Low Dimensional Game – เกมส์แห่งโลกมิติ - ตอนที่ 78
ลูซีหยูหยิบหลอดทดลองขึ้นมา ภายในหลอดทดลองวัตถุเล็กๆสองสามชิ้นเคลื่อนไหวอยู่ในอากาศส่องแสงที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตามนุษย์ วัตถุเหล่านี้เป็นเซลล์ควบคุมฝันที่ได้รับการแก้ไขที่ลูซีหยูออกแบบไว้ ทันทีที่ลูซีหยูเปิดหลอดทดลองจุดสว่างถูกรวมเข้าไปในร่างกายของลูซีหยู ลูซีหยูรู้สึกว่าร่างกายของเค้าขยายตัวขึ้นเนื่องจากทั้งร่างเบาและลอยได้ หากร่างกายของเค้าถูกสำรวจในระดับโมเลกุลก็จะเห็นได้ว่าเซลล์ควบคุมความฝันที่ได้รับการแก้ไขในร่างกายของลูซีหยูถูกกระตุ้นให้เกิดวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วของเซลล์ทั้งหมดของลูซีหยู
ลูซีหยูยืนอยู่ในปราสาทมิติและสังเกตว่ามือของเค้ากำลังหายไปทีละเล็กน้อยราวกับว่ากำลังจางหายไปเป็นโฟมและกลายเป็นจุดเล็กๆของดาวที่ล่องลอย ร่างกายทั้งหมดของลูซีหยูเปลี่ยนไปเป็นประกายแห่งแสงซึ่งหายไปภายในปราสาทมิติ!
ลูซีหยูรู้สึกราวกับว่าเค้ากลายเป็นลมกระโชกและกลมกลืนไปกับโลกของตัวเอง เค้าออกจากห้องแล็บและเดินวนรอบปราสาท มันรู้สึกราวกับว่าเค้าเป็นหนึ่งเดียวกับความว่างเปล่าจริงๆ!
ลูซีหยูได้แยกออกเป็นเซลล์ควบคุมความฝันที่กระจัดกระจายอย่างสมบูรณ์หรือที่รู้จักในชื่อองค์ประกอบความฝัน ขณะที่เค้าถีบตัวสูงขึ้นอย่างอิสระ ลูซีหยูเปิดประตูมิติซึ่งช่วยให้เค้าสำรวจโลกของมาเรียเพิ่มเติม ปัจจุบันมันเป็นกลางคืนในโลกของมาเรียมีเมฆบดบังครึ่งหนึ่งของดวงจันทร์ ลูซีหยูเปลี่ยนเป็นลมแรงและทะลุผ่านเมฆไปทำให้ทะยานขึ้นเหนือสิ่งอื่นใด นี่เป็นครั้งแรกที่ลูซีหยูเห็นโลกจากบนท้องฟ้าสูงกว่าบ้านหลังเล็กๆนับพันในเมืองเล็กๆ มันเป็นภาพที่งดงามมาก
ลูซีหยูบุกทะลุเมฆกลุ่มแรกจากนั้นก็เริ่มล่องลอยไปในสายหมอกสีขาวภายใต้แสงจากดวงจันทร์ มันเป็นอิสระที่สดชื่อที่สามารถทำให้เราลืมความทุกข์ทุกอย่างบนโลกได้หมด เค้าเดินทางไปเยี่ยมชมป่าพร้อมกับผิวปากขณะที่เค้าฟังเสียงร้องของนกและแมลง จากนั้นเขาก็ลงมาใกล้ภูเขา ดูจากไกลๆแล้วมันเหมือนกลุ่มของหิ้งห้อยที่กำลังเต้นรำอยู่ในป่าเหมือนกับเป็นฉากในความฝัน!
