Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 135 เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
บทที่ 135 เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
ส้งหวั่นหวั่นคิดจะไปบอกโม่เสี่ยวฮุ่ย เพื่อให้โม่เสี่ยวฮุ่ยช่วยคิดหาวิธีต่อสู้
แต่เมื่อคิดได้ว่าถ้าหากโม่เสี่ยวฮุ่ยเลือกที่จะยอมรับเจียงหยุนเอ๋อ เนื่องจากเธอได้ตั้งครรภ์แล้ว ถ้าเช่นนั้นจะเป็นข่าวร้ายสำหรับเธอมิใช่เหรอ ?
ไม่ หากยังไม่มั่นใจในท่าทีของตระกูลลี่ เรื่องนี้……ทางที่ดีที่สุดยังไม่ต้องให้พวกเขารับรู้ดีกว่า
เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ สีหน้าส้งหวั่นหวั่นก็เคร่งเครียดขึ้นมา ในขณะนั้นไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี
ไม่ได้ เธอต้องหาวิธีหยุดยั้งการเกิดออกมาของเด็กในท้องเจียงหยุนเอ๋อ!
“คุณส้งค่ะ คุณ……ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”เจียงหนิงเอ๋อถามอย่างระมัดระวัง
เธออุตส่าห์เดินทางมาไกล เพื่อบอกข่าวเรื่องนี้ให้ส้งหวั่นหวั่นทราบ ไม่ใช่มายืนเซ่ออยู่ตรงนี้กับส้งหวั่นหวั่นโดยที่ไม่ทำอะไรเลยนะ
เธอก็มีเป้าหมายเดียวกันกับส้งหวั่นหวั่นนั่นแหละ——
ไม่ให้เด็กคนนี้เกิดออกมา
ส้งหวั่นหวั่นที่มัวแต่ครุ่นคิดอยู่นั้นถูกคำพูดของเจียงหนิงเอ๋อดึงกลับมา เธอส่ายหัวเบาๆ เพียงแต่สีหน้ายังคงกลัดกลุ้มเป็นอย่างมาก
มองสีหน้าของส้งหวั่นหวั่น เจียงหนิงเอ๋อก็เอ่ยปากพูดอย่างพินิจพิจารณา “คุณส้งค่ะ เรื่องนี้……ฉันอาจจะช่วยคุณได้ แต่ว่า……”
ได้ยินเจียงหนิงเอ๋อบอกว่าสามารถช่วยตนได้ ดวงตาของส้งหวั่นหวั่นก็สว่างสดใสขึ้นมาทันที รีบถามกลับไปว่า“แต่ว่าอะไร?”
เจียงหนิงเอ๋อกลอกตาไปมา ถึงพูดต่อว่า“แต่ว่า……ตอนนี้ฉันยังยุ่งอยู่กับเรื่องของบริษัท คุณก็รู้ดี เงินมากมายของก่อนหน้านี้ก็ไม่เหลือแล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป บริษัทคงอยู่ต่อไม่ได้แล้ว?”
ถึงแม้ในใจเจียงหนิงเอ๋อก็อยากทำลายความสุขของเจียงหยุนเอ๋อทิ้ง ถ้าพูดตามหลักแล้วจึงไม่ควรมีเงื่อนไขใดๆกับส้งหวั่นหวั่นเลย
แต่ว่า ในเมื่อโอกาสทองมาอยู่ตรงหน้าแล้ว ถ้าเธอไม่ใช้มันให้เป็นประโยชน์ก็คงจะไม่มีเหตุผล
ส้งหวั่นหวั่นจ้องตาค้างไปชั่วขณะ เธอคิดไม่ถึงว่าเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เจียงหนิงเอ๋อยังมีกะจิตกะใจพูดเงื่อนไขกับเธออีก
“เจียงหนิงเอ๋อ คุณ……”ส้งหวั่นหวั่นอดไม่ได้ที่จะโมโห เพียงแต่พูดมาได้ครึ่งทางก็หยุดพูด
ไม่ ไม่ได้ ตอนนี้เธอยังทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับเจียงหนิงเอ๋อเลวร้ายไม่ได้
ถึงแม้ตอนนี้ ข้อเสนอที่เจียงหนิงเอ๋อพูดมาจะน่าละอายใจอยู่บ้าง แต่……ถ้าพูดตรงๆก็คือความสัมพันธ์ของพวกเธอก็มีไว้เพียงเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ซึ่งกันและกันเท่านั้น ไม่ได้มีความจริงใจต่อกันเสียเลย?
