อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2249 เลิกเพ้อฝันเสียที!
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบคู่ต่อสู้ที่สามารถบ่มเพาะกายเนื้อของตัวเองจนถึงระดับที่ตัวเขามองว่าน่าพอใจ…
ที่สำคัญ ชายเสื้อคลุมสีขาวคนนี้ก็ยังอายุไม่มาก
ดูเหมือนสรวงสวรรค์จะมีผู้เชี่ยวชาญซ่อนตัวอยู่มากมาย!
ชายเสื้อคลุมขาวคนนี้ปราดเปรื่องกว่าจัวเหยียนมาก บางทีอาจมีสติปัญญาดีพอที่จะเป็นลูกศิษย์ของเขา
“แกมันชั่วช้า รนหาที่ตายแล้ว!” อ้าวหัวโมโหจนตัวแทบระเบิด
เขามาที่นี่เพื่อท้าทายผู้ที่ติดโผการจัดอันดับศักยภาพราชันย์เทพเจ้าของน่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อน ซึ่งเมื่อเขาเอาชนะเสิ่นถูเฟิงผู้รั้งอันดับ 1 ได้อย่างง่ายดาย ก็เหมาว่านักรบระดับเทพเจ้าสวรรค์สร้างของที่นี่คงไม่ได้เรื่อง
ใครจะไปคิดว่าหลังจากนั้นจะต้องเจอกับปีศาจตนนี้?
ไม่เพียงแต่กายเนื้อของหมอนี่จะแข็งแกร่งเสียจนไม่มีทางเอาชนะได้ ความโอหังของเขายังเป็นที่สุดด้วย กล้าพูดว่าจะรับคู่ต่อสู้เป็นศิษย์หากสามารถทำให้เขาบาดเจ็บ…
บ้าที่สุด! คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้าพูดอะไรแบบนี้?
เลิกเพ้อฝันเสียที!
“ฮะ…” เสิ่นถูเฟิงกับคนอื่นๆแทบคลั่ง
พวกเขาคิดว่าอ้าวหัวหลงตัวเองสุดๆแล้ว แต่ยังมีคนอาการหนักกว่า!
“เป็นเขานี่เอง…”
ฉีเยว่ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บาดเจ็บที่นอนแบ็บอยู่กับพื้นจดจำจางเซวียนได้ เขากำหมัดแน่นและกลั้นใจ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง
แม้แทบทุกคนในเมืองหลวงจะเคยได้ยินชื่อจางเซวียน แต่มีน้อยคนมากที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา ซึ่งฉีเยว่ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ได้เห็นกับตาว่าบรรพบุรุษเก่าแก่ของตระกูลฉีทรุดตัวลงคุกเข่าต่อหน้าจางเซวียนและเรียกเขาว่า ‘จอมราชันย์’!
คนระดับนี้จะพ่ายแพ้ให้กับเทพเจ้าสวรรค์สร้างจากน่านฟ้ามังกรเมฆได้อย่างไร?
“ฉันจะฆ่าแก!”
คราวนี้อ้าวหัวตัดสินใจทุ่มสุดตัว
ฝ่ามือของเขาแปรสภาพเป็นกรงเล็บมังกรอีกครั้ง เขาตะปบกรงเล็บเข้าใส่จางเซวียน
“เอ๊ะ? คุณคืออสูรสวรรค์สร้างที่แปลงร่างได้หรือ?” จางเซวียนขมวดคิ้ว
เพราะการดวลครั้งนี้เป็นแค่การดวลทั่วๆไป จางเซวียนจึงไม่คิดจะใช้ดวงตาหยั่งรู้กับหอสมุดเทียบฟ้า เลยเพิ่งรู้เดี๋ยวนั้นว่าตัวตนที่แท้จริงของคู่ต่อสู้ของเขาคืออสูรสวรรค์สร้าง
“ก็แล้วไง? คุณจะร้องขอความเมตตาตอนนี้ก็สายไปแล้วล่ะ!”
อ้าวหัวคำรามก้องและตวัดกรงเล็บเข้าใส่หัวไหล่ของจางเซวียน ซึ่งจางเซวียนก็ทำแบบเดิม เขาไม่คิดจะหลบ
เสียงกระดูกแหลกละเอียดดังก้อง จางเซวียนมองหัวไหล่ของเขา เห็นเสื้อคลุมฉีกขาดจนเห็นผิวหนัง มีปื้นยาวสีขาวปรากฏ ซึ่งอีกนิดเดียวก็ดูเหมือนเลือดจะออก
“เยี่ยมเลย!” จางเซวียนอุทานอย่างตื่นเต้น
แต่ทันทีที่พูดจบ ปื้นสีขาวก็หายวับไป ราวกับไม่เคยอยู่ตรงนั้นมาก่อน
ดูเหมือนความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายของเขาจะทรงพลังมาก ปื้นสีขาวนั่นไม่ลึกพอที่จะคงสภาพอยู่ได้แม้เสี้ยววินาที เขาจึงไม่มีโอกาสทดสอบประสิทธิภาพของเส้นสายสีทอง
จางเซวียนเงยหน้าอย่างร้อนใจและเร่งอ้าวหัว “การโจมตีครั้งก่อนน่ะ คุณทำได้ดีมาก มาเถอะ ลองอีกที ผมจะยืนนิ่งๆและปล่อยให้คุณเล่นงานผม ถ้าผมหลบล่ะก็ ปรับแพ้ได้เลย!”