ลูซีหยูผ่านทะเลสาบในป่าแล้วจากนั้นเขาก็ทำให้มีแสงปกคลุมไปทั่วทะเลสาบ เขามองดูขณะที่มันทำให้ทะเลสาบที่ยาวประมาณ1กิโลเมตรระเหยทันที นี่เป็นความสามารถพิเศษเดียวที่ลูซีหยูได้เข้ารหัสไว้ในต้นแบบของเซลล์ควบคุมฝัน นอกเหนือจากการควบคุมฝัน เขาเรียกมันว่า ‘การสลายตัว’
ความสามารถนี้ทำให้เขาสามารถทำลายโครงสร้างของโมเลกุลได้ ทั้งทะเลาบถูกแยกจากกันอย่างสมบูรณ์ มันดูสวยงามแต่ในขณะเดียวกันก็ดูแย่ ต่อจากนั้นลูซีหยูมุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านที่เชิงเขา ลูซีหยูพุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็วจากนั้นก็คลุมทั้งหมู่บ้านไว้ด้วยองค์ประกอบของฝัน แต่ละองค์ประกอบนั้นหมุนเวียนไปด้วยกลิ่นไอของสิ่งมีชีวิต เสาะหาผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กทุกคนรวมไปถึงสิ่งมีชีวิตที่มีอายุน้อยที่สุดจนไปถึงมากที่สุดในที่นั่น
ทุกคนถูกรุกรานด้วยจิตสำนึกขององค์ประกอบความฝันของลูซีหยู ในขณะที่เขาควบคุมจิตสำนึกและความฝันของทุกคน เขาได้เชื่อมโยงพวกเค้าเข้ากับพื้นที่ในฝันอันยิ่งใหญ่ ภายในพื้นที่ในฝันมันยังคงเป็นหมู่บ้านเล็กๆ มันเป็นเวลากลางวัน ณ หมู่บ้านแห่งนี้และลูซีหยูนั่งอยู่บนต้นไม้ใหญ่ในเนินเขา มันเป็นวันที่แดดจ้าและหมู่บ้านก็เต็มไปด้วยกิจกรรม ชาวบ้านทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส
ภายในพื้นที่แห่งฝันความฝันทุกคนจะกลายเป็นจริง ลูกชายของคนชราที่ตายในสงครามตอนนี้กลับมาบ้านแล้ว กำลังอบขนมปังอยู่กับเค้า! ช่างไม้จากตระกูลแรนก็ตั้งท้องลูกชาย แชนซี่ขอทานเด็กน้อยบนถนนในที่สุดห็พบว่าครอบครัวที่พร้อมจะอุปถัมภ์เค้า เดมอนกลายเป็นพ่อค้าที่ร่ำรวยและประสบความสำเร็จ และมันก็ดำเนินแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีใครต้องกังวลกับชีวิตที่แสนวิเศษนี้ในที่ที่ความฝันของพวกเค้ากลายเป็นจริง มันเป็นสังงคมในอุดมคติที่ไม่มีข้อขัดแย้ง ไม่มีสงคราม และไม่มีความเครียด ชาวบ้านทุกคนยิ้มอย่างมึความสุขที่แท้จริง
“แคลลี่ เธอมีความสุขกับที่นี่ไหม?”
ลูซีหยูมองไปที่เด็กผู้หญิงที่เดินผ่านเมืองไปยังหุบเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสน แสงแดดส่องไปที่หุบเขาและใบไม้ก็ปลิวไปตามสายลม
เธอเป็นนักบุญของโบสถ์แห่งแสงชื่อแคลลี่ เมื่อลูซีหยูสร้างต้นแบบในตำนานเสร็จสิ้น แคลลี่หนึ่งในเทวดาของลูซีหยูก็ได้รับผลกระทบเช่นกันและเธอได้ถูกลากเข้ามาสู่ในพื้นที่แห่งฝันที่ลูซีหยูเป็นคนสร้าง
“ที่นี่ที่ไหน? คุณเป็นใครกัน?”
แคลลี่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน เธออยู่ที่โบสถ์แห่งแสงในเมืองเซนต์ซารล์ แล้วทำไมตอนนี้เธอถึงมาอยู่ในหมู่บ้านที่สวยงามและเงียบสงบเช่นนี้ นี่เป็นสถานที่แห่งสวรรค์รึเปล่า? แม้แต่ลมยังอบอุ่นและอ่อนโยน
ในความฝันแคลลี่ไม่สามารถมองเห็นลักษณะของลูซีหยูได้อย่างชัดเจน ลูซีหยูมีรูปร่างคล้ายแสงดาว ลอยลงมาจากต้นไม้เพื่อยืนต่อหน้าแคลลี่และสวมหน้ากากที่มีลายของดวงอาทิตย์แห่งฟารอส!
ปากของแคลลี่เปิดออกด้วยความไม่เชื่อในขณะเดียวกันเธอก็จ้องมองไปที่ลูซีหยู ลูซีหยูยืนอยู่บนเนินและจ้องมองไปที่เมืองในหมู่บ้าน แคลลี่พูดพึมพำว่า “นี่คือความฝัน? ฉันฝันอีกแล้วหรอ? แต่ทำไมความฝันนี่มันช่างเหมือนจริงเหลือเกิน!”