ส้งหวั่นหวั่นขมวดคิ้วเล็กน้อย ถามว่า“ก่อนหน้านี้เซียวอี้เฟิงบอกว่าจะร่วมลงทุนกับคุณไม่ใช่เหรอ ทำไมเงินยังมาไม่ถึงล่ะ?”
เมื่อพูดถึงเซียวอี้เฟิง เจียงหนิงเอ๋อก็โมโหขึ้นมาทันที
หลายปีมานี้พวกเขาเป็นเหมือนกันหมดเลย ไม่ว่าตอนแรกจะพูดดีน่าฟังขนาดไหน พอถึงเวลาต้องการขึ้นมากลับไม่รักษาวาจาเฉยเลย
คิดถึงตรงนี้ เจียงหนิงเอ๋อก็พูดด้วยความโกรธเคืองว่า“ตอนแรกเริ่มเขาได้รับปากเอาไว้แล้ว แต่เป็นเพราะวัสดุครั้งนี้ถูกตัดออก ทำให้เขาไม่ยอมอนุมัติเงินมาสักที แต่ถ้าเขายินดียื่นมือเข้าช่วยเหลือสักนิด ก็คงไม่ต้องเป็นเหมือนเฉกเช่นทุกวันนี้”
“ได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันจะอนุมัติเงินห้าล้านหยวนให้คุณในนามของฉันก็แล้วกัน”หลังจากที่ส้งหวั่นหวั่นคิดดูแล้ว จึงยอมรับข้อเสนอ“ฝั่งทางเซียวอี้เฟิง คุณก็ลองพยายามดูอีกสักครั้ง สำหรับทางคุณป้า……”
ในสายตาส้งหวั่นหวั่นตอนนี้ ลี่จีถองก็เป็นเพียงคนที่ทำอะไรไม่ได้เรื่องคนนี้ เสียแรงที่ตนอุตส่าห์ให้อวิ๋นเจิ้งซีเข้าไปปลอบเธอ แต่ลี่จีถองคนนี้ก็ทำประโยชน์อะไรไม่ได้เลย!
สำหรับลี่จีถอง ส้งหวั่นหวั่นรู้สึกดูถูกเธอจับใจจริงๆ
เป็นเพียงขยะไร้ค่าก็เท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพื่อได้ตัวลี่จุนถิง เธออาจจะไม่ทำความรู้จักกับลี่จีถองเลยก็ได้
เมื่อก่อนเธอก็เคยฟังลี่จีถองทำเรื่องเหลวไหลพวกนั้น ตอนแรกคิดว่ายังไงสักลี่จีถองก็ยังคงมีวิธีเด็ดอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ดูแล้ว เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ถึงแม้ตอนนี้ส้งหวั่นหวั่นเริ่มรู้สึกรังเกียจลี่จีถองขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ว่าตอนนี้ลี่จีถองก็ยังคงมีค่าสำหรับใช้หาผลประโยชน์ได้อยู่เล็กน้อย เธอยังไม่คิดที่จะพลาดโอกาสนี้ไป
ของบางอย่าง……ถึงแม้ตัวมันจะไร้ค่าเพียงใด แต่ก็ต้องใช้ประโยชน์ที่มีอยู่อันน้อยนิดจนหมดแล้ว ถึงจะสามารถละทิ้งได้
ส้งหวั่นหวั่นกำลังคิดเช่นนี้อยู่
ตอนนี้ลี่จีถองน่าจะใช้ชีวิตอย่างน่าอนาถอยู่ เพราะลี่จุนถิงไม่คิดที่จะปล่อยเธอไป และโม่เสี่ยวฮุ่ยก็เหมือนจะไม่ช่วยเธอพูดอีกต่อไปแล้วด้วย
บัดนี้ลี่จีถองคงจะเกลียดชังเจียงหยุนเอ๋อถึงทรวงในแล้วล่ะ
และอารมณ์เกลียดนี้ เธอสามารถใช้เป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์ได้นั่นเอง
แต่ว่า คำพูดเหล่านี้ส้งหวั่นหวั่นไม่ได้พูดออกมา เพราะเธอไม่มั่นใจว่าเจียงหนิงเอ๋อกับตนจะคิดเหมือนตนหรือเปล่า คำบางคำ……จึงได้แต่เก็บซ่อนไว้ภายในใจเท่านั้น
