Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 196 ถูกหลอกไปแล้ว
บทที่ 196 ถูกหลอกไปแล้ว
งานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว
แขกมากมายเมื่อเดินผ่านหน้าของลี่จุนถิงต่างก็มาทักทายพูดคุยกับเขา
ช่วงนี้ลี่จุนถิงมัวแต่ยุ่งกับงานในบริษัท ไม่ค่อยที่จะออกงานสังคมนัก อีกอย่างเขาก็ไม่ชอบงานเลี้ยงแบบนี้ด้วย
แต่ครั้งนี้เป็นเพราะเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของลี่จุนซิน เขาต้องให้เกียรติพี่สาวตัวเอง
คนมากมายเมื่อเห็นลี่จุนถิงในงานเลี้ยง รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่พบเจอได้ยากนัก ต่างทยอยกันเข้ามาตีสนิทลี่จุนถิง
วันนี้เป็นงานเลี้ยงของพี่สาว ลี่จุนถิงก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธคนอื่น ต่อให้ไม่เต็มใจก็ต้องรับหน้าให้ดี
“วันนี้ผมค่อนข้างยุ่ง คุณนั่งตรงนี้คนเดียวนะ?” ลี่จุนถิงพูดจบก็ตบที่บ่าของเจียงหยุนเอ๋อเบาๆ
เจียงหยุนเอ๋อยิ้มแล้วตอบ: “ไม่เป็นไรค่ะ คุณไปเถอะ”
เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล งานเลี้ยงแบบนี้ลี่จุนถิงก็ต้องคอยต้อนรับแขกอยู่แล้ว
ดังนั้นเขายุ่งจนไม่มีเวลาสนใจเธอ เจียงหยุนเอ๋อก็สามารถเข้าใจได้ ก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจนัก
“งั้นคุณก็ทำตัวสบายๆหน่อยนะ” ลี่จุนถิงพูดจบก็เดินออกไปจากข้างกายของสองแม่ลูก
เจียงหยุนเอ๋อได้อุ้มถวนจื่อขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง
“หม่ามี๊ ผมหิวแล้ว” ถวนจื่อลูบที่ท้อง รู้สึกว่าท้องของตัวเองนั้นกำลังร้องจ๊อกๆแล้ว
เจียงหยุนเอ๋อได้หยิบเค้กที่ตั้งวางอยู่บนโต๊ะมาหนึ่งชิ้นแล้วให้กับถวนจื่อ
“กินสิ”
ถวนจื่อรับเค้กไป แล้วชี้ไปอาหารที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ: “หม่ามี๊ ของบนโต๊ะกินได้ทุกอย่างไหมครับ?”
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า: “นอกจากเหล้าที่ดื่มไม่ได้ นอกนั้นกินได้ตามสบายเลยจ้า”
ถวนจื่อดีใจเป็นอย่างยิ่ง
เพราะว่าก่อนหน้านี้เจียงหยุนเอ๋อได้สั่งสอนเขามาโดยตลอด เวลาอยู่ที่บ้านคนอื่นห้ามกินของไปเรื่อย ดังนั้นถวนจื่อจึงควบคุมตัวเองได้ดีมาโดยตลอด
“แต่ว่าต้องจำไว้ ห้ามกินเยอะเกินไป ห้ามกินจนจุก หากท้องเสีย หม่ามี๊ก็จะตีก้นนะ” เจียงหยุนเอ๋อกลัวว่าถวนจื่อไม่ระวังจนกินมากเกินไป
ถวนจื่อได้ยัดลูกองุ่นเข้าไปในปาก ขณะที่กินก็ได้พูดขึ้น: “หม่ามี๊ผมรู้แล้ว ผมจะเป็นเด็กดีและเชื่อฟังครับ”
เจียงหยุนเอ๋อเห็นถวนจื่อที่มัวแต่กิน เธอก็นั่งอยู่ข้างๆ มองดูคนที่เดินไปเดินมาในงาน ภายในงานครึกครื้นมากทีเดียว
คิดๆแล้วตัวเองกับพวกเขานั้นช่างไม่เหมือนกันเลย พวกเขาสามารถพูดคุยเจรจากันอย่างสบายๆ แต่ตัวเองนั้น……..
