Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ - ราชันเร้นลับ 1243 : ซับซ้อนแต่ไม่วุ่นวาย
ลึกเข้าไปในแนวเทือกเขา ภายในปราสาทเก่าแก่หลังหนึ่ง
หมาป่าอสูรทมิฬโคทาร์รีบตัดการเชื่อมต่อทุกชนิดทันทีที่กลับถึงโลกความจริง เตรียมละทิ้งสถานที่แห่งนี้และย้ายไปอยู่ที่อื่น
แม้จะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ถ้ามีความผิดปรกติปรากฏ ประสบการณ์อันยาวนานได้เตือนมันว่าไม่ควรเสี่ยง สิ่งที่ต้องทำมีเพียงการรีบหนีโดยไม่หันหลังกลับมามอง!
ขณะเดียวกัน ทันทีที่สติถูกถ่ายทอดมายังไคลน์ผู้ซ่อนตัวในเมืองเก่า ร่างกายชายหนุ่มพลันอันตรธานหายและโผล่ขึ้นภายในวังโบราณเหนือสายหมอกในพริบตา ผสานเข้ากับร่างมนุษย์สีแดงเข้มอันพร่ามัวบนเก้าอี้ตำแหน่งเดอะฟูล
ท่ามกลางมิติลึกลับแห่งนี้ ดาวแดงตัวแทนสมาชิกชุมนุมทาโรต์อย่างแฮงแมน จัสติส และคนที่เหลือต่างกำลังยุบพองพลางแผ่คลื่นแสงที่คล้ายน้ำกระเพื่อมออกมาซ้อนทับกันตลอดเวลา
นี่คือหนึ่งสิ่งที่ไคลน์เตรียมการล่วงหน้า เกอร์มัน·สแปร์โรว์อาศัยเหตุผลมากมายเพื่อทำให้สมาชิกทุกคนสวดวิงวอนคำตอบถึงเดอะฟูล
ผลลัพธ์ทำให้บรรดาดาวแดงก่อหวอดสร้างความวุ่นวาย ปราสาทต้นกำเนิดจึงต้องอัญเชิญเดอะฟูลกลับมาสะสางปัญหา
สิ่งนี้เคยเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ไคลน์หลุดพ้นจากสถานการณ์ยากลำบากที่เกิดจากฝีมืออามุนด์ เป็นวิธีที่ช่วยให้สามารถส่งจิตขึ้นมายังปราสาทต้นกำเนิดได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการเดินถอยหลังสี่ก้าวและท่องคาถา
ความแตกต่างเพียงเสี้ยววินาทีสามารถกำหนดผลแพ้ชนะได้ในศึกระหว่างครึ่งเทพ ไคลน์ซึ่งวางแผนจะสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองย่อมต้องเก็บรายละเอียดทุกเม็ด!
เมื่อกลับมานั่งบนเก้าอี้เดอะฟูล ไคลน์เสกคทาเทพสมุทรและไม้เท้าดวงดาวพลางสำรวจความเปลี่ยนแปลงภายในปราสาทต้นกำเนิด
เหนือสายหมอกสีเทายังคงมีอีกหนึ่งจุดแสงสีแดงที่กำลังหดตัวอย่างรวดเร็วและใกล้จะหายไปอีกในไม่ช้า และด้านข้างเก้าอี้เดอะฟูลก็มีคลื่นแสงกำลังกระเพื่อมคล้ายกับอุโมงค์บริสุทธิ์
ภายในจุดแสงสีแดงมีร่างอันเลือนรางของหมาป่าอสูรทมิฬฉายอยู่ เป็นผลพวงจากการที่โคทาร์พยายามจ้องมองปราสาทต้นกำเนิดโดยตรง ตัวมันที่พยายามทำความเข้าใจสถานการณ์กลับถูกบุกรุกเสียเองโดยไม่รู้ตัว เกิดเป็นการเชื่อมต่อเบื้องต้นกับปราสาทต้นกำเนิด แต่แน่นอน เทวทูตและเทพแห่งความปรารถนาจากยุคสมัยที่สองอย่างมันย่อมมีพลังเพียงพอที่จะตัดขาดการเชื่อมต่อโดยสมบูรณ์ หากไคลน์รีบไม่ลงมือกระทำสิ่งใดภายในสองสามวินาทีถัดไป มันจะสูญเสียการเชื่อมต่อกับหมาป่าอสูรทมิฬไปตลอดกาล
ด้านข้างเก้าอี้เดอะฟูล ภาพในจุดแสงปริศนาไม่ใช่ใครนอกจาก ‘เกอร์มัน·สแปร์โรว์’ ที่แต่งกายด้วยหมวกผ้าไหมทรงกึ่งสูงและเสื้อกันลมสีดำตัวยาว ดวงตาข้างขวาสวมแว่นขาเดียว
อามุนด์!