ลูซีหยูส่ายหัว “นี่ไม่ใช่ความฝันของคุณ แต่เป็นความฝันของฉัน ฉันลากคุณเข้ามาในความฝันของฉันเพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับความสุขนี้ นี้ควรจำเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนพึงพอใจ”
เค้าพูดต่อว่า “ทุกคนสามารถมีความสุขได้ในความฝันเท่านั้น ในความเป็นจริงแล้วมนุษย์ทุกคนนั้นโลภและมีแต่การต่อสู้กัน เพราะสิ่งงเหล่านี้ทำให้เค้าไม่รู้ถึงสิ่งที่ต้องการจริงๆ ความสุขเป็นสิ่งเดียวที่จะสามารถหยุดความโลภเหล่านี้ได้”
แคลลี่จ้องไปที่ลูซีหยูด้วยความว่างเปล่า เธอเคยจินตนาการถึงพระเจ้านับครั้งไม่ถ้วนและคิดถึงพระเจ้าที่ให้สายเลือดกับเธอ และการต้อนรับของพระองค์เมื่อเธอเสียชีวิต
“ท่านลอร์ดฟารอสในที่สุดคุณก็มาหาฉัน!” แคลลี่พูดพร้อมกับน้ำตาไหลออกมา แคลลี่รีบเช็ดน้ำตาในขณะที่เธออยูต่อหน้าลูซีหยูอีกครั้ง “ท่านลอร์ดฉันภาวนาถึงคุณมาโดยตลอด คุณได้ยินเสียงของฉันไหม? ขอบคุณที่มอบภารกิจและพลังให้กับฉัน..”
แคลลี่ตื่นเต้นอย่างมากที่ได้เจอลูซีหยูจนไม่สามารถเรียบเรียงคำพูดออกมาเป้นประโยคได้ ลูซีหยูหัวเราะเบาๆหลังจากฟังเรื่องที่เธอพูดรวมไปถึงที่เธอพูดชื่นชมเค้า “คุณแค่กำลังต้องหาจุดประสงค์ของการมีชีวิตอยู่ ฉันไม่ได้มอบหมายภารกิจอะไรให้คุณเลย คุณเลือกที่จะประสบความสำเร็จภายใต้สายเลือด ผมสีดำ และดงตาของฉันทั้งหมดด้วยตัวคุณเอง คุณไม่จำเป็นต้องแบกรับภาระอันหนักนี้ไว้บนไหล่ของคุณ มันไม่มีความหมายต่อเรา”
เขาพูดต่อว่า “พวกเราไม่ได้ต้องการความเชื่อของคุณ มันไม่ได้มีความหมายอะไรเลยสำหรับเรา พระเจ้าไม่ได้ต้องการความเชื่อแต่พวกเราก็จะไม่ปฏิเสธการมีอยู่ของพวกคุณ
แคลลี่ตื่นตระหนก “แต่เราต้องการคุณ! เราต้องการให้คุณช่วยเหลือจิตวิญญาณของเราและให้อภัยต่อบาปของพวกเรา พวกเราต้องการให้คุณเป็นแสงสว่างเพื่อทำให้ความชั่วร้ายหมดไปจกาโลกนี้!”
ลูซีหยูส่ายหัว “ฉันชอบความพยายามในการทำภารกิจของคุณ แม้ว่ามนุษย์จะอ่อนแอแต่คุณก็ยังมีจิตใจที่สวยงาม การอยู่ร่วมกันของความขี้เหร่และความสวยงามเป็นหนึ่งในใบหน้าที่แท้จริงของมนุษย์”
ลูซีหยูมองเข้าไปในดวงตาของแคลลี่ “แม้ว่าคุณจะมีความสามารถในการอ่านความคิดของผู้อื่นแต่คุณไม่สามารถเข้าใจหัวใจของตัวเองได้ คุณมองพวกเค้าด้วยความเกลียดชังดังนั้นทุกสิ่งที่คุณเห็นผ่านสายตาของคุณจะลำเอียง”
ลูซีหยูชี้ไปที่หัวใจของเค้าเอง “คุณควรจะมองหัวใจของคุณเอง ไม่ใช่มองแต่หัวใจของคนอื่น”
ตอนนี้แคลลี่เต็มไปด้วยความรู้สึกละอาย เมื่อแสงตอนรุ่งสางดับไปผู้คนในพื้นที่แห่งฝันก็เริ่มตื่นขึ้นและกลุ่มใหญ่ของพื้นที่ในฝันเริ่มเลือนหายไป แม้ว่าลูซีหยูจะสามารถบังคับจิตสำนึกของพวกเค้าได้แต่การกระทำเช่นนั้นก็ไม่มีความหมาย
เมื่อหมอกลง พื้นที่แห่งฝันก็เริ่มยุบลง แคลลี่มองไปที่ต้นไม้ที่เธอยืนอยู่ด้วยความตะหนกจากนั้นลูซีหยูก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว “ท่านฟารอสฉันจะทำตามคำพูดของคุณราวกับว่าฉันอยากจะสร้างอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เพื่อนมัสการคุณ สร้างสวรรค์บนโลกเพื่อให้วิญญาณของผู้คนได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ ฉันหวังว่าคุณจะสามารถตอบกลับคำอธิษฐานของเรา!”
แคลลี่วิ่งขึ้นไปบนเนินเขาพยายามที่จะตามหาเค้า แต่ก็พบว่าเขานั้นไม่มีที่สิ้นสุดในขณะที่ท่านฟารอสเปลี่ยนเป็นลำแสงและหายไป