“อ๊ากกกก! ฉันจะฆ่าแก!”
อ้าวหัวกุมศีรษะเหมือนคนบ้า
จางเซวียนถูกตะปบครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งอ้าวหัวก็ปล่อยพละกำลังเต็มพิกัดทุกครั้ง เสื้อผ้าของเขาขาดวิ่นไม่มีชิ้นดี ปื้นสีขาวหลายปื้นปรากฏบนผิว แต่เลือดก็ไม่ออก แถมปื้นเหล่านั้นยังหายไปทันทีหลังจากปรากฏได้เพียงครู่เดียว ราวกับอ้าวหัวช่วยเกาให้
ครู่ต่อมา อ้าวหัวก็ถอดใจด้วยความสิ้นหวัง เขามองร่างกายที่ไร้รอยขีดข่วนของจางเซวียนก่อนจะสำรวจกรงเล็บของตัวเอง จากนั้นก็ร้องโหยหวน
ร่างของอีกฝ่ายเหมือนหินผาที่ไม่อาจสร้างรอยขีดข่วนได้ไม่ว่าเขาจะออกแรงแค่ไหน
การตะปบซ้ำๆทำให้เล็บของเขาฉีก แถมเกล็ดก็หลุดออกมา ราวกับเขาคือผู้ถูกทำร้ายเสียเอง
ขณะที่อ้าวหัวเงยหน้ามองชายหนุ่มอีกครั้ง อีกฝ่ายก็ดูจะตื่นเต้นหนักกว่าเดิม “เร็วเข้า เอาอีกที คุณแค่ต้องออกแรงเพิ่มสักหน่อย รู้หรือเปล่าว่าเกือบทำให้ผมเลือดไหลได้แล้ว!”
อ้าวหัวถึงกับเซ คุณดูไม่ออกหรือไงว่าผมพยายามจะฆ่าคุณ? ช่วยหยุดแนะนำผมสักที ทำอย่างกับเรากำลังจีบกันอย่างนั้นแหละ!
มังกรก็มีศักดิ์ศรีนะ!
คราวนี้คุณทำให้ผมโมโหจริงๆแล้ว!
อ้าวหัวคำรามก้องเสียจนทั้งสังเวียนประลองสั่นสะท้าน เสื้อผ้าของเขาฉีกขาดขณะกลายสภาพเป็นมังกรตัวมหึมาที่มีความยาวหลายร้อยเมตร เขาขดตัวอยู่กลางอากาศเหนือตำหนักบาดาล ราวกับเทพเจ้าที่กำลังก้มลงมองพื้นโลก
“เดี๋ยวก่อน คุณคือมังกรสายเลือดบริสุทธิ์หรือ?” จางเซวียนผงะ
พูดกันตามตรง เขานึกว่าอีกฝ่ายเป็นแค่อสูรสวรรค์สร้างธรรมดา จึงแข็งแกร่งกว่านักรบโดยทั่วไปอยู่สักหน่อย ไม่เคยคิดสักนิดว่าหมอนี่คือสมาชิกของเผ่าพันธุ์มังกร!
เขาเคยได้ยินเรื่องเผ่าพันธุ์มังกรตั้งแต่สมัยที่ยังอยู่ในทวีปแห่งปรมาจารย์ แต่เผ่าพันธุ์มังกรส่วนใหญ่ที่เขาได้พบก็เป็นแค่สายเลือดรุ่นหลังซึ่งไม่ได้มีสายเลือดบริสุทธิ์ แม้แต่ในมิติเบื้องบน ก็เจอแค่เผ่าพันธุ์เสมือนมังกรเท่านั้น
ในเมื่อหมอนี่กลายร่างเป็นอสูรทรงพลังได้ ก็ชัดเจนว่าเขาคือมังกรสายเลือดบริสุทธิ์
“ก็ใช่น่ะสิ! ทีนี้เข้าใจหรือยังว่าคุณทำอะไรลงไป? คุณเหยียดหยามมังกรสายเลือดบริสุทธิ์ เตรียมตัวเผชิญกับความโกรธเกรี้ยวของเผ่าพันธุ์มังกรได้เลย!” อ้าวหัวตวาดก้องขณะพ่นเปลวไฟออกมาปกคลุมท้องฟ้าเหนือตำหนักบาดาล
เปลวเพลิงลามไปทั่วห้องอย่างรวดเร็วจนทุกคนทำอะไรไม่ถูก
“พวกเราจบเห่แน่…”
เสิ่นถูเฟิงกับคนอื่นๆหน้าซีดด้วยความพรั่นพรึง
ลมหายใจมังกรคือการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดที่เผ่าพันธุ์มังกรใช้ มีอานุภาพรุนแรงกว่ากรงเล็บเสียอีก ลมหายใจมังกรของมังกรเลือดบริสุทธิ์ที่มีวรยุทธระดับเทพเจ้าสวรรค์สร้างขั้นสูงตัวหนึ่งรุนแรงพอที่จะเอาชนะได้แม้แต่ราชันย์เทพเจ้า!