เพียงแต่ไม่เป็นไร สิ่งที่ไม่ชำนาญเหล่านี้เธอก็ไม่ฝืน สามารถที่จะทำงานของตัวเองได้ดีก็พอแล้ว
ระหว่างนั้น เจียหยุนเอ๋อรู้สึกว่าตัวเองอยากจะเข้าห้องน้ำ
“ถวนจื่อ หม่ามี๊ไปเข้าห้องน้ำก่อน ลูกก็รออยู่ตรงนี้ ห้ามไปไหนเด็กขาด สถานที่ตรงนี้ลูกไม่รู้จัก หากหลงทางก็จะหาหม่ามี๊ไม่เจอเข้าใจใช่มั้ย?”
ถวนจื่อที่เค้กเต็มปาก ก็พยักหน้า
เจียงหยุนเอ๋อกำชับเสร็จแล้ว ก็เดินจากไป
เจียงหยุนเอ๋อจากไปไม่นานนั้น ก็มีบริกรหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา
“หนูน้อย แม่ของเธอตกลงไปในน้ำแล้ว” ท่าทางของบริกรหญิงนั้นเหมือนร้อนใจมาก
ถวนจื่อได้หยุดกินเค้กที่อยู่ในมือที่ตัวเองนั้นกำลังจะเอาเข้าปาก มองไปทางบริกรหญิงอย่างตกใจ
“พี่บอกว่าแม่ของหนูตกลงไปในน้ำแล้ว” บริกรหญิงนึกว่าถวนจื่อฟังไม่ชัด ก็ได้พูดซ้ำอีกหนึ่งรอบ
ถวนจื่อรีบเคี้ยวเค้กในปากอย่างเร่งรีบ จากนั้นก็กลืนมันเข้าท้อง
“หม่ามี๊ตกน้ำเหรอ?” ถวนจื่ออึ้งไปเล็กน้อย หม่ามี๊ไปเข้าห้องน้ำไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงตกลงไปในน้ำละ
บริกรหญิงพยักหน้าอย่างจริงจัง
ถวนจื่อขมวดคิ้ว ก้มหน้าแล้วคิดไปสักพัก ตอนนี้ควรทำไง? แม่ตกลงไปในน้ำ ผมควรที่จะไปช่วยแม่ แต่ว่าผมว่ายน้ำไม่เป็น……ใช่แล้ว! ผมสามารถไปหาพ่อก่อน
“คุณรอก่อน ผมไปตามแด๊ดดี้ก่อน” ถวนจื่อที่พูดๆอยู่ก็ได้กระโดดลงจากเก้าอี้
บริกรหญิงเห็นถวนจื่อจะวิ่งออกไปแล้ว ก็รีบดึงถวนจื่อเอาไว้: “หนูน้อย รอก่อน ตรงนี้คนเยอะขนาดนี้ หนูจะตามหาพ่อของหนูเจอได้ยังไงกัน หนูไปดูแม่ของหนูก่อนดีกว่า เดี๋ยวพี่ให้คนอื่นไปแจ้งกับพ่อของหนู”
ถวนจื่อทำปากจู๋ ยังไงเขาก็รู้สึกว่าควรที่จะไปบอกแด๊ดดี้ก่อน: “แต่ว่าผมรู้สึกว่าผมต้องไปบอกแด๊ดดี้ก่อน”
บริกรหญิงได้ดึงถวนจื่อเข้ามาที่ข้างกายตัวเอง: “ไม่ต้องไปแล้ว หากหนูไปช้าแม่หนูก็จะจมน้ำตายแล้ว”
ถวนจื่อทนไม่ได้กับการกระตุ้นอย่างต่อเนื่องของบริกรหญิง และในที่สุดก็เดินตามบริกรหญิงไป
บริกรหญิงพาถวนจื่อออกไปจากห้องโถงในงานเลี้ยง เดินออกไปทางประตูหลัก ไปถึงที่สวนแห่งหนึ่ง
“พี่สาว แม่ของผมล่ะ? อยู่ตรงไหน?” ถวนจื่อที่ตื่นเต้นมากกำลังมองหา แต่ว่าก็มองไม่เห็นบ่อน้ำเลย