“อืม ฉันรู้แล้ว ฉันจะลองดูอีกครั้ง”เจียงหนิงเอ๋อพยักหน้าตอบ
“ถ้าอย่างนั้นก็ว่ากันตามนี้ก็แล้วกัน ตอนนี้ก็จะค่ำแล้ว ฉันกลับไปก่อนนะ”ส้งหวั่นหวั่นมองนาฬิกาข้อมือแวบหนึ่ง พลางพูดขึ้นมา
……
เจียงหยุนเอ๋อที่ออกจากบ้านตระกูลเจียงมาก็กลับไปที่บ้านของตนทันที
ร่างกายยังคงรู้สึกไม่สบายอยู่ แต่เมื่อนึกได้ว่าในท้องของตนมีสิ่งมีชีวิตเล็กอยู่ด้านใน เหมือนความรู้สึกพวกนี้ก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น
เพราะ……เป็นลูกของตนกับลี่จุนถิง
เจียงหยุนเอ๋อเอามือพยุงท้องของตนไว้ แววตาจึงกลายเป็นความอ่อนโยนขึ้นมาทันที
เธอนั่งใจลอยอยู่บนโซฟาได้สักพักหนึ่ง จากนั้นนึกขึ้นได้ว่าอีกไม่นานก็จะถึงวันเกิดของซูม่านลีแล้ว จึงตัดสินใจเก็บเรื่องตั้งท้องไว้สักพัก เพื่อมาเตรียมงานฉลองวันเกิดของซูม่านลีก่อน
ถึงแม้ตอนนี้อาการของซูม่านลีจะดีกว่าตอนแรกเยอะมากแล้ว แต่เมื่อคิดถึงสุขภาพของแม่ คาดว่าสุดท้ายคงต้องจัดงานวันเกิดที่ห้องคนไข้แล้ว
เมื่อคิดถึงจุดนี้ เจียงหยุนเอ๋ออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาวๆ
เธอรู้สึกสงสารแม่ของตนเป็นอย่างมาก ตลอดเวลาที่ผ่านมาซูม่านลีทำทุกอย่างเพื่อเจียงเย่เฉิง แต่ผลสุดท้าย……กลับได้การตอบแทนมาด้วยวิธีนี้
และไม่รู้ว่าในใจคุณแม่จะรู้สึกเสียใจที่เลือกคนผิดหรือเปล่า
แต่ยังไงสัก เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกแทนแม่ของตนว่าไม่คุ้มค่าแก่การพยายามเลย
ถึงแม้งานเลี้ยงฉลองวันเกิดจะต้องจัดที่โรงพยาบาล แต่เจียงหยุนเอ๋อก็หวังอยากให้ซูม่านลีดีใจบ้าง ดังนั้นการจัดเตรียมครั้งนี้ จึงต้องตั้งใจเป็นพิเศษหน่อย
เจียงหยุนเอ๋อพลิกกระดาษออกมาเริ่มเขียนรายการต่างๆ
เวลาผ่านไปได้เร็วมาก ไม่รู้ตัวก็จะค่ำแล้ว และในตอนนั้นประตูก็ได้เปิดเข้ามา ถวนจื่อเลิกเรียนกลับบ้านมาแล้ว
เพราะตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อมีงานทำแล้ว ดังนั้นส่วนมากจะเป็นคนขับรถทำหน้าที่รับส่งถวนจื่อไปโรงเรียน
ตอนแรกเจียงหยุนเอ๋อยังเป็นห่วงอยู่เลยว่าถวนจื่อจะไม่คุ้นชิน แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะปรับตัวได้เร็วขนาดนี้ ไม่ได้แสดงท่าทางแปลกๆแต่อย่างใด
เห็นถวนจื่อยังคงสดใสร่าเริงเหมือนเดิม เจียงหยุนเอ๋อจึงได้วางใจลง
“หม่ามี้!ผมกลับมาแล้ว!”พึ่งเดินเข้าประตูบ้านมา ถวนจื่อก็วิ่งเข้ามาอยู่ในอ้อนกอดของเจียงหยุนเอ๋ออย่างเบิกบาน
เจียงหยุนเอ๋อจับหัวของถวนจื่ออย่างรู้สึกขำ พูดว่า“ถวนจื่อ เชื่อฟังนะ แม่กำลังยุ่งอยู่ เดี๋ยวคอยเล่นเป็นเพื่อนลูกนะ