Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 300 ผมต้องชนะ
บทที่ 300 ผมต้องชนะ
ทางนั้นเกิดเรื่องขึ้นเยอะขนาดนี้ แต่เจียงหยุนเอ๋อยังถูกปิดไว้อยู่ ไม่รู้เรื่องอะไร
หลายวันมานี้เธอยุ่งแต่กับเรื่องการแข่งขันของถวนจื่อ ในระหว่างนี้ก็มีโทรคุยกับลี่จุนถิงบ้าง
แต่เพราะว่าลี่จุนถิงปิดบังได้ดีเกินไป เธอจึงไม่ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของลี่จุนถิงเลย
วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ และวันแข่งของถวนจื่อก็มาถึงอย่างรวดเร็ว
“ถวนจื่อ วันนี้ก็ต้องเริ่มแข่งอย่างเป็นทางการแล้ว ลูกตื่นเต้นหรือเปล่า?”
รุ่งเช้า เจียงหยุนเอ๋อกำลังจัดเสื้อผ้าของถวนจื่อพลางถามออกมาด้วยรอยยิ้ม เพราะกลัวว่าถวนจื่อจะตื่นเต้นกับการแข่ง
ถึงอย่างไรถวนจื่อก็เคยแข่งมาเยอะแล้ว เผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ก็ไม่ค่อยกลัวมากแล้ว จึงส่ายหัวด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
“ไม่นี่ครับ มีอะไรน่าตื่นเต้นกัน?”
เห็นท่าทางของถวนจื่อมั่นใจเต็มเปี่ยมขนาดนั้น มุมปากของเจียงหยุนเอ๋อก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
“หม่ามี้” จู่ๆถวนจื่อก็หันไปมองเจียงหยุนเอ๋อ “หม่ามี้ว่าแข่งครั้งนี้ผมจะชนะหรือเปล่า?”
ในฐานะที่เป็นแม่ของถวนจื่อ เจียงหยุนเอ๋อก็ต้องสนับสนุนถวนจื่ออย่างไม่มีเงื่อนไขอยู่แล้ว ได้ยินเขาถามแบบนี้ออกมาก็รู้สึกอดขำไม่ได้
คำถามแบบนี้ยังจำเป็นต้องถามอีกเหรอ?
“แน่นอนสิ ถวนจื่อเก่งขนาดนี้จะไม่ชนะได้ยังไงล่ะ?”
ได้ยินที่พูด ถวนจื่อก็ยิ้มแป้นมากขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่นานก็กังวลขึ้นมาอีกครั้ง
“หม่ามี้ ตอนแรกผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรหรอกนะ แต่พอหม่ามี้พูดแบบนี้ผมก็กลัวว่าตัวเองจะไม่ชนะแล้วสิ”
เห็นสีหน้าน่ารักของถวนจื่อ เจียงหยุนเอ๋อก็ยื่นมือไปลูบผมของเขาพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ถวนจื่อ ไม่ว่าผลสุดท้ายลูกจะเป็นยังไง หม่ามี้ก็จะสนับสนุนลูก”
ถวนจื่อเหมือนกับว่าโล่งใจขึ้นมาในทันตา แต่ก็ยังคงกำหมัดตัวเองแน่นและบอกกับเจียงหยุนเอ๋ออย่างมั่นใจว่า “หม่ามี้วางใจได้เลยครับ ผมจะพยายามอย่างเต็มที่เลย!”
การแข่งขันครั้งนี้ถึงแม้จะเป็นแค่การแข่งขันแลกเปลี่ยนอย่างเป็นมิตร แต่ในงานก็มีผู้ชมมาไม่น้อยเลย
ที่ทำให้เจียงหยุนเอ๋อคาดไม่ถึงก็คือในนั้นยังมีบางคนที่เป็นแฟนคลับของถวนจื่อด้วย
ถึงแม้เธอจะรู้ว่าการแข่งครั้งก่อนของถวนจื่อได้สั่งสมความนิยมมาบ้างแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะโอเว่อร์ขนาดนี้
ถึงขนาดที่——มีคนก่อตั้งกลุ่มแฟนคลับของถวนจื่อขึ้นมาโดยเฉพาะ
เดิมทีในงานก็คึกคักมากอยู่แล้ว แต่กลุ่มแฟนคลับของถวนจื่อก็มีส่วนเพิ่มความคึกคักของงานขึ้นมาไม่น้อยเลยด้วยเหมือนกัน
“เจียงซิ่งหวีสู้ๆ!”
