Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ - ราชันเร้นลับ 784 : เหยื่อของข่าวลือ
มาดามวิลลิสชำเลืองใบหน้าดอน·ดันเตสด้วยหางตา ยิ้มโดยไม่ใส่ใจ
“ไม่ว่าจะอดีตของคุณ ประสบการณ์ของคุณในอ่าวเดซีย์และทวีปใต้ ล้วนแล้วแต่น่าตื่นตาตื่นใจกว่านิยายที่ดิฉันเคยอ่านมาทั้งหมด ราวกับได้รับประสบการณ์เหล่านั้นด้วยตัวเอง”
แน่นอนอยู่แล้ว ทั้งหมดคือเรื่องจริง ต้องขอบคุณแอนเดอร์สัน·ฮู้ด นักล่าที่มักไม่อยู่นิ่ง… ไคลน์หันไปมองเค้กเนย หัวเราะในลำคอ
“ผมเลือกพูดเฉพาะส่วนที่น่าสนใจ ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่ไม่อยากนึกถึง”
กล่าวจบ ชายหนุ่มเริ่มเพลิดเพลินไปกับของหวาน ในขณะเดียวกัน หลังจากบรรดาสุภาพสตรีได้ยินประโยคดังกล่าว พวกเธอกลับนึกถึงหนังสือขายดีเล่มหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า ‘ชายผู้มาพร้อมเรื่องราว’ ในสายตาของพวกเธอ ดอน·ดันเตสเป็นเช่นนั้น ภายนอกดูเหมือนทะเลสาบเงียบสงบ แต่ภายในกลับลึกซึ้งจนมองไม่เห็นก้นบึ้ง ซ่อนความน่าตกตะลึงไว้มากมาย ขณะเดียวกันก็เก็บซ่อนความเจ็บปวด
สามทุ่มสี่สิบ งานเลี้ยงอาหารเย็นถึงคราวปิดฉาก สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีบางคนเดินไปที่ห้องเล่นไพ่ด้วยกัน เล่นเท็กซัสโปเกอร์ต่ออีกสักสองชั่วโมง สุภาพบุรุษที่เหลือเดินไปห้องนั่งเล่น พูดคุยจิปาถะ พวกเขามิได้กีดกันไม่ให้สตรีเข้าร่วม แต่เนื่องจากมีสิงห์อมควันเป็นจำนวนมาก รวมถึงบทสนทนาค่อนข้างเกี่ยวกับเรื่องเพศ สตรีจึงไม่อยากร่วมวง เลือกจะลงไปที่ชั้นหนึ่ง ยืนมุงดูเปียโนพลางร้องเพลงคลอเบาๆ หรือไม่ก็จับกลุ่มเล่นหมากรุกสองถึงสามคนอย่างสนุกสนาน
ไคลน์เลือกไปที่ห้องนั่งเล่นชั้นสอง การพูดคุยกับเหล่าบุรุษจะช่วยให้สนิทสนมและเข้าสังคมได้เร็ว
หลังจากเข้าไปในห้อง ชายหนุ่มสังเกตโครงสร้าง เดินตรงไปที่หน้าต่าง เปิดออก จากนั้นก็ดึงเก้าอี้พนักสูงมานั่ง
จัดการเสร็จ ไคลน์เห็นพอร์ตแลน·โมมงต์ – เจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำในคืนนี้ – เดินถือกล้องยาสูบเข้ามาในห้องนั่งเล่น ยิ้มและกล่าวกับทุกคนอย่างเฮฮา
“บุรุษมักต้องการพื้นที่ส่วนตัว”
มันเป็นคนเสียงดัง ร่างกายสูงใหญ่ ใบหน้าค่อนข้างชรา ผิวหน้าแดงก่ำ อายุราวหกสิบปี ผมยังดกหนา แต่เป็นสีขาวล้วน โครงหน้าตรงตามมาตรฐานของชาวโลเอ็น ไม่มีสิ่งใดโดดเด่น
“ถูกต้อง เมื่อมีสตรีมากมายรายล้อม พวกเราต้องคอยคำนึกถึงภาพลักษณ์ ต้องคอยพิจารณาถึงความรู้สึกพวกหล่อน ทั้งที่อยากจะจูบตั้งแต่หนึ่งชั่วโมงก่อนแล้ว” บิดาของเฮเซล ส.ส. มัคท์ นำกล่องโลหะสีเงินออกมา คีบบุหรี่ขึ้น
เช่นเดียวกันกับสุภาพบุรุษคนอื่นๆ ในห้องนั่งเล่น มวนบุหรี่ปริศนาปรากฏขึ้นในมือราวกับเวทมนตร์
