Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 122 กลับมาเยือนอีกครั้ง
บทที่ 122 กลับมาเยือนอีกครั้ง
ในเวลากลางคืน ท้องฟ้าของเมืองโบราณเต็มไปแสงระยิบระยับของดวงดาว สายลมเย็นพัดโชย ลมกระทบใบหน้าเป็นระยะๆทำให้รู้สึกสดชื่น แสงนัยน์ตาของเจียงหยุนเอ๋อราวกับคลื่น เปล่งประกายด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้
ทันใดนั้น นิ้วมือเธอก็ถูกถวนจื่อบีบ เธอกะพริบตา ก็ได้ยินเสียงที่มีความสุขของถวนจื่อดังขึ้น: “หม่ามี๊ หม่ามี๊ดูโฮมสเตย์เจ้านี้สวยจังเลย”
เจียงหยุนเอ๋อนิ่งไปสักพัก ก็รีบเงยหน้าขึ้นมองไป โฮมสเตย์ที่ตกแต่งสไตล์โบราณที่อยู่ด้านหน้า นี่มันเป็นโฮมสเตย์เมื่อห้าปีก่อนที่ตัวเธอนั้นเสียตัวไม่ใช่เหรอ?
ทันใดนั้น สีหน้าท่าทางของเจียงหยุนเอ๋อก็ผิดแปลกไปเล็กน้อย นัยน์ตาลึกๆนั้นมีความโกรธและมึนงงเล็กน้อย
ทำไมช่างบังเอิญแบบนี้?
กลับมาเยือนอีกครั้งหนึ่ง ภาพที่คลุมเครือและไม่เป็นชิ้นเป็นอันหลายอย่างฉายขึ้นมาในหัว จำได้ว่าตัวเองและชายแปลกหน้าคนนั้นได้ทำสิ่งที่ใกล้ชิดที่สุดในโลกนี้ ผ่านค่ำคืนที่มีความสุข ข้างกายเหลือไว้เพียงหยกสวยงามที่เย็นชิ้นหนึ่ง
และก็ผ่านไปไม่นานนัก ตัวเองก็ได้ท้องถวนจื่อที่น่ารักผิวอมชมพูดคนนี้
เจียงหยุนเอ๋อกัดริมฝีปาก ใช้แรงสะบัดหัวไปมา เพื่อคลายอารมณ์ที่สับสนในใจ อดไม่ได้ที่จะชายตามองลี่จุนถิง: “คุณเลือกโฮมสเตย์เจ้านี้เหรอ? “
ลี่จุนถิงเองก็เหมือนเพิ่งจะออกจากภวังค์ เลิกคิ้วเล็กน้อย “ผมรู้มาว่าโฮมสเตย์ในเมืองโบราณเจ้านี้มีชื่อเสียงมาก ต้องจองล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ถึงจะจองได้นะ อืม……..สภาพแวดล้อมก็ไม่เลว พวกเราเข้าไปดูกันเถอะ”
เจียงหยุนเอ๋อถอนหายใจเบาๆ ยังไม่ทันได้ตอบสนองอะไรเลย ก็เห็นลี่จุนถิงอุ้มถวนจื่อข้ามสะพานไม้เดินไปทางล็อบบี้แล้ว
เจียงหยุนเอ๋อสายตาเปล่งประกายเล็กน้อย ด้วยท่าทางที่ผิดแปลกได้เดินกระแทกส้นสูงตามเข้าไป
ด้านในล็อบบี้ลี่จุนถิงได้พาถวนจื่อเช็คอินเรียบร้อยแล้ว ขณะที่เจียงหยุนเอ๋อเข้ามา ก็มองเห็นถวนจื่อกำลังเล่นคีย์การ์ดอย่างสนุกสนาน
เธอได้หยุดฝีเท้าลง มองสังเกตโอมสเตย์หลังนี้โดยรอบ
สิ่งของในล็อบบี้ดูเหมือนจะถูกเปลี่ยนยกชุด แต่สไตล์การตกแต่งยังเหมือนของเมื่อห้าปีก่อน เพียงแต่ชายสวมแว่นตาดำที่ประจำอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ในมือถือลูกประคำไว้ที่เป็นเถ้าแก่ ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง
เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แล้วก็ส่ายหัวอย่างขำๆ นี่ตัวเองกลัวคนอื่นจะจำได้เหรอ? ที่นี่แต่ละวันต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งมากมาย ถึงแม้ไม่เปลี่ยนเถ้าแก่ ก็คงไม่มีใครจำตัวเองได้หรอกน่ะ?
