อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2342 ฉันเข้าใจแล้ว…
เห็นปรมาจารย์ขงตัดสินใจแน่วแน่แล้ว จางเซวียนหันไปมองหลัวลั่วชิง เห็นเธอพยักหน้า
ในเมื่อเป็นแบบนั้น เขาก็ไม่มีข้อคัดค้าน “เอาเถอะ ทำตามนั้นเลย”
ทุกคนรีบทรุดตัวลงนั่ง
ฟิ้วววววว!
ไม่ช้า กระแสพลังงาน 2 สายก็ไหลเข้าสู่ร่างของจางเซวียน
พลังงานนั้นทำให้ร่างของเขาแข็งทื่อ ในตอนนั้น จางเซวียนรู้สึกราวกับเขาได้กลายร่างเป็นผู้ควบคุมสรวงสวรรค์ ผงาดเหนือชั้นกว่าทั้ง 9 น่านฟ้า
ไม่ว่าจะเป็นจิตวิญญาณ กายเนื้อ หรือพลังปราณของเขาก็ล้วนได้รับการชำระล้างและขัดเกลาจนหมดจด พวกมันทั้งแข็งแกร่งและทรงพลังกว่าเดิม
…..
“พวกคุณคิดจะยับยั้งผมเหมือนกันอย่างนั้นสิ? ได้! งั้นผมจะจัดการพวกคุณก่อนแล้วค่อยเล่นงานจางเซวียน…” ไอ้โหดคำรามขณะสอยหลัวฉีฉี ตัวโคลน และคนอื่นกระเด็นไป
การผนึกกำลังกันของพวกเขาถือว่าแข็งแกร่งไร้เทียมทาน แต่ก็ยังสู้ไอ้โหดไม่ได้
ทะเลท่วมท้นกลืนกินพลังจิตวิญญาณที่มีอยู่ในสรวงสวรรค์ไปหมดแล้ว เหลือแต่พลังจิตวิญญาณในเมืองใหญ่ๆ ซึ่งตอนนี้ กลุ่มก้อนของพลังนั้นก็อยู่ภายใต้การควบคุมของไอ้โหด ทำให้ตัวมันมีพละกำลังทำลายล้างรุนแรงถึงขนาดเล่นงานทุกอย่างที่ขวางทางได้
แม้จอมราชันย์และราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติเหล่านี้จะถือเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่ก็อับจนหนทางเมื่ออยู่ต่อหน้าไอ้โหด
ไอ้โหดในเวลานี้เหมือนทรราชย์แห่งสรวงสวรรค์ที่ไม่มีใครกำราบได้ ไม่อาจยับยั้งมันได้เลย
“ถ้าสรวงสวรรค์ล่มสลาย พวกเราจะอยู่ต่อไปเพื่ออะไร ผม, จอมราชันย์มังกรเมฆ จะสู้กับคุณจนหมดลมหายใจเฮือกสุดท้าย!”
จอมราชันย์มังกรเมฆกลายร่างกลับสู่สภาพเดิม คือราชามังกรทอง 5 กรงเล็บ เขาพุ่งเข้าใส่ไอ้โหด
“แกน่ะหรือ? แกมันไม่คู่ควรหรอก!”
ไอ้โหดโบกมือ จากนั้นก็คว้าร่างของราชามังกรทอง 5 กรงเล็บไว้แน่น ไม่ว่าอีกฝ่ายจะดิ้นรนขัดขืนแค่ไหนก็ไม่อาจหลุดรอดจากเงื้อมมือของไอ้โหดได้
“สหาย รอผมด้วย!” จอมราชันย์ฟู่เหมิงคำรามก้องขณะเปลี่ยนร่างเป็นเสือขาวแล้วตรงเข้าเล่นงานไอ้โหด
จอมราชันย์อมตะเปลี่ยนร่างเป็นนกฟีนิกซ์ไฟอมตะ จากนั้นก็โผขึ้นสู่กลางอากาศ
จอมราชันย์นรกโลกันต์เปลี่ยนร่างเป็นเต่าตัวมหึมา ทุกย่างก้าวของมันทำให้พื้นดินสะท้านสะเทือน
4 อสูรผู้อารักขา 4 ทิศของสรวงสวรรค์ เมื่อพวกเขาคืนร่างเดิม การพังทลายของสรวงสวรรค์ก็เริ่มชะลอตัว
ดูเหมือน 4 เสาหลักที่ทำหน้าที่ค้ำจุนสรวงสวรรค์จะกลับมาแล้ว
พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!