ห้องเริ่มสว่าง ควันสีเทาคละคลุ้ง เติมเต็มห้องจนดูราวกับมหาหมอกควันเมื่อปีที่แล้วยังไม่จางหาย
หลับตาลงและดื่มด่ำสักพัก พอร์ตแลน·โมมงต์มองไปยังแขกข้างหน้าต่างและถาม
“ดอน คุณไม่สูบหรือ”
ไคลน์กำหมัด เลื่อนขึ้นมาใต้ริมฝีปาก ไอแห้งสองสามครั้ง
“ผมยังไม่หายดี หมอบอกว่าช่วงนี้อย่าเพิ่งสูบ”
ด้วยความสัตย์จริง มันกำลังจะสำลักควันตาย โชคดีที่ฉลาดพอจะเลือกนั่งข้างหน้าต่าง
ไอ้พวกโรงงานผลิตควัน… ไคลน์ยกนิ้วชี้ขวาขึ้น ลูบคลำเบาๆ ปลายรูจมูก
มันอยากจะใช้พลังพิเศษของนักมายากล สร้างท่อล่องหนและเสกให้ยืดยาว สูดอากาศบริสุทธิ์จากด้านนอกหน้าต่าง หลีกเลี่ยงอันตรายจากควันบุหรี่มือสอง แต่เมื่อพิจารณาว่า อาจมีผู้วิเศษแฝงตัวอยู่ในกลุ่มสุภาพบุรุษ ความคิดดังกล่าวจึงต้องพับเก็บไป
เมื่อพอร์ตแลน·โมมงต์ได้ยิน มันหัวเราะและยิ้ม
“ผมได้ยินจากบิชอปอีเล็คตร้ามาว่า… ดอน… สาเหตุที่คุณป่วย เพราะคุณยังไม่มีภรรยาต่างหาก!”
ศาสตราจารย์ประจำผู้นี้ศรัทธาเทพจักรกลไอน้ำ แต่ภรรยาศรัทธาเทพธิดารัตติกาล จึงเลือกปักหลักอาศัยอยู่บนถนนเบิร์คลุนที่ใกล้กับวิหารนักบุญแซมมวล และมักแลกเปลี่ยนข้อมูลกับบิชอปบ่อยครั้ง
เขากำลังเยาะเย้ยว่าเราเอาแต่คิดเรื่องของผู้หญิงทั้งที่กำลังนอนซม? ดูภายนอกไม่มีทางรู้เลยว่า บิชอปอีเล็คตร้าเป็นพวกชอบซุบซิบนินทา… ทั้งหมดเป็นความผิดของ ‘กระจกวิเศษ’ อาโรเดสต่างหาก! ไคลน์รำพันเงียบ ส่ายหน้าและยิ้ม
“ผมเคารพการแต่งงาน ถ้าไม่มีคู่ชีวิตที่เหมาะสม ขออยู่เป็นโสดดีกว่า”
ทันใดนั้น มิสเตอร์วิลลิส ข้าราชการอาวุโสของเทศบาลเบ็คลันด์ สูดควันบุหรี่พลางกล่าว
“อันที่จริง ผมอิจฉาความโสดของดอนมาก เพราะนั่นจะหมายความว่า ผมสามารถจีบสาวประเภทใดก็ได้ตามที่ต้องการ”
ขณะวิลลิสจงใจเน้นย้ำคำว่า ‘ประเภทใดก็ได้’ ทุกคนในห้องพลันอมยิ้มอย่างมีเลศนัย
ข่าวลือที่ว่า… ดอน·ดันเตสชอบสตรีหลากหลายประเภท ขอเพียงมีเสน่ห์น่าหลงใหล ได้แพร่กระจายไปทั่วถนนเส้นนี้แล้ว? ไคลน์ข่มใจมิให้ยกมือขวาขึ้นมาก่ายหน้าผาก พลางตระหนักว่า ภาพลักษณ์ของเศรษฐีใหม่ที่มีความสุขุมลุ่มลึก ทรงเสน่ห์ และหล่อเหลา ค่อยๆ จางลงทีละนิด
ตอนแรกมันสงสัยว่าคนกระจายข่าวคือบิชอปอีเล็คตร้า แต่ภายหลังเริ่มคิดอีกอย่าง
บางที พ่อบ้านวอลเตอร์คงจงใจบอกให้คนรับใช้กระจายข่าว…
ถ้าไม่มีข้อบกพร่องเลย สุภาพบุรุษที่สมบูรณ์แบบและหล่อเหลามักถูกเพศเดียวกันปฏิเสธที่จะร่วมวงสนทนา แต่เมื่อมีข่าวลือแย่ๆ หรือจุดด่างพร้อยสักนิด มีประเด็นให้แซวขำขัน การเข้าสังคมก็เป็นเรื่องง่าย
สำหรับการแซวติดตลกเช่นนี้ ไคลน์ไม่โกรธเคือง เพียงยิ้มอย่างขมขื่นแต่ยังคงสง่างาม
“นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมเลือกยาก และยังโสดมาจนถึงตอนนี้”
“ฮะฮะ!” พอร์ตแลน·โมมงต์และคนอื่นๆ ในห้องระเบิดเสียงหัวเราะ
ส.ส. มัคท์กล่าว
