Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 144 ถึงตายก็ไม่ยอมถูกเหยียดหยามอย่างนี้
บทที่ 144 ถึงตายก็ไม่ยอมถูกเหยียดหยามอย่างนี้
ซู่จี้งยี้มีสีหน้าที่น่าหวาดกลัว ดูเหมือนว่าเขาจะโกรธขึ้นมาแล้ว
“เรื่องสำคัญขนาดนี้ ทำไมถึงไม่รายงานก่อนล่วงหน้า?” ซู่จี้งยี้พูดด้วยน้ำเสียงที่เข้มงวด
คนรับใช้ขดตัวลงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ากำลังหวาดกลัว: “ผู้ช่วยซู่ ขอโทษจริงๆ ค่ะ…คือฉัน…ฉันคิดว่าคุณชายยุ่งขนาดนั้น เลยไม่อย่ารบกวนเขา”
“ถึงคุณชายลี่จะยุ่ง แต่ถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับคุณนายน้อยจริงๆ เธอคิดว่าเขาจะปล่อยเธอไปอย่างนั้นเหรอ?” ซู่จี้งยี้พูดอย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด
คราวนี้คนรับใช้มีสีหน้าที่ตื่นตระหนกและดูร้อนใจอย่างเห็นได้ชัด: “อย่างนั้น…ผู้ช่วยซู่ ตอนนี้จะทำอย่างไรดีคะ?”
“เอาเถอะ ไม่ต้องพูดมากแล้ว ไหนเธอลองเล่าเหตุการณ์ในตอนนั้นให้ฉันฟังหน่อย” ซู่จี้งยี้ถามอย่างร้อนใจ
คนรับใช้กลับไปคิดทบทวนอย่างละเอียดสักพัก แล้วจึงเอ่ย: “เรื่องมันเป็นแบบนี้ค่ะ หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์ ดูเหมือนจะเกี่ยวกับคุณชายน้อย เธอก็รีบออกไป”
พอได้ฟังเสร็จ ซู่จี้งยี้ก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเดิม
ถ้าเป็นอย่างที่พูดจริง อย่างนั้นก็ต้องเกิดเรื่องขึ้นกับถวนจื่ออย่างแน่นอน
น่าชัง ถ้าหากเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อล้วนตกอยู่ในอันตรายล่ะก็ เขาจะรายงานกับลี่จุนถิงอย่างไร?
ในเวลานี้ลี่จุนถิงอยู่ที่ต่างประเทศ แต่ก่อนจะไปต่างประเทศเขายังสั่งกำชับซู่จี้งยี้เป็นพิเศษว่าจะต้องดูแลเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อให้ดี อย่าให้เกิดเรื่องอะไรกับพวกเขาเป็นอันขาด
แต่ตอนนี้…
“เอาล่ะ ฉันรู้แล้ว เธอพยายามติดต่อคุณนายน้อย ถ้าติดต่อได้แล้ว จำไว้ว่าต้องบอกฉันเป็นคนแรก” ซู่จี้งยี้พูดอย่างรีบร้อนเสร็จแล้วจึงออกไป
หลังจากที่ออกมาจากที่พัก ซู่จี้งยี้ก็รีบโทรศัพท์หาลี่จุนถิง
ถึงแม้ลี่จุนถิงจะต้องตำหนิตนหลังจากที่รู้ข่าวแน่นอน แต่เขาก็ยังต้องบอกให้ลี่จุนถิงทราบ
ลี่จุนถิงที่กำลังหารือเรื่องงานอยู่ พอเห็นว่าซู่จี้งยี้โทรเข้ามาก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
“ขออภัย ผมต้องไปรับโทรศัพท์”
“คุณชายลี่ อาจเกิดเรื่องขึ้นกับคุณนายน้อยและคุณชายน้อยครับ!”
น้ำเสียงที่ฟังดูวิตกกังวลของซู่จี้งยี้ดังขึ้น ทำให้เขาเริ่มร้อนใจขึ้นมาแล้ว
“หมายความว่าอย่างไร?”
