Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 299 คืนลูกให้เขา
บทที่ 299 คืนลูกให้เขา
ใกล้จะถึงเวลากินข้าวแล้ว ลี่จีถองถึงกลับบ้าน
ท่านปู่ลี่เห็นลี่จีถองกลับมาแล้ว สีหน้าก็พลันไม่ดีขึ้นมาเล็กน้อย “ฉันบอกแกแล้วใช่มั้ยว่าช่วงนี้อย่าเพิ่งออกไปไหน แกไม่รู้ว่าพวกนักข่าวคิดจะรายงานข่าวฉาวของแกยังไงหรือไง?”
ท่านปู่ลี่เคยเตือนลี่จีถองให้เธอช่วงนี้อยู่นิ่งๆไปก่อน แต่ยิ่งให้ลี่จีถองอยู่นิ่งๆ เธอก็จะยิ่งควบคุมตัวเองไม่ได้
ถ้าเป็นเวลาปกติ ลี่จีถองจะออดอ้อนเพื่อหลีกเลี่ยงการต่อว่าของท่านปู่ลี่ แต่วันนี้เธอมีข้ออ้างที่ดีกว่านั้น
“พ่อคะ ตอนนี้พ่ออย่าเพิ่งซักไซ้หนู หนูมีเรื่องใหญ่โตจะบอกพ่อ” ลี่จีถองพูดพลางนั่งข้างๆท่านปู่ลี่
ตอนนี้โม่เสี่ยวฮุ่ยกับลี่เจี้ยนหวาก็อยู่ที่นี่ด้วย เป็นโอกาสดีที่เธอจะบอกเลย
“เรื่องใหญ่โต?” ท่านปู่ลี่แค่นเสียงออกมา สำหรับความดื้อของลูกสาวแล้วก็ยังรู้สึกไม่ค่อยพอใจอยู่ดี “เรื่องใหญ่โตจะใหญ่เท่าเรื่องของแกเหรอ?”
ท่านปู่ลี่เอาแต่พูดเรื่องเสียตัวของลี่จีถองตลอด
แต่ครั้งนี้ลี่จีถองไม่โกรธ แต่ทำสีหน้ามีลับลมคมในบอกกับพวกท่านปู่ลี่ทั้งสามคนว่า “พวกคุณยังไม่รู้สินะว่าพ่อแท้ๆของถวนจื่อมาหาแล้ว”
“ถวนจื่อ?” ท่านปู่ลี่คิ้วขมวดลง
โม่เสี่ยวฮุ่ยเป็นคนตั้งสติได้ก่อน “เธอหมายถึงพ่อแท้ๆของถวนจื่อมาหาถึงที่เหรอ?”
ลี่จีถองพยักหน้ารัวๆ
“เป็นใคร?” ลี่เจี้ยนหวาถาม
ลี่จีถองส่ายหัว “อันนี้ฉันก็ไม่รู้ ฉันแค่ได้ยินมา”
“ข่าวนี้เชื่อถือได้หรือเปล่า?” สีหน้าของท่านปู่ลี่ตอนนี้ดูไม่ดีแล้ว
“พ่อ ยิ่งกว่าเชื่อได้ซะอีก ฉันยังได้ยินมาว่าผู้ชายคนนั้นคือ……” ประโยคหลังลี่จีถองพลันหยุดพูดลง
สีหน้าของโม่เสี่ยวฮุ่ยไม่ค่อยดีนัก “คืออะไร?”
