Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ - ราชันเร้นลับ 516 : การคาดเดาของแฮงแมน
ท่ามกลางความตกตะลึง แฮงแมน·อัลเจอร์ผุดอีกหนึ่งข้อสงสัยในใจ
จริงอยู่ มิสเตอร์ฟูลอาจทำนายเหตุการณ์ความวุ่นวายบนเกาะแบนชีได้ล่วงหน้า แต่ทำไมท่านถึงเจาะจงบอกให้พวกเราทราบว่า เมืองท่าดังกล่าวมีความเกี่ยวพันกับกุหลาบไถ่บาปและราชาเทวทูตเมดีซี?
สิ่งมีความสำคัญอย่างไร?
หรือต้องการส่งต่อข้อมูลผ่านพวกเรา?
ส่งให้ใคร? และเป้าหมายคือสิ่งใด?
หรือท่านกำลังหวังขัดขวางแผนการของราชาเทวทูต? ไม่สิ อาจเป็นแผนการพระผู้สร้างแท้จริงมากกว่า!
มิสเตอร์ฟูลเคยทำลายแผนการของ ‘พระผู้สร้างแท้จริง’ มาแล้วหลายหน และคราวนี้ก็คงไม่มีข้อยกเว้น… ถ้อยคำ ‘กุหลาบไถ่บาป’ ได้ปรากฏบนจิตรกรรมฝาผนังของวิหารพระผู้สร้างแท้จริง โดยองค์กรดังกล่าวถูกก่อตั้งด้วยฝีมือราชาเทวทูต เมดีซีและโอโรเลอุส…
จะเห็นได้ชัดว่า ข้อมูลทั้งหมดพุ่งเป้าไปยังพระผู้สร้างแท้จริงอีกครั้ง…
ขณะเดียวกัน ในเมืองท่าแบนชีมีวิหารเพียงแห่งเดียว นั่นคือวิหารวายุสลาตัน หมายความว่า มิสเตอร์ฟูลต้องการกระจายข่าวผ่านตัวเรา?
แฮงแมน·อัลเจอร์ เริ่มเข้าใจอย่างเลือนราง
ทันใดนั้น มันพบอีกหนึ่งปัญหา
ในคราวก่อน เดอะเวิร์ลเคยเล่าว่า จะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นภายในเมืองหลวง โดยข้อมูลดังกล่าวก็ได้รับการยืนยันจากมิสเตอร์ฟูลทันที และต่อมาไม่นาน เหตุการณ์ใหญ่ได้เกิดขึ้นในกรุงเบ็คลันด์จริง เป็นความพยายามคืนชีพของแม่มดบรรพกาล และความพยายามลงมาจุติของพระผู้สร้างแท้จริง…
มาถึงครั้งนี้ ข้อมูลใหม่จากเดอะเวิร์ลได้รับการยืนยันโดยมิสเตอร์ฟูลอีกครั้ง ท่านยอมเปิดเผยความลับของเมืองบินซี่โบราณ ว่ามีความเกี่ยวพันกับทายาทของกุหลาบไล่บาป และราชาเทวทูต·เมดีซี ต่อหน้าสมาชิกชุมนุมทาโรต์ทุกคน…
เป็นแค่เหตุบังเอิญจริงหรือ?
แต่ไหนแต่ไร ข้อมูลของเดอะเวิร์ลจะกำจัดวงแคบอยู่ภายในกรุงเบ็คลันด์เท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกในการพูดถึงเบาะแสทางทะเล…
ขณะเดียวกัน มิสเตอร์ฟูลเคยกล่าวไว้ในสัปดาห์ก่อนว่า ข้ารับใช้ของท่านต้องเดินทางออกจากเบ็คลันด์เป็นการชั่วคราว…
หมายความว่า เดอะเวิร์ลคือข้ารับใช้ของมิสเตอร์ฟูล?
ไม่สิ เขาอาจเป็นแค่ ‘ตัวแทน’ ของข้ารับใช้หลายๆ คนในการปกครองของมิสเตอร์ฟูล โดยจะคอยรับส่งข้อมูลข่าวสาร รวมถึงการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าภายในชุมนุมทาโรต์แทนข้ารับใช้คนอื่น…
เพราะถึงจะเป็นข้ารับใช้มิสเตอร์ฟูล แต่ก็ยังต้องเลื่อนลำดับและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีข้อยกเว้น สิ่งนี้คงถือเป็นบททดสอบจากมิสเตอร์ฟูลไปในตัว…
เมื่อลองไตร่ตรองดูให้ดี เรื่องนี้มีโอกาสเป็นความจริงค่อนข้างมาก เพราะเหนือสิ่งอื่นใด เดอะเวิร์ลไม่เคยรวบรวมไดอารีจักรพรรดิโรซายล์เพื่อแลกเปลี่ยนกับมิสเตอร์ฟูลเลยสักครั้ง!