แต่ด้วยการปล่อยพลังจากฝ่ามือติดกันถึง 4 ครั้ง ไอ้โหดก็เล่นงานทั้ง 4 อสูรได้อย่างง่ายดาย เจตนาสังหารเปล่งประกายอยู่ในดวงตาของมันขณะประกาศก้อง “ในเมื่อพวกแกรนหาที่ตายนัก ฉันก็จะช่วยให้แกสมความปรารถนา!”
ไอ้โหดตวาดกร้าว มันกำลังจะสังหารจอมราชันย์ทั้งหมด ก็พอดีกับที่รู้สึกว่ามือของตัวเองแข็งทื่ออยู่กลางอากาศ
“แกถามฉันหรือยังว่าจะอนุญาตให้ฆ่าพวกเขาไหม?”
ร่างหนึ่งย่างสามขุมออกมาจากเส้นขอบฟ้า ต่อหน้าต่อตาทุกคนที่ยังตกตะลึง
จางเซวียน!
ตอนนี้ชายหนุ่มแข็งแกร่งกว่าตอนที่เพิ่งได้เป็นจอมราชันย์อย่างน้อยก็ 10 เท่า พละกำลังแผ่ซ่านออกจากร่างของเขา กลายเป็นคนละคนที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงนับตั้งแต่กลับจากน่านฟ้าเสรี
“ดูเหมือนแกจะก้าวหน้าไปมากนะ” ไอ้โหดค่อยๆชักมือกลับขณะหรี่ตาประเมินจางเซวียน
เห็นได้ชัดว่ามันตกตะลึงกับการที่จางเซวียนก้าวหน้าได้ขนาดนี้ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที
“แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ต่อให้แกแข็งแกร่งกว่าเดิม ก็แล้วอย่างไร? ขนาดสรวงสวรรค์ก็ยังยับยั้งฉันไม่ได้ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าแกจะมีปัญญา!”
ไอ้โหดคำราม มันเงื้อมือขึ้น ตั้งใจจะปล่อยพลังออกมาเล่นงานจางเซวียน ซึ่งจางเซวียนก็ชักดาบออกมาตอบโต้
ทั้งคู่เริ่มปะทะกัน คลื่นความสั่นสะเทือนอันทรงพลังระเบิดออกไปทุกหนแห่ง รอยแยกแห่งมิติปรากฏทั่วบริเวณนั้น
…..
ณ ที่พำนักของปรมาจารย์ขงในน่านฟ้าเสรี หลัวลั่วชิงเปรยอย่างเป็นห่วง “จางเซวียนจะเอาชนะเขาได้ไหม?”
หลังจากที่ตัวเธอกับปรมาจารย์ขงถ่ายทอดอำนาจทั้งหมดที่มีให้จางเซวียน วรยุทธของทั้งคู่ก็ร่วงลงไปเป็นระดับราชันย์เทพเจ้า ทำให้อันตรายเกินกว่าที่จะกลับสู่สนามรบ
แต่ประสบการณ์ต่างๆของพวกเขายังคงอยู่ ขอแค่ได้ซึมซับพลังงานมากพอ ไม่ช้าก็จะฟื้นคืนวรยุทธระดับเดิมกลับมาได้
ปรมาจารย์ขงครุ่นคิดครู่หนึ่ง “แม้ด้วยพละกำลังที่จางเซวียนมีอยู่ตอนนี้ การจะเอาชนะก็ยังเป็นเรื่องยาก เว้นเสียแต่…เขาจะสามารถทำความเข้าใจอำนาจที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าจอมราชันย์ได้”
ไอ้โหดคือคู่ต่อสู้ที่พวกเขาไม่อาจปราบได้แม้เมื่อผนึกกำลังกันแล้ว ถึงตอนนี้พวกเขาจะถ่ายทอดอำนาจและพลังทั้งหมดที่มีให้จางเซวียน ก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดีว่าจางเซวียนจะเอาชนะหมอนั่นได้
เหตุผลเดียวที่ปรมาจารย์ขงกับหลัวลั่วชิงทำแบบนี้ก็เพื่อให้จางเซวียนได้เข้าถึงอำนาจของจอมราชันย์ ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น โอกาสในการก้าวข้ามขีดจำกัดของจอมราชันย์และขีดจำกัดของตัวเขาเองก็จะเปิดกว้าง
“ทำความเข้าใจอำนาจที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าจอมราชันย์?” หลัวลั่วชิงพึมพำ
ตอนที่ท่านพ่อของเธอยังมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ก็เคยพูดไว้แบบนี้ แต่ต่อให้เธอเพียรพยายามแค่ไหนก็ไม่อาจก้าวข้ามขีดจำกัดนั้นได้ แล้วชายที่เธอรักจะทำสำเร็จได้จริงหรือ?
