Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ - ตอนที่ 1216
จะให้ข้าขำหรือทำโง่ดี??
เย่ว์หยางไปพบเทวีเสรีภาพอิงหลัวและพบว่านางผิดปกติไปเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้นางจะต่อต้านเขา
แม้ว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน หญิงงามอู๋เหินและเย่ว์หวี่จะพยายามเกลี้ยกล่อมนาง แต่นางก็ไม่หวั่นไหวจนกระทั่งสาวน้อยสองคนอี้หนานและเย่ว์ปิงไม่รู้ใช้วิธีการใดกลับโน้มน้าวใจนางได้ จากนั้นเย่ว์หยางมีสัมพันธ์กับนางที่ไม่ดี และด้วยเวลาที่ไม่เพียงพอจึงไม่ได้ผสานร่างเทพธิดาให้กับนาง แต่เนื่องจากการรู้แจ้งขอบเขตใหม่ของเขา ตอนนี้เย่ว์หยางไปหานางอีกครั้งและคิดว่าทุกอย่างจะง่ายขึ้น เพราะนาง เพราะนางเคยเห็นด้วยมาก่อน
คาดไม่ถึงว่าเทวีเสรีภาพอิงหลัวจะปฏิเสธ
“ทำไม?” เย่ว์หยางพูดไม่ออก
“ไม่บอกเหตุผลได้ไหม?” เทวีเสรีภาพอิงหลัวดูเหมือนไม่เต็มใจจะบอกความจริงกับเย่ว์หยาง สีหน้าของนางแปลกไปเล็กน้อย
“ไม่ ถ้าข้าไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมแล้ว กลับไปข้าคงนอนไม่หลับ พอนอนไม่หลับก็หายใจไม่ออก หัวใจคงระเบิด กายระเบิด ระเบิดทุกอย่าง!” เย่ว์หยางทำอะไรไม่ถูก และบอกชัดเจนว่าเขาจะต่อรวมประสานร่างให้นาง ในเวลานั้นเขาต้องการจะยืมร่างนางสร้างเทพ แม้ว่าความคิดนี้จะไร้เดียงสาไปเล็กน้อย แต่ความจริงเขาใส่ใจนาง
“เจ้ามักจะก้าวร้าวเสียมารยาทอยู่เรื่อย” เทวีเสรีภาพอิงหลัวไม่ต้องการสบตาเย่ว์หยาง
“อะไรนะ? ถ้าข้าก้าวร้าวจริงๆ ข้าคงไม่พูดเสียงอ่อนอย่างนี้แน่ ข้า…” เย่ว์หยางแทบจะเป็นบ้า
“เหตุผลที่ข้าปฏิเสธเพราะในสายตาเจ้ามีประกายบางอย่างทำให้ข้ากระสับกระส่าย” เทวีเสรีภาพอิงหลัวกัดริมฝีปากนาง จากนั้นนางให้คำตอบเบาๆ
“ประกายตาหรือ?” เย่ว์หยางรีบส่องกระจกดูเงาหน้าตนเอง ก็พบว่ายังดูเหมือนมนุษย์ ไม่ได้กลายเป็นมนุษย์หมาป่าในคืนพระจันทร์เต็มดวง
“ไม่ ไม่ใช่ประกายอย่างนั้น…” เทวีเสรีภาพอิงหลัวโบกมือและอธิบายอย่างไม่เกรงใจ “อย่างไรก็ตามข้ารู้สึกอึดอัด อึดอัดจนยากจะอธิบาย ข้าไม่สามารถแสดงออกมาได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามมันเป็นความรู้สึกที่พิเศษมาก ข้าไม่รู้จะทำอย่างไร ขอให้ข้าสงบใจสักครู่”
“เจ้ากลัวหรือ? เจ้ากลัวข้าใช่ไหม?” เย่ว์หยางแปลกใจว่านางมองเห็นเขาเป็นเสือใหญ่กินคน?