จางเซวียนทำเกินไปแล้วที่เย้ยหยันอ้าวหัวแบบนี้
เขาควรจะรู้จักยับยั้งชั่งใจบ้าง แต่กลับยั่วโมโหอ้าวหัวจนอีกฝ่ายเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงและใช้ไม้ตายขั้นสูงสุด แล้วพวกเขาจะรับมือกับความรุนแรงระดับนี้ได้อย่างไร?
ต่อให้นักรบระดับเทพเจ้าสวรรค์สร้างที่แข็งแกร่งที่สุดก็ไม่อาจต้านทานพละกำลังระดับนี้ได้
“นายน้อยจาง?” ฉีหลิงเอ๋อพึมพำอย่างหวาดหวั่น
ยังไม่ทันที่เธอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จางเซวียนก็ตั้งต้นต่อสู้กับชายที่อยู่บนสังเวียนเสียแล้ว ตอนแรกเธอก็ออกจะหวั่นใจ แต่เมื่อเห็นจางเซวียนถือไพ่เหนือกว่า ก็ตัดสินใจปล่อยให้เป็นไปตามนั้น
แต่ทันทีที่ชายเสื้อคลุมขาวกลายร่างเป็นมังกร เธอก็รู้เลยว่าทุกคนคงจบเห่
มังกรสายเลือดบริสุทธิ์คือสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก และอ้าวหัวคือมังกรสายเลือดบริสุทธิ์ผู้รั้งอันดับ 9 ในเผ่าพันธุ์ของเขา เป็นคู่ต่อสู้ที่น่าสะพรึงมาก
ทุกคนตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก แต่จางเซวียนไม่ได้แสดงความวิตกแม้แต่น้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับนักรบที่แข็งแกร่งระดับนี้ เขากลับลูบคางอย่างครุ่นคิดขณะเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา
ว่ากันว่าแปดโน้ตมังกรสวรรค์มีอานุภาพต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่มีสายเลือดมังกร เราสงสัยว่ามันจะใช้ได้ผลกับมังกรสายเลือดบริสุทธิ์หรือเปล่า…แต่นั่นแหละ ก็ต้องลองดูสักหน่อย คงไม่เสียเวลาเท่าไหร่…
เมื่อคิดได้ จางเซวียนเงยหน้า และ…
“มู! มู!”
พลั่ก!
มังกรตัวมหึมากลางอากาศที่กำลังพ่นลมหายใจฟืดฟาดเพื่อสังหารทุกคนดูเหมือนจะถูกกระแทกด้วยอะไรสักอย่าง มันหน้าซีดเผือดขณะร่วงลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง ร่างยาวเฟื้อยบิดไปมาไม่หยุด
อ้าวหัวดูเหมือนกิ้งก่าที่ถูกไฟช็อต
“ฮะ?”
บริเวณนั้นเงียบกริบ
เสิ่นถูเฟิง ฉีเยว่ และคนอื่นๆตกตะลึงจนพูดไม่ออก หลายคนทึ้งผมออกมาทั้งกระจุกโดยไม่รู้ตัว
ไม่น่าแปลกใจที่ทุกคนออกอาการแบบนั้น
กิ้งก่าตัวใหญ่ที่ชักดิ้นชักงออยู่กับพื้นคือผู้รั้งอันดับ 9 ของการจัดอันดับศักยภาพราชันย์เทพเจ้าแห่งน่านฟ้ามังกรเมฆ ซึ่งแม้แต่ผู้รั้งอันดับ 1 อย่างเสิ่นถูเฟิงก็เทียบชั้นไม่ได้
พวกเขาคิดว่าคราวนี้น่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อนคงถูกเหยียดหยามยับเยิน กลายเป็นตัวตลกของทั้ง 9 น่านฟ้า ใครจะคิดว่าผู้ช่วยชีวิตจะปรากฏตัวในเวลานี้?