ในฐานะข้ารับใช้ เขาคงทำมันอย่างลับๆ โดยไม่มีสิ่งแลกเปลี่ยนอยู่แล้ว…
จากข้อสรุปดังกล่าว ความผิดปรกติต่างๆ เกี่ยวกับเดอะเวิร์ลก่อนหน้านี้ รวมถึงการแสร้งปรึกษามิสเตอร์ฟูลส่วนตัว ทั้งหมดทำไปเพื่อปกปิดตัวตนการเป็นข้ารับใช้ ทฤษฎีนี้นับว่าสอดคล้องกับความรอบรู้และประสบการณ์อันซับซ้อนของเดอะเวิร์ล…
มิสเตอร์ฟูลจัดตั้งชุมนุมทาโรต์ขึ้นเพื่อฟื้นฟูพลังจากผนึกอย่างลับๆ โดยหวังให้พวกเราช่วยแทรกแซงโลกจริงในบางเรื่อง ดังนั้น กลุ่มสมาชิกแต่ละคนจึงประกอบขึ้นจากบุคคลหลากหลายประเภท เช่นขุนนางใหญ่ ผู้วิเศษระดับบิชอปของโบสถ์ ผู้รอดชีวิตจากดินแดนเทพทอดทิ้ง ศิษย์ของตระกูลอับราฮัม และแวมไพร์โตเต็มวัย โดยทุกคนจะเป็นตัวแทนของขั้วอำนาจใหญ่บนโลกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
แฮงแมน·อัลเจอร์กำลังครุ่นคิดในหลายสิ่ง นอกจากมันจะไม่หดหู่กับข้อสันนิษฐานของตัวเองแล้ว ตรงกันข้าม มันกำลังตื่นเต้น เพราะแต่ไหนแต่ไร เนื่องจากยังไม่ทราบเจตนาของเดอะฟูลอย่างแน่ชัด ภายในใจจึงยังมีความหวาดกลัวเจืออยู่บางส่วน แต่เมื่อเริ่มตระหนักถึงจุดประสงค์ของอีกฝ่าย มันก็สามารถหลบเลี่ยงอันตราย ไปพร้อมการกับผลักดันตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
และทุกครั้งเมื่อมิสเตอร์ฟูลต้องการให้พวกเรากระทำบางสิ่ง ท่านจะตอบแทนอย่างสมน้ำสมเนื้อเสมอ… เรากำลังต้องการแบบนั้นพอดี ไม่อย่างนั้น บิชอปต่ำต้อยของโบสถ์คงไม่มีโอกาสฝันถึงครึ่งเทพแน่นอน…
หึหึ! เดอะเวิร์ลเอ๋ย นายต้องคาดไม่ถึงแน่ ว่าฉันค้นพบความลับเข้าแล้ว!
ความตึงเครียดของอัลเจอร์เริ่มคลี่คลาย สมาธิกลับมาจดจ่ออยู่กับเบาะแสของเมืองท่าแบนชีอีกครั้ง
มันไม่สามารถรายงานเบื้องบนลอยๆ ได้ทันที เพราะนั่นจะทำให้ถูกสงสัย อัลเจอร์ต้องอดทนรอโอกาสอย่างใจเย็น เพื่อให้ตนได้รับรางวัลใหญ่และความชื่นชอบจากเบื้องบนอย่างล้นหลามในคราวเดียว โดยไม่ถูกตามตรวจสอบในเชิงลึกภายหลัง
จัสติส·ออเดรย์มองออก แฮงแมนกำลังใช้การสมองอย่างหนัก แต่เธอก็มิอาจทราบได้ว่า อีกฝ่ายไตร่ตรองเรื่องราวจำนวนมากได้ในช่วงเวลาแสนสั้น
จากบอกเล่าของเดอะฟูล ออเดรย์ตื่นเต้นหลังจากได้ทราบว่า องค์กรกุหลาบไถ่บาปถูกก่อตั้งโดยฝีมือราชาเทวทูต และยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับพระผู้สร้างแท้จริง
ขณะเดียวกัน หญิงสาวเริ่มสังเกตเห็นถึงความไม่ปรกติของเดอะเวิร์ล เธอพบว่าสมาชิกชุมนุมผู้อ่านความรู้สึกได้ยากคนนี้ มักเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ใหญ่อยู่เสมอ และมีข้อมูลสำคัญในมือเป็นจำนวนมาก รวมถึงสูตรโอสถและตะกอนพลังอีกหลายชนิด ราวกับว่า สามารถไล่เชือดผู้วิเศษได้สัปดาห์คนละสองคนตามใจชอบ!