“คุณควรตัดสินใจให้หนักแน่น สมรสกับภรรยาที่ดี มีครอบครัวที่ดี นั่นจะเป็นตัวช่วยสำคัญในชีวิตสุภาพบุรุษ”
มันเลิกแซว แนะนำอย่างจริงจัง
เฮ่อ… ไม่ว่าจะโลกนี้หรือโลกเก่า มนุษย์ก็เลี่ยงการถูกรบเร้าให้แต่งงานไม่ได้… ไคลน์พยักหน้ารับ ชำเลืองหางตาไปทางหน้าต่างและมองอย่างไร้จุดหมาย เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนของสวนในคฤหาสน์ของพอร์ตแลน·โมมงต์
ทันใดนั้น มันเห็นเฮเซล·มัคท์ในเดรสสีเขียวเข้มกำลังเดินไปตามทาง ตรงเข้าไปในส่วนลึกของสวนตามลำพัง ชะงักฝีเท้าเป็นระยะพลางมองไปรอบตัว คล้ายกับกำลังตามหาบางสิ่ง
เมื่อครู่ เธอยังเล่นเปียโนอยู่เลย… ทำไมถึงออกมาที่สวน? ไคลน์ถอนสายตากลับมาครุ่นคิด แต่เมื่อมองกลับไป เฮเซลถูกพุ่มดอกไม้บังมิดชิด
สำหรับแขกที่เข้าร่วมงานเลี้ยงรับประทานอาหารหรืองานเลี้ยงเต้นรำ การเดินออกจากห้องโถง เข้าไปเที่ยวชมในสวน ไม่ใช่พฤติกรรมที่หยาบคายแต่อย่างใด เพราะการเดินชมจันทร์ รับลมเย็นยามค่ำคืนท่ามกลางกลิ่นหอมของดอกไม้ ถือเป็นการวางตัวที่มีเสน่ห์น่าค้นหา แต่ขณะเดียวกัน การออกจากตึกก็ยังมีอีกหนึ่งความหมาย – เธอกำลังนัดพบใครสักคน!
เฮเซลแอบนัดพบหนุ่มๆ ? ไม่สิ ไม่น่าจะใช่ ไม่มีใครในงานเลี้ยงวันนี้ที่ ‘คู่ควร’ กับเธอ… แม้ว่าอาการหวาดผวาจากเหตุการณ์ท่อระบายน้ำจะทำให้เฮเซลหยิ่งผยองน้อยลง บางครั้งถึงขั้นซึมเศร้า แต่ลึกๆ ในใจก็ยังคงดูแคลนคนธรรมดา… มาเพื่อขจัดผลข้างเคียงของสมบัติวิเศษ? แต่ไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไร เพื่อเก็บความลับ เธอควรทำในห้องน้ำมากกว่าในสวน ย้อนกลับไปในงานเลี้ยงที่บ้านตัวเอง เธอเดินขึ้นไปยังชั้นสาม ไม่ใช่สวน… ไคลน์ตัดความเป็นไปไม่ได้ทิ้ง เริ่มคาดเดาเบื้องต้น
จากท่าทีที่กำลังมองหาบางสิ่ง… คล้ายกับเฮเซลสังเกตเห็นความผิดปรกติ จึงออกมาจัดการด้วยตัวเอง?
นั่นหมายความว่า มีเหตุการณ์เหนือธรรมชาติเกิดขึ้นในคฤหาสน์ของศาสตราจารย์พอร์ตแลน·โมมงต์?
ถ้าเป็นเรื่องจริง ศาสตราจารย์หรือคนในครอบครัว อาจไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เห็นภายนอก… บิชอปของวิหารนักบุญแซมมวลมักแวะมาเยี่ยมเยียนคฤหาสน์หลังนี้บ่อยครั้ง แต่กลับไม่พบความผิดปรกติใดเลย!
อา… ดูเหมือนว่า ‘นักจารกรรม’ จะมีพลังในการตรวจจับและสังเกตสูงเป็นพิเศษ
ไคลน์ไม่อยากยื่นมือเข้าไปสอด เพราะปัญหาที่เฮเซลตรวจพบได้ คงไม่ใช่เรื่องอันตรายอะไรนัก นอกจากนั้น ที่นี่ยังอยู่ใกล้กับวิหารนักบุญแซมมวลมาก หากมีความลับซ่อนอยู่จริง บุคคลเหล่านั้นคงพยายามระงับความผิดปรกติอย่างสุดฝีมือ ไม่เผยออกมาให้ใครเห็น
ทันใดนั้น ส.ส. มัคท์ในห้องนั่งเล่นสลัดความตลกจากมุกก่อนหน้า มองไปทางพอร์ตแลน·โมมงต์และถาม
“ผมได้ยินมาว่า คุณกำลังจะออกจากมหาวิทยาลัยเบ็คลันด์?”