“…..” เทวีเสรีอิงหลัวส่ายศีรษะ
“ไม่เชื่อใจกันหรือ?” เย่ว์หยางตกใจ หมดกัน เขากลายเป็นวายร้ายในสายตานางไปแล้ว
“…….” อย่างไรก็ตาม เทวีเสรีภาพอิงหลัวยังคงส่ายหน้า
“เรื่องความปลอดภัยใช่ไหม?” เย่ว์หยางเดาไม่ถูก เดาความคิดของอิสตรีไม่ต่างกับงมเข็มในมหาสมุทร ใครจะเดาได้ถูก
“….” เทวีเสรีภาพแสดงมารยาทต่อเย่ว์หยางอย่างงดงาม “ข้าสัญญากับน้องอี้หนานและน้องเย่ว์ปิงไว้ อิงหลัวรักษาสัญญาแน่ ตอนนี้อิงหลัวอารมณ์สับสนวุ่นวายยากจะร่วมมือได้จริง ค่อยมาครั้งต่อไปได้ไหม?”
ความหมายของนางคือนางจะไม่กลับคำแน่นอน นางจะให้ความร่วมือกับเย่ว์หยางเพื่อรวมกับร่างเทพพร้อมกับเย่ว์หยางแน่นอน
อย่างไรก็ตามนางไม่พูดถึงสาเหตุที่นางปฏิเสธเย่ว์หยางเวลานี้
เป็นความรู้สึกที่งุนงงสับสน
ไม่ต้องพูดถึงเย่ว์หยาง
แม้ว่าเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าการกระทำที่แปลกประหลาดนี้คงทำให้เกิดอาการงุนงงเวียนศีรษะเป็นแน่
เย่ว์หยางจำต้องออกมา และเมื่อเขาออกมาที่ประตู จู่ๆ เขาหันกลับทันที เขาทำเหมือนมนุษย์หมาป่าในคืนพระจันทร์เต็มดวงจ้องมองอิงหลัวที่มาส่งเขาที่ประตู ความเคลื่อนไหวฉับพลันนี้ทำให้เทวีเสรีภาพอิงหลัวตกใจผงะ และประหลาดใจว่าเขาต้องการพูดอะไร
ใครจะรู้เย่ว์หยางไม่ได้พูดอะไรและหันหน้าจากไป
ขณะที่เทวีเสรีภาพใช้มือทาบอกประกายตามีความสุข เขาวิ่งกลับมาอีกครั้งมองตานางด้วยความประหลาดใจ
“เจ้า, เจ้ามีปัญหาอะไร?” เทวีเสรีภาพอิงหลัวทำให้เขาสับสน ไม่สามารถพูดอะไรได้ เขาหันกลับมามองสองครั้ง นั่นหมายความว่ายังไง?
“เมื่อครู่นี้ ท่านให้ข้าเดาไม่ใช่หรือ? ให้ข้าคาดเดาว่าหมายถึงอะไร และมันทำให้ท่านรู้สึกไม่สบายใจ ดังนั้นท่านจึงรู้สึกถึงอารมณ์ของข้า!” เย่ว์หยางมองดูเทวีเสรีภาพ เขารู้สึกอารมณ์ดีและหัวเราะขึ้นทันที
“…..” เทวีเสรีภาพพูดไม่ออก เจ้าผู้นี้ยังทำตัวเป็นเด็กอีกหรือนี่?
“ไปก็ได้” เย่ว์หยางออกไปตามธรรมดา เขาเตรียมจะเดินออกไป
“รอเดี๋ยว” อิงหลัวตะโกนเรียกให้เขาหยุด “รอบตัวเจ้าไม่เคยขาดแคลนหญิงงาม พวกเจ้าพูดคุยหัวเราะหยอกเย้ามีความสุขกันทุกวัน ทำไมต้องมาสนใจข้าอิงหลัวด้วย? ข้าอิงหลัวเป็นเช่นนี้เสมอมา ไม่จำเป็นต้องมาสมเพช เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้าเลยทำไมเจ้าต้องมาพูดใส่ความคิดข้าอิงหลัวด้วย? เจ้าเคยคิดถึงความรู้สึกของข้าบ้างไหม?”