เขาไปจากกรุงเบ็คลันด์และเริ่มออกทะเลแล้วหรือ? เราควรแจ้งเบาะแสดังกล่าวให้โบสถ์รัตติกาลทราบดีไหม?
น่าเสียดาย มิสเตอร์แฮงแมนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับโบสถ์วายุสลาตัน เรื่องนี้จึงควรปล่อยให้เขาจัดการมากกว่า…
หญิงสาวบรรเทาความกดดันพร้อมกับซักถามอย่างใครรู้
“ท่านเดอะฟูลผู้ยิ่งใหญ่ ราชาเทวทูตเมดีซีมีสมญานามเป็นเช่นไร เอ่อ หรือดิฉันควรซักถามว่า เมดีซีอยู่บนเส้นทางใด?”
ไคลน์เอนหลังพลางเผยรอยยิ้ม
“นักบวชสีชาด”
นักบวชสีชาด? เส้นทางไหนกัน? ฟังดูคล้ายกับชื่อของ ‘จักรพรรดิมืด’ …
นั่นคือชื่อของลำดับ 0 หรือ?
ออเดรย์ครุ่นคิดตื่นเต้นกึ่งมีความสุข
นักบวชสีชาด… เดอะซัน·เดอร์ริค ทวนคำอย่างเงียบงันและพบว่า ตำนานของเมืองเงินพิสุทธิ์ไม่มีชื่อดังกล่าวบันทึกไว้
อาจเป็นเพราะเรายังศึกษาข้อมูลของเมืองไม่มากพอ และเหนือสิ่งอื่นใด ความรู้ของเราเป็นแค่เรื่องพื้นฐานของเมืองเงินพิสุทธิ์ เกือบทั้งหมดล้วนมีสอนในคาบเรียน…
เด็กหนุ่มครุ่นคิดอย่างนึกเสียดาย
เมจิกเชี่ยน·ฟอร์ส และเดอะมูน·เอ็มลินต่างกำลังคิดแบบเดียวกัน พวกมันรู้สึกราวกับมีใครบางคนนั่งเล่านิทานอันน่าอัศจรรย์ให้ฟัง
ช่างน่าเสียดายนัก เรามิอาจนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช่แต่งนิยายเรื่องใหม่ไม่ได้!
ฟอร์สกัดฟันกรอด
ได้แต่หวังว่ามิสเตอร์แฮงแมนจะรีบรายงานให้โบสถ์วายุสลาตันทราบโดยไม่ทิ้งช่วงนานเกินไปนัก… ด้วยความเยือกเย็นและสติปัญญาของเขา ตอนนี้คงพบความสัมพันธ์ระหว่างเดอะฟูลกับเดอะเวิร์ลแล้ว แต่ไม่มีสิ่งใดต้องกังวล เพราะเราได้เตรียมการให้เชอร์ล็อก·โมเรียตี้รับบทบาทของเดอะเวิร์ลมาตั้งแต่แรก ไม่ว่าแฮงแมนจะหลักแหลมสักเพียงใด ก็ไม่มีทางจินตนาการออกว่า ความจริงแล้วเดอะเวิร์ลเป็นเพียง ‘หุ่นเชิด’ …
เดอะฟูล·ไคลน์ ยกมือสัมผัสคางพลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เชิญต่อ”
เมื่อเห็นว่าเดอะฟูลไม่มีเจตนาพูดถึงประเด็นเดิม เดอะมูน·เอ็มลิน ผู้ปล่อยวางจากตะกอนพลังบารอนผีดูดเลือดมาได้สักระยะ เริ่มกลับมาตระหนักถึงปัญหาใหญ่ในปัจจุบันของตนอีกครั้ง
มันไม่มีเงิน!
