Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 271 แค่อยากจะดูแลเธอ
บทที่271 แค่อยากจะดูแลเธอ
“ได้ ฉันสาบาน ว่าถ้าเกิดพูดออกไป จะให้ไม่มีอารมณ์กับผู้หญิงอีก น่าจะใช้ได้แล้วใช่ไหม?” หลันเยว่เฉินมองตาของเจียงหยุนเอ๋อ พลางพูดขึ้น
ถ้าปกติ เจียงหยุนเอ๋อคงจะคิดว่าสิ่งที่หลันเยว่เฉินพูดนั้นมันตลกมาก แต่เมื่อมาอยู่ในสถานการณ์นี้ เธอกลับขำไม่ออกเลย เลยทำได้แค่เบ้ปาก ก่อนจะพูดออกมาด้วยความจริงจัง: “ขอบคุณนะ”
เมื่อเห็นเจียงหยุนเอ๋อขอบคุณอย่างจริงจัง หลันเยว่เฉินกลับรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่
นี่มันผู้หญิงซื่อบื้อจริงๆ ……ทางลี่จุนถิงนั้นรู้ดี ทำไมจะต้องช่วยปิดบังด้วยนะ?
ถึงแม้ว่าสุดท้ายเจียงหยุนเอ๋อจะวางใจแล้ว แต่เมื่อคิดถึงคำสาบานของตัวเองเมื่อกี้ หลันเยว่เฉินกลับคิดว่ามันน่าเศร้าใจนัก
เห้อ ตัวเองทำอะไรลงไปกันแน่เนี่ย?ถึงจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย
เขาไปยั่วโมโหใครกันนะ?
หลังจากตรวจดูแล้ว หลันเยว่เฉินก็วางใจลงเยอะ
สถานการณ์ของเจียงหยุนเอ๋อนั้นไม่ได้เหมือนกับที่คิดเอาไว้ ในตอนนั้นลี่จุนถิงโทรมาหาเขาอย่างร้อนใจ เขายังคิดว่ามันเป็นเรื่องเร่งด่วนเดือดร้อนอะไรเสียอีก
แต่ทว่า เจียงหยุนเอ๋อเองก็คิดว่ามันเป็นแค่ปัญหาเล็กๆ เท่านั้นเอง
เจียงหยุนเอ๋อที่อยู่บนเตียงผู้ป่วยดีขึ้นมาแล้ว แค่ร่างกายยังอ่อนแออยู่บ้าง ตอนนี้เลยยังต้องนอนอยู่บนเตียง
เมื่อเห็นว่าหลันเยว่เฉินเดินเข้ามา เจียงหยุนเอ๋อก็หันมาเล็กน้อย พลางถามไปว่า: “หมอหลัน ลูก……ในท้องฉันไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“วางใจ ครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับลูกคุณ มันเป็นเพราะว่าช่วงนี้คุณ แถมยังกินน้อยอีก เลยท้องไส้ปั่นป่วน” หลันเยว่เฉินมองผลตรวจที่อยู่ในมือ ก่อนจะพูดกับเจียงหยุนเอ๋อ
เจียงหยุนเอ๋ออึ้งไป ช่วงนี้เพราะว่าอารมณ์ไม่ดีเธอเลยกินข้าวไม่ลงจริงๆ ด้วย คิดไม่ถึงเลย……ว่าจะเป็นแบบนี้ได้
รู้งี้ ถึงจะกินไม่ลง เธอก็จะบังคับตัวเองกินเข้าไปอีกสักหน่อย ถึงอย่างไรร่างกายก็สำคัญไม่น้อยเลย
ในสถานการณ์แบบนี้ ในท้องของเธอยังมีลูกอยู่ด้วย ถ้าเกิดตัวเองร่างกายไม่ดีแล้ว เด็กจะเป็นอย่างไรล่ะ?