ไม่มีใครทราบว่าผู้เย้ยเทพรายนี้ใช้ช่องโหว่ใดในการชะลอการสลายตัวของภาพฉายที่ไคลน์ยกเลิกไปแล้ว จากนั้นมันอาศัยการเชื่อมต่อระหว่างภาพฉายกับไคลน์ร่างต้นและปราสาทต้นกำเนิดเป็นบันไดในการพยายามบุกรุกมิติเหนือสายหมอกจนเกิดเป็นจุดแสงกระเพื่อม!
เมื่อแสงสว่างขยายขนาด ฝ่ามือที่เรียวยาวและทรงพลังของเกอร์มัน·สแปร์โรว์เริ่มทะลวงผ่านแนวป้องกันเข้ามาในวังโบราณสำเร็จ จากนั้นมันไขว่คว้าบางสิ่งคล้ายกับพยายามเปิดประตูที่มองไม่เห็น
แม้ไคลน์จะเตรียมใจไว้หลายส่วนและทราบดีว่าการไปแหย่อามุนด์คงลงเอยไม่ราบรื่นนัก แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกคันไปถึงหนังศีรษะเมื่อได้เห็นฉากตรงหน้า เกรงว่าในอีกหนึ่งวินาทีถัดมา ตัวมันจะนำแว่นตาขาเดียวขึ้นมาสวมที่ตาขวาจริงๆ
ชายหนุ่มต้องรีบแก้ไขสถานการณ์ภายในไม่กี่วินาทีข้างหน้า ไม่อย่างนั้นอาจต้องมานั่งถกเถียงกันว่าปัจจุบันใครคือเจ้าของปราสาทต้นกำเนิด
ไคลน์ไม่ลังเลอีกต่อไป หนอนวิญญาณโปร่งใสผุดขึ้นบนผิวหนังในสภาพดีดดิ้น พวกมันหลั่งไหลมารวมตัวกันและกลายเป็นไคลน์อีกคน
ไคลน์คนใหม่จับคทาเทพสมุทรและเริ่มระดมพลังของปราสาทต้นกำเนิดทันที อัญมณีบนคทากระดูกส่องสว่างพร้อมกับสร้างคลื่นล่องหนซ้อนทับกันหลายชั้น ลูกบอลสายฟ้าที่เกิดจากการบีบอัดเส้นสายฟ้าถูกสร้างขึ้นและส่งเข้าไปในจุดแสงลักษณะคล้ายอุโมงค์
ท่ามกลางเสียงปริแตก ฝ่ามือที่ทะลวงเข้ามาในปราสาทต้นกำเนิดถูกป่นจนระเหยไปในพริบตา
ไม่จบเพียงเท่านั้น ลูกบอลสายฟ้าที่อัดแน่นด้วยออร่าการทำลายล้างถูกส่งมายังโลกความจริงด้านนอก ปะทะเข้ากับร่างของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ที่สวมแว่นตาขาเดียวเข้าอย่างจัง
ภาพฉายที่คงสภาพได้จากการใช้ช่องโหว่ย่อมทรุดลงทันทีที่รับการโจมตีเข้าไป เกอร์มัน·สแปร์โรว์ทำได้เพียงยิ้มอย่างขื่นขมและนึกเสียดายพลางขยับกรอบแว่นขาเดียวขณะร่างกายของมันเริ่มสลายไปเพราะสายฟ้า
ขณะที่หนอนวิญญาณซึ่งถูกแบ่งออกมากำลัง ‘ตอบสนอง’ ต่อคำสวดวิงวอนของอามุนด์ ไคลน์ร่างต้นเสกไม้เท้าดวงดาวออกมาถือ
มันกำไม้เท้าที่เลี่ยมด้วยอัญมณีหลายเม็ดและเล็งสมบัติปิดผนึกระดับ 0 ตรงไปยัง ‘ดาวแดง’ ขนาดเล็กที่กำลังหดตัวลงเรื่อยๆ
ขณะเดียวกัน ฉากหนึ่งผุดขึ้นภายในใจชายหนุ่ม
ทับทิม มรกต ไพลิน ไข่มุก และเพชรบนไม้เท้าดวงดาวทยอยส่องแสงแบบไม่เรียงลำดับ
ก๊อง!