“เจียงซิ่งหวีเธอเก่งที่สุด!”
มีแฟนคลับหลายคนที่เห็นถวนจื่อมาก็กรี๊ดกันอย่างบ้าคลั่งข้างใต้เวที ทำให้เจียงหยุนเอ๋อถึงกับสะดุ้งเลยทีเดียว
เธอส่ายหน้าอย่างจนใจ คิดว่าถ้าถวนจื่อรู้ว่าตัวเองมีแฟนคลับมากขนาดนี้ ในใจคงต้องเริ่มได้ใจขึ้นมาแน่ๆ
แม้แต่ลี่จุนซินที่เจอกับสถานการณ์ใหญ่โตจนชินก็ตกใจกับความนิยมของถวนจื่อด้วยเหมือนกัน
“ไม่คิดเลยว่าถวนจื่อจะได้รับความนิยมขนาดนี้” เธอพูดกับเจียงหยุนเอ๋อเสียงเบา
เจียงหยุนเอ๋อดูแล้วก็เหมือนกับคิดไม่ถึงด้วยเหมือนกัน แค่หัวเราะเบาๆพร้อมกับส่ายหัว “ฉันก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ถึงแม้การแข่งขันในครั้งก่อนๆ ถวนจื่อได้สั่งสมความนิยมมาบ้างแล้วก็จริง แต่…..นึกไม่ถึงเลยว่าจะเพิ่มขึ้นขนาดนี้แล้ว”
ทั้งสองคุยเล่นหัวเราะกัน การแข่งขันก็ใกล้จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว
เห็นถวนจื่อที่เตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้วนั่งอยู่บนเวที ถึงแม้จะเห็นฉากแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่เจียงหยุนเอ๋อก็ยังควบคุมความตื่นเต้นของตัวเองไม่ได้
ลี่จุนซินที่นั่งอยู่ข้างๆสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเจียงหยุนเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปตบหลังของเธอเบาๆ
“ไม่ต้องห่วง ถวนจื่อต้องทำได้เยี่ยมมากแน่ๆ”
การแข่งครึ่งแรก ต่อให้เจียงหยุนเอ๋อจะไม่เข้าใจเกม แต่ก็ดูออกว่าทีมที่ถวนจื่ออยู่มาเหนือกว่ามาก แทบจะกดทับอีกฝ่ายทั้งเกมเลย
แต่เจียงหยุนเอ๋อดีใจได้ไม่นานก็เห็นว่าสถานการณ์เหมือนจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ยังไงซะความสามารถของทีมที่ถวนจื่อเผชิญวันนี้ก็ไม่ได้แย่
หลังจากนั้นเจียงหยุนเอ๋อก็ได้ยินที่คนข้างๆกำลังคุยกัน จึงได้รู้ว่าที่แท้ในทีมอีกฝ่ายก็มีผู้เข้าแข่งขันที่มีความนิยมสูงมากคนหนึ่ง——อวิ๋นกวางซี
ยังไงก็เข้าวงการก่อนถวนจื่อมาหลายปี ความนิยมของอวิ๋นกวางซีจึงต้องมากกว่าอยู่แล้ว
แต่อาจจะเป็นเพราะสถานที่แข่งขันจัดขึ้นในประเทศ แล้วอวิ๋นกวางซีก็เกิดที่เกาหลี เพราะฉะนั้นการแสดงออกของเหล่าแฟนคลับจึงไม่ได้ดุเดือดอะไรมากนัก