“หา…” ครั้งนี้เป็นเย่ว์หยางที่พูดไม่ออก เพราะเขาไม่เคยคิดเรื่องนี้
เขามักรู้สึกเสมอว่าเขามีเจตนาดี
ให้ผสานร่างเทพกับร่างเทวีเสรีภาพอิงหลัวเพื่อให้นางกลับเป็นสตรีที่สมบูรณ์อีกครั้ง จะได้ไม่จำเป็นต้องสนับสนุนช่วงชีวิตที่เหลือของนางต่อไป
แม้ว่าความตั้งใจเช่นนี้จะถูกต้อง แต่เย่ว์หยางไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของอิงหลัว เขาคิดเอาเองตามสัญชาตญาณว่า เนื่องจากว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดี ทำไมนางถึงไม่เต็มใจยอมรับ นอกจากนี้เขาไม่สนใจนาง เขาแค่เพียงช่วยเหลือคนอื่น เป็นการยากที่จะทำเรื่องดีๆ ถ้าหญิงสาวนางนี้ไม่ยอมรับความช่วยเหลือ นั่นอาจเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแดนสวรรค์ได้
เทวีเสรีภาพเข้ามาใกล้ นางจ้องมองเด็กหนุ่มข้ามโลก ปากของนางจากที่เคยพูดอ่อนโยน นางตะโกนลั่น “เจ้ามักจะทำเช่นนี้เสมอ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ข้าน่ะหรือ? ทำไมเจ้าถึงไม่ถามข้าก่อน?”
เย่ว์หยางเอนร่างถอยหลังและปาดเหงื่อด้วยความรู้สึกผิด “ข้าไม่ได้ถามหรือ? อาจจะถามก็ได้ ข้าให้ทุกคนถามท่าน”
อิงหลัวเพ่งจนตาแทบติดชิดกับเย่ว์หยางจมูกทั้งสองชนกัน ริมฝีปากห่างไม่ถึงสองนิ้ว “ใช่เจ้าให้คนอื่นถามข้า แล้วเจ้าเล่า? เจ้ามาถามข้าด้วยตนเองหรือไม่? เจ้าให้ทุกคนรู้เรื่องเกี่ยวกับข้า บอกเรื่องข้ากับทุกคนว่าเจ้ากับข้าได้ทำความตกลงกันอย่างครอบคลุม แต่เจ้าก็ไม่ได้มาพูดคุยกับข้าอิงหลัวตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบ นี่คือสิ่งที่ข้ารู้สึกไม่สบายใจ เจ้าได้ตัดสินใจแทนข้าทุกอย่าง แม้ว่าข้าจะรู้ว่าเจ้ามีความตั้งใจที่ดียอดเยี่ยมและใช้ตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่เจ้าไม่รู้ เจ้าไม่พยายามทำความเข้าใจข้าอิงหลัว ข้าหวังอยู่อย่างเดียวว่าสักวันหนึ่งเจ้าจะสามารถจัดการชีวิตของเจ้าด้วยตัวเองได้! ก่อนหน้านี้ข้าอิงหลัวทำงานหนักเพื่อความสุขของคนอื่นมาตลอดชีวิต จนกระทั่งเจ้าพูดว่าทุกอย่างที่ข้าทำไม่มีอะไรนอกจากความสุขที่ข้าต้องการ นั่นไม่ใช่ความสุขที่ทุกคนได้รับจริงๆ เจ้าบอกให้ข้าปลดปล่อยตัวเอง ปล่อยให้ผู้คนในโลกนี้ได้ทำงานด้วยตนเองเพื่อหาความสุขของเขา และให้ข้าอิงหลัวใช้ชีวิตอย่างอิสระ….. เจ้าบอกข้าโดยทำนองนี้ แต่เจ้ากลับไม่ทำ หรือว่าเจ้าไม่ให้โอกาสข้า! เจ้าคงไม่รู้สินะว่านี่เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่สุดสำหรับข้าอิงหลัว เจ้ายินดีจะทำทุกอย่างให้สำเร็จเพื่อข้า แต่กลับไม่พยายามเข้าใจว่าสิ่งนี้ทำให้ข้าต้องสูญเสียศรัทธาดั้งเดิมไป ทั้งสูญเสียความฝันไปโดยไม่รู้ตัว”