“ก็คือ” ลี่จีถองก็ยังไม่พูดออกมาตรงๆ มองพวกเขาสามคนที่กำลังมองตัวเองอยู่ “โอ๊ย เรื่องแบบนี้ฉันยังอายที่จะพูดออกมาเลย ก็คือคนในผับ……”
ที่ลี่จีถองพูดมาก็ชัดเจนมากแล้ว ถ้าพวกเขายังไม่รู้อีกก็คือคนโง่แล้ว
“กล้าดียังไง” ท่านปู่ลี่โกรธจนเคาะไม้เท้ากับพื้นอย่างแรง
“พระเจ้า นี่ นี่มันเหลวไหลเกินไปแล้ว” โม่เสี่ยวฮุ่ยไม่อยากจะเชื่อว่าลูกชายของตัวเองจะหาผู้หญิงที่สกปรกขนาดนี้มา
แถมยังเห็นผู้หญิงคนนี้ดั่งแก้วตาดวงใจ ถึงขนาดที่ยอมแตกหักกับคนที่บ้าน
“ฉันก็ว่าอยู่ว่าทำไมจุนถิงถึงได้หลงผู้หญิงคนหนึ่งจนงอหัวไม่ขึ้นขนาดนี้ ที่แท้ผู้หญิงคนนี้ก็เพราะมีเล่ห์เหลี่ยมมากขนาดนี้นี่เอง” ลี่เจี้ยนหวาหรี่ตาลง
“นี่มันน่าโมโหเกินไปแล้ว เหลวไหลที่สุด!” โม่เสี่ยวฮุ่ยโมโหจนพูดไม่ออกกันเลยทีเดียว
ในช่วงแรกๆ โม่เสี่ยวฮุ่ยก็ยังเป็นมิตรต่อเจียงหยุนเอ๋ออยู่ ถึงแม้ตัวเองจะไม่ชอบเจียงหยุนเอ๋อ แต่อย่างน้อยๆยังมีมารยาทต่อเธอ นี่เป็นมารยาทในฐานะที่เธอเป็นคนของตระกูลลี่
แต่ปัญหาคือเจียงหยุนเอ๋อก่อเรื่องครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ตัวเองค่อยๆหมดความอดทนลง โม่เสี่ยวฮุ่ยไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว
ถ้าลูกชายของตัวเองอยู่กับผู้หญิงคนนี้จริงๆ นั่นก็เป็นการเหยียดหยามต่อลูกชายของตน ยิ่งเป็นการเหยียดหยามต่อตระกูลลี่ เธอไม่มีทางตกลงเด็ดขาด
ลี่จีถองเห็นพวกท่านปู่ลี่ทั้งสามคนสีหน้าไม่ดีมากก็ได้ใจขึ้นมาจึงพูดต่อ “นั่นสิ จุนถิงโอ๋เจียงหยุนเอ๋อตั้งแต่เช้ายันค่ำ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเจียงหยุนเอ๋อจะเป็นผู้หญิงที่สกปรกขนาดนี้”
“แกรีบโทรเรียกให้จุนถิงกลับมาเดี๋ยวนี้ ฉันจะถามเรื่องนี้ให้แน่ชัด” ท่านปู่ลี่ทนไม่ได้แล้วจริงๆ
ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ เขาก็ไม่มีทางอนุญาตให้ใครมาทำลายชื่อเสียงของตระกูลลี่เด็ดขาด
ลี่จีถองได้ยินก็ดีใจเป็นอย่างมาก ตอนที่กำลังจะโทรหาลี่จุนถิงก็นึกขึ้นได้ว่าลี่จุนถิงต้องไม่รับสายตัวเองแน่ๆ
โม่เสี่ยวฮุ่ยมองออกถึงความลำบากใจของลี่จีถอง จึงรีบหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาลี่จุนถิงเอง เรื่องของลูกชายตัวเองเธอก็ต้องเป็นห่วงมากที่สุดอยู่แล้ว
ลี่จุนถิงรับสายของโม่เสี่ยวฮุ่ยก็ถามออกไปว่ามีเรื่องอะไร
แต่โม่เสี่ยวฮุ่ยไม่ได้บอกตรงๆ แค่บอกว่ามีเรื่องสำคัญ
ลี่จุนถิงไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกันแน่จึงต้องกลับไปที่บ้านตระกูลลี่ก่อน
ปรากฏว่าพอเข้ามาถึงที่ห้องรับแขก ท่านปู่ลี่ก็ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ฉันได้ยินจีถองบอกว่าพ่อแท้ๆของเด็กคนนั้นมาหางั้นเหรอ?”
ลี่จุนถิงคิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้คนที่บ้านจะรู้ได้เร็วขนาดนี้ พลันมองไปที่ลี่จีถองด้วยสายตาเย็นยะเยือก
ลี่จีถองแสร้งทำเป็นไม่เห็นอะไร
ลี่จุนถิงพยักหน้า
“ถ้างั้นก็คืนลูกให้เขา” น้ำเสียงของท่านปู่ลี่ไม่ใช่น้ำเสียงปรึกษา แต่คือคำสั่ง
“เรื่องนี้ผมต้องปรึกษากับหยุนเอ๋อก่อน” ลี่จุนถิงพูด
ท่านปู่ลี่พลันเคาะไม้เท้าลง “พ่อแท้ๆของคนอื่นมาหาถึงที่แล้ว หรือแกคิดจะเลี้ยงลูกชายของคนอื่นหรือไง?”