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เอ็มลินจะไม่ขายตุ๊กตาเหล่านั้นทิ้งโดยเด็ดขาด แต่จะคอยตักเตือนตัวเองว่า หลังจากนี้จะใช้เงินอย่างประหยัด เงินค่าแต่งตัวให้ตุ๊กตาจะถูกแบ่งมาออมเงินเป็นเวลาครึ่งปีหรือหนึ่งปีเต็ม
ยังมีอีกหนึ่งวิธีในการทำเงิน นั่นคือการขายยาวิเศษสรรพคุณยอดเยี่ยมบางชนิดออกไปสู่คนภายนอก แต่นั่นจะทำให้ตระกูลผีดูดเลือดทั้งหมดในเบ็คลันด์เกิดอันตราย
ว่ากันตามตรง ในเมื่อเรากำลังทำภารกิจให้ท่านบรรพชนต้นกำเนิด อย่างน้อยจึงควรได้รับความช่วยเหลือจากลอร์ดนีบาสอย่างลับๆ แต่เป็นเพราะท่านเดอะฟูลบอกให้เราเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับสุดยอด ผู้กอบกู้ตระกูลอย่างเราจึงห้ามเปิดเผยตัวตนเด็ดขาด…
ผ่านนาทีแล้วนาทีเล่า เอ็มลินตัดสินใจโพล่งถามอย่างกระสับกระส่าย
“ทุกคน ข้ามีคำถาม สมมติว่า ตัวตนระดับสูงคนหนึ่งไหว้วานให้พวกเจ้าตรวจสอบบางเรื่อง และผลลัพธ์ออกมาว่า เจ้าตรวจสอบสำเร็จจนทราบความจริงทั้งหมด แต่ด้วยเหตุผลบางประการ พวกเจ้ากลับยังไม่สามารถบอกความจริงกับตัวตนระดับสูงคนดังกล่าวได้ทันที ต้องรอให้เรื่องราวดำเนินไปถึงจุดหนึ่งเสียก่อน คำถามคือ ต้องทำอย่างไรจึงจะได้รับการสนับสนุนจากตัวตนระดับสูงคนดังกล่าวจนกว่าเรื่องราวจบลง?”
เมื่อกล่าวจบ เอ็มลินทำสีหน้าละอาย
พฤติกรรมของเราเหมือนกับคนทรยศตระกูลไม่มีผิด… ไม่สิ ข้าทำเพื่อปกป้องสายเลือดต่างหาก! เพื่อจะรับบทเช่นนั้น เราต้องยอมเสื่อมเสียเกียรติยศ แบกรับคำนินทาจากทุกคนไว้ตามลำพัง รอจนกระทั่งเรื่องราวทั้งหมดจบลงและความจริงถูกเปิดเผย…
เดอะมูน·เอ็มลิน เริ่มผ่อนคลาย
ทันใดนั้น จัสติส·ออเดรย์ เมจิกเชี่ยน·ฟอร์ส และเดอะซัน·เดอร์ริค ต่างมองไปทางแฮงแมน·อัลเจอร์เป็นตาเดียว เป็นเพราะอีกฝ่ายช่ำชองในเรื่องประเภทนี้มาก จึงไม่มีใครให้คำปรึกษาได้ดีไปกว่าเขาอีกแล้ว
แม้แต่เดอะฟูล·ไคลน์ ก็ยังคิดแบบเดียวกัน
แฮงแมน·อัลเจอร์มองไปทางเดอะมูนและกล่าวเสียงขรึม
“ง่ายมาก แค่คุณต้องแบกรับความเสี่ยง”
เอ็มลินรีบปฏิเสธจากจิตใต้สำนึก
“ไม่ใช่ข้าสักหน่อย!”