“โอเค ขอบคุณนะหมอ” เจียงหยุนเอ๋อมองหลันเยว่เฉิน พลางขอบคุณด้วยความจริงใจ
ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าทำไมถึงบังเอิญขนาดนี้ ตัวเองมาโรงพยาบาลในครั้งนี้จะได้หลันเยว่เฉินเป็นคนตรวจตัวเอง แต่ทว่า หลันเยว่เฉินนั้นเป็นหมอที่มีฝีมือ เจียงหยุนเอ๋อเองก็คิดว่าตัวเองนั้นโชคดีมาก
เพียงแค่หลันเยว่เฉินไม่เอาเรื่องที่ตัวเองเกิดเรื่องไปบอกลี่จุนถิง ทุกอย่างก็จะดีเอง
เมื่อกี้เขาสาบานไปแบบนั้นแล้ว น่าจะไม่ผิดคำพูดแล้ว
“อือ” หลันเยว่เฉินมองเจียงหยุนเอ๋อสักพัก ก่อนจะเห็นว่าเธอนั้นดูไร้เรี่ยวแรง เลยกำชับว่า “จากนี้ก็ต้องดูแลร่างกายดีๆ ฉันว่าคุณคงจะใส่ใจลูกในท้องของคุณมาก อย่าให้เขามาลำบากอะไรกับคุณเลยนะ”
คำพูดนั้นของหลันเยว่เฉินทำให้เจียงหยุนเอ๋อรู้สึก ว่าจริงสิ ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอจะทำร้ายตัวเองจนร่างกายพังไปก็ไม่เป็นไร
แต่ตอนนี้ เธอตั้งท้องอยู่นี่ จะไม่รับผิดชอบเด็กในท้องได้อย่างไร?
เจียงหยุนเอ๋อเลยรีบพยักหน้า พลางพูดออกมา: “ฉันรู้แล้ว ขอบคุณนะหมอ”
หลันเยว่เฉินบอกให้เจียงหยุนเอ๋อระวังให้มากกว่านี้ จากนั้นก็หันเดินออกไปจากห้องพักผู้ป่วย
ตอนที่เดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย เขามองเห็นลี่จุนถิงยืนอยู่ข้างนอกอย่างไม่ต้องสงสัย
เหมือนจะกลัวว่าในห้องพักผู้ป่วยที่มีเจียงหยุนเอ๋ออยู่นั้นจะได้ยินเสียงตัวเอง ถึงแม้ว่าในใจจะร้อนใจมาก แต่ลี่จุนถิงเองก็ไม่ลืมที่จะลดเสียงตัวเองลง เลยเดินไปหาหลันเยว่เฉินพลางถามไปว่า: “หยุนเอ๋อเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วงมาก” หลันเยว่เฉินส่ายหัวเบาๆ จากนั้นก็บอกให้ลี่จุนถิงเดินตามเขาไปคุยรายละเอียดในห้องทำงาน
หลังจากที่เดินเข้าไปในห้องทำงาน หลันเยว่เฉินก็ถามไปว่า: “คุณกับเจียงหยุนเอ๋อนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“เรื่องราวในบ้านของฉัน คุณน่าจะรู้ใช่ไหม?” เมื่อพูดคำนี้ขึ้น สีหน้าของลี่จุนถิงก็ดูไม่เลย
หลันเยว่เฉินอึ้งไป เพียงไม่นานก็ตอบกลับมาว่า: “คุณหมายความว่า คนของตระกูลลี่พยายามจะเล่นงานเธอเหรอ?”
ลี่จุนถิงพยักหน้าเบาๆ : “ประมาณนั้น”
แต่ทว่าสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ลี่จุนถิงเหมือนจะไม่อยากจะถามต่อไป เลยรีบเปลี่ยนเรื่องคุย: “จริงสิ คุณหาข้ออ้าง ไม่ให้หยุนเอ๋อออกจากโรงพยาบาลหน่อยสิ”
“อือ?” หลันเยว่เฉินเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ เหมือนจะไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของลี่จุนถิง
สถานการณ์ของเจียงหยุนเอ๋อนั้นไม่ได้หนักหนาอะไร ดังนั้นทำไมจะต้องให้เธออยู่ในโรงพยาบาลต่อนานขนาดนั้นด้วย?
