Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 159 อายจนหน้าแดง
บทที่ 159 อายจนหน้าแดง
สุดท้าย โค้ชทีม AY ก็ได้พาผู้เล่นในทีมตัวเองกลับไป
มองตามหลังคนพวกนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกฟุ้งซ่านในใจ
โธ่เอ้ย……หวังว่ากลับไปแล้ว โค้ชคนนั้นจะไม่ไประบายอารมณ์กับพวกเขานะ
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในวันนี้ก็สิ้นสุดลงแล้ว และการต่อสู้ครั้งแรกนี้ถวนจื่อก็ได้รับชัยชนะกลับมา
“ถวนจื่อวันนี้เก่งมากเลย” เจียงหยุนเอ๋อบีบแก้มถวนจื่อ แล้วหอมแก้มเขาฟอดใหญ่
ต่อหน้าผู้คนมากมายถูกเจียงหยุนเอ๋อทำแบบนี้ใส่ ทำให้ถวนจื่อรู้สึกเขินอายขึ้นมา อายจนหน้าแดง
นิ่งเสวียนโม่โค้ชของทีมถวนจื่อยิ้มแล้วพูด : “วันนี้ถวนจื่อทำได้ดีมากจริง ๆ”
ถวนจื่อลูบหัวไปมา พูดอย่างเขินอายว่า : “วันนี้ทุกคนเก่งมากครับ ถ้าหากทุกคนไม่พยายามด้วยกัน พวกเราก็คงไม่ชนะทีม AY หรอก”
นิ่งเสวียนโม่หยิกแก้มถวนจื่อ : “ตอนนี้รู้จักถ่อมตัวเป็นแล้วนะ”
ถวนจื่อหัวเราะแหะ ๆ ๆ ออกมา
“ใช่สิ โค้ชคะ พวกเราต้องทำอะไรต่อล่ะ?” เจียงหยุนเอ๋อคิดว่าในเมื่อการแข่งขันจบลงแล้วก็คงมีกำหนดการอะไรต่ออีก
นิ่งเสวียนโม่มองนาฬิกาข้อมือ : “ตอนนี้ค่อนข้างค่ำแล้ว ถ้าหากรีบกลับไปก็คงไม่ทัน เอาอย่างนี้ดีไหมคืนนี้พวกเราพักที่นี่หนึ่งคืน พรุ่งนี้ค่อยกลับกัน”
นิ่งเสวียนโม่พูดพลางมองไปยังเด็ก ๆ แล้วถามความเห็นพวกเขา
เด็ก ๆ พยักหน้าเห็นด้วยกับที่โค้ชพูด
“ดี งั้นพวกเราไปเก็บของก่อน จากนั้นพักผ่อนสักครู่ แล้วพวกเราออกไปหาอะไรกินฉลองกันหน่อย”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ เด็ก ๆ ก็ส่งเสียงกันอย่างดีใจ แล้วเดินมุ่งหน้าไปยังโรงแรมของตัวเอง
เจียงหยุนเอ๋อพาถวนจื่อเข้าไปในห้อง อาบน้ำให้เขา แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ : “ถวนจื่อ วันนี้เหนื่อยไหมจ๊ะ?”