เสียงระฆังที่คล้ายกับดังข้ามเวลามาจากอดีตกาลพลันก้องกังวานท่ามกลางห้วงมิติเหนือสายหมอก คลื่นเสียงสั่นพ้องเข้าไปในดาวแดงที่กำลังหดตัว
ในการมองเห็นของหมาป่าอสูรทมิฬโคทาร์ ความมืดมิดเลือนหายไปพร้อมกับแทนที่ด้วยนาฬิกาหินแขวนผนังขนาดมหึมา
นาฬิกาแขวนเรือนนี้ทั้งเก่าแก่และกระดำกระด่าง หน้าปัดสีเทาอ่อนสลับกับน้ำเงินเข้มถูกแบ่งออกเป็นสิบสองส่วน แต่ละส่วนวาดด้วยสัญลักษณ์ที่แสดงถึงแต่ละช่วงเวลาของวัน
มีเข็มสามเล่มที่คล้ายกับทำจากหนอนกาลเวลายื่นออกจากกึ่งกลางหน้าปัด แต่ละเล่มมีขนาดต่างกัน ประกอบด้วย ‘สั้น’ ‘กลาง’ และ ‘ยาว’ พวกมันอัดแน่นไปด้วยความผันผวนของชีวิต
นี่คือพลังพิเศษของเทวทูตกาลเวลาอามุนด์ ไคลน์จำลองมันขึ้นมาอีกครั้งด้วยพลังของไม้เท้าดวงดาว!
ตามปรกติแล้ว พลังพิเศษในระดับนี้จะมิอาจเข้าใจอย่างถ่องแท้ได้ด้วยการเห็นเพียงหนหรือสองหน เรียกได้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะ ‘บันทึก’ พลังไว้ในความทรงจำ แต่ต้องไม่ลืมว่าไคลน์มิได้ต่อสู้ตามลำพัง
ในช่วงที่ผ่านมา ชายหนุ่มรบกวนให้มิสเมจิกเชี่ยนอัญเชิญภาพฉายที่กรุงเบ็คลันด์บ่อยครั้ง เพื่อจะได้แวะไปหาเดอะสตาร์เลียวนาร์ดและพูดคุยกับพาลีส·โซโรอาสเตอร์โดยตรง ซึมซับความรู้และรายละเอียดเกี่ยวกับพลังดังกล่าวให้ได้มากที่สุด
แม้พาลีสจะถูกลดขั้นเหลือเพียงลำดับ 2 จนไม่สามารถใช้พลังในขอบเขตกาลเวลา แต่ข้อมูลและความรู้ยังคงไม่สูญหายไป
ก๊อง!
บนหน้าปัดนาฬิกาหินแขวนผนัง เข็มวินาทีขยับอย่างกะทันหัน ส่งผลให้ทุกสิ่งรอบตัวหมาป่าอสูรทมิฬเชื่องช้าลงทันที แม้แต่ความมืดโดยรอบก็ดูเหมือนจะถูกแช่แข็ง
ผู้ชี้นำปาฏิหาริย์ที่ใกล้จะตัดขาดการเชื่อมต่อสำเร็จและเตรียมหนีด้วยการขอพร พลันชะงักค้างในตำแหน่งเป็นเวลาชั่วครู่
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ายังมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างพลังต้นฉบับและพลังที่ถูกเลียนแบบโดยไม้เท้าดวงดาว แต่ผลลัพธ์เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับไคลน์
ทันทีที่เห็นว่าหมาป่าอสูรทมิฬถูก ‘นาฬิกาโบราณ’ เล่นงาน ชายหนุ่มรีบทิ้งไม้เท้าดวงดาวและสั่งให้บรรดาหนอนวิญญาณที่แยกตัวออกไปลอยกลับมายังร่างต้น
มันส่งตัวเองกลับมายังเมืองแห่งน้ำมันในช่วงก่อนยุคสมัยที่หนึ่ง จากนั้นก็ส่งตัวเองกลับไปยังดินแดนอันรกร้างว่างเปล่าที่มีเพียงแสงสีเหลืองจากตะเกียง
มือขวาชายหนุ่มเหยียดเข้าไปในอากาศและคว้า ‘ตัวเอง’ ที่กำลังถือไม้เท้าดวงดาวออกมา
ด้วยวิธีนี้ ไคลน์สามารถอัญเชิญภาพฉายของไม้เท้าดวงดาวได้ง่ายดาย แต่นั่นก็จะทำให้ประสิทธิภาพลดลงไปหลายส่วนเนื่องจากสิ่งที่เพิ่งอัญเชิญของมาคือ ‘ภาพฉายของภาพฉาย’ ของสมบัติปิดผนึกระดับ 0 แต่แน่นอน ในสถานการณ์ที่ต้องแข่งกับเวลา ความเร็วและเรียบง่ายคือสิ่งที่จำเป็น
