Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 357 ข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง
บทที่357 ข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง
ช่วงนี้ เจียงหยุนเอ๋อนอนไม่หลับเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมาหลายวันหลายคืนแล้ว แต่ว่าวันนี้ คำพูดของลี่จุนถิงกลับทำให้เธอครุ่นคิด
บางทีทั้งหมดนี้ ก็ควรจะปล่อยวางได้แล้ว
“ถ้าเกิด……” ตอนแรกลี่จุนถิงอยากจะพูดอะไรสักหน่อย แต่เขายังไม่ทันจะพูด
ก็มีรอยจูบประทับลงบนริมฝีปากอันเยือกเย็นของเขา จากนั้นก็ถอนจูบออกไปอย่างรวดเร็ว
เห็นเพียงรอยยิ้มของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีน้ำตาวนอยู่รอบดวงตา “ขอบคุณนะ”
เวลาแห่งความอบอุ่นนั้นไม่เนิ่นนาน ตอนที่หลายๆ คนกำลังจะกลับไปนั้น จู่ๆ ท่านปู่ลี่ก็โทรหาลี่จุนถิง
เมื่อได้รับสายนั้น ลี่จุนถิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเป็นปม
“ฮัลโหล คุณปู่” ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าท่านปู่ลี่โทรมาเรื่องอะไร แต่ลี่จุนถิงก็ยังถามอย่างใสซื่อ
ช่วงนี้เกิดเรื่องมากมายในตระกูลลี่ ท่านปู่ลี่เลยไม่มีอารมณ์ที่มั่นคงเท่าไหร่ บวกกับสุขภาพที่ไม่ค่อยดี ท่านปู่ลี่ก็เลยอยากให้ลี่จุนถิงจัดการเรื่องราวต่างๆ ให้
“ฮัลโหล ลี่จุนถิง ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?” น้ำเสียงของท่านปู่ลี่นั้นดูอ่อนแรง
ลี่จุนถิงมองเจียงหยุนเอ๋อที่ยืนอยู่ข้างๆ ตัวเอง พลางพูดขึ้น: “ฉันอยู่ที่สถานสงเคราะห์กับเจียงหยุนเอ๋อ มีอะไรเหรอ?”
“อยู่ดีๆ ไปที่สถานสงเคราะห์ทำไมเหรอ?” หลังจากที่ท่านปู่ลี่ได้ยินชื่อของเจียงหยุนเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเป็นปม
“ไม่มีอะไรหรอก แค่มีเรื่องที่ต้องจัดการนิดหน่อย” ลี่จุนถิงก้มหน้าลงเบาๆ พลางพูดด้วยน้ำเสียงอย่างใจเย็น
ท่านปู่ลี่เงียบไปสักพัก เมื่อคิดถึงเรื่องที่เจียงหยุนเอ๋อไม่ยอมลี่จีถองก่อนหน้านี้ ก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา และหลังจากที่ได้ยินว่าลี่จุนถิงอยู่กับเจียงหยุนเอ๋อ สีหน้าเลยดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ตอนแรกท่านปู่ลี่จะพูดอะไรสักหน่อย แต่ก็คิดว่าเดี๋ยวตัวเองจะแสดงออกมากไป สุดท้ายเลยพูดแค่ว่า: “คุณกลับมาเถอะ ฉันมีเรื่องที่จะให้คุณทำหน่อย”
“มีเรื่องอะไรเหรอ?” ลี่จุนถิงถามออกไปด้วยสัญชาตญาณ
ทางปลายสายนั้นไม่ได้พูดทันที แต่รอสักพักถึงจะพูดออกมาช้าๆ ว่า: “เรื่องจัดงานของจีถอง ยังต้องให้คุณเป็นคนจัดการนะ”
เมื่อได้ยินท่านปู่ลี่พูดแบบนั้น ลี่จุนถิงเองก็เงียบลง
เขาเองก็รู้ ว่าเรื่องงานศพของลี่จีถองนั้นมันทำร้ายจิตใจของท่านปู่ลี่เป็นอย่างมาก ดังนั้นเมื่อท่านปู่ลี่พูดออกมาแบบนี้ ลี่จุนถิงเองก็ปฏิเสธไม่ได้ เลยได้แต่ตอบไปเสียงอ่อยๆ
“โอเค”
หลังจากที่ลี่จุนถิงวางสายไป สีหน้าก็หนักใจมากขึ้น
เจียงหยุนเอ๋อจ้องเขาอยู่นาน ก่อนจะถามเขาด้วยความระวัง: “คุณท่านโทรมาเหรอ?”
“อือ เขาให้ฉันกลับไปช่วยจัดการเรื่องของลี่จีถองน่ะ”
เจียงหยุนเอ๋ออึ้งไป จากนั้นก็เริ่มรู้สึกสับสนขึ้นมา……
ไม่พูดไม่ได้เลย ว่าถึงจะเป็นตัวเจียงหยุนเอ๋อเอง หลังจากที่ได้ยินเรื่องข่าวลือมากมาย ยังรู้สึกว่ามันมากเกินไปสำหรับตัวเองเลย
แต่ว่า ถ้าเกิดตอนแรกปล่อยลี่จีถองไปง่ายๆ เรื่องที่ถวนจื่อเจอทั้งหมดก็จะต้องปล่อยไปง่ายๆ งั้นเหรอ?