“ฉันมาคิดดูดีๆ แล้ว คิดว่าให้เธออยู่ในโรงพยาบาลจะปลอดภัยกว่า คุณเองก็ช่วยดูแทนฉันหน่อยนะ ฉันหวังว่าช่วงนี้คุณจะช่วยฉันดูแลได้ อย่าให้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ” ลี่จุนถิงพูดกับหลันเยว่เฉินอย่างจริงจัง
“รอจนถึงวันแต่งงาน ฉันมีเรื่องจะต้องให้คุณทำด้วย” ลี่จุนถิงพูดเสริม
หลันเยว่เฉินไม่เคยเห็นท่าทีที่จริงจังขนาดนี้ของลี่จุนถิง แถมยังขอร้องเขาด้วยความหนักแน่น เลยรีบตอบตกลงไป
“ได้ ฉันสัญญา” บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าถูกท่าทีของลี่จุนถิงแพร่เชื้อมา อารมณ์ของหลันเยว่เฉินเลยดูหนักแน่นตามไปด้วย
จากนั้น ลี่จุนถิงก็ออกไป หลันเยว่เฉินกลับครุ่นคิดอยู่ในห้องทำงานว่าจะหาข้ออ้างให้เจียงหยุนเอ๋ออยู่ในโรงพยาบาลต่อได้อย่างไร
เมื่อหลันเยว่เฉินกลับมาที่ห้องพักผู้ป่วยอีกครั้ง เจียงหยุนเอ๋อก็เริ่มถามแล้วว่าตัวเองจะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่
ถึงอย่างไร อยู่ในโรงพยาบาลก็เจอหลันเยว่เฉินได้ตลอดเวลา เจียงหยุนเอ๋อเลยกังวลว่าลี่จุนถิงจะมาหา ดังนั้นเลยคิดว่าออกจากโรงพยาบาลเช้านี้เลยจะดีกว่า
อีกอย่าง ถึงอย่างไรการป่วยของตัวเองก็ไม่ได้หนักมาก ตัวเองพูดเรื่องออกจากโรงพยาบาลไป หลันเยว่เฉินก็คงจะไม่ว่าอะไรมาก
“หมอหลัน ฉันต้องอยู่อีกนานแค่ไหนถึงจะออกจากโรงพยาบาลได้เหรอ?”
หลันเยว่เฉินมองเจียงหยุนเอ๋อ ก่อนจะพูดคำที่คิดมาแล้วว่า: “ฉันตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว พบว่าคุณขาดสารอาหารไปมาก อยู่ดูที่โรงพยาบาลหน่อยเถอะ ไม่งั้นอาจจะมีอันตรายกับเด็กในท้อง”
เมื่อได้ยินว่าอาจจะมีอันตรายกับเด็ก เจียงหยุนเอ๋อจะมาพูดอะไรอีกได้อย่างไร เลยรีบตอบตกลงทันที: “ได้ งั้นฉันจะอยู่ต่อ หมอหลัน คุณต้องช่วยฉันนะ”
“คุณวางใจเถอะ มันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว” หลันเยว่เฉินตอบรับเบาๆ พลางพูดขึ้น
ตอนที่เจียงหยุนเอ๋ออยู่ในโรงพยาบาลนั้นเหยนกวานซืเองก็มาดูแลเธออยู่บ่อยๆ
เมื่อเห็นว่าเหยนกวานซืมาโรงพยาบาลบ่อยๆ เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกซาบซึ้งใจ แต่ก็อดรู้สึกเกรงใจไม่ได้
เพราะเหยนกวานซืก็มีงานของตัวเอง เพื่อมาดูแลตัวเองเลยต้องไปๆ มาๆ มันลำบากเขาเอาได้
“กวานซื คุณไม่ต้องมาที่นี่บ่อยๆ ก็ได้นะ ฉันไม่ได้ย่ำแย่มาก ดูแลตัวเองได้นะ”