ไคลน์ไม่ได้นำร่างต้นเข้าไปหลบในสายหมอกแห่งประวัติศาสตร์เหมือนเคย แต่ใช้มืออีกข้างจับไหล่ ‘ตัวเอง’ และใช้พลังทำนายฝันเพื่อร่างฉากที่เคยเห็นจากการเชื่อมต่อกับหมาป่าอสูรทมิฬด้วยวิธี ‘กัดกร่อนแบบย้อนกลับ’ :
ภายในปราสาทโบราณอันมืดมิด ภายในโถงที่ปราศจากแสงสว่าง หมาป่าอสูรที่ตัวใหญ่ราวกับภูเขากำลังยืนเด่นสง่า
รายละเอียดของฉากถูกเติมเต็มอย่างรวดเร็วและแม่นยำด้วยพลังทำนายฝัน ไคลน์ปรับแต่งเล็กน้อยให้เหมาะสมกับเป้าหมายที่ยืนตัวแข็งทื่อ
อัญมณีเม็ดหนึ่งบนไม้เท้าสีดำพลันส่องสว่าง
ภายในใจไคลน์ ฉากที่ดูคล้ายภาพเขียนสีน้ำมันขยายขนาดขึ้นจนกระทั่งซ้อนทับกับความจริงในระดับที่แยกไม่ออก
ชายหนุ่มร่อนลงภายในห้องโถงมืดของปราสาทโบราณ เท้าสัมผัสกับพื้นด้านข้างหมาป่าอสูรทมิฬโคทาร์ที่กำลังยืนนิ่งด้วยขาแปดข้าง
ในที่สุดมันก็ได้พบกับเทพแห่งความปรารถนาตัวจริงเสียงจริงที่ดำรงชีวิตมาตั้งแต่ยุคสมัยที่สอง!
โดยปราศจากความลังเล ไคลน์ฉวยโอกาสที่หมาป่าอสูรทมิฬเพิ่งสลัดหลุดจากอิทธิพลของ ‘นาฬิกาโบราณ’ รีบสลายภาพฉายของตัวเองกับไม้เท้าดวงดาวทิ้งและหยิบกล่องบุหรี่โลหะออกจากกระเป๋าเสื้อมาเปิดฝา
ภายในกล่องบุหรี่โลหะมีเหรียญทองของโลเอ็นกำลังนอนแน่นิ่ง บนผิวเหรียญมันวาวสะท้อนภาพไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์ที่แต่งกายในเดรสสีเข้มซับซ้อนและกำลังถือสี่หัวทองตาแดงด้วยมือสองข้าง
นี่คืออีกหนึ่งการเตรียมตัวของไคลน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิธีพกพาหุ่นเชิดพลเรือเอกโลหิตเซนอล ทั้งหมดก็เพื่อพาตัวมิสผู้ส่งสารร่างจริงมายังดินแดนเทพทอดทิ้ง!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์เป็นวิญญาณอาฆาต แถมยังเป็นวิญญาณอาฆาตที่ทรงพลังมาก การสิงลงบนผิวเหรียญมันวาวไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็น นอกจากนั้นเธอยังเป็นสิ่งมีชีวิตโลกวิญญาณที่มีแก่นแท้เป็นร่างวิญญาณ ย่อมสามารถผ่านเข้าออกสายหมอกสีเทาได้เหมือนกับเมื่อครั้งที่จัสติสออเดรย์ส่งร่างวิญญาณลงมายังดินแดนเทพทอดทิ้ง
ด้วยเงื่อนไขดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้ความลับเกี่ยวกับเดอะฟูลและปราสาทต้นกำเนิดรั่วไหล ไคลน์ทำการผนึกกล่องโลหะทันทีที่มิสผู้ส่งสารเข้าไปสิงในเหรียญ จากนั้นก็ประกอบพิธีกรรมสังเวยและรับมอบเพื่อเคลื่อนย้ายเธอมายังดินแดนอันรกร้าง
แต่แน่นอน การจะทำเช่นนี้ได้ไคลน์ต้องมีพลังทัดเทียมเทวทูตลำดับ 2 เสียก่อน เผื่อในกรณีที่ไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์เกิดคิดไม่ซื่อพยายามยึดครองปราสาทต้นกำเนิด มันจะได้แข็งแกร่งพอที่จะต่อกร
สำหรับไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์ เธอมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยเหลือเพราะเกอร์มัน·สแปร์โรว์เพิ่งช่วยให้เธอทวงคืนร่างเนื้อกลับมาส่วนหนึ่ง
ภาพของหญิงสาวที่สิงในเหรียญทองอย่างเงียบงันมานานได้ย้ายไปปรากฏบนกระจกตาของหมาป่าอสูรทมิฬ
วิญญาณอาฆาต สิงร่าง!
………………………………