“ข้าไม่รู้” เย่ว์หยางปาดเหงื่อ “ความรู้สึกที่ท่านมีต่อข้ามักจะมั่นคงมากกว่าเจตจำนงราชันย์ของข้า ข้าจึงไม่รู้ว่าท่านพูดอะไร”
“เจ้าไม่ต้องการเข้าใจรับรู้” เทวีเสรีภาพอิงหลัวจ้องมองเย่ว์หยาง “เจ้าเชื่อแต่สาวๆ ที่เจ้าพามาจากหอทงเทียน”
“ไม่” เย่ว์หยางรีบป้องกันตัวเอง “ไม่มีเรื่องเช่นนั้นแน่นอน”
“เจ้า..โก..หก!” ตาของอิงหลัวดูเหมือนจะมองผ่านหัวใจคนได้ และเห็นว่าเย่ว์หยางมีเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก
“บางทีดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น แต่ความจริงเจ้าเป็นแค่ภาพลวงตา” เย่ว์หยางพยายามยกตัวอย่างหมิงเยี่ยกวง แต่แม่สาวผู้นั้นก็ไว้ใจยากเช่นกัน หลังจากคลุกคลีกันมานาน จนกระทั่งนางกลายเป็นเทพ นางจึงเปิดความในใจที่แท้จริงของนาง อีกตัวอย่างคือชิงผิงสาวเผ่ามนุษย์มัจฉาเผ่าต้องสาบผู้ทรยศหอทงเทียน ถ้าไม่ใช่เพราะในช่วงสุดท้ายนางยอมสละร่างกายและชีวิต เป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับความเชื่อใจจากเขาและตอนนี้นางนอนรักษาตัวฟื้นฟูร่างกายอยู่ในหอยมุกของไห่หลาน! อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือไป่ลู่ เจ้าแคว้นมรกตเดิมทีนางใช้ตัวเองเป็นหมากหนึ่ง แต่ต่อมานางยอมตัวแต่งงานทางการเมือง แน่นอนว่านั่นเป็นเหตุการณ์หลังมีสัมพันธ์กับนางและลี่เยี่ยนที่เปลี่ยนร่างเป็นสองพี่น้องฝาแฝด
คิดจนจบ
เย่ว์หยางคิดถึงเรื่องเหล่านี้จริงจัง
คนที่เขาไว้วางใจมากที่สุดยังคงเป็นสาวๆ จากหอทงเทียน พวกนางถ้าไม่ใช่คนรักของเขาก็เป็นญาติพี่น้อง ความสัมพันธ์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่แรก เห็นพวกนางเติบโตอย่างปิงเอ๋อ และอี้หนาน พวกนางอยู่ใกล้เคียงเขามาตลอดตั้งแต่แรกที่เผชิญกับศัตรูอย่างสือจินโหว อย่างไรก็ตามเสวี่ยอู๋เสียได้ต่อสู้ร่วมกับเขาในทุกการต่อสู้ ในการต่อสู้แต่ละครั้งมีองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน สาวงามโล่วฮัว จุ้ยมาวอี้แต่ละครั้งจะมีพวกนางร่วมต่อสู้ด้วย
ในแดนสวรรค์เขาต้องระมัดระวังทุกอย่างตามสัญชาตญาณไม่เหมือนกับหอทงเทียน
ไม่ว่ามองผิวเผินจะดูดีเพียงไร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงข้อนี้ได้
แม้ว่าเขาจะจริงใจต่อแดนสวรรค์ แต่ก็มิอาจเทียบได้กับหอทงเทียน อย่าว่าแต่เย่คง เจ้าอ้วนไห่และเสวี่ยทันหลางที่จะต้องเติบโตต่อสู้ด้วยกัน
เย่ว์หยางยิ่งคิดก็ยิ่งหลั่งเหงื่อเยียบเย็น
ในที่สุดก็ไม่มีทาง
ไม่มีทางใช้เล่ห์กล!