ศาสตราจารย์พอร์ตแลน·โมมงต์หยิบกล้องยาสูบ
“ถูกต้อง คณะกรรมการอุดมศึกษาต้องการให้ผมดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเบ็คลันด์ที่เพิ่งปรับเปลี่ยนโครงสร้าง หึหึ… แม้ว่าทรัพย์สินส่วนใหญ่ของผมจะมาจากโลหะผสม แต่สาขาที่เชี่ยวชาญจริงๆ คือเครื่องกล… พวกเขาสัญญาว่าจะสร้างห้องทดลองให้ เพิ่มเงินทุนขึ้นจากเดิม เฮ่อ… อายุปูนนี้แล้ว การมีอิสระเป็นของตัวเองและมีผู้ช่วย สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด”
มิสเตอร์วิลลิสเห็นพ้องอย่างยิ้มแย้ม
“ถ้าเป็นแบบนี้ มหาวิทยาลัยเบ็คลันด์ก็จะมีตำแหน่งศาสตราจารย์ประจำว่างหนึ่งที่… รองศาสตราจารย์อาวุโสที่รอคอยมานาน ในที่สุดก็มีโอกาสเสียที”
ในระบบการศึกษาของโลเอ็น ศาสตราจารย์มิได้เป็นเพียงคำนำหน้าวิชาชีพ แต่ยังหมายถึงตำแหน่ง เทียบเท่าได้กับหัวหน้าคณะ จึงมีได้เพียงคนเดียว
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเบ็คลันด์… ไคลน์นั่งฟังอย่างยิ้มแย้ม ไม่สุงสิงในหัวข้อที่ตนไม่มีความชำนาญ
…
ภายในสวน เฮเซลเดินมาถึงมุมมืด
เธอสังเกตเห็นว่า มดและสัตว์เล็กอื่นๆ บนพื้นกำลังรวมตัวอย่างผิดปรกติ และสัมผัสวิญญาณยังแจ้งด้วยว่า มีบางสิ่งซ่อนอยู่แถวนี้
นี่คือพรสวรรค์ที่เกิดจากพลังพิเศษของเธอ เป็นสิ่งที่ไม่เคยผิดพลาดมาก่อน
เฮเซลสามารถจำแนกของมีค่าที่ซ่อนอยู่ในกล่องปิดมิดชิดหลายๆ ใบได้อย่างแม่นยำ ไม่ต้องใช้ตัวช่วยภายนอก แน่นอน เธอบอกไม่ได้ว่าของมีค่าดังกล่าวคืออะไร แต่มั่นใจว่ามีค่ามากกว่าสิ่งอื่นที่อยู่ใกล้เคียง
เหมือนกับมิสเตอร์ดอน·ดันเตส เขาพกของมีค่าไว้กับตัว… เฮเซลยกมุมปากเล็กน้อย หันไปสนใจพื้นโคลนด้านหน้า
เธอสัมผัสได้ว่า พลังวิญญาณที่รวมตัวอยู่ด้านล่าง กำลังดึงดูดให้แมลงและภูตผีเข้ามาหา
ไม่ใช่ศพมนุษย์… เป็นวัตถุวิญญาณบางอย่างที่ใช้แล้วทิ้ง… ให้ตายสิ วิธีทำลายที่ถูกต้องคือเป็นการโยนทิ้ง หากนำมาฝังไว้ด้วยกัน อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยไม่จำเป็น… ดวงตาเฮเซลมืดลงเล็กน้อย ตรวจสอบลักษณะของพลังวิญญาณใต้ดิน จนกระทั่งพอจะทราบสถานการณ์เบื้องต้น
เชิดคางขึ้นเล็กน้อย มองตรงไปยังอาคารหลังเล็ก เธอเชื่อว่าต้องมีผู้วิเศษอย่างน้อยหนึ่งคนอยู่ในตระกูลของพอร์ตแลน·โมมงต์
และถ้าไม่จัดการกับปัญหาที่มุมสวน ภายในไม่กี่วันข้างหน้า บ้านหลังนี้และบริเวณใกล้เคียงจะเกิดเหตุการณ์ประหลาด!
เฮเซลถอนสายตากลับ เหยียดแขนซ้าย เล็งไปยังสิ่งสกปรกตรงหน้า กำมือแผ่วเบาพร้อมกับบิดข้อมือ
พลังวิญญาณที่จับตัวเป็นก้อนพลันอันตรธานหาย คล้ายกับถูกใครบางคนช่วงชิง
……………………………………………………..