู้เชี่ยวชาญด้านค่ายกลระดับจางเซวียน
“ที่นี่แหละ” จางเซวียนพูดยิ้มๆหลังจากตรวจดูพิกัดจนแน่ใจ
เขากวัดแกว่งดาบถงซังเบาๆ