ถวนจื่อพยักหน้า : “เหนื่อยครับ แต่ผมมีความสุข หม่ามี้ ผมรู้สึกว่าสิ่งที่ผมทุ่มเทไปคุ้มค่ามากครับ”
เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกว่าลูกชายของตัวเองคนนี้ยิ่งโตยิ่งฉลาด เธอบีบจมูกเขา : “ใช่แล้ว ถ้าขยันทุ่มเท ถึงแม้ผลลัพธ์จะไม่เป็นอย่างที่หวังไว้ แต่ก็คุ้มค่าแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผลลัพธ์ยอดเยี่ยมของลูกแบบนี้”
ถวนจื่อยิ้มหวานออกมา จนเผยให้เห็นลักยิ้ม
เสียงของนิ่งเสวียนโม่ดังมาจากด้านนอก : “ถวนจื่อ คุณเจียง พวกคุณเตรียมพร้อมหรือยัง? พวกเราจะออกเดินทางแล้วนะครับ”
“มาแล้วค่ะ แป๊บนะคะ” เจียงหยุนเอ๋อสวมหมวกให้ถวนจื่อ จากนั้นตัวเองก็สวมเสื้อคลุม จัดแจงผมเผ้าให้เรียบร้อยแล้วออกเดินทาง
คนมากมายกลุ่มหนึ่งได้เดินทางออกจากโรงแรม
ออกจากโรงแรมได้ไม่นาน ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา
“รบกวนเวลาพวกคุณสักหน่อยได้ไหมครับ?” ผู้ชายคนนั้นเข้ามาขวางกลุ่มของถวนจื่อเอาไว้
นิ่งเสวียนโม่พิจารณาชายคนนั้นอย่างละเอียด พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ จึงวางใจลงหน่อย
“สวัสดีครับ ผมคือผู้ดูแลของบริษัทเครื่องดื่มจี๋เล่อ นี่คือนามบัตรของผม” ผู้ชายคนนั้นพูดพร้อมกับยื่นนามบัตรตัวเองส่งมาให้ แล้วเอ่ยพูดต่อว่า : “พวกเราอยากให้คนในทีมของพวกคุณมาเป็นพรีเซนเตอร์เครื่องดื่มตัวนี้ โดยเฉพาะเด็กคนนี้ครับ”
เขาพูดพลางยิ้มแล้วมองไปทางถวนจื่อ
นิ่งเสวียนโม่รับนามบัตรมา แล้วอ่านอย่างละเอียด จำได้ว่ามีบริษัทเครื่องดื่มนี้อยู่
แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของเขาเพียงคนเดียว จึงมีความลังเลอยู่บ้าง : “สำหรับทีมของพวกเรานั้นโอเค แต่ในส่วนของเด็กคนนั้นที่คุณพูดถึงเป็นถึงคุณชายน้อย เขาไม่ขัดสนเรื่องเงิน จะยอมเป็นพรีเซนเตอร์ให้ไหม ต้องถามผู้ปกครองของเขาดูก่อน”
สายตาของนิ่งเสวียนโม่มองไปยังเจียงหยุนเอ๋อ ผู้ชายคนนั้นก็มองไปทางเจียงหยุนเอ๋อด้วยสายตาคาดหวัง
เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกสับสนเล็กน้อย ได้แต่มองไปรอบ ๆ สองคนนั้นอย่างนิ่ง ๆ
ชายคนนั้นเห็นเจียงหยุนเอ๋อมีท่าทีลังเล จึงได้เอ่ยพูด : “ตอนนี้ความนิยมในตัวของน้องเจียงซิ่งหวีนั้นสูงมาก ถ้าหากน้องสามารถมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้พวกเรา ก็สามารถทำให้เครื่องดื่มของพวกเราขายดีมากยิ่งขึ้น และยังสามารถทำให้เจียงซิ่งหวีได้รับความนิยมมากขึ้นตามไปด้วย ถือว่าเป็นเรื่องที่ได้ผลประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย หวังว่าคุณผู้หญิงจะรับไว้พิจารณาสักหน่อยนะครับ”
ชายคนนั้นอธิบายถึงผลประโยชน์ของเรื่องนี้ให้ฟัง พูดด้วยความตื่นเต้นดีใจ
เจียงหยุนเอ๋อไม่รู้จะทำยังไง : “แต่ว่า……ฉันไม่ค่อยถนัดทางด้านนี้เท่าไหร่นัก”
เจียงหยุนเอ๋อสนับสนุนให้ถวนจื่อเข้าสู่วงการการแข่งขันออนไลน์เพราะเป็นสิ่งที่ถวนจื่อชอบ แต่ไม่ได้อยากให้เขากลายเป็นดาราอะไรแบบนั้น
“เอาอย่างนี้ไหม คุณกลับไปถามพ่อเขาดูก่อน?” นิ่งเสวียนโม่คิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดี
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า : “ก็ดีค่ะ ไว้ฉันกลับไปปรึกษากับพ่อเขาดูก่อนนคะ แล้วค่อยบอกคุณได้ไหม?”
