Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ - ตอนที่ 134 โฮสต์ที่อุตสาหะ
ลู่โจวเดินไปที่หน้าจอข้อมูลกึ่งโปร่งใสแล้วกดไปที่แผงภารกิจ
[เริ่มภารกิจรางวัล (ยกเลิกได้ตลอดเวลาโดยไม่เสียแต้มทั่วไป)]
[คำอธิบาย: เมื่อได้เห็นความอุตสาหะของโฮสต์ ระบบจะมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้ท่าน!]
[สิ่งที่ต้องทำ: อ่านหนังสือในลิสต์ให้จบ (0/15) อ่านวรรณกรรมในลิสต์ให้จบ (0/50) ทำการทดลองทำสำเร็จ (0/1)]
[รางวัล: แต้มประสบการณ์ฟิสิกส์ 8000 แต้ม แต้มประสบการณ์ชีวเคมี: 4000 แต้ม เศษซาก]
ลู่โจว “???”
ของขวัญชิ้นใหญ่คืออะไร?
แล้วไอ้เศษซากนี่คืออะไร?
ระบบไม่ตอบเขาหรือมอบคำอธิบายอะไรให้เขาด้วยซ้ำ
ลู่โจวเดาว่าเศษซากนี่คงเป็นเหมือน’ตัวอย่าง’ แต่มันชำรุดงั้นเหรอ? บางทีเขาอาจซ่อมมันแล้วเอามาใช้ประโยชน์ได้
ลู่โจวสับสนเล็กน้อย
สิ่งที่เขาอยากได้มาตลอดก็คือของจำพวกยานอวกาศ แต่คราวนี้เขาหวังว่าเศษซากนี้จะไม่ใช่ยานอวกาศที่ชำรุด นอกจากกลายเป็นข่าวใหญ่โตแล้ว เขาคงใช้ทำอะไรไม่ได้ เขาไม่รู้วิธีซ่อมยานอวกาศหรอกนะ…
ลู่โจวมองดูแผงหน้าต่างคุณสมบัติ
ตอนนี้เขามีแต้มประสบการณ์ฟิสิกส์ห้าพันหนึ่งร้อยแต้ม ดังนั้นได้เพิ่มมาอีกแปดพันแต้มก็พอทำให้เขาเพิ่มระดับแล้ว ไม่ว่ายังไงเขาก็กำลังเรียนฟิสิกส์เอาปริญญาใบที่สอง ดังนั้นมันจึงมาได้เหมาะมาก
ส่วนแต้มประสบการณ์ชีวเคมีสี่พันแต้ม มันก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
ก่อนออกจากมิติของระบบ ลู่โจวก็มองดูลิสต์หนังสือ ในลิสต์ส่วนใหญ่เป็นหนังสือฟิสิกส์ มีหนังสือที่เกี่ยวข้องกับชีวเคมีเพียงไม่กี่เล่ม
ลู่โจวมองการทดลองคร่าวๆเช่นกัน มันเกี่ยวกับ’การสังเกตแบบเรียลไทม์ของการก่อรูปเดนไดรต์ของลิเธียมในขั้วไฟฟ้าของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน’ นอกจากนี้มันยังมีคำอธิบายการทดลองและข้อมูลการทดลองที่จำเป็นต้องรวบรวม
ลู่โจวหยิบแผ่นกระดาษออกมาจากลิ้นชักแล้วคัดลอกลิสต์หนังสือลงไป จากนั้นเขาก็ทำเครื่องหมายไว้ข้างรายชื่อหนังสือ ‘The Coming of Materials Science’
หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนโดยศาสตราจารย์โรเบิร์ต ดับเบิลยู คานน์ สมาชิกราชสมาคมและเป็นนักวิชาการต่างชาติของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีน นอกจากนี้เขายังเป็นบุคคลสำคัญในสาขาวัสดุศาสตร์ ส่วนที่น่าสนใจที่สุดของหนังสือเล่มนี้ก็คือมันมีปัญหาวิจัยวัสดุศาสตร์สำคัญๆแทบจะทั้งหมด
ลู่โจวอยากอ่านหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่ตอนที่เขาอยู่ทีมวิจัยของศาสตราจารย์หลี่แล้ว แต่เขาไม่มีเวลา
อย่างไรก็ตามตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่เขาจะอ่านมัน!