คิดอะไรอยู่? พวกเรามาถึงห้องแล้วนะ น้ำเสียงของลี่จุนถิงแฝงด้วยความทะเล้น มองเจียงหยุนเอ๋อด้วยใบหน้าที่ติดตลก
เธอจึงได้สติ ยิ้มแห้งๆไปหนึ่งที: “ไม่ได้คิดอะไร ก็แค่ถูกรูปวาดบนกำแพงของโฮมสเตย์นี้ดึงดูด”
เจียงหยุนเอ๋อเงยหน้ามองเลขห้อง รอยยิ้มที่มุมปากแข็งไปทันที หนังตากระตุก ถามด้วยอาการที่ดูเหมือนจะยิ้มไม่ยิ้ม: “นี่…..ก็คือห้องที่คุณจอง?”
ดวงตาเรียวยาวดั่งตาหงส์ของลี่จุนถิงได้หรี่ลงเล็กน้อย แววตาเป็นประกาย “มีปัญหาอะไรมั้ย?”
เจียงหยุนเอ๋อพูดไม่ออก ยกมุมปากขึ้น คิดในใจ ทำไมบังเอิญจัง? หากว่าลี่จุนถิงไม่รู้ความจริง ฉันคงนึกว่าเขาเจตนาที่จะจองห้องนี้
เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกอยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก ห้องนี้ บังเอิญเป็นห้องที่ตัวเองเคยพักเมื่อห้าปีที่แล้ว
เธอยืนตกใจอยู่หน้าประตู ลี่จุนถิงที่รู้สึกตลกได้เอานิ้วไปชี้ที่ปลายจมูกของเธอ “เอาล่ะ ดูท่าทางคุณเหมือนจะไม่ค่อยชอบห้องนี้? คุณไปพักข้างห้องละกัน ผมกับถวนจื่อนอนห้องนี้”
เจียงหยุนเอ๋อจึงได้กลับสู่ภาวะปกติ เธอได้ดึงถวนจื่อมาข้างกายหัวเราะเบาๆแล้วพูดขึ้น: “ฉันกับถวนจื่อนอนห้องนี้ละกัน คุณรีบไปพักผ่อนเถอะ ฉันจะช่วยถวนจื่ออาบน้ำก่อน”
“ดีครับ หม่ามี๊อาบน้ำให้ผม ตัวผมเหม็นจะแย่อยู่แล้ว”
เจียงหยุนเอ๋อและลี่จุนถิงมองตาแล้วยิ้ม ด้วยสีหน้าที่แตกต่างกันต่างก็กลับเข้าห้องของตัวเอง
ทั้งสามคนเที่ยวเล่นมาทั้งวัน ต่างเหนื่อยกันแล้ว โดยเฉพาะถวนจื่อ เจียงหยุนเอ๋ออาบน้ำให้เขาแล้ว ขณะที่อุ้มวางลงบนเตียงเขาสลึมสลือก็หลับไปเลย หลังจากนั้นเจียงหยุนเอ๋อก็เก็บข้าวของให้เรียบร้อย เห็นว่าในห้องมีการรีโนเวทใหม่ อุปกรณ์เครื่องใช้ก็เป็นของใหม่
“ของยังเหมือนเดิมแต่คนได้เปลี่ยนไปแล้ว” คงจะเปรียบเหมือนภาพที่อยู่หน้า? เธอยกมุมปากขึ้น
ด้านข้าง ลี่จุนถิงถอดเสื้อคลุมออก มองไปรอบๆห้อง มือเรียวยาวของเขาได้เลื่อนผ่าเฟอร์นิเจอร์โบราณในห้องอย่างช้าๆ ถอนหายใจด้วยความสับสนเล็กน้อย
เขาก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ตัวเองถึงได้จองโอมสเตย์นี้โดยที่ไม่รู้ตัว และห้าปีที่แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องนี้ ตัวเองเปิดห้องนี้เข้ามา ประตูแห่งความทรงจำก็ถูกเปิดออก
ในใจของลี่จุนถิงแปลกเล็กน้อย เขานึกว่าเขาได้ลืมเรื่องนี้ไปนานแล้ว แต่มาถึงตรงนี้ อารมณ์ความคิดได้ย้อนกลับไปคืนนั้นในห้าปีก่อน ในใจอธิบายไม่ถูกว่าเป็นเพราะอะไร เหมือนกับมีบางสิ่งบางอย่างที่ถูกเขาละเลยไป
ลี่จุนถิงลูบหน้าผากของเขา ตลกตัวเองแล้วทำตาหยีๆ เกรงว่าผู้หญิงเมื่อห้าปีก่อนคงแต่งงานมีลูกไปแล้วมั้ง?