ชายคนนั้นเห็นว่ามีโอกาสเป็นไปได้อยู่ จึงดีใจแล้วยื่นนามบัตรอีกหนึ่งใบให้เจียงหยุนเอ๋อ : “รอพวกคุณตัดสินใจดีแล้ว ไว้ติดต่อผมมานะครับ”
“ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ” เจียงหยุนเอ๋อรับนามบัตรมา เอ่ยขอบคุณอย่างมีมารยาท
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ไปก่อนนะเด็ก ๆ” ชายคนนั้นเอ่ยร่ำลากับพวกเด็ก ๆ แล้วจากไป
เด็ก ๆ เหมือนไม่กลัวเลยสักนิด ได้ร่ำลาชายคนนั้นอย่างเป็นมิตร
“พอแล้ว มืดมากแล้ว พวกเรารีบไปฉลองกันแล้วรีบกลับกันเถอะ” นิ่งเสวียนโม่ตบมือเรียก
เด็กมีจำนวนหลายคน ต่อให้มีผู้ใหญ่อยู่สองคนก็ยังไม่ค่อยปลอดภัยอยู่ดี
พูดจบทุกคนก็มุ่งหน้าไปยังร้านที่จะไป
หลังจากที่พวกเขาเดินออกไป โค้ชของทีม AY ก็เดินออกมาจากมุมมืด สีหน้าดุดันโหดเหี้ยม
มือของโค้ชกำมัดแน่นแล้วทุบลงไปบนเสาไฟฟ้าอย่างแรง
การแข่งขันวันนี้ ทีมของถวนจื่อโจมตีทีมของพวกเขาจนพ่ายแพ้ ทำให้พวกเขารู้สึกเสียหน้ามาก อีกทั้งยังเสียโอกาสได้เงินครั้งนี้ไปอีก
โค้ชมองไปยังทางที่พวกเขาเดินไป หรี่ตาลง : “แค้นนี้ฉันต้องเอาคืนแน่นอน”
……
นิ่งเสวียนโม่หาข้อมูลมาแล้วว่าเมืองแห่งนี้มีอะไรน่ากินและคุ้มค่าบ้าง แล้วก็พาพวกเขาไป
“งั้นวันนี้พวกเรากินหม้อไฟแล้วกันเนอะ เครื่องปรุงหม้อไฟของร้านนี้สดใหม่มาก ราคาสมเหตุสมผล ปริมาณก็กำลังดี” นิ่งเสวียนโม่พูดไปเปิดประตูไปพลาง
รอจนทุกคนเข้ามาในร้านหมดแล้ว เขาจึงปิดประตูลง การกระทำของเขาดูเป็นสุภาพบุรุษมาก
นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเจียงหยุนเอ๋อจึงยอมให้ลูกของตัวเองติดตามเขา
ว่ากันว่าเด็กจะได้รับอิทธิพลจากสภาพแวดล้อมภายนอกได้ง่าย นี่เป็นเหตุผลที่ว่าควรหาสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมให้กับเด็ก
เจียงหยุนเอ๋ออยากให้ถวนจื่อใกล้ชิดกับคนอย่างนิ่งเสวียนโม่ จะได้คอยเรียนรู้อะไรต่าง ๆ จากตัวเขา
พวกเด็ก ๆ สนอกสนใจกับโลกภายนอกมาก เมื่อเข้ามาในร้าน ก็เริ่มวิ่งไปวิ่งมา เพราะร้านนี้ตกแต่งได้สวยงามมาก
ร้านนี้ตกแต่งเป็นธีม มีถนนป่าไม้ โลกใต้ท้องทะเล ตึกสูงระฟ้า
“พอได้แล้ว เด็ก ๆ ไม่วิ่งกันมั่วนะ หาธีมที่พวกเธอชอบแล้วนั่งลงได้แล้ว นี่เป็นพื้นที่สาธารณะ ต้องรู้จักรักษาความสงบนะ อย่าเสียงดังเอะอะกัน” ตอนที่นิ่งเสวียนโม่เอ่ยพูด ได้แสดงท่าทางเคร่งขรึมออกมา
เจียงหยุนเอ๋อรู้ว่านิ่งเสวียนโม่เอาเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันเล็ก ๆ น้อย ๆ มาสั่งสอนเด็ก ๆ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ วันนี้ปล่อยให้พวกเขาสนุกกันหน่อยเถอะ พวกเขาชนะการแข่งขันมาก็ดีใจครื้นเครงกันเป็นธรรมดา” เจียงหยุนเอ๋อใจดีช่วยพูด