ลี่จุนถิงสีหน้าแย่มาก แค่ตอบเรียบๆว่า “ผมจัดการเองได้”
“จุนถิง ทำไมลูกถึงโง่แบบนี้ ตอนนี้ลูกยังดูไม่ออกว่าเจียงหยุนเอ๋อเป็นคนยังไงอีกเหรอ?” โม่เสี่ยวฮุ่ยร้อนใจแทนลูกชายของตัวเอง
“หยุนเอ๋อเป็นคนยังไงผมรู้แก่ใจดี ไม่จำเป็นต้องให้พวกคุณมาวิพากษ์วิจารณ์” สิ่งลี่จุนถิงไม่ชอบที่สุดก็คือได้ยินคนอื่นพูดถึงเจียงหยุนเอ๋อไม่ดี”
พูดจบ ลี่จุนถิงก็เดินออกไปโดยที่ไม่เหลียวหลังมองกลับเลย
คนตระกูลลี่โมโหจนหน้ามืดหมดแล้ว ดูแย่มากเลยทีเดียว
มีแต่ลี่จีถองที่ดีอกดีใจอยู่คนเดียว แค่ครอบครัวตัวเองไม่พอใจต่อเจียงหยุนเอ๋อมากเท่าไหร่ เธอก็จะยิ่งสบายอกสบายใจมากขึ้นเท่านั้น
“เรื่องนี้ฉันว่าจุนถิงต้องจัดการไม่ได้แน่ๆ เขาถูกผู้หญิงคนนั้นหลอกจนหน้ามืดตามัวไปหมดแล้ว โทรหาจุนซิน ให้เธอพาผู้หญิงคนนั้นกลับมา” ท่านปู่ลี่ตัดสินใจเปลี่ยนแผน
โม่เสี่ยวฮุ่ยได้ยินก็ไม่กล้ารีรอ รีบโทรหาลี่จุนซินโดยเร็ว
ประเทศ H ลี่จุนซินรับสายของคุณแม่และได้ยินที่คุณแม่สั่งมา ลี่จุนซินใจตุบลงไป รู้สึกกังวลเล็กน้อย
ตอนนี้ถวนจื่อกำลังอยู่ในช่วงแข่งขัน ถ้าบอกเรื่องนี้กับเจียงหยุนเอ๋อก็ไม่รู้ว่าจะส่งผลกระทบกับการแข่งขันของถวนจื่อหรือเปล่า
“จุนซิน ที่แม่พูดลูกจำใส่ใจแล้วหรือเปล่า? เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความสุขของน้องชายลูกในอนาคต ลูกต้องทำให้ดีๆนะ”
เสียงของโม่เสี่ยวฮุ่ยจากปลายสายแสดงถึงความกังวลและร้อนใจ
ลี่จุนซินตอบตกลงอย่างเต็มปาก “แม่ หนูรู้แล้วค่ะ”
ถึงแม้ปากจะตอบตกลง แต่ลี่จุนซินก็มีแผนในใจแล้ว เธอจะยังไม่บอกเรื่องนี้กับเจียงหยุนเอ๋อชั่วคราว ยังไงก็ต้องรอให้ถวนจื่อแข่งเสร็จแล้วค่อยว่ากัน
โม่เสี่ยวฮุ่ยได้ยินลูกสาวตอบตกลงถึงวางสายอย่างสบายใจ
ลี่จุนถิงออกจากบ้านตระกูลลี่ก็ขึ้นรถแล้วเหยียบคันเร่งจากไปอย่างรวดเร็ว
เขาคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ตลอดทาง รู้สึกว่าช่วงเวลาที่ผู้ชายคนนี้ปรากฏตัวขึ้นมันบังเอิญเกินไปจริงๆ
และการปรากฏตัวของเขาก็ไม่มีลางล่วงหน้าอะไรเลยด้วย
ลี่จุนถิงโทรหาซู่จี้งยี้ให้เขาไปสืบสถานะของผู้ชายคนนั้น
แต่คิดไม่ถึงว่าซู่จี้งยี้จะสืบออกมาได้ว่าคนนี้เป็นผู้ชายขายบริการของผับ สถานะที่ดูไม่ได้แบบนี้ทำให้ลี่จุนถิงถึงกับคิ้วขมวดมุ่น
ถ้าเจียงหยุนเอ๋อรู้ว่าตัวเองในปีนั้นมีอะไรกับคุณชายในสถานบันเทิงโดยไม่รู้ตัว เธอจะคิดยังไง?