ลู่โจวสะพายกระเป๋า จากนั้นก็ออกจากหอพักแล้วไปห้องสมุด
เมื่อเดินมาถึงห้องสมุด เขาก็หาหนังสือ ‘The Coming of Materials Science’ อย่างรวดเร็ว
ลู่โจวยืมหนังสือแล้วกำลังเตรียมอ่านหนังสือ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีสายจากศาสตราจารย์ถัง
ถ้าไม่ใช่เพราะศาสตราจารย์ถัง เขาคงลืมไปแล้วว่าทำไมเขาถึงกลับมาจินหลิงล่วงหน้า
…
ณ ตึกวิจัย ออฟฟิศของศาสตราจารย์ถัง
นักศึกษาปริญญาโทสองคนไม่อยู่ ดังนั้นจึงเหลือศาสตราจารย์อาวุโสอยู่คนเดียวในออฟฟิศ
โต๊ะทำงานในออฟฟิศสะอาดมาก
มีกระติกสุญญากาศและกองเอกสารอยู่บนโต๊ะ
“…อาจารย์มีเอกสารสองสามฉบับอยู่ตรงนี้ เอากลับไปอ่านดูแล้วกรอกเอกสาร” ศาสตราจารย์ถังกล่าว เขาหยิบเอกสารแล้ววางในมือลู่โจวก่อนจะกล่าวต่อ “พิจารณาโอกาสนี้ให้ดี”
“ขอบคุณครับศาสตราจารย์” ลู่โจวกล่าวและรับเอกสาร
ศาสตราจารย์ถังพยักหน้า จากนั้นเขาก็สังเกตหนังสือในกระเป๋าลู่โจวแล้วถาม “หนังสือฟิสิกส์?”
ลู่โจวพยักหน้าแล้วกล่าว “ครับ ผมเตรียมเอาฟิสิกส์เป็นปริญญาคู่”
ศาสตราจารย์ถังพลันนึกเรื่องบางอย่างได้ “อาจารย์เกือบลืมไปเลย ตอนประชุมสิ้นปี ทีมผู้นำมหาวิทยาลัยได้พูดถึงการจบการศึกษาของเธอ”
ลู่โจว “จบการศึกษา?”
ศาสตราจารย์ถังพยักหน้าแล้วกล่าว “ใช่ เพื่อให้เธอเริ่มทำวิจัยเร็วขึ้น มหาวิทยาลัยจินหลิงจึงตัดสินใจออกใบรับรองวุฒิปริญญาตรีให้ล่วงหน้า เธอจะลงทะเบียนเป็นนักศึกษาปริญญาโท และจะได้เข้าร่วมโปรแกรมฝึกอบรมระดับปริญญาเอกที่พรินซ์ตัน…”
ลู่โจวอึ้ง “โปรแกรมฝึกอบรม? ปริญญาโทกับปริญญาเอกเวลาเดียวกัน?”