ไม่เพียงแต่เขาจะใช้พละกำลังของกายเนื้อปราบอ้าวหัวได้ ยังส่งเสียงคำรามจนทำให้อีกฝ่ายชักดิ้นชักงอทั้งที่กลายร่างเป็นมังกรแล้ว!
เขาทำได้อย่างไร?
“มันคือแปดโน้ตมังกรสวรรค์…”
“ผมเข้าใจว่ามังกรสายเลือดบริสุทธิ์ทุกตัวเปล่งเสียงนั้นได้ แต่ทำไมอ้าวหัวถึงชักกระตุกแบบนี้?”
“คุณพูดถูกที่ว่ามังกรสายเลือดบริสุทธิ์ทุกตัวเปล่งเสียงแปดโน้ตมังกรสวรรค์ได้ แต่ดูเหมือนภาษาที่ใช้จะมีหลายระดับขั้น เรื่องนี้มีตำนาน แต่ผมก็ไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร…”
“ตำนาน?”
“ว่ากันว่าเมื่อนานมาแล้ว ตอนที่สวรรค์กับโลกเพิ่งแยกออกจากกันและโลกกำลังปั่นป่วนอย่างหนัก ดินแดนทางทิศตะวันออกสั่นสะเทือนเพราะแรงดึงดูดจากดวงอาทิตย์ที่ขึ้นทางทิศตะวันออก ในตอนนั้น จอมราชันย์มังกรเมฆปรากฏตัวและตรึงดินแดนดังกล่าวให้หยุดนิ่งอยู่กับที่ เขาพินิจพิจารณาสภาวะของโลกและสร้างแปดโน้ตมังกรสวรรค์ขึ้นมา มังกรสายเลือดบริสุทธิ์ทุกตัวสามารถเปล่งเสียงตัวโน้ตทั้งแปดได้ แต่ประสิทธิภาพของเสียงเหล่านั้นขึ้นอยู่กับความกลมกลืนระหว่างตัวโน้ตกับธรรมชาติซึ่งเป็นผลมาจากระดับความบริสุทธิ์ของสายเลือด”
“จอมราชันย์มังกรเมฆไม่เหมือนกับจอมราชันย์ปีศาจเฉียนคุ่นที่ดำเนินชีวิตโดยไร้ความปรารถนาใดๆ เป็นที่รู้กันว่าเขามีทายาทมากมาย มีลูกชายทั้งหมด 9 คน ซึ่งนั่นคือที่มาของคำว่า ‘บุตรทั้ง 9 ของมังกร’…”
“ใช่ หลายปีที่ผ่านมานี้ ครอบครัวของเขาขยายกิ่งก้านสาขาออกไปอีกหลายชั่วคน แม้ทายาทรุ่นปัจจุบันจะยังถือว่าเป็นมังกรสายเลือดบริสุทธิ์ แต่สายเลือดของพวกเขาก็เบาบางจนแทบไม่น่าเชื่อ ด้วยเหตุนี้ หากพวกเขาเผชิญหน้ากับมังกรสายเลือดบริสุทธิ์ที่มีความบริสุทธิ์ของสายเลือดมากกว่า และผู้นั้นเปล่งเสียงแปดโน้ตมังกรสวรรค์ ก็จะรู้สึกถึงความคับข้องภายในอันเป็นผลจากระดับความเข้มข้นของสายเลือดที่แตกต่างกัน…”
“ผมเข้าใจแล้ว หมายความว่าชายหนุ่มคนนั้นคือผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งของเผ่าพันธุ์มังกรเช่นกัน และน่าจะมีสายเลือดที่บริสุทธิ์กว่าอ้าวหัวใช่ไหม?”
เสิ่นถูเฟิงกับคนอื่นๆที่ยังนอนแผ่เริ่มกระซิบกระซาบกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ส่วนฉีเยว่กับฉีหลิงเอ๋อก็จ้องมองภาพตรงหน้าด้วยนัยน์ตาเบิกโพลง ทั้งคู่อดสงสัยไม่ได้ว่ากำลังฝันไปหรือเปล่า
บรรพบุรุษเก่าแก่บอกไว้ว่าเขาคือเทพเจ้าแห่งจิตวิญญาณไม่ใช่หรือ? ทำไมจู่ๆถึงไปเกี่ยวข้องกับน่านฟ้าแห่งมังกรเมฆ?
เขามีกี่ตัวตนกันแน่?
เป็นไปได้ไหมที่ใครสักคนซึ่งครอบครองสายเลือดจอมราชันย์จะเปลี่ยนแปลงสภาวะโดยธรรมชาติของสายเลือดของเขาได้อย่างฉับพลัน?
ดูๆไปก็ยิ่งเหลวไหลขึ้นทุกที!