บริกรหญิงจุงมือของถวนจื่อ มองไปรอบๆด้วยความลนลาน: “หนูน้อยหนูอย่าเพิ่งใจร้อน แม่หนูก็อยู่ทางโน้นแหละ ไม่ไกลนัก พี่จะพาหนูไปเอง”
บริกรหญิงนั้นรู้สึกว่ามีคนมาที่นี่มากเกินไป ไม่อยากที่จะลงมือที่นี่
ถวนจื่อรู้สึกว่าสถานที่ที่บริกรหญิงจะพาตัวเองไปนั้น ยิ่งอยู่ยิ่งมืด ไม่เหมือนสถานที่ที่มีคนเยอะเลย
อีกอย่าง เจียงหยุนเอ๋อก็บอกแล้วว่าจะไปห้องน้ำ ไม่มีทางที่จะอยู่ตรงนี้
ถวนจื่อหยุดเดิน อยากที่จะสะบัดมือของบริกรหญิงออก ผมไม่ไปแล้ว: “ผมจะไปหาแด๊ดดี้ของผม ผมจะไปหาแด๊ดดี้”
บริกรหญิงก็ได้ดึงถวนจื่อไปอีกฝั่งหนึ่ง: “หม่ามี๊ของเธอตกน้ำ หากหนูยังไม่รีบไปแม่ก็ตายแน่”
“พี่โกหก” ถวนจื่อร้องตะโกนขึ้นมา “พี่โกหก แม่ผมไปเข้าห้องน้ำ ไม่มีทางที่จะมาที่แบบนี้ พี่ต้องการทำอะไรกันแน่”
ถวนจื่อรู้แล้วว่าบริกรหญิงคนนี้คิดไม่ดี ก็ได้เริ่มตะโกนของความช่วยเหลือ: “ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
บริกรหญิงตกใจ รีบยื่นมือไปปิดปากของถวนจื่อเอาไว้
เธอกลัวเสียงตะโกนของถวนจื่อจะทำให้คนอื่นสนใจ
ถวนจื่อรู้ว่าตัวเองนั้นโดนหลอกอีกแล้ว ก็ดิ้นสุดชีวิต แต่ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
บริกรหญิงได้อุ้มถวนจื่อขึ้นในท่าแนวนอน จากนั้นก็พาถวนจื่อไป
และฝั่งของเจียงหยุนเอ๋อ เพราะสถานที่ตรงนี้มันใหญ่มากจริงๆ อีกอย่างก็เป็นครั้งที่เจียงหยุนเอ๋อมาที่นี่ ดังนั้นเกือบจะหาห้องน้ำไม่เจอแล้ว
เจียงหยุนเอ๋อกลับมายังตำแหน่งที่จากไปเมื่อกี้ มองไปที่เก้าอี้ตัวนั้นแต่ไม่เห็นถวนจื่อ ใจก็ “หล่นตุ๊บ” ลงไป
เจียงหยุนเอ๋อรีบมองไปรอบๆ ไม่เจอแม้แต่เงาของถวนจื่อเลย
เจียงหยุนเอ๋อก็เดินวนดูรอบไปหลายรอบ ก็ไม่พบ
เจียงหยุนเอ๋อไม่อยากที่จะทำให้คนอื่นตกใจ จึงเรียกหาด้วยเสียงที่เบาๆ แต่ว่าเรียกไปตั้งนาน ถวนจื่อก็ไม่ได้ตอบสนองกลับเลย
เจียงหยุนเอ๋อเห็นบริกรคนหนึ่งเดินผ่าน ก็ดึงเสื้อของเขาเอาไว้: “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าเห็นเด็กผู้ชายที่ตัวสูงประมาณนี้มั้ยคะ?”
ขณะที่เจียงหยุนเอ๋อกำลังพูดก็ได้ใช้มือเทียบส่วนสูงของถวนจื่อ
บริกรขมวดคิ้ว หลังจากที่คิดแล้ว ก็พยักหน้า: “อืม ผมเหมือนจะเคยเห็น เหมือนว่าเขาจะวิ่งออกไปแล้ว”