“ไม่ใช่เวลาเดียวกัน” ศาสตราจารย์ถังกล่าวและส่ายหน้าไปพร้อมกัน จากนั้นก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “พูดง่ายๆ เธอจะใช้เวลาหนึ่งถึงสองปีในจีนเพื่อรับปริญญาโท จากนั้นเธอจะถูกส่งไปเรียนปริญญาเอกที่พรินซ์ตัน มหาวิทยาลัยจินหลิงจะมอบใบรับรองวุฒิปริญญาเอกให้เธอ แต่มันไม่ใช่ใบรับรองปริญญาโท นี่เป็นแผนที่มหาวิทยาลัยจัดให้เธอ ถ้าเธอทำได้เร็ว เธอจะได้ปริญญาเอกภายในสามปี และปริญญาเอกจะถูกออกให้ทั้งมหาวิทยาลัยจินหลิงและพรินซ์ตัน”
โปรแกรมพัฒนาอัจฉริยะนี้ถูกจัดทำเพื่อลู่โจวโดยเฉพาะ ไม่มีใครได้รับการดูแลเป็นพิเศษแบบนี้อีกแล้ว
อย่างไรก็ตามศาสตราจารย์ถังไม่ได้พูดเรื่องมหาวิทยาลัยจินหลิงได้ตัดสินใจเสนอปริญญาให้ลู่โจวตั้งแต่ปีก่อนแล้ว อย่างไรก็ตามเนื่องจากอายุของเขา แผนนี้จึงถูกพับเก็บไว้
ในปีนี้เนื่องจากข้อเสนอแนะของศาสตราจารย์หวังอี้ผิง โปรแกรมนี้จึงได้รับไฟเขียว
ข้อเสนอแนะของนักวิชาการมีพลังอันยิ่งใหญ่
ศาสตราจารย์หวังอี้ผิงอยากย้ายลู่โจวไปเป็นศิษย์ของตนที่มหาวิทยาลัยเยี่ยน ดังนั้นศาสตราจารย์ถังกับเพื่อนร่วมงานจึงคิดแผนโน้มน้าวให้ลู่โจวเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยจินหลิง
พรินซ์ตันก็สนใจลู่โจวเช่นกัน
ลู่โจวถาม “แต่ผมยังไม่จบตรีด้วยซ้ำ มันไม่เป็นไรเหรอ?”
ศาสตราจารย์ถังตอบ “อาจารย์ใหญ่สวี่เขียนเรื่องของเธอให้กระทรวงศึกษาธิการด้วยตัวเองเลย มันคงไม่เป็นไร”
เอิ่ม…
ดูเหมือนเรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหาต่อพวกเขา
ลู่โจวตระหนักว่าความกังวลของเขานั้นไม่จำเป็นเลย เขาจึงยิ้มอย่างเก้อเขิน
ศาสตราจารย์ถังกล่าวต่อ “ตอนแรกอาจารย์ตั้งใจจะบอกเธอในอีกสองวัน แต่อาจารย์ได้ยินว่าเธอวางแผนเอาปริญญาตรีคู่ อาจารย์จึงบอกเธอตอนนี้ ไปเอาปริญญาเอกสองใบแทนเถอะ!”
พูดตามตรงเขาไม่เห็นด้วยกับปริญญาตรีฟิสิกส์เลย แต่เขาไม่รู้จะพูดอะไรและทำยังไงกับเด็กคนนี้ดี
เขาคิดว่าเด็กคนนี้มีพรสวรรค์ในด้านการวิเคราะห์เชิงฟังก์ชันและคณิตศาสตร์ประยุกต์ ดังนั้นเขาจึงแนะนำอย่างยิ่งให้เด็กคนนี้พัฒนาในด้านฟิสิกส์เชิงคณิตศาสตร์โดยตรง อย่างไรก็ตามลู่โจวได้เผยให้เป็นพรสวรรค์ด้านทฤษฎีจำนวนเช่นกัน
เด็กคนนี้แก้ข้อคาดการณ์จำนวนเฉพาะคู่แฝดได้ แม้ว่าวิทยานิพนธ์ของเขาจะยังไม่ได้ตีพิมพ์ แต่มันก็ได้รับการรับประกันแล้ว
ถ้าลู่โจวขอให้เขาแนะนำ เขาคงไม่เห็นด้วยที่จะให้เด็กคนนี้กระโดดลงไปในหลุมลึกของฟิสิกส์ เขาจะแนะนำให้เดินไปตามทางทฤษฎีจำนวนต่อไป
อย่างไรก็ตามลู่โจวไม่ได้ถาม
ดังนั้นศาสตราจารย์ถังจึงพูดอะไรไม่ได้
ศาสตราจารย์ถังคิด ‘ช่างมันเถอะ!’
……………………………………..