เด็กหนุ่มจากโลกอื่นจูบเทวีเสรีภาพอิงหลัวอย่างดุเดือดทันที ในขณะที่นางตกใจ เขาฉวยโอกาสจูบนางจนนางแทบหายใจไม่ทัน ก่อนที่เขาจะปล่อยให้นางได้หายใจ ดวงตาของเขาจ้องมองนาง เขาพูดเสียงดังมากกว่านางถึงสิบเท่า “ใช่แล้ว, ข้าเป็นคนแบบนี้! ท่านพูดไม่ผิด ข้าจัดการทุกอย่างให้ท่าน รวมทั้งชีวิตในโลกคัมภีร์ รวมทั้งการหลอมรวมกับร่างเทพธิดา ข้าแค่อยากจะทำ อยากจะทำแค่นี้เท่านั้น ทำไมน่ะหรือ? ทำไมท่านถึงต้องทราบเหตุผลให้ได้? ดีเหมือนกัน ข้าจะบอกท่าน ฟังให้ดี ข้ารังเกียจที่จะเห็นท่านดูสูงส่ง ศักดิ์สิทธิ์และดูใจดี ข้าไม่ได้มีความสุขกับความเดียวดายของท่าน ไม่ได้มีความสุขกับชีวิตที่ไม่แยแสอะไรของท่าน ข้าไม่ได้มีความสุขกับสิ่งที่ท่านมี ท่านทำให้ข้ารู้สึกละอายใจ ทำให้ข้ารู้สึกต่ำต้อย ด้วยการมีอยู่ของท่านได้เพิ่มความเห็นแก่ตัวข้าถึงสิบล้านเท่า แค่ปล่อยให้จิตสำนึกที่ไม่มีอยู่ของข้า ปล่อยจิตสำนึกของข้าให้จมดิ่งและรู้สึกทรมานอย่างรุนแรง ทำให้ข้ารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก ข้าต้องหาเหตุผลมาเป็นหมื่นๆ เพื่อเอามาอธิบายว่าข้าถูก แต่ท่านตีตกเหตุผลเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย! ข้าไม่ต้องการ และไม่สามารถเป็นคนดีได้ แต่ด้วยการมีอยู่ของเทวีเสรีภาพทำให้ข้าดูแย่! สำหรับคนอย่างท่าน ข้าคิดว่าผิด มันผิดปกติ ที่สตรีผู้ไม่มีร่างกาย ไม่มีแม้กระทั่งอารมณ์และความต้องการ ดังนั้นข้าต้องการเปลี่ยนแปลงท่าน ให้ท่านเป็นสตรีที่แท้จริง ทำให้ท่านเห็นแก่ตัวและพยายามอย่างหนักเพื่อความสุขของท่าน ข้าต้องการทำให้ท่านเป็นสตรีที่แท้จริง ปล่อยให้ความรู้สึกความต้องการของสตรีได้แผดเผาทรมานกายและใจของท่าน จากนั้นข้าจะได้รับการปลอบประโลม เพื่อให้ข้าได้บรรลุเป้าหมายของข้า เพื่อให้ข้าได้นอนหลับเป็นสุขและฝันสบาย! ตอนนี้ท่านยังมีคำถามอีกหรือไม่? ข้าแค่อยากจะทำสิ่งนี้ ทำให้ท่านเป็นสตรีที่แท้จริง ให้ท่านยอมจำนนต่อความต้องการของข้า ปล่อยให้โลกของท่านที่ไม่มีความสุขไม่มีตัวตน และอิสรภาพให้เป็นของคนอื่นต่อไป และทุกอย่างจะกลายเป็นความรักของท่านทีละน้อย จะทำให้ท่านไม่มีเวลาคิดว่าความสุขที่แท้จริงคืออะไร ท่านต้องทำโง่กับชีวิตของข้าเข้าใจไหม?”
เทวีเสรีภาพอิงหลัวตาโตมองดูเย่ว์หยาง นางรู้สึกเหมือนเห็นคนบ้า
เช่นเดียวกับเย่ว์หยางที่เปิดเผยหัวใจ แผนการที่นำเสนออย่างสมบูรณ์
นางหัวเราะทันที
ใบหน้าที่สูงส่งน่าเลื่อมใสมีความยินดีและอ่อนหวาน นางถามเย่ว์หยางที่ทำให้เขาต้องตกใจตะลึง “จะให้ข้าขำหรือทำโง่ดี?”