น้ำเสียงของลี่จุนถิงดูไม่ค่อยดี แต่ซู่จี้งยี้ก็พอจะเข้าใจอารมณ์ของเขาในตอนนี้ เขาจึงไม่รอช้าแล้วรีบเล่าสถานการณ์ที่ตนเองรู้ให้ลี่จุนถิงฟัง
หลังจากที่ได้ฟัง อารมณ์ของลี่จุนถิงก็ยิ่งหนักหน่วงขึ้นมาเรื่อยๆ : “อย่างนั้นนายมัวรออะไรอยู่? ยังไม่รีบไปตามหาอีก”
“ครับ” ซู่จี้งยี้รีบตอบกลับ
หลังจากที่วางสายซู่จี้งยี้ก็รีบทำการตรวจสอบ
พอตรวจสอบดูอย่างละเอียดแล้ว เขาถึงได้รู้ว่าถวนจื่อถูกรับตัวไปจากสโมสร ต่อมาเจียงหยุนเอ๋อก็เตรียมที่จะไปรับเขาแต่กลับหาเขาไม่เจอ
จากนั้นเจียงหยุนเอ๋อก็ขับรถมุ่งหน้าไปที่วิลล่าแห่งหนึ่งและวิลล่านั้นก็เป็นของลี่จีถอง
ดูแล้ว…เรื่องที่จะต้องเกี่ยวข้องกับลี่จีถองอย่างแน่นอน!
หลังจากที่ได้ข้อสรุปแล้ว ซู่จี้งยี้ก็รีบรายงานข่าวให้ลี่จุนถิงทราบ
ลี่จุนถิงหรี่ตาลงเล็กน้อย คิดไม่ถึงเลยว่าลี่จีถองจะยังมีความกล้ามากขนาดนี้
อาจเป็นไปได้ว่าเรื่องที่ตนเองเคยทำก่อนหน้านี้ยังไม่สามารถทำให้เธอเข้าใจถึงการตัดขาดเยื่อใยของตนได้?
“นายรีบไปดูเหตุการณ์เร็วเข้า” ลี่จุนถิงตอบ
ถึงลี่จุนถิงจะไม่บอก ซู่จี้งยี้ก็ต้องไปบ้านของลี่จีถองอย่างแน่นอน
พอตอนนี้ลี่จุนถิงได้ออกคำสั่งมาอย่างนี้ เขายิ่งไม่ลังเลเลยสักนิดแล้วรีบไปที่นั่นทันที
เมื่อซู่จี้งยี้มาถึงที่วิลล่า ลี่จีถองก็ได้ออกไปแล้ว
ถึงแม้เธอเองก็อยากจะเห็นเจียงหยุนเอ๋อถูกคนอื่นข่มเหงรังแกอยู่เหมือนกัน แต่เธอก็รู้สึกว่ามันคงจะดูทุเรศสายตา
ไม่ว่าผู้คุ้มกันรูปร่างสูงใหญ่พวกนั้นจะทำเรื่องต่ำช้าอะไร ถึงแม้เฝ้ารออยู่ก็ตามแต่เธอก็ไม่อยากเห็นมันกับตา
อา…อวิ๋นเจิ้งซีก็ยังเป็นไปตามที่ใจเธอคาดหวัง
ถึงแม้ลี่จีถองจะออกไปแล้ว แต่ก่อนหน้าที่เธอจะไปก็ยังสั่งให้ผู้คุมกันเฝ้าประตูไว้เพราะกลัวจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น
ในตอนที่ซู่จี้งยี้มาถึง ก็เห็นว่ามีผู้คุ้มกันหลายคนยืนอยู่ที่หน้าประตู ไม่รู้ว่ากำลังวางแผนอะไรอยู่กันแน่
ซู่จี้งยี้เดินเข้าไปเพียงไม่กี่ก้าวก็ถูกผู้คุ้มกันขวางไว้
“ฉันเป็นผู้ช่วยของคุณชายลี่ มาหาคุณหนูลี่” ซู่จี้งยี้พูดด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม
ในความเป็นจริงแล้วเขาไม่อยากเกรงใจคนพวกนี้ แต่อย่างไรก็ต้องรักษามารยาทไว้ก่อน
“ขออภัย คุณหนูลี่ไม่อยู่บ้าน คุณค่อยมาวันอื่นเถอะครับ”
“ไม่เป็นไร” ซู่จี้งยี้หัวเราะเบาๆ และดูสงบนิ่งมาก “อันที่จริงฉันไม่ได้มาหาคุณหนูลี่หรอก แต่มาหาคุณนายน้อยของฉัน”
พอได้ยิน ผู้คุ้มกันหลายๆ คนก็เริ่มมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป หนึ่งในนั้นรีบปฏิเสธว่า: “ผู้ช่วยซู่ล้อเล่นใช่ไหม? คุณนายน้อยของพวกคุณ จะอยู่ในวิลล่าของคุณหนูลี่ตอนนี้ได้อย่างไร?”