ตอนที่ อวิ๋นกวางซีแข่งที่เกาหลีคือแทบจะหาคู่ต่อสู้ได้ยากแล้ว ครั้งนี้ที่มาแข่งก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกับถวนจื่อ ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าได้เจอคู่ต่อสู้ที่มีฝีมือไล่เลี่ยกัน
ความสามารถของอวิ๋นกวางซีไม่ได้แย่ แต่เพราะว่าช่วงเริ่มแรกประมาทคู่ต่อสู้เล็กน้อย เพราะฉะนั้นตอนที่เกมครึ่งแรกจบลง เขาก็เลยด้อยกว่าหน่อย
หลังจากที่เกมครึ่งแรกจบลงก็ถึงเวลาพัก
ใบหน้าของถวนจื่อฉายแววเหนื่อยล้าออกมา หลายวันมานี้เขาไม่ได้หยุดฝึกเลย ไม่ได้พักผ่อนดีๆเลยด้วย
ตอนแข่งก็ต้องตั้งสมาธิโฟกัสอย่างเต็มที่ สำหรับเด็กคนหนึ่งแล้วร่างกายก็คงรับไม่ค่อยไหว
พอถวนจื่อลงมาจากเวที เจียงหยุนเอ๋อก็รีบตรงไปหาเขาทันที
“ถวนจื่อ ลูกยังไหวอยู่หรือเปล่า?”
เจียงหยุนเอ๋อแทบจะดูออกทันทีว่าสภาพของถวนจื่อไม่ค่อยดี จึงถามออกมาด้วยความเป็นห่วง
ถวนจื่อไม่อยากให้เจียงหยุนเอ๋อเป็นห่วงเขาจึงรีบส่ายหน้า “หม่ามี้ ผมไม่เป็นไรครับ”
“การแข่งครั้งต่อไปยังต้องรออีกสักพัก ลูกพักผ่อนก่อนนะ”
ถวนจื่อก็รู้สึกเหนื่อยแล้วจริงๆ จึงพยักหน้าอย่างว่าง่ายแล้วนั่งลงข้างๆเจียงหยุนเอ๋อ
พอถวนจื่อนั่งลง เจียงหยุนเอ๋อก็นวดมือของถวนจื่อทันที
ลี่จุนซินที่อยู่ข้างๆดูอยู่ครู่หนึ่งก็อดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้จึงถามออกมาว่า “นี่คือกำลังทำอะไรอยู่?”
เจียงหยุนเอ๋อก้มหน้านวดพลางอธิบายไปพลาง “ถวนจื่อแข่งอีสปอร์ต ตอนแข่งต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมมาก เงื่อนไขความเร็วก็ต้องให้เร็ว ดังนั้นมือก็เลยต้องบาดเจ็บพอสมควร ฉันนวดให้เขาตอนนี้ก็จะทำให้เขารู้สึกสบายขึ้นมาได้หน่อย”
ลี่จุนซินพยักหน้า เธอไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับอีสปอร์ตมากนัก ไม่รู้เลยว่าในนี้จะมีลู่ทางเยอะขนาดนี้
พอนวดเสร็จ ถวนจื่อก็ขยับไหล่สองสามทีแล้วบอกกับเจียงหยุนเอ๋อว่า “หม่ามี้ ผมอยากเข้าห้องน้ำ”
“ได้ หม่ามี้ไปเป็นเพื่อนลูกนะ”
อย่างไรเสียที่นี่ก็คนเยอะ เจียงหยุนเอ๋อไม่ค่อยไว้ใจถวนจื่อจึงตัดสินใจไปเป็นเพื่อนเขา
เดินมาถึงหน้าห้องน้ำ เจียงหยุนเอ๋อก็เห็นอวิ๋นกวางซีที่อยู่ไม่ไกลเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีความสุขนัก ไม่รู้ว่าใช่เพราะการแข่งครึ่งแรกไม่ชนะหรือเปล่า