ไม่แน่อาจจะมีทั้งลูกชายและลูกสาว สามีภรรยารักใคร่กลมเกลียว? ผ่านไปหลายปี เธอคงได้ลืมเรื่องราวที่พบเจอเกิดขึ้นโดยบังเอิญนี้ไปนานแล้ว
มันคงเป็นเรื่องของโชคชะตาที่คนไม่สามารถควบคุมได้ สวรรค์ได้กำหนดไว้แล้ว
ตัวเองเคยได้ออกตามหาเธอไปทั่ว แต่ไม่ว่ายังไงก็หาเธอไม่เจอ ราวกับว่าเธอนั้นเป็นไอน้ำที่ระเหยหายไปจากโลกแล้ว
ตอนนี้มาคิดดูแล้ว หรือว่าเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นไม่อยากจะถูกรบกวน และทั้งหมดนี้มันก็เป็นเพียงความฝันที่น่าสนใจเท่านั้น ถึงแม้จะน่าสนใจ แต่กลับไร้ร่องรอยที่จะสามารถตามหาได้
ตอนนี้เขาก็มีเจียงหยุนเอ๋อแล้ว เรื่องราวนี้ก็ควรที่จะถูกเก็บไว้ข้างในใจ คิดถึงตรงนี้ ลี่จุนถิงจึงได้สงบสติอารมณ์ของตัวเอง จากนั้นจึงได้ถอดเสื้อผ้าแล้วเข้าไปอาบน้ำ
ครึ่งชั่วโมงให้หลัง ลี่จุนถิงที่นุ่งผ้าขนหนูไว้ เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผมที่เปียกชุ่ม พลางยื่นมือไปหยิบผ้าขนหนูบนหัวเตียงมาเช็ดผม แล้วก็มองเห็นชาออคิดจากยอดเขาที่ทางโฮมสเตย์เขาคั่วเอง
คิดถึงเมื่อห้าปีก่อนตัวเองเคยลองไปครั้งหนึ่ง ลี่จุนถิงได้ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
สายลมยามค่ำคืนโชยมา ลี่จุนถิงที่นั่งอยู่ระเบียง กำลังลิ้มรสชาที่หอมหวน ด้วยใจที่สงบและผ่อนคลาย และแววตาที่มีความสุข
ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูได้ดังขึ้น “ก๊อกก๊อก” ลี่จุนถิงลุกขึ้นไปเปิดประตู ก็เห็นเจียงหยุนเอ๋อยืนอยู่หน้าประตูด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขย่าใบชาที่อยู่ในมือ “ฉันเห็นชานี้ในห้อง คุณสนใจที่จะดื่มดูมั้ย?”
ลี่จุนถิงเลิกคิ้วแล้วหัวเราะเบาๆ: “บังเอิญจัง ผมเพิ่งจะชงเสร็จ”
เจียงหยุนเอ๋ออึ้งไปสักพัก จากนั้นก็หัวเราะ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน: “ฉันมาได้จังหวะพอดีเลย อาศัยที่ถวนจื่อหลับไปแล้ว ฉันขอดื่มชาที่นี่กับคุณสักแก้วละกัน”
ลี่จุนถิงกลับยกมุมปากขึ้น สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย กล่าวด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย: “จู่ๆผมก็รู้สึกว่า ดึกๆดื่นๆดื่มชาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่สู้เรามาดื่มเหล้ากันหน่อยเป็นไง?”
เจียงหยุนเอ๋อนั่งเงียบอยู่บนโซฟา มองดูใครบางคนโทรหาเจ้าของโฮมสเตย์ ให้เขาส่งเหล้าเก่าที่เก็บมานานนับสิบปี จะร้องไห้ก็ไม่ใช่จะหัวเราะก็ไม่เชิง: “ฉันนึกว่าคุณพูดเล็กเสียอีก ไม่นึกว่าคุณจะเอาจริง”
ลี่จุนถิงหัวเราะเจื่อนๆ ก็ได้ยื่นแก้วเหล้าให้กับเจียงหยุนเอ๋อ ยกแก้วในมือขึ้นแกว่งไปมา: “ลองดูสิ คุณต้องชอบแน่เลย