แฮงแมนหัวเราะ
“สมมติว่าเป็นคุณก็แล้วกัน”
ตามด้วยการอธิบาย
“เพียงแค่คุณจงใจเผยความผิดปรกติบางอย่างในตัวเองทีละนิด จนกระทั่งตัวตนระดับสูงคนดังกล่าวเริ่มสังเกตเห็นปัญหา อีกฝ่ายจะมีตัวเลือกแค่สองทาง หนึ่ง ทรมานคุณโดยตรงเพื่อสอบสวน แต่วิธีนี้จะทำให้เบาะแสถูกลบเลือนได้ง่าย สอง แอบให้ความช่วยเหลือคุณอยู่ห่างๆ พร้อมกับส่งคนมาคอยจับตามองโดยอ้างเรื่องความปลอดภัย ผมคิดว่าอย่างหลังมีโอกาสเกิดขึ้นมากกว่า และความเสี่ยงของคุณคือ จะต้องคอยปิดบังความลับแท้จริงจากอีกฝ่ายให้มิดชิดมากกว่าเดิม”
แบบนี้นี่เอง…
แต่ถ้าเราไม่พูด เรื่องชุมนุมทาโรต์ก็ไม่มีวันล่วงรู้ถึงหูลอร์ดนีบาสแน่นอน เพราะช่วงเวลาขณะเข้าร่วมแต่ละครั้ง—วันจันทร์บ่ายสามโมงตรง—เราจะแอบงีบในวิหารฤดูเก็บเกี่ยว…
ในกรณีของพิธีกรรมสังเวยและรับมอบ เราจะใช้สิ่งนี้เพื่อล่อลอร์ดนีบาสให้ติดกับ ท่านจะได้เข้าใจว่า พิธีกรรมสวดวิงวอนถึงเดอะฟูลมีบางอย่างเกิดขึ้นจริง แต่ก็ไม่ทราบรายละเอียดอะไรมากนัก…
ดีล่ะ พรุ่งนี้เราจะถามบารอนเวย์แมนดี้ถึงข้อมูลของเมืองเงินพิสุทธิ์ขณะศึกษาประวัติศาสตร์!
ดวงตาของเดอะมูน·เอ็มลินสว่างขึ้นเล็กน้อยคล้ายกับผุดแผนการได้มากมาย
ก่อนจะฉุกคิดบางสิ่งได้ จึงรีบหันไปพูดกับแฮงแมนด้านข้าง
“เมื่อสัปดาห์ก่อน คุณเคยถามเอาไว้ใช่ไหม ว่ามีวิธีการใดทำให้คนบนเรือหลับสนิทพร้อมกันได้บ้าง เรื่องไม่นั้นยาก ข้าสามารถจัดหาแก๊สสลบซึ่งมีพลังในการแผ่ขยายตัวเองโดยปราศจากกลิ่นให้สัมผัสถึง เพียงสูดดมเข้าไปเล็กน้อย ก็มากพอจะทำให้เหยื่อหมดสติได้ในพริบตา อย่างไรก็ตาม ต้องเลือกลงมือในจุดปลอดลม และเป้าหมายต้องไม่มีทักษะหยั่งถึงอันตราย รวมถึงมีสมรรถภาพร่างกายไม่แข็งแกร่งไปกว่าลำดับ 9 บนเส้นทางเกี่ยวกับพละกำลัง เหยื่อจะหลับลึกนานสามชั่วโมง โดยหลังจากนั้น ประสิทธิภาพจะเสื่อมถอยตามเวลา กระป๋องละหนึ่งร้อยปอนด์ และต้องแบ่งให้ข้าอีกสามสิบปอนด์”
แฮงแมนครุ่นคิดเกี่ยวกับสถานการณ์บนเรือผีสิงของตนสักพัก ก่อนจะตกปากรับคำโดยไม่ต่อราคา
“ตกลง”
มันสร้างภาพการ ‘ไม่ต่อรอง’ ให้เดอะมูนเห็นเป็นแบบอย่าง อีกฝ่ายจะได้ไม่กล้าต่อรองในการค้าขายใหญ่ซึ่งอาจเกิดขึ้นในอนาคต
เดิมที อัลเจอร์เคยคิดจะใช้ยันต์หลับใหลใส่ลูกเรือทั้งหมด แต่กังวลว่าเสียงท่องคาถาจะทำให้ใครบางคนพบความผิดปรกติ
เมื่อช่วงเวลาแลกเปลี่ยนข้อมูลอิสระจบลง ไคลน์เคาะผิวโต๊ะทองแดงลายโบราณด้วยมือ
พลางหัวเราะในลำคอ
“หึหึ สำหรับสัปดาห์หน้า เรามองเห็นว่าพวกเจ้าทุกคนจะปรากฏตัวโดยมีพัฒนาการขึ้นจากเดิมอย่างมาก วันนี้พอเท่านี้ก่อน”
“ขอบคุณสำหรับคำอวยพรค่ะ!”
จัสติส·ออเดรย์ลุกขึ้นยืนพลางทำท่าอำลา
ถ้อยคำของเดอะฟูลช่วยให้หญิงสาวมีความมั่นใจมากขึ้นเล็กน้อยในการดื่มโอสถนักจิตบำบัด
หลังจากเมจิกเชี่ยนและคนอื่นกล่าวในสิ่งเดียวกันจนครบ วังสายหมอกสีเทาได้กลับสู่ความเงียบสงัดอีกครั้ง
……………………