“เชื่อใจเขาเถอะ เขาทำได้แน่ ชีวิตจิตใจของเขามีไว้เพื่อโลกใบนี้ ซึ่งหัวใจที่กล้าแกร่งไม่หวั่นไหวจะช่วยให้เขาทำสำเร็จ” ปรมาจารย์ขงตอบพร้อมกับหัวเราะหึๆ
…..
พลั่ก! พลั่ก! ตุ้บ!
หลังจากปะทะกันไป 2-3 กระบวนท่า เลือดก็ไหลอาบนิ้วของจางเซวียน ที่หน้าอกมีบาดแผลขนาดใหญ่
เป็นอย่างที่ปรมาจารย์ขงพูดไว้ แม้จางเซวียนจะมีสรวงสวรรค์ที่ครบถ้วนสมบูรณ์อยู่กับตัวหลังจากได้รับอำนาจและพละกำลังของพวกเขา แต่ก็ยังเทียบชั้นกับไอ้โหดไม่ได้อยู่ดี
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันน่ะอยากรู้แทบตายว่าแกจะเก่งกาจแค่ไหน แต่จนแล้วจนรอด ก็ได้แค่นี้เอง” ไอ้โหดเยาะเย้ย
จางเซวียนถอยหลังไป 2-3 ก้าว เขาอ้าปากหอบหายใจขณะมองหน้าไอ้โหด “ถึงอย่างไรฉันก็สู้แกไม่ได้อยู่แล้ว ทำไมถึงไม่สงเคราะห์ฉันสักหน่อย? ฉันอยากเห็นกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดที่แกมี”
“ในที่สุด แกก็ยอมรับโชคชะตาแล้วใช่ไหม? ก็ได้ ฉันจะช่วยให้แกสมปรารถนา!”
ไอ้โหดคำราม จากนั้นก็ค่อยๆเงื้อมือ แสงสีเขียวแผ่ซ่านออกมาโอบล้อมมือนั้น
บึ้มมมม!
ไอ้โหดปล่อยพลังหนักหน่วงออกมา
พลังมหาศาลของการโจมตีทำให้ทั้งสรวงสวรรค์แทบจะกรีดร้องเพราะความรุนแรงที่เกินรับไหว เกิดหลุมยุบขนาดใหญ่ที่พื้น
จางเซวียนหลับตาขณะเผชิญหน้ากับการโจมตีนั้น ราวกับใครสักคนที่พร้อมศิโรราบแก่โชคชะตา
โพละ!
ศีรษะของเขาระเบิด จิตวิญญาณสูญสลายไป กลายเป็นความว่างเปล่า
“จางเซวียน!”
เห็นภาพนั้น ทุกคนหน้าซีด
หลัวฉีฉีถอยกรูดขณะมองภาพที่อยู่ตรงหน้าอย่างพรั่นพรึง เธอใกล้จะเสียสติเต็มที
จอมราชันย์มังกรเมฆกับคนอื่นๆหรี่ตาด้วยความไม่อยากเชื่อ
แม้ปรมาจารย์ขงกับหลัวลั่วชิงก็จังงังกับภาพนั้น
ทั้งคู่มอบพละกำลังและอำนาจที่มีให้จางเซวียนไปหมดแล้วเพื่อให้อีกฝ่ายฝ่าด่านวรยุทธไปถึงขั้นที่เหนือกว่าจอมราชันย์ได้ แล้วทำไมเขาจึงถอดใจทั้งที่ยังไม่ทันจะได้ตอบโต้?
แล้วพวกเขาจะเสียสละขนาดนั้นไปเพื่ออะไร?
“ไม่หรอก มันไม่ใช่…นั่นคือแก่นสารอมตะของจอมราชันย์อมตะ!” ปรมาจารย์ขงโพล่งออกมา
หลัวลั่วชิงรีบพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เธอเห็นจี้สีแดงก่ำที่ห้อยอยู่รอบลำคอของจางเซวียนมาตลอดแตกหักเสียหาย ทำให้หยดเลือดลอยขึ้นสู่กลางอากาศ
หยดเลือดระเบิดเป็นเปลวไฟและลุกลามกลายเป็นทะเลเพลิง ท่ามกลางทะเลเพลิงนั้น ร่างหนึ่งที่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเดินออกมาอย่างสุขุม
หลัวลั่วชิงตาโตด้วยความอัศจรรย์ใจ “เขา…ใช้พลังของไอ้โหดและเลือดในจี้เพื่อตัดมลทินสวรรค์ออกจากจิตวิญญาณ”
จางเซวียนที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ไม่เหมือนจางเซวียนคนเดิม ไม่มีหอสมุดเทียบฟ้าอีกต่อไป เขาเป็นอิสระจากการก้าวก่ายของสรวงสวรรค์ และในที่สุดก็เข้าถึงระดับที่เหนือกว่าสวรรค์ได้สำเร็จ
“เขาทำได้อย่างไรกัน?” ปรมาจารย์ขงชะงัก
จิตวิญญาณของพวกเขาเกี่ยวพันร้อยรัดอย่างล้ำลึกกับสรวงสวรรค์จนถึงขนาดที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งเดียวกัน นั่นคือเหตุผลที่ปรมาจารย์ขงต้องเฉือนจิตวิญญาณของเขาออกเป็น 3 ส่วนกว่าจะปลดเปลื้องตัวเองให้เป็นอิสระจากพันธนาการของลิขิตสวรรค์ได้
แต่ชายหนุ่มปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากสรวงสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย เขาใช้วิธีไหน?
“ฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจแล้ว…” หลัวลั่วชิงพยักหน้า “เขาใช้วิธีการเดียวกันกับที่ไอ้โหดใช้ปลดเปลื้องตัวมันให้เป็นอิสระจากพันธนาการของการทำสัญญาผูกมัดจิตวิญญาณ!”
สัญญาผูกมัดจิตวิญญาณคือสัญญาที่เหนี่ยวรั้งจิตวิญญาณของผู้หนึ่งเอาไว้ หากเจ้านายไม่ปลดเปลื้องพันธนาการนั้นให้ ชีวิตของผู้รับใช้ก็จะตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้านายไปจนชั่วชีวิต
นั่นคือความสัมพันธ์แบบเดียวกันกับความสัมพันธ์ระหว่างจางเซวียนกับหอสมุดเทียบฟ้า
อันที่จริง หากจะพูดให้เจาะจง มันแข็งแกร่งกว่าการทำสัญญาผูกมัดจิตวิญญาณด้วยซ้ำ เพราะเป็นสิ่งที่จะยังคงผูกพันอยู่แม้หลังความตาย นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ปรมาจารย์ขงต้องใช้วิธีการพิเศษเพื่อปลดเปลื้องพันธนาการให้ตัวเอง
ไอ้โหดอธิบายให้จางเซวียนฟังว่าพลังงานชั่วร้ายมีอานุภาพปลดปล่อยใครคนหนึ่งให้เป็นอิสระจากการทำสัญญาผูกมัดจิตวิญญาณ ซึ่งในตอนนั้น จางเซวียนก็คิดแผนการได้
นั่นคือเหตุผลที่เขาพยายามโน้มน้าวไอ้โหดให้โจมตีเขาด้วยกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุด เพราะหากเขาได้สัมผัสพลังชั่วร้ายที่อยู่ในการโจมตีนั้น ก็จะปลดเปลื้องพันธนาการของหอสมุดเทียบฟ้าออกจากจิตวิญญาณของเขาได้สำเร็จ
ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามแผน
…..
“เรารู้แล้ว นี่คือวิธีก้าวเข้าสู่ระดับที่เหนือกว่าจอมราชันย์…”
จางเซวียนที่ฟื้นคืนชีพเดินออกมาจากเปลวเพลิง เขายิ้มน้อยๆ ดูจะเข้าอกเข้าใจอะไรบางอย่างจากความตายที่เพิ่งผ่านไป
เขาโบกมือเรียกตัวโคลนเข้ามา จากนั้นตัวโคลนก็กลายร่างเป็นดอกบัว
ในชั่วพริบตานั้น ทุกคนพลันรู้สึกราวกับจางเซวียนกลายเป็น 9 น่านฟ้า และ 9 น่านฟ้าก็กลายเป็นตัวเขา
ด้วยการกระทืบเท้าเพียงครั้งเดียว ความมั่นคงก็กลับคืนสู่ 9 น่านฟ้าที่เคยปั่นป่วน
ดอกบัวทองคำดึกดำบรรพ์แห่ง 9 น่านฟ้าถือกำเนิดมาพร้อมกับอานุภาพในการรักษาความมั่นคงให้กับโลก ซึ่งการเชื่อมต่อระหว่างเขากับตัวโคลนก็ทำให้จางเซวียนใช้อำนาจนั้นได้
ไม่เพียงเท่านั้น หลังจากซึมซับวรยุทธของดอกบัวทองคำดึกดำบรรพ์แห่ง 9 น่านฟ้า จางเซวียนรู้สึกได้ว่าด่านคอขวดที่เขาต้องเผชิญหลังจากได้รับการถ่ายทอดพละกำลังจากปรมาจารย์ขงและหลัวลั่วชิงมีประสิทธิภาพลดลงไปเล็กน้อย
ยังมีระดับขั้นที่สูงกว่านี้ที่เขาจะต้องคว้ามาให้ได้