ลี่จุนถิงพาเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อกลับไป หลังจากถึงบ้านแล้ว ท่านปู่ลี่ก็เรียกลี่จุนถิงไป
เจียงหยุนเอ๋อเองก็รู้สึกได้ถึงท่าทีที่ท่านปู่ลี่ทำกับตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรไม่ พลางพาถวนจื่อกลับไปที่ห้องของตัวเอง
หลังจากนั้นไม่กี่วัน ลี่จุนถิงก็จัดงานศพของลี่จีถอง ในงานศพนั้น ลี่จุนถิงลังเลสักพัก ก่อนจะไม่ให้เจียงหยุนเอ๋อไปด้วย
เจียงหยุนเอ๋อขยับปากมุบมิบ พลางคิดอยู่สักพัก ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความจำเป็นต้องไป ถึงอย่างไร ในคนของตระกูลลี่นั้น ตัวเองก็ไม่ใช่คนที่คนอื่นจะต้อนรับอะไรเท่าไหร่ เพราะก็เป็นต้นเหตุของเรื่องด้วย
“โอเค งั้นฉันไม่ไปก็ได้”
เพราะกลัวว่าเจียงหยุนเอ๋อจะคิดมาก ลี่จุนถิงก็มองเจียงหยุนเอ๋ออยู่นาน สุดท้ายก็เปิดปากพูด: “เจียงหยุนเอ๋อ คุณไม่ต้องคิดมากนะ ฉันเองก็อยากให้คุณอยู่บ้านเพราะเป็นห่วงคุณนะ”
ลี่จุนถิงมองเจียงหยุนเอ๋อด้วยแววตาแห่งความกังวล เขามองออก ว่าเรื่องของลี่จีถองนั้นมันมีผลต่อจิตใจของเจียงหยุนเอ๋อเป็นอย่างมาก ไม่อย่างนั้นก่อนหน้านี้เขาคงไม่พาเจียงหยุนเอ๋อไปหาจิตแพทย์หรอก
“อือ ฉันรู้แล้ว” เจียงหยุนเอ๋อยิ้มให้ แต่กลับทำให้ลี่จุนถิงวางใจลงไม่ได้
คิดสักพัก ลี่จุนถิงยังกำชับเจียงหยุนเอ๋ออีกครั้ง: “ตอนนี้ร่างกายคุณไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าเกิดไปที่งานศพแล้วอารมณ์ไม่มั่นคง ฉันก็ไม่รู้จะทำอย่างไร”
อันที่จริงเจียงหยุนเอ๋อเองก็เข้าใจได้ ว่างานศพแบบนั้น ลี่จุนถิงจะไม่ยอมปล่อยทุกคนไปเพื่อมาอยู่กับตัวเองได้หรอก
แต่ท่าทีของคนอื่นในตระกูลลี่……ที่ทำกับตัวเองนั้นมันอาจจะทำให้ตัวเองทนไม่ไหวก็ได้
เมื่อคิดไปคิดมา ที่ลี่จุนถิงไม่ให้ตัวเองไปงานศพในครั้งนี้ อันที่จริง ก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน
หลังจากที่ลี่จุนถิงออกไปแล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็กลับไปที่ห้องของตัวเอง
ในใจของเธอรู้แล้วว่าลี่จุนถิงทำอะไรไป
อีกไม่นาน……ก็น่าจะไปถึงงานศพแล้ว คนของตระกูลลี่ก็มากันเยอะแล้ว มีเพียงแต่ตัวเอง……
อ๋อ ไม่สิ ถ้าจะให้พูดจริงๆ ตัวเองก็เป็นคนที่ไม่เคยถูกตระกูลลี่ยอมรับเลย แล้วจะนับเป็นคนของตระกูลลี่ได้อย่างไร?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแย่ไปสักหน่อย
ตระกูลลี่ที่ยิ่งใหญ่นี้ นอกจากลี่จุนถิงกับลี่จุนซินที่ดีกับตัวเองนั้น คนอื่นๆ ก็……
เจียงหยุนเอ๋อถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือออกมาเปิดลิ้นชักออกมา ก่อนจะอึ้งไปทันที
เพราะเห็นรูปของลี่จีถองเต็มลิ้นชักไปหมด
เจียงหยุนเอ๋อหยิบรูปพวกนั้นขึ้นมาด้วยความอึ้ง มือก็สั่นคลอน จากนั้นรูปก็ร่วงลงกับพื้น
ในตอนนั้น เจียงหยุนเอ๋อเหมือนได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นอย่างรุนแรง
ใครเป็นคนทำกันแน่?ใครกันที่เอารูปมาใส่ไว้ในลิ้นชัก แล้วทำเพื่ออะไรกันแน่นะ?
ผ่านไปสักพัก เจียงหยุนเอ๋อก็วางรูปลง พลางขยี้ตา แล้วพยายามให้ตัวเองลืมเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด
แต่ว่า……
ตอนที่เจียงหยุนเอ๋อลุกขึ้นไปห้องน้ำนั้น ก็เห็นรอยเลือดสีแดงเขียนอยู่บนกระจก
เอาชีวิตฉันคืนมา!
สีหน้าของเจียงหยุนเอ๋อซีดเซียวลงไป เธอตกใจมากจริงๆ ก่อนจะกรีดร้องออกมา