ซู่จี้งยี้มีสีหน้าที่เย็นชาแล้ว: “นั่นต้องถามคุณหนูลี่ของพวกนายแล้วล่ะ”
เมื่อเห็นว่าผู้คุมกันสองสามคนนี้ยังยืนบังตนเองอยู่ ซู่จี้งยี้จึงได้กวาดสายตามองพวกเขาทีละคน หลังจากนั้นก็ลงมือจับผู้คุ้มกันพวกนั้นทุ่มลงกับพื้น จากนั้นก็เดินข้ามพวกเขาเข้าประตูใหญ่ไป
เมื่อผลักประตูวิลล่าเข้าไป ซู่จี้งยี้ก็เหลือบเห็นกลุ่มผู้ชายกำลังล้อมผู้หญิงที่นอนอยู่บนโซฟา นั่นไม่ใช่เจียงหยุนเอ๋อหรอกเหรอ?
เจียงหยุนเอ๋อยังคงโบกไม้กอล์ฟในมือไม่ยอมหยุด ถึงแม้ว่าบางครั้งจะตีโดนผู้ชายหลายคน แต่นั้นก็ไร้ประโยชน์ เพราะมันยิ่งกระตุ้นความดิบเถื่อนในตัวพวกเขา
“เฮ้เฮ้ สาวน้อยคนนี้ยังดื้ออยู่เลย แต่ก็ไม่เลวนะ ฉันชอบผู้หญิงแบบนี้ น่ารักออดอ้อนจะไปสนุกอะไรล่ะ? จริงไหม?”
หนึ่งในผู้ชายเหล่านั้นพูดขึ้น ก่อนจะหันมายิ้มอย่างน่ารังเกียจให้กับเจียงหยุนเอ๋อ
“พวกแกไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!” ในเวลานี้เจียงหยุนเอ๋อกำลังใช้ไม้กอล์ฟฟาดพวกเขาด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี แล้วมันก็สร้างความเจ็บปวดให้กับหลายๆ คน
ผู้ชายหลายๆ คนที่เห็นเหตุการณ์ก็เริ่มโกรธขึ้นมาแล้ว เจียงหยุนเอ๋อสู้พวกเราไม่ได้อยู่แล้ว ไม่นานเธอก็ถูกตรึงไว้กับโซฟาจนกระดิกตัวไม่ได้
เธอปกป้องหน้าท้องของตนเองโดยไม่รู้ตัว แต่ผู้ชายพวกนั้นก็เริ่มที่จะรวบหัวรวบหางเธอแล้ว
เจียงหยุนเอ๋อพยายามต่อสู้ดิ้นรนไม่ยอมหยุดจนรอบข้างกระจัดกระจายไปหมด แต่มันก็ไร้ประโยชน์
ตอนนี้ในท้องของเธอยังมีเด็กอยู่ ส่วนถวนจื่อก็ยังอยู่ข้างๆ เจียงหยุนเอ๋อไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าคนพวกนั้นทำแผนชั่วนี้สำเร็จจริงๆ มันจะเกิดเป็นภาพเหตุการณ์อย่างไร
เพียงแค่คิด เธอก็รู้สึกตื่นตระหนกใจเป็นอย่างมาก
แล้วน้ำตาก็ค่อยๆ ไหลซึมออกมาจากหางตาของเจียงหยุนเอ๋อและใบหน้าของลี่จุนถิงปรากฏขึ้นในหัวของเธอ
จุนถิง คุณอยู่ที่ไหน…
ฉันไม่อยาก…ฉันไม่อยากถูกย่ำยีอย่างนี้…แต่ว่า…ตอนนี้มันยังมีวิธีอื่นอยู่อีกเหรอ?
ชั่วขณะนั้น จู่ๆ เจียงหยุนเอ๋อก็มีความคิดที่อยากจะตายขึ้นมากะทันหัน แต่ต่อให้เธอต้องตาย ก็จะไม่ยอมถูกเหยียดหยามแบบนี้